หลังเลิกเรียน…
“ไปดูหนังกันไหมนิริน วันนี้มีหนังใหม่เข้าเพียบเลยนะ” วดีเอ่ยปากชวน เมื่อกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมตัวเลิกเรียน
“ก็ดีเหมือนกัน ฉันกับแกไม่ได้ไปดูหนังด้วยกันนานแล้ว”
“งั้นแกลองโทรขอพี่หิรัญดูก่อนว่าให้ไปไหม กว่าจะกลับคงดึก ฉันไม่อยากให้มีปัญหากัน”
“ไม่ต้องขอหรอก เขาคงไม่ได้สนใจอะไรฉันอยู่แล้ว” นิรินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ใส่ใจอะไร การได้ออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาในรอบหลายอาทิตย์มันคงดีกว่าการอดอู้อยู่แต่ในห้อง
ที่ผ่านมามีแค่เธอที่เป็นฝ่ายรอให้เขากลับห้อง ถ้าปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายรอบ้างมันคงไม่ผิดอะไร
“พวกแกทะเลาะกันเหรอ?”
“เปล่านิ ไม่ได้ทะเลาะ” คนตัวเล็กพูดพลางหยิบแซนด์วิชขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ก็ไม่ลืมจะแบ่งครึ่งให้เพื่อนกินด้วย
“แต่จะว่าไปพักนี้แกไม่ค่อยพูดถึงพี่เขาให้ฟังเลยนะ ฉันนึกว่าทะเลาะกันซะอีก”
“ฉันว่าเรารีบไปกันดีกว่า ขากลับแวะกินบิงซูกันด้วยนะ”
“ได้สิ งั้นไปกันเลย” วดีเกาหัวด้วยความงุนงงเมื่อนิรินเปลี่ยนเรื่องคุยเอาเสียดื้อๆ แต่ก็ยอมเดินตามเพื่อนสาวออกมาแต่โดยดี
ห้างสรรพสินค้า…
“นิริน”
หญิงสาวทั้งสองหันไปตามเสียงเรียกปริศนาในขณะที่กำลังยืนซื้อตั๋วหนังรอบค่ำ
“ขุนเขา” ใบหน้าแสนหวานคลี่ยิ้มด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเป็นขุนเขาที่เดินเข้ามาทัก ไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะได้เจอเขาที่นี่
“มาดูหนังเหมือนกันเหรอ?”
“ใช่…มาดูกับเพื่อน”
“ใจตรงกันเลยนะ มาดูเรื่องเดียวกันซะด้วย ว่าแต่รินนั่งแถวไหน?”
“อยู่โรง1 แถวA”
“งั้นรอแป๊บนึง เดี๋ยวเรามา”
“มีอะไรหรือเปล่าขุนเขา?” เธอร้องเรียกเมื่อเห็นว่าเขาผลุนผลันเดินออกไป
“ไปซื้อตั๋วใหม่ไง จะได้นั่งแถวเดียวกับริน”
“…..”
“อุ๊ยตาย! พ่อหนุ่มคนนั้นเป็นใครเหรอย่ะ?” วดีสะกิดถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมื่อเห็นว่าขุนเขาเดินออกไปแล้ว
“ชื่อขุนเขา เป็นเพื่อนข้างห้องที่คอนโด เขานิสัยดีนะ ชอบซื้อขนมมาฝากฉันบ่อยๆ”
“แกนี่มันเสน่ห์แรงจริงๆ ขนาดมีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังมีผู้ชายมาขายขนมจีบ”
“…..”
ครืด~ ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องหรูของเธอก็ส่งเสียงร้องดังขึ้น
“ใครโทรมาเหรอ ทำไมแกไม่รับสาย?”
“พี่หิรัญโทรมาน่ะ สงสัยกลับถึงห้องแล้วไม่เห็นฉันเลยโทรหา”
“งั้นแกก็รับสิ เห็นโทรมาหลายสายแล้วนะ ถ้าบอกว่าอยู่กับฉัน พี่หิรัญไม่ว่าอะไรหรอก”
“…..” นิรินเลือกที่จะกดตัดสายทิ้งแล้วปิดเสียงไปในที่สุด วันนี้เธอมาเที่ยวผ่อนคลายไม่อยากต้องคิดเรื่องอื่น
“เอ้า! นิริน ทำไมแกไม่รับสายล่ะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก”
“ไม่เป็นไรหรอก ค่อยกลับไปคุยที่บ้านก็ได้ ตอนนี้ฉันไม่อยากคิดเรื่องอื่น เราไปดูหนังกันเถอะ”
“…..”
คอนโดหิรัญ…
“ขอบคุณมากนะที่มาส่ง แล้วก็ขอบคุณสำหรับบิงซูด้วย ร้านที่นายพาไปกินอร่อยมาก” นิรินพูดเสียงหวานเมื่อรถหรูของขุนเขาเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคอนโดของหิรัญ
กว่าจะดูหนังเสร็จก็มืดค่ำ เขาเลยขออาสาเป็นคนขับรถมาส่งนิรินกับเพื่อนของเธอ แถมยังแวะซื้อขนมกับของกินให้เธออีกเพียบเลย
“ถ้าอยากไปอีกก็บอกได้เลยนะ เดี๋ยวเราพาไป”
“โอเค แล้วเจอกันใหม่นะ”
นิรินโบกมือลาแล้วเปิดประตูเตรียมลงจากรถ แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของขุนเขาที่เรียกตามหลัง
“เดี๋ยวก่อนนิริน”
“????”
“ถ้าเราอยากจะขอโทรคุยกับรินบ้างได้ไหม?”
“แต่รินมีแฟนแล้วนะ ขุนเขาก็รู้ไม่ใช่เหรอ?” เธอพูดตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม ซึ่งขุนเขาก็รู้ดีว่าแฟนของหญิงสาวนั้นเป็นใคร
“คุยกันในฐานะเพื่อน ไม่ได้คุยแบบชู้สาวสักหน่อย”
“ถ้าแบบนั้นก็ได้”
“…..” ขุนเขายิ้มกว้างเมื่อได้รับอนุญาตจากหญิงสาว ถึงเธอจะมีแฟนแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะเขายังคงรู้สึกดีกับเธอเหมือนเดิม “งั้นเรากลับก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆ”
แกร้ก~
“เลิกเรียนตั้งแต่สี่โมงเย็น นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว หายไปไหนมานิริน!?”
ดวงตาเฉี่ยวคมจ้องมองแฟนสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอย่างเอาเรื่อง หิรัญก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นระยะเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว
“ยังไม่นอนอีกเหรอคะ?”
“เมียไม่เข้าบ้าน พี่คงนอนหลับอยู่หรอกมั้ง!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเธอไม่เคยกลับบ้านผิดเวลาแม้แต่ครั้งเดียว จะไปไหนหรือมาไหนมักจะโทรรายงานเขาอยู่เสมอ
“…..”
“ตอบคำถามพี่ด้วย! หนูหายไปไหนมา?”
“ไปดูหนังมาค่ะ”
“ไปกับใคร? พี่โทรหาเป็นร้อยๆ สายทำไมไม่รับโทรศัพท์”
“แบตหมดค่ะ”
“แค่นี้?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความหงุดหงิดใจเมื่อคำตอบที่รอฟังจากปากเธอนานหลายชั่วโมงมีแค่เพียงสองคำเท่านั้น
“ใช่ค่ะ แบตหมด”
“…..”
“ถ้าพี่ไม่มีอะไรแล้ว หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า ไม่อยากนอนดึกค่ะ”
“คุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน หนูไปดูหนังกับใคร?” หิรัญรีบเดินไปขวางหน้าเอาไว้ไม่ยอมให้เธอเดินหนี แต่เธอกลับชักสีหน้าใส่เขาเหมือนรำคาญ
“ไปดูหนังกับวดีค่ะ”
“เอาโทรศัพท์มาให้พี่ดู” ไม่พูดเปล่าแต่ยังยื่นมือเข้าไปหาเพื่อขอโทรศัพท์จากเธอ
แต่สิ่งที่คนตัวเล็กทำคือยืนนิ่งเฉยไม่ยอมยื่นโทรศัพท์ให้เขาเหมือนที่ผ่านมา
“พี่บอกว่าเอาโทรศัพท์มาให้พี่ดู”
“ไม่ค่ะ! นี่มันของส่วนตัวของหนู”
“แต่หนูเป็นเมียพี่! เอาโทรศัพท์มา!”
“ไม่ให้ค่ะ ทีโทรศัพท์ของพี่หนูยังจับไม่ได้เลย”
พรึ่บ! สมาร์ตโฟนเครื่องหรูของหญิงสาวถูกชายหนุ่มกระชากออกจากมืออย่างแรง
“พี่หิรัญ มันจะมากเกินไปแล้วนะ” หิรัญไม่สนใจท่าทางโวยวายของแฟนสาว สิ่งที่เขาทำคือรีบกดปลดล็อกด้วยความลนลานแต่มันกลับขึ้นว่าผิดพลาดเมื่อเธอได้ทำการเปลี่ยนรหัสผ่าน
“เปลี่ยนรหัสผ่านทำไม?”
“…..”
“พี่ถามว่าเปลี่ยนรหัสทำไม!?”
“…..” หญิงสาวสะดุ้งตัวโยนเมื่อถูกแฟนหนุ่มขึ้นเสียงใส่ด้วยความเดือดดาล
“บอกรหัสพี่มาเดี๋ยวนี้นิริน!”
“…..” เธอกัดริมฝีปากอย่างแรงด้วยความชั่งใจ ท่าทางโมโหของคนตรงหน้าเริ่มทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว “พี่ไม่ไว้ใจหนูเหรอคะ?”
“แล้วดูหนูทำตัวดิ จะให้พี่ไว้ใจได้ยังไง!”
“หนูกลับมาเหนื่อยๆ พี่อย่าหาเรื่องได้ไหม”
“…..”
“ถ้ากลับมาแล้วพี่ชวนทะเลาะแบบนี้ รู้แบบนี้หนูไม่กลับมาดีกว่าค่ะ” สิ้นประโยคนั้นคนตัวเล็กจึงรีบเดินหนีเข้าห้องมา โดยไม่หันหลังกลับไปมองเขาอีก
“เดี๋ยวก่อนนิริน นิริน!”
“…..”
“แม่งเอ้ย!”