7

1132 Words
“ใจเย็นสิคุณ รอฉันก่อน ฉันจะนั่งเงียบๆ ไม่ถามอะไรอีก” พนาจึงหยุดเดินแล้วยิ้มกริ่ม ร่างบางที่เดินตามมาเกือบชนเขาอย่างจัง “จริงนะ” เขาชี้เข้าหาตัว “งั้น ไปเร็วๆ จะรีบเอาไปส่งที่ไร่ จะได้จบหน้าที่เสียที” เขาคว้าหมับที่แขนเล็กให้รีบเดิน “นี่คุณ ปล่อยนะ ฉันเดินเองได้ จะลากแขนฉันทำไม” ความโกรธของเธอกระพือแรงขึ้น ไม่คิดว่าจะถูกต้อนรับด้วยคนท่าทางป่าเถื่อนพรรค์นี้ หน้าตาก็เหมือนอุรังอุตังหลุดออกมาจากสวนสัตว์เชียงใหม่ คำพูดก็เหมือนไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน ร่างเล็กพยายามผลักร่างเขาออกแล้วดิ้นรน จนคนที่กำข้อมือไว้แน่นออกเสียงคำรามในลำคอ “ถ้าเธอเดินช้า เราจะถึงไร่ค่ำ เข้าใจไหม ฉันไม่อยากขับรถแล้วตกเหวตาย เพราะแค่มารับผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอ” “ผู้ชายป่าเถื่อนอย่างคุณถูกเลี้ยงมาแบบไหนกัน ถึงไม่รู้จักพูดจาดีๆ กับผู้หญิงบ้าง อ้อ...ลืมไป แบบคุณคงจะพูดหวานๆ กับผู้ชายหน้าตาดีมากกว่าละมั้ง” เธอยังจำคู่เกย์ของเขาได้ พ่อเลี้ยงพนาเค้นเสียงลอดไรฟันออกมา “ปกติฉันก็พูดหวานกับผู้หญิงนะ แต่จะพูดตอนอยู่บนเตียงเท่านั้น ถ้าอยากได้ยินคำหวานๆ จากปากฉัน เธอก็ต้องรอฟังบนเตียง อยากฟังไหมล่ะ” สายตาของเขาที่เวลานี้ฉายแววกรุ้มกริ่มมองเธออย่างโลมเลียทำให้เขมขิมขนลุกนิดหน่อย “ไม่ ไม่ ฉันไม่อยากฟัง” หรือว่าเขาจะเป็นพวก หญิงก็ได้ ชายก็เบิ้ล แย่แล้วเรา สายตาวาวโรจน์ของเขาจ้องเธอเขม็ง “คิดอะไรถึงมองหน้าฉันแบบนั้น หรือเธอกำลังคิดอกุศลกับฉันอยู่” “เปล่าค่ะ ไม่เลย ไม่ได้คิด ไม่คิดสักนิดเดียว” เขมขิมรีบปฏิเสธ เขาจ้องมองหน้าตารูปไข่สวยสะดุดตา คิ้วเข้มหนา ดวงตาหวานเยิ้ม รับกันดีกับริมฝีปากอิ่มแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติก็รู้สึกจรรโลงใจดี ผิดแต่ว่าชอบคิดอะไรเป็นตุเป็นตะ พ่อเลี้ยงพนาพยักหน้ายกมือเสยผมแล้วยิ้มเหี้ยมๆ “เชื่อเธอก็บ้าแล้ว ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไร เลิกคิดซะ เพราะถ้าไม่เลิกคิดว่าฉันเป็น ฉันจะให้เธอพิสูจน์ว่าฉันไม่ได้เป็นแบบที่เธอคิด” หากรู้ว่าการนั่งรถมากับเขาคือหายนะที่กำลังจะเกิด เธอจะทำทุกอย่างแม้ว่าเปิดประตูรถแล้วกระโดดลงไปข้างทาง ดวงตาคู่สวยข่มกลั้นความหวาดกลัวต่อชายแปลกหน้าแต่สังเกตจากรถที่เขาขับ ราคาของมันแพงหูฉี่ ไม่ใช่รถคนงานในไร่อย่างแน่นอน ไร่ส้มใหญ่ขนาดนั้นอาจจะมีคนขับรถหลายคนก็ได้ เป็นไปได้ไหมเขาเป็นคนขับรถให้เจ้าของไร่ ลุงชมอาจไม่สบาย เขาผ่านมาพอดีเลยฝากมารับเธอ ต้องเป็นแบบนี้แน่ เขมขิมพยายามนั่งไปเงียบๆ ไม่มองเขาแต่ก็อดลอบสังเกตไม่ได้ นิสัยเอาแต่ใจ เลือดร้อนไม่ยอมคน ทำให้พ่อเลี้ยงพนาเหยียบตามรถคันหนึ่งที่ปาดหน้าเขาไป “ปาดมา ปาดกลับ ไม่โกงเว้ยยย ฮ่าๆ” แถมยังหัวเราะร่าสะใจ ยิ้มเยาะใส่กระจกมองหลังอีก “เฮ้ย คุณใจเย็นสิ ฉันยังไม่อยากตาย” “แค่นี้ไม่ตายหรอก ดูมันสิขับรถปาดหน้าชาวบ้านเดี๋ยวก็ได้ลงเหวข้างทางหรอก ไม่รู้หรือไง แถวนี้ตกไปก็ตายเท่านั้นแหละ” ใครจะชินภูมิประเทศแถบนี้ดีกว่าเขา ที่สำคัญ เขาคุ้นๆ รถคันนั้นเหมือนเป็นรถที่วิ่งส่งบรรจุภัณฑ์ไปส่งที่ไร่ เขมขิมแอบภาวนาขอให้พระคุ้มครอง ทั้งที่เธอคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย “ช้าๆ หน่อยก็ได้ ขับรถแบบนี้ เจ้านายรู้ว่าคุณเอารถเขามาซิ่ง เดี๋ยวก็ถูกไล่ออกหรอก รถคันนี้แพงมาก เฉี่ยวชนมา เคลมทีหนักนะคุณ เงินเดือนคุณก็จ่ายไม่ไหว” พนาเหลือบมองคนข้างๆ สงสัยเธอคิดว่าเขาเป็นลูกจ้างในไร่ แต่เขาก็ไม่พูดอะไร ชะลอรถลง “นิ่มขึ้นไหม” “มากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ลดความเร็วลง” ไม่รู้ทำไม เมื่อคิดว่าหากเขาโมโหตามปาดรถคันหน้ากลับอีก หากเกิดอุบัติเหตุ ผู้หญิงข้างๆ ต้องเจ็บไปด้วย เขากลับรู้สึกไม่อยากให้เธอต้องมาเจ็บเพราะเขา เขมขิมแอบพิจารณาเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่นับว่าเป็นของแพงเกินฐานะคนขับรถ ผิวพรรณที่ยื่นออกจากแขนเสื้อ มองดูแล้วผิวพรรณดีมาก ถึงจะหน้ารกเหมือนมีปัญหากับที่โกนหนวดแต่ถ้าได้โกนหนวดเคราออกบ้างคงกระแทกตาสาวได้ไม่ยาก โดยไม่รู้ว่า ถึงแม้เขาจะปล่อยหนวดเคราให้รก พนาก็ฉกสาวๆ มากกและกอดได้แทบจะคืนเว้นคืน เขากระตุกยิ้มแล้วถามเสียงห้วนเมื่อสัมผัสได้ว่าหญิงสาวลอบมองเขาอยู่ “แอบมองอะไร ไม่เคยเห็นคนหล่อหรือไง” “ฉัน เอ่อ ไม่ได้แอบมองคุณเพราะคุณหล่อ ฉันแค่สงสัยว่าคุณมีปัญหาอะไรกับที่โกนหนวดหรือเปล่า” “คราวหลังโกหกไม่เนียนก็อย่าทำดีกว่า สุดท้ายก็แอบมองหน้าฉันจริงไหม แล้วยุ่งอะไรด้วยกับหนวดเคราบนใบหน้าคนอื่น หรืออยากจะช่วยโกนให้” เขมขิมหน้าแดงจนมือสั่นอยากจะเอื้อมมือไปกระชากหนวดเขาสักที รู้สึกจุกในลำคอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “คนแปลกหน้า เขาไม่โกนหนวดให้กันหรอกค่ะ” ริมฝีปากอิ่มตอบอย่างเฉยชา หญิงสาวเลือกตอบเพียงสั้นๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหากันอีก “เออ...แล้วคนแปลกหน้าอย่างฉันทำไมต้องมาขับรถให้ผู้หญิงแปลกหน้าอย่างเธอนั่งด้วย ฉันหิวข้าว ตั้งแต่บ่าย ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย งั้นฉันหาข้าวกินก่อนค่อยไปส่งเธอละกัน เรื่องของคนแปลกหน้าไม่ได้สำคัญไปกว่าเรื่องปากท้องฉันอยู่แล้ว” “ค่ะ เชิญตามสบาย ฉันรอได้” เธอจะทำอะไรได้ คนอาศัยมีสิทธิ์แค่ทน พอไปถึงไร่ก็ไม่ต้องทนมองอีตาหน้ารกนี่แล้ว คอยดูนะ สนิทกับเจ้าของไร่เมื่อไหร่จะยุยงให้ไล่อีตานี่ออกซะ ขับรถซิ่งวิ่งผ่านนรกแบบนี้มาเป็นคนขับรถในไร่ใหญ่ๆ ได้ยังไง แต่ก็ได้ยินมาว่าคุณพนา เจ้าของไร่ยังอายุไม่มาก วัยแค่สามสิบต้นๆ หรือจะชอบคนขับรถเร็วแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD