ไม่คิดว่าจะร้าย 14 - หาเรื่อง!

1281 Words
หลังเลิกเรียน… “ไปดูหนังกันไหมนิริน วันนี้มีหนังใหม่เข้าเพียบเลยนะ” วดีเอ่ยปากชวน เมื่อกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมตัวเลิกเรียน “ก็ดีเหมือนกัน ฉันกับแกไม่ได้ไปดูหนังด้วยกันนานแล้ว” “งั้นแกลองโทรขอพี่หิรัญดูก่อนว่าให้ไปไหม กว่าจะกลับคงดึก ฉันไม่อยากให้มีปัญหากัน” “ไม่ต้องขอหรอก เขาคงไม่ได้สนใจอะไรฉันอยู่แล้ว” นิรินพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ใส่ใจอะไร การได้ออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาในรอบหลายอาทิตย์มันคงดีกว่าการอดอู้อยู่แต่ในห้อง ที่ผ่านมามีแค่เธอที่เป็นฝ่ายรอให้เขากลับห้อง ถ้าปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายรอบ้างมันคงไม่ผิดอะไร “พวกแกทะเลาะกันเหรอ?” “เปล่านิ ไม่ได้ทะเลาะ” คนตัวเล็กพูดพลางหยิบแซนด์วิชขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อยแต่ก็ไม่ลืมจะแบ่งครึ่งให้เพื่อนกินด้วย “แต่จะว่าไปพักนี้แกไม่ค่อยพูดถึงพี่เขาให้ฟังเลยนะ ฉันนึกว่าทะเลาะกันซะอีก” “ฉันว่าเรารีบไปกันดีกว่า ขากลับแวะกินบิงซูกันด้วยนะ” “ได้สิ งั้นไปกันเลย” วดีเกาหัวด้วยความงุนงงเมื่อนิรินเปลี่ยนเรื่องคุยเอาเสียดื้อๆ แต่ก็ยอมเดินตามเพื่อนสาวออกมาแต่โดยดี ห้างสรรพสินค้า… “นิริน” หญิงสาวทั้งสองหันไปตามเสียงเรียกปริศนาในขณะที่กำลังยืนซื้อตั๋วหนังรอบค่ำ “ขุนเขา” ใบหน้าแสนหวานคลี่ยิ้มด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเป็นขุนเขาที่เดินเข้ามาทัก ไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะได้เจอเขาที่นี่ “มาดูหนังเหมือนกันเหรอ?” “ใช่…มาดูกับเพื่อน” “ใจตรงกันเลยนะ มาดูเรื่องเดียวกันซะด้วย ว่าแต่รินนั่งแถวไหน?” “อยู่โรง1 แถวA” “งั้นรอแป๊บนึง เดี๋ยวเรามา” “มีอะไรหรือเปล่าขุนเขา?” เธอร้องเรียกเมื่อเห็นว่าเขาผลุนผลันเดินออกไป “ไปซื้อตั๋วใหม่ไง จะได้นั่งแถวเดียวกับริน” “…..” “อุ๊ยตาย! พ่อหนุ่มคนนั้นเป็นใครเหรอย่ะ?” วดีสะกิดถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเมื่อเห็นว่าขุนเขาเดินออกไปแล้ว “ชื่อขุนเขา เป็นเพื่อนข้างห้องที่คอนโด เขานิสัยดีนะ ชอบซื้อขนมมาฝากฉันบ่อยๆ” “แกนี่มันเสน่ห์แรงจริงๆ ขนาดมีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังมีผู้ชายมาขายขนมจีบ” “…..” ครืด~ ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เสียงสมาร์ตโฟนเครื่องหรูของเธอก็ส่งเสียงร้องดังขึ้น “ใครโทรมาเหรอ ทำไมแกไม่รับสาย?” “พี่หิรัญโทรมาน่ะ สงสัยกลับถึงห้องแล้วไม่เห็นฉันเลยโทรหา” “งั้นแกก็รับสิ เห็นโทรมาหลายสายแล้วนะ ถ้าบอกว่าอยู่กับฉัน พี่หิรัญไม่ว่าอะไรหรอก” “…..” นิรินเลือกที่จะกดตัดสายทิ้งแล้วปิดเสียงไปในที่สุด วันนี้เธอมาเที่ยวผ่อนคลายไม่อยากต้องคิดเรื่องอื่น “เอ้า! นิริน ทำไมแกไม่รับสายล่ะ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก” “ไม่เป็นไรหรอก ค่อยกลับไปคุยที่บ้านก็ได้ ตอนนี้ฉันไม่อยากคิดเรื่องอื่น เราไปดูหนังกันเถอะ” “…..” คอนโดหิรัญ… “ขอบคุณมากนะที่มาส่ง แล้วก็ขอบคุณสำหรับบิงซูด้วย ร้านที่นายพาไปกินอร่อยมาก” นิรินพูดเสียงหวานเมื่อรถหรูของขุนเขาเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคอนโดของหิรัญ กว่าจะดูหนังเสร็จก็มืดค่ำ เขาเลยขออาสาเป็นคนขับรถมาส่งนิรินกับเพื่อนของเธอ แถมยังแวะซื้อขนมกับของกินให้เธออีกเพียบเลย “ถ้าอยากไปอีกก็บอกได้เลยนะ เดี๋ยวเราพาไป” “โอเค แล้วเจอกันใหม่นะ” นิรินโบกมือลาแล้วเปิดประตูเตรียมลงจากรถ แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของขุนเขาที่เรียกตามหลัง “เดี๋ยวก่อนนิริน” “????” “ถ้าเราอยากจะขอโทรคุยกับรินบ้างได้ไหม?” “แต่รินมีแฟนแล้วนะ ขุนเขาก็รู้ไม่ใช่เหรอ?” เธอพูดตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม ซึ่งขุนเขาก็รู้ดีว่าแฟนของหญิงสาวนั้นเป็นใคร “คุยกันในฐานะเพื่อน ไม่ได้คุยแบบชู้สาวสักหน่อย” “ถ้าแบบนั้นก็ได้” “…..” ขุนเขายิ้มกว้างเมื่อได้รับอนุญาตจากหญิงสาว ถึงเธอจะมีแฟนแล้วก็ไม่เป็นไร เพราะเขายังคงรู้สึกดีกับเธอเหมือนเดิม “งั้นเรากลับก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆ” แกร้ก~ “เลิกเรียนตั้งแต่สี่โมงเย็น นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว หายไปไหนมานิริน!?” ดวงตาเฉี่ยวคมจ้องมองแฟนสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องอย่างเอาเรื่อง หิรัญก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นระยะเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว “ยังไม่นอนอีกเหรอคะ?” “เมียไม่เข้าบ้าน พี่คงนอนหลับอยู่หรอกมั้ง!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ก่อนจะวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเธอไม่เคยกลับบ้านผิดเวลาแม้แต่ครั้งเดียว จะไปไหนหรือมาไหนมักจะโทรรายงานเขาอยู่เสมอ “…..” “ตอบคำถามพี่ด้วย! หนูหายไปไหนมา?” “ไปดูหนังมาค่ะ” “ไปกับใคร? พี่โทรหาเป็นร้อยๆ สายทำไมไม่รับโทรศัพท์” “แบตหมดค่ะ” “แค่นี้?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความหงุดหงิดใจเมื่อคำตอบที่รอฟังจากปากเธอนานหลายชั่วโมงมีแค่เพียงสองคำเท่านั้น “ใช่ค่ะ แบตหมด” “…..” “ถ้าพี่ไม่มีอะไรแล้ว หนูขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า ไม่อยากนอนดึกค่ะ” “คุยกับพี่ให้รู้เรื่องก่อน หนูไปดูหนังกับใคร?” หิรัญรีบเดินไปขวางหน้าเอาไว้ไม่ยอมให้เธอเดินหนี แต่เธอกลับชักสีหน้าใส่เขาเหมือนรำคาญ “ไปดูหนังกับวดีค่ะ” “เอาโทรศัพท์มาให้พี่ดู” ไม่พูดเปล่าแต่ยังยื่นมือเข้าไปหาเพื่อขอโทรศัพท์จากเธอ แต่สิ่งที่คนตัวเล็กทำคือยืนนิ่งเฉยไม่ยอมยื่นโทรศัพท์ให้เขาเหมือนที่ผ่านมา “พี่บอกว่าเอาโทรศัพท์มาให้พี่ดู” “ไม่ค่ะ! นี่มันของส่วนตัวของหนู” “แต่หนูเป็นเมียพี่! เอาโทรศัพท์มา!” “ไม่ให้ค่ะ ทีโทรศัพท์ของพี่หนูยังจับไม่ได้เลย” พรึ่บ! สมาร์ตโฟนเครื่องหรูของหญิงสาวถูกชายหนุ่มกระชากออกจากมืออย่างแรง “พี่หิรัญ มันจะมากเกินไปแล้วนะ” หิรัญไม่สนใจท่าทางโวยวายของแฟนสาว สิ่งที่เขาทำคือรีบกดปลดล็อกด้วยความลนลานแต่มันกลับขึ้นว่าผิดพลาดเมื่อเธอได้ทำการเปลี่ยนรหัสผ่าน “เปลี่ยนรหัสผ่านทำไม?” “…..” “พี่ถามว่าเปลี่ยนรหัสทำไม!?” “…..” หญิงสาวสะดุ้งตัวโยนเมื่อถูกแฟนหนุ่มขึ้นเสียงใส่ด้วยความเดือดดาล “บอกรหัสพี่มาเดี๋ยวนี้นิริน!” “…..” เธอกัดริมฝีปากอย่างแรงด้วยความชั่งใจ ท่าทางโมโหของคนตรงหน้าเริ่มทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว “พี่ไม่ไว้ใจหนูเหรอคะ?” “แล้วดูหนูทำตัวดิ จะให้พี่ไว้ใจได้ยังไง!” “หนูกลับมาเหนื่อยๆ พี่อย่าหาเรื่องได้ไหม” “…..” “ถ้ากลับมาแล้วพี่ชวนทะเลาะแบบนี้ รู้แบบนี้หนูไม่กลับมาดีกว่าค่ะ” สิ้นประโยคนั้นคนตัวเล็กจึงรีบเดินหนีเข้าห้องมา โดยไม่หันหลังกลับไปมองเขาอีก “เดี๋ยวก่อนนิริน นิริน!” “…..” “แม่งเอ้ย!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD