“ก็ฉันหิว หิวยอดข้าวไง ฟังไม่รู้เรื่องเหรอ”
จู่ๆพนาก็หยิบกระเป๋าสตางค์สีดำแบรนด์ดังที่แฟนเก่าเขมขิมมอบเป็นของขวัญแล้วชูขึ้น
“เฮ้ย นั่นกระเป๋าสตางค์ฉัน! คุณเอาไปได้ไง” เขมขิมร้องลั่น ปราดเข้าไปจะแย่งกระเป๋าคืนแต่คนตัวโตไม่ยอม
“มันหล่นในรถฉัน อยากได้ก็ตามมา แต่ถ้าช้าหมดกระเป๋า”
“หน้าด้าน”
ตั้งแต่เกิดมา เขมขิมเพิ่งจะพบกับคนหยาบกระด้าง ไร้มารยาท แล้วหน้าตายังไร้ระเบียบแบบคนตรงหน้า สวรรค์หรือนรกถีบคนแบบนี้มาเกิดกันนะ สงสัยทะลุถุงยางมาเกิด
“ไอ้คนบ้า! เอาคืนมานะ”
ดวงตาคมมองอย่างไม่ยี่หระกับคำด่า ขณะที่ดวงตาคู่หวานที่สะท้อนเปลวไฟเจิดจ้ายิ่งเปล่งแสงความขุ่นเคืองแล้วรีบวิ่งตามเขาเข้าไป
ภายในร้านเหล้าที่พนามาเข้ามาเปิดเพลงคลอเบาๆ บรรยากาศชวนเมา พนักงานทุกคนในร้านเหมือนจะคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี ร่างเล็กของเขมขิมวิ่งตามเขาเข้ามาในร้าน ส่วนผู้ชายวายร้ายคนนั้นกำลังวางกระเป๋าสตางค์ของเธอที่หน้าบาร์
“น้องวิสกี้ออนเดอะร็อกสองแก้ว”
“ได้ครับป้อ...” เสียงนั้นเลือนหายเมื่อเห็นสายตาคมดุที่สื่อให้รู้ว่าไม่ต้องการให้คนที่มาด้วยกันรู้ว่าเขาคือพ่อเลี้ยงคนดัง
ก่อนจะหันมากวักมือเรียกคนยืนงงๆ
“มานี่สิ ยืนเอ๋อทำไม”
เขมขิมเม้มปากแน่นกับคำพูดไม่เข้าหูของหมีอุรังอุตัง ใบหน้าสวยหันซ้าย หันขวา ราวกับไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปดี ในชีวิตของเขมขิมเคยหลงเข้าร้านแบบนี้แค่สองครั้ง คือวันเกิดเพื่อนสาวคนสนิท ส่วนอีกวันคือเมื่อเดือนก่อน ตอนถูกคนรักบอกเลิก
ตอนเธอคบหากับอัตมันจุดนัดพบของเธอกับเขาคือร้านนมปั่น ไม่ใช่ร้านเหล้าปั่น คงเพราะภาพลักษณ์ที่ดูเป็นเด็กอนามัยละมั้ง ในที่สุดอัตมันก็บอกเลิกเธอและไปคบหากับลูกเจ้านายเก่าที่ดูแซ่บกว่าเยอะ
“มานั่งตรงนี้สิ คนเลี้ยงเหล้า” เขายกมือกอดอก มองด้วยสายตาเป็นต่อ
“ใครเลี้ยงเหล้าคุณไม่ทราบ ฉันแค่ตามมาเอากระเป๋าสตางค์คืน” เขมขิมพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น ใบหน้าหญิงสาวเต็มไปด้วยความคับข้องใจ “ฉันไม่กินเหล้า ไม่ชนแก้วกับคนแปลกหน้า ไปส่งฉันที่ไร่ หรือไม่ก็ขอกระเป๋าสตางค์ฉันคืนมา ฉันจะหาทางไปเอง” เขมขิมพูดยาวเหยียด ตัดสินใจแล้วว่าจะหาทางไปไร่เองไม่หวังพึงหมีอุรังอุตังอีก
คอยดูเถอะ เข้าไปรายตัวที่สำนักงานเมื่อไหร่ เธอจะฟ้องให้แหลก เอาให้ไอ้หมอนี่เด้งออกจากตำแหน่งคนขับรถแทบไม่ทัน
เขมขิมยื่นมือมาตรงหน้าเขาแล้วขอกระเป๋าสตางค์คืน “ของส่วนตัว ไม่หยิบมั่วนะคะ คืนมาซะดีๆ”
มุมปากของพนาหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มกวน จะว่าไปตั้งแต่เจอยัยตัวเล็กก็ทำให้ชีวิตเขามีสีสันขึ้นมา “ฉันลืมเอากระเป๋าสตางค์มา ต้องยืมเงินในกระเป๋าเธอจ่ายค่าเหล้าไปก่อน เดี๋ยวถึงไร่ ค*****นให้ละกัน จะงกอะไรนักหนา คนทำงานที่เดียวกัน รู้จักคำว่าน้ำใจบ้างไหม”
“...”
เส้นเลือดตรงขมับของเธอมันเต้นตุบๆ ร่างเล็กเดือดดาลแทบคลั่ง
ไอ้ ไอ้...จะด่าว่าอะไรดี ไอ้หมีชั่ว
“น้ำใจเขามีไว้ให้กับคนดีๆ ไม่ใช่...”
“ไม่ใช่อะไร”
“อย่าให้พูดเลย”
ไอ้คนเหลือขอ หน้ารก สกปรก ยี้
ชายหนุ่มหันไปหยิบแก้ววิสกี้ออนเดอะร็อกขึ้นมาจากบนบาร์ที่พนักงานเดินเอามาเสิร์ฟ มองน้ำสีอำพันที่อยู่ในแก้วใสเนื้อดีขนาดกระชับมือ แล้วกระดกใส่ปากผ่านลำคอราวกับน้ำเปล่า วางแก้วเปล่ากลับไปที่เดิมก่อนจะเอ่ยสั่งอีก
“เยี่ยม”
เขมขิมตัวแดงก่ำด้วยความโมโห เขาพึมพำในลำคอว่าชื่นใจ
“เอาแบบเมื่อตะกี้อีกแก้วนะน้อง”
“ได้ครับ”
เขมขิมมองตาค้าง สาบานว่าที่อีตาหน้ารกเทพรวดลงคอไปเมื่อครู่นี้คือวิสกี้ไม่ใช่น้ำชา
“คุณดื่มเหล้าแล้วใครจะขับรถล่ะ” เขมขิมสะกิดเรียก
“เธอไง”
“ฉันเหรอ”
ซวยแล้ว...
“นี่ หยุดดื่มเดี๋ยวนี้นะ ถ้าคุณเมาใครจะขับรถ เอาสิไม่เลิกดื่ม ฉันจะไปแจ้งความว่าถูกชิงทรัพย์” เขมขิมพูดได้แค่นี้ กำลังจะหมุนตัวหนีก็ถูกแขนแข็งแรงรวบร่าง
“ไปไหน มานี่ กินเหล้าเป็นเพื่อนที ช่วงนี้ฉันขาดเพื่อนกินเหล้า”
พนารับเครื่องดื่มแก้วโปรดมาถือในมือแล้วใช้แขนกำยำรวบรัดร่างเล็กให้นั่งลงข้างๆ
“ปล่อยฉันนะ เอามือสกปรกของคุณออกไป ยี้...” เธอเกลียดที่สุดไอ้พวกมือหนวดปลาหมึก ชอบถึงเนื้อถึงตัว นี่เป็นแค่คนขับรถยังกล้าลวนลามเธอขนาดนี้ “ถ้าไม่หยุดทำแบบนี้กับฉัน ถึงไร่ฉันจะ...”
“จะทำไม จะฟ้องให้ผมถูกไล่ออกงั้นสิ” ในแววตาของเขามีประกายกวน แต่มือแกร่งก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากเอวคอดกิ่ว “สงสารผมเถอะครับคุณผู้หญิง ไอ้พนาคนนี้มีลูกสี่ เมียสามต้องคอยดูแล ถูกไล่ออกตกงานแล้วผมจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย”
ดวงตาคู่หวานเบิกกว้างก่อนจะเลิกคิ้วถาม “หน้ารกๆ แบบนี้มีลูกสี่ เมียสาม ถามจริง โกหกป่ะ?”
แก้วเหล้าที่มีน้ำสีอำพันอยู่เล็กน้อยถูกกระแทกลงบนบาร์ “หน้ารกๆ แล้วไง หน้าแบบนี้มีผู้หญิงต่อคิวเป็นเมียแทบทุกคืน ถ้าไม่ต้องมารับคนเรื่องเยอะอย่างเธอ คืนนี้ฉันคงได้เมียเพิ่ม”
พนาไม่เข้าใจเลย มาดเซอร์ๆ ของเขากระแทกตาสาวสวยไปทั่วเชียงใหม่ แต่แม่สาวกรุงเทพฯ คนนี้เห็นเขาเป็นอะไร เดี๋ยวก็ว่าหน้าแก่ เดี๋ยวก็ว่าเป็นคนขับรถ แล้วยังดูถูกหาว่าคนอย่างพ่อเลี้ยงพนาจะมีเมียสักสามคนเป็นเรื่องน่าตกใจ
มันชักจะมากไปแล้ว อวดดีแบบนี้เดี๋ยวก็ได้เป็นเมียคนต่อไปของพี่พนาหรอกอีหนู
“หน้ารกแล้วมันผิดตรงไหน ที่จริงก็ไม่ได้รกแค่หน้า พอแก้ผ้า ตรงอื่นยิ่งรกหนักกว่านี้ เธอจะไม่หัวใจวายตายก่อนเหรอ”
“ยี้ ใครถามไม่ทราบ ใครอยากรู้ แล้วทำไมฉันต้องดูด้วย” เขมขิมพูดด้วยความโกรธจัด เธอไม่ชอบคำพูดกำกวมของเขาเลย แต่ตรงกันข้ามกับคนตัวโตที่ยิ่งเห็นท่าทางรังเกียจเขาก็ยิ่งชอบ