“นะ…หนูทำผิดมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ ทำไมพี่ถึงขึ้นเสียงใส่หนูอีกแล้ว” นิรินถามเสียงเบาแล้วขยับถอยห่างออกจากแฟนหนุ่ม เธอพยายามฝืนกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา
“ขอโทษครับ พี่แค่กำลังเครียดเรื่องงาน พี่ไม่ได้ตั้งใจจะดุหนูเลยนะ” หิรัญเดินเข้ามากอดคนตัวเล็กไว้แบบหลวมๆ เมื่อรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป “ยิ้มหน่อยสิ ทำหน้าบึ้งใส่พี่แบบนี้ดูไม่น่ารักเลย”
“…..” ร่างบางซุกใบหน้าเข้าหาแผงอกแกร่ง บางทีอาจจะเป็นเธอเองที่ทำตัววุ่นวายน่ารำคาญ
“เด็กดี เงยหน้าขึ้นมาให้พี่จูบหน่อย” มือหนาจับปลายคางมนให้เชิดขึ้น ก่อนจะโน้มริมฝีปากลงไปจูบเธอแบบแนบชิด “คืนนี้แต่งตัวให้สวยๆ เลยนะ เดี๋ยวพี่พาไปงานวันเกิดเพื่อน”
“อยากให้หนูไปด้วยเหรอคะ?”
“ไปเปิดตัวกับเพื่อนน่ะ…เพื่อนพี่อยากทำความรู้จักกับหนูนะ”
“ก็ได้ค่ะ”
ผับหรูใจกลางเมือง…
ดวงตากลมโตวาดสายตามองไปบริเวณโดยรอบอย่างไม่คุ้นชิน เมื่อมาหยุดยืนที่หน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง
“พี่หิรัญ เราจะเข้าไปข้างในกันจริงๆ เหรอคะ?” เธอทวนถามอีกครั้งด้วยความกังวล เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมาเที่ยวสถานที่อโคจรแบบนี้มาก่อน
“หนูไม่เคยมาเที่ยวสถานที่แบบนี้หรอกเหรอ?”
“ไม่เคยค่ะ”
“มากับพี่ไม่ต้องกลัวนะ ถือว่ามาเปิดประสบการณ์ ข้างในยังมีอะไรที่หนูไม่เคยได้รู้ได้ลองอีกเพียบเลย” ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มบางๆ หลังจากที่รู้ว่าหญิงสาวนั้นอ่อนต่อโลกกว่าที่คิดไว้
“…..”
“เดินตามพี่มาสิ จะมัวยืนนิ่งอยู่ทำไม”
พอได้สติเธอจึงรีบเดินตามหลังแฟนหนุ่มเข้ามาด้านใน เสียงเพลงและกลิ่นฉุนของควันบุหรี่ที่อยู่ภายในทำเอาเธอรู้สึกเวียนหัวพะอืดพะอมขึ้นมาดื้อๆ เป็นเหมือนที่พี่สาวเคยบอกไว้ ว่าสถานที่แบบนี้คงไม่เหมาะกับเธอ
“คนนี้น่ะเหรอแฟนมึง?”
“คนนี้แหละ”
นิรินยกมือไหว้เพื่อนของหิรัญอย่างนอบน้อมเมื่อเดินมาถึงโต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่ก่อนหน้านั้น เธอรู้สึกเกร็งอยู่ไม่น้อยเมื่อเห็นสายตานับสิบคู่ที่จ้องมองมาทางเธอเป็นตาเดียว
“ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกนะ” โฮปยิ้มให้คนตัวเล็กอย่างใจดี ท่าทางของนิรินดูใสซื่อไม่น่าจะมีพิษมีภัยกับใคร
“มิน่าล่ะ ช่วงนี้มึงถึงหายหัวจากพวกกูไปเลย ที่แท้แอบไปกกอยู่กับเมียนี่เอง” นาวาพูดสมทบ เขาไม่คิดมาก่อนว่าเพื่อนชายจะพาเธอมาแนะนำตัวให้รู้จักกับเพื่อนฝูง “ไอ้หิรัญนี่มันตัวพ่อเลยนะ เธอไปทำท่าไหนถึงเอามันอยู่หมัดได้”
“กูพานิรินมาให้พวกมึงรู้จัก ไม่ใช่ให้มาถามเรื่องไร้สาระ” หิรัญพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก แต่ก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจอะไร
“หนูเคยกินเหล้าไหม?”
“มะ…ไม่เคยค่ะ”
“งั้นลองกินดู” หิรัญหยิบแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะยื่นมันให้กับเธอ ยิ่งเห็นว่าเธอไม่เคย เขายิ่งอยากให้ลอง
“…..” นิรินมองแก้วเหล้าที่แฟนหนุ่มยื่นให้อย่างลังเล แต่ก็กล้าดื่มมัน
“กินสิ แค่จิบๆ ไม่เมาหรอก”
“แต่หนู…”
“ถ้าไม่กินแล้วจะรู้ได้ไง ใครๆ ก็กินกันไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
เมื่อเห็นท่าทางลังเลอิดออดของคนตรงหน้า หิรัญจึงเลือกทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อน
“อื้ออ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบ ก่อนจะปล่อยให้น้ำสีอำพันอึกใหญ่ให้ค่อยๆไหลเข้ามาในปากเธอ “พี่ทะ…ทำอะไรน่ะ!?”
“ให้ชิมเหล้าจากปากพี่ไง รสชาติถูกใจหนูหรือเปล่า?”
“มันขมค่ะ”
“ครั้งแรกก็แบบนี้แหละ ถ้ากินบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินไปเอง”
“…..” เธอก้มหน้าเม้มปากเงียบด้วยความเขินอายเมื่อนึกถึงภาพที่หิรัญจูบเธอต่อหน้าทุกคน
“หนูกินให้หมดแก้วเลยนะ”
“ไม่ไหวมั้งคะ ถ้ากินหมดแก้วต้องเมาแน่ๆ”
“เมาก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ดูแลเอง”
“อึก! อึก!” เธอตัดสินใจดื่มเหล้าที่เหลือจนหมดแก้วในคราเดียว โดยมีหิรัญคอยนั่งมองอยู่ไม่ห่าง
“เด็กดี”
สองชั่วโมงผ่านไป…
“เดี๋ยวหนูมานะคะ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” หญิงสาวพูดด้วยท่าทางโอนเอน หลังจากที่ดื่มเหล้าไปมากพอสมควร
“ให้พี่ไปด้วยไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่นั่งคุยกับเพื่อนต่อเถอะ หนูไปคนเดียวได้”
“แต่หนูเมามากแล้วนะ เดินไหวเหรอ?”
“หนูยังไหวค่ะ”
“โอเคครับ ถ้าสิบห้านาทียังไม่กลับมา เดี๋ยวพี่ไปตามนะ”
“โอเคค่ะ”
ชายหนุ่มได้แต่นั่งมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวที่เดินออกจากโต๊ะไปจนลับสายตา
“คนนี้มึงจริงจังเหรอ?” นาวาเอ่ยถามด้วยความอยากรู้หลังจากที่นิรินขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
“…..” หิรัญไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจแทนคำตอบ
‘นิริน’ ก็เป็นเหมือนของเล่นบนเตียงที่เขายังเอาไม่เบื่อ หรือถ้าเบื่อเมื่อไหร่ก็แค่เขี่ยทิ้งเหมือนผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมา
“ถ้ามึงไม่จริงจัง คงไม่พาน้องมาเปิดตัวให้พวกกูรู้จักหรอก”
“กูแค่อยากพาเธอออกมาเปิดหูเปิดตา ไม่ได้คิดลึกซึ้งขนาดนั้น”
“น้องมันดูรักมึงนะ สอนง่ายด้วย มึงสั่งอะไรก็ยอมทำหมด” โฮปพูดแทรกขึ้น เขารู้สึกได้ว่าสายตาเวลาที่เพื่อนชายมองนิริน มันไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่น
“โง่ล่ะสิไม่ว่า” หิรัญแค่นหัวเราะเบาๆ พลางมองแก้วเหล้าที่อยู่ในมือในขณะที่กำลังคิดอะไรบางอย่าง “พวกมึงคอยดูแล้วกัน อีกไม่เกินสองเดือนกูจะเขี่ยยัยนั่นทิ้งให้ดู”
ครืด~ มือหนาล้วงหาสมาร์ตโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง พลางสอดส่องสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะกดรับสาย
(ไหนบอกจะโทรหาหลินไงคะ ลืมกันแล้วหรือไง)
“มีอะไรก็พูดมาสิ”
(พรุ่งนี้คุณว่างไหม มาหาหลินที่คอนโดหน่อยสิ หรือจะให้หลินไปหาคุณก็ได้)
“เดี๋ยวฉันไปหาเองดีกว่า ส่งโลเคชั่นมาสิ”
(โอเคค่ะ เดี๋ยวหลินส่งโลให้นะ ถ้ามาแล้วส่งข้อความบอกด้วยนะ)
“แค่นี้ก่อน เดี๋ยวฉันโทรกลับ” หิรัญรีบพูดตัดบทแล้วตัดสายทิ้งเมื่อเห็นว่านิรินกำลังเดินกลับมา
“มึงมันเหี้ยไอ้หิรัญ!” โฮปส่ายหัวไปมาอย่างท้อใจ แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าเพื่อนชายนั้นเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“หุบปากของพวกมึงไว้ อย่าให้นิรินรู้เรื่องนี้เด็ดขาด!”
“…..”