ตอนที่7.เตรียมตัว

1132 Words
ดารัณนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ ด้วยความที่เธอทำงานหลายด้านทั้งเป็นเลขาให้คุณหญิงเพ็ญแข ดูแลฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้โรงพยาบาลและงานในบริษัทของครอบครัว เพียงเธอสงบสติอารมณ์ได้เธอก็จัดการลำดับสิ่งที่ต้องทำ แม้จะเคยคิดมาเสมอว่าจะจัดงานแต่งงานให้ตัวเองอย่างไร แต่ไม่เคยคิดว่าต้องแต่งแบบรวบรัดไม่มีพิธี ไม่มีแขกในงานอย่างไร เธอเองก็ไม่ชอบงานแต่งงานที่เต็มไปด้วยคนไม่รู้จักแต่ไม่ใช่ว่าไม่มีใครเลย อย่างน้อยก็ต้องมีเพื่อนสนิทของเธอ ‘ลักษณ์นารา’ หญิงสาวหัวเราะขืนๆ แล้วเธอต้องหาชุดแต่งงานไหม? ในเมื่อมันเป็นเพียงงานแต่งงานกำมะลอเท่านั้น  ผ่านวันอันแสนยุ่งเหยิง ดารัณไม่คิดว่าจะผ่านเรื่องราวดั่งฝันนั้นมาได้ เธอหลับไปเพราะยาแก้ปวดศีรษะแต่ ดารัณก็ตื่นด้วยมาพร้อมอาการปวดศีรษะหนึบๆ หญิงสาวต้องลุกขึ้นจากเตียงจัดการตัวเองแล้วรีบลงไปที่ห้องอาหารก่อนที่พ่อของเธอจะไปทำงานเสียก่อน  คุณสมภพนั่งอ่านหนังสือพิมพ์พร้อมกับอาหารเช้าและมี ‘ช่อแก้ว’ ค่อยดูแล ช่อแก้วอายุมากกว่าเธอแค่ 4 ปีเคยเป็นพนักงานในบริษัทของคุณพ่อ เธอเข้ามาอยู่ในบ้านเดียวกับดารัณเมื่อราวสองปีที่แล้ว แน่นอนว่าช่อแก้วเข้ามาอยู่ในฐานะ ‘ภรรยาใหม่’ ของพ่อนั้นแหละ ทว่าทั้งสองอยู่กันเงียบๆ พ่อเองก็ไม่ได้พาช่อแก้วออกงานไปไหนนอกจากไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อหลบเสียงคนนินทาบ้าง ช่อแก้วเป็นผู้หญิงประเภทที่เรียกได้ว่าไม่ค่อยมีปากมีเสียทำให้คบหากับพ่อของเธอได้นานกว่าคนอื่นที่เคยเข้ามาข้องแวะกับพ่อหม้ายที่ยังหล่อและรวยอย่างพ่อเธอ   “คุณมิ้นต์จะทานอาหารเช้าพร้อมกันไหมคะ” ช่อแก้วถามด้วยน้ำเสียงเกรงใจซึ่งจะเป็นแบบนี้เสมอไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังคุณสมภพ “มิ้นต์ขอกาแฟค่ะ” ดารัณหันไปยิ้มให้แล้วเดินไปนั่งข้างบิดา เมื่อไม่มีใครอยู่แล้วเธอจึงเอ่ยปากพูดออกมา “คุณพ่อขา  มิ้นต์จะแต่งงานนะคะ”   “ฮือ อะไรนะ” คุณสมภพเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์แล้วขมวดคิ้ว   “อาทิตย์หน้ามิ้นต์จะแต่งงานค่ะ”    “เดี๋ยวๆ ทำไมมันเร็วนักล่ะ พูดเหมือนจะไปเที่ยว” บิดาพับหนังสือพิมพ์แล้วจ้องหน้าลูกสาว เรื่องการหมั้นหมายนั้นก็ตั้งหลายปีจนเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่จริงจังอะไรแล้ว  “หมั้นมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่เร็วหรอกค่ะ” ดารัณยิ้มกลบเกลื่อน   “ลูกสาวพ่อจะแต่งงานทั้งที มันก็ต้องให้สมเกียรติกันหน่อยซิ”      “คุณพ่อก็” ดารัณแสร้งเป็นหัวเราะ “ให้มิ้นต์แต่งเถอะค่ะ มิ้นต์ไม่อยากได้งานแต่งงานใหญ่โตอะไร มิ้นต์อยากได้คำอวยพรจากพ่อเท่านั้นเอง พ่อก็รู้ว่ามิ้นต์ไม่ชอบคนเยอะๆ มิ้นต์คุยกับพี่ธันแล้วด้วย เราอยากให้มีแค่คนในครอบครัวเท่านั้น” “มันจะดีหรือลูก มิ้นต์ก็มีหน้ามีตาในสังคม แต่งกันเงียบๆ เขาจะนินทาว่าเราท้องก่อนแต่งเอานะ” หญิงสาวหัวเราะร่วน “โธ่พ่อค่ะ คนจะนินทาทำยังไงเขาก็นินทาเราอยู่ดีล่ะค่ะ”  “มันก็ดีนะ พ่อก็ไม่ชอบคนเยอะแยะ ใครมาบ้างก็ไม่รู้ บางทีเราก็ไม่รู้จัก”  “ตกลงตามนี้นะคะพ่อ” ดารัณเข้าไปกอดบิดา “อีกหน่อยมิ้นต์แต่งงานไปอยู่บ้านผู้ชายแล้ว พ่อก็ไม่มีมิ้นต์เป็นก้างขวางคอแล้วนะคะ”   “พูดอะไรแบบนั้นเด็กคนนี้” คุณสมภพเขกหัวลูกสาวเบาๆ   “พ่อไม่สงสารคุณช่อแก้วบ้างหรือคะ”  “พ่อแต่งงานหนเดียวก็พอแล้ว” “ขี้โกงนะคะ” ดารัณหัวเราะเสียงใส “พ่อก็ยังไม่แก่ คุณช่อแก้วก็ยังสาว น่าจะมีลูกด้วยกันนะ มีเด็กเล็กๆ ในบ้านจะได้ไม่เหงาไงคะ”  “มิ้นต์คิดแบบนั้นเหรอลูก” คราวนี้คนเป็นพ่อจ้องมองใบหน้าลูกสาวอย่างจริงจัง  “มิ้นต์ไม่ใช่เด็กแล้ว เรื่องแบบนี้เข้าใจได้ค่ะ ขอแค่คนนั้นรักพ่อจริงก็พอ” หญิงสาวยิ้มให้ “มิ้นต์เชื่อว่าแม่เองก็เข้าใจพ่อค่ะ”  คุณสมภพลูบผมยาวของลูกสาวอย่างเอ็นดู “ขอบใจลูกมากนะมิ้นต์”  “ด้วยความยินดีค่ะคุณพ่อ” ดารัณยิ้มกว้างเป็นจังหวะที่ช่อแก้วยกถาดกาแฟเข้ามา “รีบตัดสินใจนะคะคุณพ่อ” “ยัยลูกคนนี้นี่ จะแต่งงานอยู่แล้วยังทำตัวเป็นเด็กอยู่อีก” “คุณมิ้นต์จะแต่งงานหรือคะ” ช่อแก้วถามอย่างแปลกใจแต่เมื่อสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอก็พลอยยิ้มออกมาด้วย “ยินดีด้วยค่ะ”  “คุณช่อแก้วไปด้วยนะคะ” ดารัณยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ “มิ้นต์จัดงานเล็กๆ เชิญแค่คนในครอบครัว”              “คนในครอบครัว”  ช่อแก้วทวนคำแล้วหันไปทางคุณสมภพที่นั่งหัวโต๊ะ เขาพยักหน้าและยิ้มให้ทำให้เธอยิ้มกว้างออกมา ในที่สุดลูกสาวคนเดียวของคนที่เธอรักก็ยอมรับความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อแล้ว  ดารัณยิ้มให้คนทั้งสองแต่แอบซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใน การแต่งงานที่วางแผนการหย่าไว้พร้อมกันช่างเป็นเรื่องตลกจนอยากจะร้องไห้จริงๆ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้ใครรับรู้ความเจ็บปวดนี้และเธอพร้อมจะแบกสิ่งนี้ไว้บนบ่าเล็กๆ ของเธอเอง. ธันวาไม่คิดว่าจะมีวันที่เขาต้องยื่นใบลาออก  แม้กระทั้งหัวหน้าของเขาเองก็ยังแปลกใจ  เขาเพียงให้คำพูดติดตลกว่า ‘ลาไปแต่งงานครับ’ ซึ่งก็เรียกรอยยิ้มจากคนอื่นได้ ชายหนุ่มเดินทางกลับมาจัดการธุระต่างๆ เพื่อจะกลับไปดูแลมารดาผู้ให้กำเนิด  มันคงดูว่าเขาช่างอกตัญญูหากจะทำเป็นไม่สนใจกับอาการเจ็บป่วยของมารดาและเงื่อนไขที่แม่สร้างขึ้นเพื่อรั้งตัวเขาไว้ การได้เป็นแพทย์ชนบทสิบปีนั้นมีอะไรให้เขามากมายนัก   เขาไม่อยากลาออกแต่ก็ต้องการดูแลแม่อย่างใกล้ชิด   หากวันหนึ่งเขาพร้อมก็อาจได้กลับมาทำงานตำแหน่งเดิมอีก  แต่ตอนนี้เขาต้องกลับไปทำหน้าที่ลูกเสียก่อน “เพื่อนจะแต่งงานทั้งทีแบบนี้ต้องไปแสดงความยินดีเสียหน่อย”   เสียงพิชญะเจ้าของไร่ฉายฉานและเป็นเพื่อนสนิทของธันวา  เขาเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในบ้านพักของเขา ธันวาขยับแว่นสายตาเล็กน้อยแล้วถอนหายใจ “ไม่ต้องหรอก งานเล็กๆ จัดภายใน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD