เผชิญหน้านายมาเฟีย

1069 Words
ตอนที่8 เผชิญหน้านายมาเฟีย ฉันรู้สึกได้เลยว่าหัวใจของฉันมันเต้นตุบๆ อยู่ในอก ใจหนึ่งคิดอยากจะถอยหลังกลับแต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อฉันได้ยินเสียงเหมือนคนในห้องเดินมาปลดล็อกประตู แกร็ก!! “มีอะไรเหรอเปล่าคะน้อง” ผู้หญิงอายุน่าจะไม่เกินยี่สามปีเป็นคนผลักประตูออกมา หล่อนผมยาวดูยุ่งเหยิง ผิวขาวจัด ลำคอแดงเป็นจ้ำๆ หน้าอกที่ถูกห่อเอาไว้ด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวตูมออกมาจนเกือบจะทิ่มหน้าของฉัน “เอ่อ… คือว่า” ทั้งที่เตรียมคิดคำพูดมาแล้วแท้ๆ แต่ความประหม่าก็เล่นงานฉันจนลืมถ้อยคำที่เตรียมเอาไว้จนหมด ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าฉันด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก ก็แน่ละ ฉันมาขัดความสุขของนางนี่นะ เป็นเรื่องธรรมดาที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้น “เธอเข้าไปรอข้างใน เดี๋ยวฉันจัดการเอง” เสียงผู้ชายที่ดังขึ้นจากด้านหลังผู้หญิงนมโตทำให้ฉันรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล เสียงนี้มันคุ้นหูเหลือเกิน จนร่างสูงใหญ่ที่มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวพันท่อนล่างปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูนั่นแหละฉันถึงกับสตั้น ร่างกายมันแข็งทื่อขยับเขยื้อนไม่ได้ ได้ยินเพียงเสียงร้องอย่างตกใจของวาวาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงฝีเท้านางที่วิ่งหนีเอาตัวรอดไปคนเดียว ปล่อยให้ฉันต้องเผชิญหน้ากับนายมาเฟียหน้าหล่ออยู่เพียงลำพัง “เหวย! พี่แจสเปอร์! โชคดีนะมินนี่” “วา… วะ… ปะ… ไปไม่รอเลย แฮร่” ฉันส่งยิ้มแห้งๆ ออกไป “อ่อ นึกว่าใคร หึ” นายแจสเปอร์แสยะยิ้มให้ฉัน และทำเสียงหึ หึในลำคอ เขายกมือเท้ากับขอบประตูซึ่งห่างจากฉันเพียงไม่กี่คืบ หน้าท้องซึ่งเต็มไปด้วยลอนกล้ามเนื้อน่ากัดของเขาทำให้ฉันหายใจหายคอแทบไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นหน้าของเขาแบบจะๆ ท่ามกลางแสงไฟที่สว่างจ้าไม่ได้สลัวลางเหมือนตอนอยู่ในผับ หล่อวัวตายควายล้ม… ประโยคนี้ที่ฉันเคยได้ยินเพื่อนผู้หญิงคุยกันบ่อยๆ น่าจะเป็นคำนิยามที่ใช่สุดแล้วสำหรับนายแจสเปอร์ รอยสักลวดลายแปลกๆ ตามเนื้อตัวของเขาทำให้ผู้ชายคนนี้ดูเท่ห์และดูร้าย ขนาดว่าฉันไม่เคยนึกชอบผู้ชายที่มีรอยสักมาก่อนยังรู้สึกว่าเขาโคตรจะน่ารักและมีเสน่ห์สุดๆ สายตาของฉันเหมือนถูกมนต์สะกดให้จ้องอยู่กับซิกแพคหกลอนของเขา และมองต่ำลงมานิดหน่อย “จ้องอะไรของเธอ” เสียงดังจนเกือบเป็นตะคอกของเขาทำให้ฉันสะดุ้งโหยง “ปะ… เปล่าค่ะ” น่าอายซะมัดเหมือนเขาจะรู้ตัวว่าถูกฉันลวนลามด้วยสายตาอยู่ ทำไมอยู่ต่อหน้าเขาแบบนี้ฉันรู้สึกประหม่าชะมัด แทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะกล้าเอาแก้วเหล้าสาดใส่หน้าเขาได้ตอนที่อยู่ในผับ “ไม่ยักรู้ว่าเธอพักอยู่ที่นี่ด้วย แล้วมาเคาะห้องฉันต้องการอะไร” ตัวของเขาสูงจนฉันต้องแหงนหน้าคุยด้วย “ฉันแค่อยากจะบอกว่า เอ่อ… ให้นายกับแฟนทำอะไรกันเบาๆ หน่อย… ได้ไหม” ฉันได้ยินเสียงอ่อยๆ ของตัวเองตอนพูดกับเขา แถมยังก้มหน้าลงมองพื้นรู้สึกว่าลำคอแห้งผาก จนต้องกลืนน้ำลายหลายครั้ง “อืม… นี่ห้องของเธองั้นสินะ” นายแจสเปอร์พยักหน้าไปทางห้องของฉัน “ชะ… ใช่” “อ่อ ฉันเข้าใจละ เสียงของฉันมันคงทำให้เธอเกิดอารมณ์เปลี่ยวสินะ อยากเข้ามาสนุกด้วยกันไหมละ” “ห๊า ว่าไงนะ” ฉันร้องเสียงหลงแหงนหน้าขึ้นมองเขา แต่เขากลับทำหน้านิ่งๆ แถมยักคิ้วเข้มกวนประสาทเข้าไปอีก ผู้ชายอะไรหยาบคายซะมัด “เมื่อกี้เธอมองฉันเหมือนอยากจะเขมือบฉันเข้าไปทั้งตัวอย่างงั้น” เขาเดินเข้ามาหาฉันด้วยท่าทางคุกคาม จนฉันต้องถอยหลังกรูดจนชิดกับผนังทางเดินอย่างจนมุม นายแจสเปอร์ใช้มือยันผนังเอาไว้เป็นการกักตัวฉันให้อยู่ในอ้อมแขนของเขา กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเนื้อตัวของเขาทำให้ฉันรู้สึกปั่นปวนไปหมดแล้ว โอ้ย! ฉันจะเป็นลม รู้สึกว่าใบหน้ามันร้อนวูบวาบไปหมดแข็งขาอ่อนแทบจะยืนอยู่ไม่ไหว “นายจะทำอะไร ยะ อย่านะ” “ฉันยังไม่ได้เอาคืนเลยนะเรื่องที่เธอสาดเหล้าใส่หน้าฉัน” เขาหรี่ตาพร้อมกับก้มหน้าลงมาหาฉันช้าๆ จนปลายจมูกโด่งเกือบจะแตะใบหน้าฉันอยู่แล้ว ใจหนึ่งฉันอยากตะโกนออกไปให้คนช่วยแต่มันดันพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงเอียงหน้าหนีการรุกรานของเขา “ฉันขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” ฉันหลับตาปี๋หลุดคำขอโทษออกมารัวเป็นชุด “คราวหน้าคราวหลังเวลาจะไปเที่ยวกับผู้ชายน่ะ เธอควรจะรู้นิสัยใจคอพวกมันให้ดีหน่อย ถ้าคืนนี้ฉันไม่ช่วยเอาไว้เธอโดนพวกมันมอมยาแล้วลากไปรุมโทรมแล้ว… ยัยโง่ หน้าตาก็ดีไม่น่าโง่เลย” เสียงด่าเขาดังอยู่ข้างหูของฉัน “ว่าไงนะ? พวกพี่เจไดจะมอมยาฉันกับเพื่อนงั้นเหรอคะ” ฉันหันมามองหน้าเขาเหมือนไม่อยากจะเชื่อ “เออ ไม่เชื่อก็ตามใจ” เขาเอามือที่ดันผนังออกปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ ฉันยืนนิ่งทั้งงงทั้งสับสนไปหมด “รีบกลับไปห้องเธอซะไป ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจฉุดเธอเข้าไปสนุกในห้องของฉัน” คำพูดประโยคต่อมาของเขาทำให้ฉันได้สติขึ้นมา ฉันรีบวิ่งเข้าห้องของตัวเองแล้วปิดประตูทันที วาวานางนั่งอยู่ที่โซฟายกมือไหว้ฉันประหลกๆ ฉันพิงหลังกับประตูห้องพ่นลมหายใจออกแรงๆ “เธอไม่เป็นไรใช่ไหมมินนี่” ยัยเพื่อนตัวดีทำหน้าสำนึกผิด “ฉันไม่เป็นไร” ฉันส่ายหน้าไปมา ตึก! ตึก! ตึก! อ่ะ… อี้… อืม… อ่าห์ “มินนี่ แล้วเสียงนี่ละ” วาวาทำตาโต แล้วยกมือปิดปากเมื่อได้ยินเสียงน่าปวดหัวดังขึ้นอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD