6

1253 Words
พนาเลิกคิ้วขึ้นสูง ยิ้มยียวน เขาคิดว่าเธอดูใสซื่อ ไม่ได้จะว่าอะไรหรอก แต่ก็ไม่อยากพูดออกไป เพราะมีงานอีกมากที่ต้องไปทำ “ช่างเรื่องนั้นเถอะ ว่าแต่เธอชื่อเขมขิมหรือเปล่า” ตามการแต่งตัวที่ลุงชมบอกว่าหัวหน้าฝ่ายจัดซื้อให้มารับก็มีแค่เธอคนเดียว เขาจึงสุ่มเรียกชื่อดู ไม่คิดว่าพอหันหน้ากลับมาจะกลายเป็นเธอไปได้ พนาเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขมขิมขมวดคิ้ว รู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ แต่ก็ยอมรับออกไป “ใช่ ฉันชื่อเขมขิม” พนากระตุกยิ้ม “ถ้างั้นคงไม่ผิดตัว เดินตามฉันมา จะได้รีบกลับไร่กันก่อนค่ำ” เท่านั้นเขมขิมก็รู้สึกว่าลางสังหรณ์ของเธอเริ่มแม่นยำ อย่าบอกนะว่านายคนนี้คือคนที่มารับเธอ เขมขิมไม่เก็บความสงสัยไว้อีก รีบตะโกนถาม “นี่คุณ ทำไมฉันต้องตามคุณไปด้วย” หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อที่โทร.มาบอก เขาบอกให้เธอคอยคนขับรถของไร่ จะมารับเธอไปที่ไร่ แล้วเป็นเขาไปได้ยังไงในเมื่อครั้งก่อนที่เจอเขาอยู่ในสภาพนั้น นั่นก็หมายความว่าเขาน่าจะเป็นนักท่องเที่ยว เธอสับสนไปหมดแล้ว หรือเขาจะทำงานที่ไร่นั้นด้วย ร่างสูงกำยำหมุนตัวกลับมา ใบหน้าหล่อเหลาที่มีเคราขึ้นเขียวครึ้มกลับมาตีสีหน้าดุดันเหมือนเดิม “เธอจะไปทำงานที่ไร่พนาไพรหรือเปล่า ถ้าจะไปก็รีบเดินตามมา อย่าเล่นตัวนัก ถ้าไม่อยากทำก็กลับไปซะ” “อ้าว!” เธอลาออกจากที่ทำงานเก่า เดินทางมาที่นี่แล้วคิดจะให้หันกลับไปอย่างนั้นเหรอ “ทำสิ ฉันตั้งใจมาทำงานถึงลาออกจากที่เก่า ฉันแค่สงสัยในตัวคุณนั่นแหละ เป็นใครก็ไม่รู้” “ฉันเป็นใคร เธอไม่ต้องสนใจหรอก รู้แค่ว่าไปกับฉัน เธอถึงไร่แน่นอน” พนาแอบสังเกตอาการเธอเงียบๆ เห็นว่าเธอก็ฉลาดไม่เบา “ไม่ได้นะ ฉันเป็นผู้หญิง ยังสาว ยังสวย จะขึ้นรถไปกับคนที่ไม่น่าไว้ใจได้ไง ถึงจะเอ่อ...เป็นเกย์ก็เถอะนะ” หากหูไม่ฝาด หญิงสาวได้ยินเสียงเขากำหมัดแน่นจนดังกร๊อบ ส่วนอีกฝ่ายเริ่มรู้ตัวว่าเส้นความอดทนกำลังจะขาดผึงก็ตัดสินใจรีบทำตามภารกิจที่อาสาให้เสร็จสิ้นก่อนตะวันตกดิน “เอาละ ไม่ไว้ใจฉันใช่ไหม งั้นฉันไปละ แต่ลุงชมแกป่วย มารับเธอไม่ได้ เธอหาทางไปไร่เอง หรือไม่ก็กลับไปซะ” พอเห็นว่าเขาหันหลังกลับไปจริงๆ เขมขิมก็ร้องห้ามเสียงสั่น เอาวะเป็นไงเป็นกัน การที่เขารู้จักชื่อเธอ พูดชื่อของคนที่จะมารับเธอถูก เขาคงต้องเกี่ยวพันกับสถานที่ทำงานของเธอ “นี่ เดี๋ยวก่อนสิ” ได้ผล ร่างสูงกำยำชะงักฝีเท้าลง “เอาละ ฉันเชื่อคุณก็ได้ว่าคุณจะพาฉันส่งถึงที่ไร่ส้มพนาไพร แต่บอกฉันหน่อยได้ไหม คุณเป็นคนงานในไร่นั้นใช่หรือเปล่า” “ฉันจะเป็นคนงานหรือเป็นอะไรกับไร่นั้น เธอไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ พูดง่ายๆ ไม่ใช่เรื่องของเธอ” เขมขิมหน้าชา คำพูดเขาแปลได้ว่าเธอแส่ไม่เข้าเรื่อง หญิงสาวครางฮือมองเขาอย่างตะลึงงัน เห็นสีหน้าเรียบร้อยประดุจผ้าพับไว้ แต่ดูท่าจะร้ายไม่หยอก พ่อเลี้ยงพนาก็ได้แต่ส่ายหน้า “ทำเป็นยืนงงกลางดงฝรั่ง” เขาเห็นหนุ่มต่างชาติหน้าตาดีคล้ายชาวยุโรปกลุ่มใหญ่แบ็กแพ็กมาเที่ยวเมืองไทยกำลังจับกลุ่มคุยกัน แล้วมองมาทางหญิงสาวด้วยท่าทางสนใจ เขมขิมเม้มริมฝีปากแน่น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ อดสงสัยไม่ได้ว่า ปากแบบนี้หลุดรอดมือรอดเท้าชาวบ้านจนโตมาได้อย่างไร “ฉันไม่ได้กำลังยืนงงกลางดงฝรั่ง กำลังยืนงงว่าหลงมาอยู่ในปากหมาได้ยังไง” กรามแกร่งสบเข้าหากันจนเป็นสันนูน “นี่เธอ...มันจะมากไปแล้วนะ กล้าว่าฉันปากหมาเหรอ ปากดีแบบนี้ระวังถูกหมากัดปากนะ ระวังไว้ด้วย” ดวงตากล้าคมส่งสายตาอาฆาตทิ่มแทง “ฉันขอย้ำอีกครั้ง ฉันมารับผู้หญิงที่ชื่อเขมขิม ถ้าใช่รีบตามฉันไปขึ้นรถ ช้ากว่านี้ ฉันไม่คอย” ว่าแล้วก็หันหลังเดินลิ่วๆ ไม่สนใจฟังคำตอบของสาวเจ้าข้างหลัง “เดี๋ยวคุณ รอก่อนสิ แต่คุณคงไม่ใช่ลุงชมคนขับรถใช่ไหม ครั้งก่อนตอนมาสัมภาษณ์ลุงชมขับรถมาส่งฉัน” เขาหันกลับมากะทันหันจนร่างเล็กแทบจะยั้งตัวเองไม่ให้ชนกับเขาเอาไว้ไม่ทัน แล้วตะเบ็งใส่หน้า “เออสิ หน้าเหมือนกันหรือไง ลุงชมอายุปาเข้าไปจะหกสิบ ส่วนฉันเพิ่งสามสิบ” ดวงตากลมโตสุกใสเป็นประกายเบิกกว้างเหมือนฟังเรื่องเหลือเชื่อ “อะไรนะคุณเพิ่งสามสิบเองเหรอ นึกว่าสักสี่สิบ” เธอพูดจบก็ต้องกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ สีหน้าของเขาเหมือนอยากจะกินหัวเธอ เขมขิมรู้ดีเรื่องมารยาทไม่ควรทักคนเรื่องอายุ น้ำหนัก แต่เมื่อครู่มันเผลอไป พนาข่มอารมณ์สะเทือนใจ รสชาติขมเฝื่อนล้นทะลักในอก เวลาเขาไปไหนกับไอ้เหม มันแก่กว่าเขาแต่คนคิดว่ามันเป็นรุ่นน้อง ส่วนเขาถูกมองว่าสามสิบปลายๆ ย่างสี่สิบ คงเป็นเพราะด้วยท่าทางบุคลิกที่เป็นคนร่างกายสูงใหญ่ตามไสตล์ลูกครึ่ง อีกทั้งยังทำงานตากแดด ตากลม กลางไร่ส้มทุกวัน แล้วเขาก็ไม่ได้เจ้าสำอางแบบไอ้เหมด้วย แต่ถูกมองด้วยสายตาแบบนี้ก็อดจะนอยด์ไม่ได้ “ฉันหน้าอ่อน หน้าแก่ อายุไม่ตรงกับใบหน้าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบ ถ้าเธอไม่หยุดพูดมาก ฉันจะกลับเข้าไร่โดยไร้ผู้โดยสาร” ริมฝีปากสวยบิดเบ้มองเขาอย่างดูแคลน “ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าหน้าตากับอายุของคุณจะสวนทางกันขนาดนี้” เธอยังไม่หยุดว่าเขาหน้าแก่ พ่อเลี้ยงพนาหายใจสะท้านด้วยความรู้สึกกรุ่นๆ “ฉันยังไม่สนใจจะถามเลยว่าทำไมไฟหน้าของเธอคู่นี้ ดูล้ำหน้าตา อายุ เธอไปตั้งไกล แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าหน้ามัธยม นมด็อกเตอร์” เขมขิมฟังจบอยากจะกรีดร้องเสียงดังเมื่อถูกเขามองหน้าอกอย่างตรงไปตรงมา แล้วยังว่าเธอหน้าอกใหญ่เกินอายุ “จะมากไปแล้วนะ ปากเสียที่สุด เรื่องอะไรมาวิจารณ์หน้าอกฉัน จะใหญ่จะเล็กก็ไม่เกี่ยวกับคุณ” พนานับหนึ่ง สอง สาม ในใจ “ถ้าพิรี้พิไร คืนนี้นอนสนามบินละกัน” เขมขิมกัดฟันแน่น เขาจะรู้ไหมว่าก่อนเดินทางมาเธอถอดสร้อยคอไปจำนำด้วยดอกเบี้ยร้อยละสามบาทเพื่อเอาให้พ่อเก็บไว้ใช้ ยังไม่รู้เลยจะเอาเงินที่ไหนไปไถ่ มีเงินติดตัวมาในกระเป๋าไม่กี่บาท อะไรประหยัดได้เธอประหยัดแน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD