“แม่รู้นะว่าลูกไม่ได้ไป The Cotswolds”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจของมารดาที่ดังผ่านสัญญาณโทรศัพท์มาเข้าหูไม่ได้ทำให้แมทธิวผู้เป็นบุตรชายสะทกสะท้านเลยแม้แต่นิดเดียว ตรงกันข้ามที่มุมปากหยักสวยของเขากลับผุดพรายไปด้วยรอยยิ้มหยันต่างหาก
“แล้วไงล่ะครับ”
หากอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้เดซี่คงอดฟาดกบาลบุตรชายไม่ได้แน่ ก็น้ำเสียงที่พ่อตัวดีโต้ตอบมานั้นมันยังยียวนกวนโทสะเสียเหลือเกิน ป่านนี้หนูมะลิของหล่อนไม่เละกลายเป็นโจ๊กไปแล้วหรือนี่
“อย่ามาทำสุ่มเสียงแบบนี้กับแม่นะแมทธิว แม่อยากรู้ว่าทำไมถึงพาหนูมะลิไปที่เพ้นต์เฮ้าส์นั่น”
แม้ว่าเบื้องหน้าจะมีเพียงผืนน้ำสีเดียวกับท้องฟ้าและสายลมแรงๆ บนยอดตึกเท่านั้นที่พัดโหมเข้าใส่ แต่ไหล่กว้างทรงพลังของแมทธิวก็ยังอดไหวอย่างไม่แสแยไม่ได้
“ก็เพราะแม่นั่นไม่คู่ควรจะไปในที่ที่ผู้หญิงดีๆ ควรไปน่ะสิครับ”
“งั้นก็แสดงว่าเพ้นต์เฮ้าส์ของลูกเป็นนรกใช่ไหม ถึงได้พาหนูมะลิไปที่นั่น” เดซี่ถามกลับอย่างหงุดหงิด คิดว่าพ่อลูกชายจะรู้สึกสะทกสะท้านบ้าง แต่เปล่า ตรงกันข้ามพ่อคุณกลับตอกกลับมาจนหล่อนแทบหงายหลังตกเก้าอี้
“มันเป็นยิ่งกว่านรกอีกครับ”
น้ำเสียงอำมหิตของบุตรชายทำให้เดซี่ใจคอไม่ดี แม้ว่าภายนอกนั้นแมทธิวจะดูสุภาพกว่าเฟเบียนบุตรชายคนรองของหล่อนก็ตาม แต่แท้จริงแล้ว ตานี่... ตาแมทธิว บราวน์นี่ร้ายยิ่งกว่าเฟเบียนเป็นร้อยเท่าพันเท่า แต่หมอนี่มันร้ายติดใครกันนะ หล่อนหรือว่าโรเบิร์ต? ไม่มีเวลาหาคำตอบอีกเมื่อพ่อลูกชายตัวแสบเค้นเสียงผ่านโทรศัพท์มาเข้าหูหล่อนอีกระลอก
“และเชื่อเถอะครับว่าผมจะโยนแม่ดอกมะลิของคุณแม่ให้จมลึกลงไปในขุมนรกที่ลึกที่สุดเลยทีเดียว”
“อย่าทำแบบนั้นนะแมทธิว...” เดซี่ร้องลั่น แต่ลูกชายสุดหล่อไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ ใส่ใจ หรือว่าแยแสเลยแม้แต่นิดเดียว
“ผมจะทำทุกอย่างเพื่อทำให้แม่ดอกมะลิออกไปจากชีวิต”
“ห้ามทำแบบนั้นนะแมทธิว ถ้าลูกทำแม่จะ...”
ผู้เป็นแม่พยายามคิดหาข้อต่อรองแต่จนแล้วจนรอดก็คิดไม่ออก และแถมแมทธิวยังแสดงออกมาว่ารู้ทันความคิดของหล่อนเสียทั้งหมดอีก
“ไม่ว่าคุณแม่จะทำอะไร ผมจะไม่สนใจอีก เพราะผมถือว่าตัวเองได้ตอบแทนด้วยการตกลงยอมแต่งงานกับแม่ดอกมะลิตามความต้องการของคุณแม่แล้ว ดังนั้น... ก็ขึ้นอยู่ที่ว่าลูกสะใภ้ของคุณแม่จะทนอยู่กับผมได้นานแค่ไหนเท่านั้นเอง”
“แมทธิว ลูกมันเป็นยิ่งกว่าซาตานอีกนะ แม่ไม่คิดเลยว่าลูกจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ แม้แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักอย่างหนูมะลิก็ไม่ยอมปรานี” ผู้เป็นแม่ต่อว่ามาตามสายโทรศัพท์ แต่คนถูกว่าไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ยังยิ้มดุดันเช่นเดิม
“สักวันคุณแม่จะรู้ว่าแม่ดอกมะลิไม่ใช่คนดี...”
“แต่แม่คิดว่าตัวเองมองไม่ผิด ลูกต่างหากที่ตาไม่ดีมองข้ามความดีงามของหนูมะลิไป”
เดซี่เถียงลั่น แต่แมทธิวไม่สนใจ เขาเกลียดมะลิ และแน่นอนว่าจะเกลียดแบบนี้ไปตลอดชีวิต ชายหนุ่มตั้งมั่นกับตัวเองและก็เลือกที่จะยุติการสนทนาที่น่าสะอิดสะเอียนนี้ลงทันที
“ผมมีธุระที่สำคัญกว่าการพูดถึงแม่ผู้หญิงไร้ค่าคนนั้น...”
“จะไปหาคู่นอนล่ะสิ อย่าคิดว่าแม่ไม่รู้น่ะแมทธิว”
ไหล่กว้างทรงพลังของแมทธิวไหวน้อยๆ อย่างไม่แยแสสิ่งใด “ถ้าใช่แล้วยังไงล่ะครับ”
“แม่ขอร้องล่ะแมทธิว เลิกยุ่งเกี่ยวกับแม่บรรดานางแบบ นางงามพวกนั้นได้ไหม ลูกต้องซื่อสัตย์กับเมียตัวเองรู้ไหม”
คำพูดที่เล็ดลอดออกมาจากปากของมารดามันไม่ใช่คำสั่ง หรือคำกล่าวหาอีกต่อไปแล้วแต่มันคือการขอร้อง แม้จะบอกว่าตัวเองไม่ใส่ใจกับแม่ดอกมะลินั่น แต่พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็อดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่าเขาไม่มีทางแสดงมันออกมาง่ายๆ แน่
“อย่าลืมสิครับคุณแม่ว่าผมกับแม่ดอกมะลิยังไม่ได้แต่งงานกัน...”
“แม่รู้... แต่มันก็อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น” เดซี่เถียงเสียงอ่อนอกอ่อนใจ แต่บุตรชายไม่ยอมฟัง
“เอาเป็นว่าให้ถึงวันนั้นก่อน แล้วคุณแม่ค่อยมาเตือนผมแบบนี้ก็แล้วกันนะครับ อืมม์ ผมคงต้องไปแล้ว สวัสดีครับคุณแม่”
“เดี๋ยวก่อนสิแมทธิว... แมทธิว...”
แม้จะพยายามร้องเรียกแค่ไหน แต่พ่อลูกชายตัวแสบก็ตัดสัญญาณไปเสียแล้ว เดซี่กระแทกลมหายใจออกมาด้วยความวิตกกังวล ในอกรุ่มร้อนด้วยความห่วงใยที่มีต่อมะลิอย่างมากมาย นี่ถ้าโรเบิร์ตไม่ไปดูงานที่นิวยอร์กล่ะก็หล่อนคงจะมีคนปรึกษาแล้วล่ะ
“ถ้าทำอะไรหนูมะลิล่ะก็ เจอดีแน่เจ้าแมทธิว”
เดซี่คาดโทษบุตรชายอย่างหงุดหงิด แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดีไปกว่าการนั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและภาวนาให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองมะลิให้มีชีวิตรอดกลับมาสู่อ้อมอกของหล่อนอีกครั้งเท่านั้นเอง
มะลิใช้มือที่สั่นเทาป้ายน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็ว เมื่อคนที่หายไปนานกว่าสิบนาทีเดินกลับมาหยุดยืนค้ำศีรษะอีกครั้งหนึ่ง หัวใจสาวน้อยสั่นสะท้าน กลิ่นไอของมัจจุราชโอบล้อมรอบกายของเขาเอาไว้มหาศาล และมันก็ทำให้หล่อนแสนจะสะพรึงกลัว
“เลิกบีบน้ำตาได้แล้ว ฉันจะพาเธอไปทานมื้อค่ำในห้องอาหารชั้นล่าง”
“มะลิ... ไม่อยากไป”
คนฟังหรี่ตามองร่างบอบบางที่ยังกองอยู่กับพื้นเขม็งคล้ายกับไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่หูได้ยิน
“นี่เธอกล้าปฏิเสธความต้องการของฉันเชียวหรือ แม่ดอกมะลิ”
“ไม่ค่ะ มะลิไม่ได้...”
ศีรษะทุยสวยที่มีเส้นผมสีดำขลับยาวถึงกลางหลังส่ายน้อยๆ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขา หยาดน้ำตาในดวงตาหวานฉ่ำส่งผลต่อหัวใจของเขาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แมทธิวขบกรามเต็มแรงเพื่อผลักดันเจ้าความรู้สึกน่าสะอิดสะเอียนนั้นเข้าไปในอก จากนั้นก็แสยะยิ้มพร้อมๆ กับเหวี่ยงความอำมหิตใส่หน้าของมะลิต่ออย่างร้ายกาจ
“แต่งตัวให้สวยๆ ล่ะ เอาชุดที่คุณแม่ซื้อให้เมื่ออาทิตย์ก่อนก็ได้”
“ชุดนั้นหรือคะ...?”
ชุดเดรสสีทองเกาะอกเน้นสัดส่วนผุดพรายขึ้นมาในสมอง หล่อนไม่เคยอยากได้อยากมีเสื้อผ้าแบบนี้ แต่ทุกอย่างในกระเป๋าเดินทางของหล่อนในครั้งนี้ มีแต่เสื้อผ้าที่เดซี่คัดสรรมาให้ทั้งนั้น ทั้งชุดไปเที่ยว ชุดนอนแสนวาบหวาม หรือแม้แต่ชุดชั้นในเดซี่ก็ยังเลือกให้ แม้จะรู้ดีว่าเดซี่หวังดี เดซี่ต้องการให้หล่อนกับแมทธิวเข้าใจกัน แต่... มันมีทางเป็นไปได้ที่ไหนกันล่ะ ในเมื่อหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่ลูกชายของเดซี่ต้องการ แมทธิว บราวน์ไม่ต้องการหล่อน พอๆ กับที่ขยะแขยงหล่อนเข้าไส้นั่นแหละ
“ทำไม... อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าในกระเป๋าของเธอมีอะไรอยู่บ้าง...”
แก้มสาวแดงระเรื่อแทบไหม้กับคำเหยียดหยันของคู่สนทนา หญิงสาวก้มหน้ามองพื้นแทนการเงยขึ้นสบตากับเขาด้วยความอับอาย ผู้ชายคนนี้ฉลาดเป็นกรด หรือว่าหล่อนอ่านง่ายเหมือนหนังสือก. ไก่กันนะ เขาถึงได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับหล่อนแบบนี้ในขณะที่หล่อนไม่เคยรู้ ไม่เคยอ่านความรู้สึกนึกคิดของเขาออกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
จนถึงบัดนี้แมทธิว บราวน์ก็ยังคงเป็นความลับสำหรับหล่อนไม่เปลี่ยนแปลง
“คือว่า...”
เขาแค่นยิ้มหยัน ก่อนจะย่อตัวลงกระชากร่างของหล่อนให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้า มะลิพยายามขัดขืนเพราะไม่อยากสบตากับชายที่ตัวเองรักหมดใจ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของเขาได้ ในที่สุดก็ถูกบังคับให้ประสานสายตากับแมทธิวอย่างไม่มีทางเลือก
“คืนนี้... จะแก้ผ้านอนก็ได้นะ ฉันไม่ถือหรอก”
“คุณแมทธิว...”
“อย่ามาทำสุ่มเสียงตกอกตกใจแบบนี้สิแม่ดอกมะลิ ชุดนอนในกระเป๋าของเธอน่ะบางยิ่งกว่าผ้าขาวบางเสียอีก จะใส่หรือไม่ใส่มันก็มีค่าไม่แตกต่างกัน เอาล่ะ ไปอาบน้ำแต่งเนื้อแต่งตัวได้แล้ว แล้วอีกครึ่งชั่วโมงฉันจะให้พนักงานมารับที่นี่...”
จบคำพูดเหยียดหยาม ไร้หัวใจแล้ว ร่างสูงใหญ่ของแมทธิวก็หายออกไปจากสายตาของหล่อนอีกครั้ง น้ำตาแห่งความอดสูไหลพรากลงมาอาบแก้ม ความชิงชังที่ชายหนุ่มจงใจพ่นใส่หน้านั้นมันแหลมคมยิ่งกว่ามีดโกนเสียอีก มันกรีด มันแทง มันคว้านจนเนื้อหัวใจของหล่อนกลายเป็นแผลเหวอะหวะ เจ็บปวดทรมานราวกับตกลงไปอยู่ในขุมนรก
“ทำไมใจร้ายแบบนี้นะคุณแมทธิว... ทำไมร้ายกาจกับมะลิแบบนี้”
ในสายตาของแมทธิวหล่อนคงเป็นยิ่งกว่าเศษขยะ เขาถึงได้เหยียบได้ย่ำอย่างอำมหิตแบบนี้ ไม่มีเลย ไม่มีความปรานีใดๆ จากเขาเลย หล่อนเจ็บทุกครั้งที่เขามองมา และก็เจ็บยิ่งกว่าเมื่อเขาพ่นวาจาร้ายกาจใส่หน้า แต่กระนั้น... หัวใจไม่รักดีก็ยังไม่เคยหยุดรักเขา หล่อนรักแมทธิว บราวน์ หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ ไม่มีทางเลยที่จะปีนขึ้นมาจากหลุมรักนั้นได้ นอกเสียจาก...
หยุดหายใจไปซะ...