“อะไรวะ ที่เราแต่งงานแกยังดีใจอย่างกับแต่งเสียเอง” พิชญะขมวดคิ้ว “มีเรื่องอะไรให้ช่วยไหม?”
“ไม่มีอะไรหรอก”
พิชญะขมวดคิ้วทำหน้างุนงงกับคำตอบที่รวดเร็วเหมือนไม่ต้องคิด ธันวาเช็กข้าวของที่ต้องเอากลับกรุงเทพฯ เฉพาะหนังสือก็ห้าลังเบียร์เข้าไปแล้ว มีบางส่วนที่เขาฝากเพื่อนบริจาคให้ห้องสมุดชุมชน แต่กระนั้นสมบัติที่เขาจะขนกลับก็ดูท่าว่าจะเต็มรถกระบะเลยทีเดียว ซึ่งก็คงไม่พ้นเพื่อนคนนี้ไปส่ง
“ทำหน้าไม่เหมือนคนจะแต่งงานเลยว่ะ”
ธันวาหัวเราะออกมา “ใครจะหน้าระรื่นมีความสุขเหมือนนายได้ล่ะ”
“ก็ใช่นะซิ คนมีเมียก็ย่อมมีความสุข แล้วนายละหน้าตาอมทุกข์จริงๆ แล้วนี่ถึงขนาดลาออกก็ไม่ธรรมดาแน่ๆ ”
“แม่เราไม่ค่อยสบายก็เลยต้องกลับไปดูแล” ธันวายิ้มเหนื่อยๆ “เราไม่อยากรู้สึกผิด ถ้าท่านเป็นอะไรมากกว่านี้”
“นายทำถูกแล้ว กลับไปดูแลแม่ตอนที่ท่านยังมีชีวิตดีกว่า” พิชญะเป็นคนพูดตรงไปตรงมาเสมอ “เอาเถอะมีอะไรอยากให้ช่วยก็บอก จะเก็บบ้านหลังนี้ให้สักระยะ ถ้าไม่คิดจะกลับมาจริงๆ จะปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ”
“ขอบใจเพื่อนมาก”
“เรื่องจิ๊บๆน่า” พิชญะมองไปนอกหน้าต่าง “สงสัยฝนจะตก”
“คืนนี้นายกลับไปก่อนก็แล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยให้คนงานมารับเราแต่เช้า”
“ก็ได้ ถ้าฝนลงหนักจะเข้าบ้านลำบาก”
พิชญะขอตัวกลับบ้านก่อน หากเป็นเมื่อก่อนคงอยู่กับเพื่อนได้ไม่จำกัดเวลา แต่เดี๋ยวนี้เขามีลูกและเมียแล้วก็ย่อมต้องห่วงครอบครัวเป็นเรื่องธรรมดา ธันวาจึงได้อยู่คนเดียวตามต้องการจริงๆ เขารู้ว่ามีคนเป็นห่วงเขามากเหลือเกินกับการตัดสินใจครั้งนี้ ธันวาสูดกลิ่นดินแล้วระบายยิ้มจางๆ เขาดื้อรั้นกับแม่มาหลายปีคราวนี้คงต้องกลับไปทำหน้าที่ลูกที่ดีเสียหน่อย จากที่ดูอาการป่วยของแม่ขอเพียงท่านมีกำลังใจดีและยอมเข้ารับการรักษาต้องหายเป็นปกติได้แน่นอน แต่ท่านกลับเดิมพันชีวิตของท่านกับลูกชายดื้อๆ อย่างเขา
ชายหนุ่มเปิดกล่องไม้เก็บนาฬิกาและเครื่องประดับซึ่งก็ไม่มีอะไรนัก นอกจากแหวนหมั้นวงเดียว ตั้งแต่เขาออกจากบ้านมาก็ไม่ได้ใส่แหวนวงนี้อีก ผิดกับหญิงสาวคนนั้นที่ดูท่าจะภูมิใจกับแหวนวงนั้นเหลือเกิน เขาไม่ค่อยสนใจว่าที่ภรรยาอย่างดารัณนัก ไม่ใช่ว่าเธอไม่สวยหรือน่ารักทว่าเป็นเพราะเธอคือผู้หญิงที่แม่เลือก เขาจึงดื้อรั้นไม่ยอมแต่งงานด้วยแต่จะว่าไปว่าที่เจ้าสาวของเขาก็หน้าตาน่ารัก ดวงตาที่เอ่อคลอด้วยน้ำตาทำให้เขาปวดใจไม่น้อย เธอรักแม่ของเขามากและคงไม่ใช่การเสแสร้ง แน่ละ... ถ้าเป็นผู้หญิงแบบนั้นจริงแม่ของเขาคงไม่ลงทุนกับเขาขนาดนี้
เด็กผู้หญิงที่เคยร้องไห้จนหน้าตามอมแมมคนนั้น เติบโตมาสวยหวานขนาดนี้เชียว
ใบหน้าเคร่งเครียดระบายยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว จะว่าไปก็อดสงสารหญิงสาวไม่ได้ ต้องแต่งงานทั้งที่ไม่ได้รักกันแถมเป็นงานแต่งงานที่มีแต่ญาติพี่น้องเท่านั้น ก็ผู้หญิงส่วนใหญ่ฝันถึงชุดเจ้าสาวแสนสวย งานวิวาห์ชวนตราตรึงนี่ แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเธอเองก็เป็นฝ่ายขอเขาแต่งงานด้วยซ้ำไป การแต่งงานที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขมันจะยาวนานแค่ไหนกันนะ
งานแต่งงานจัดขึ้นแบบเรียบและง่ายที่สุดจนน่าประหลาดใจว่าคนใหญ่สองตระกูลดังและเก่าแก่จะจัดงานแต่งงานได้เงียบเชียบขนาดนี้ ทว่าพิธีการต่างๆ ดารัณเป็นคนจัดการได้อย่างเรียบร้อยไม่มีที่ติ แม้กระทั่งชุดเจ้าบ่าวที่เจ้าสาวส่งมาให้ก็ใส่ได้พอดีแทบไม่น่าเชื่อ บ้านหลังเล็กที่แม่เคยปลูกให้หวังเป็นเรือนหอถึงเวลาได้ใช้การเสียที แต่ก็ดารัณอีกนั้นแหละที่จ้างบริษัททำความสะอาดจัดการเสียจนไม่มีฝุ่น งานแต่งเรียบๆ แต่มีรายละเอียดมากนักทว่าเจ้าสาวก็จัดการได้ดีไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ดอกไม้ในงาน อาหารเครื่องดื่มหรือแม้กระทั่งช่างภาพทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างแม้กระทั่งเจ้าบ่าวของธันวาเอง
ใบหน้าสวยแต้มแต่งพอเหมาะ ผมยาวเกล้าขึ้นประดับดอกไม้เล็กๆ เพิ่มความอ่อนหวาน ชุดกระโปรงลูกไม้ยาวสีขาวไข่มุกทำให้เธอดูล้ำค่ายิ่งขึ้น เขายอมรับจากใจว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและมองได้ไม่รู้เบื่อ
ถ้าพบกันในสถานการณ์ปกติคงดีกว่านี้ซินะ
“ฝากลูกสาวพ่อด้วยนะ” คุณสมภพเอ่ยเมื่อถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาว
“ดูแลกันและกันดีๆ “ คุณหญิงเพ็ญแขให้พร นางบีบมือลูกสะใภ้และยิ้มให้กำลังใจ
ธันวาและดารัณยกมือไหว้ทั้งสอง เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทั้งหมด ชายหนุ่มก็เดินไปล็อกประตูห้องพลางถอดเสื้อสูทตัวนอกออก
“เสร็จเสียที” ธันวาพึมพำแล้วปลดกระดุมเสื้อ
ดารัณเห็นธันวากำลังปลดกระดุม เธอก็ลุกจากที่นอนที่เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบหอบฟุ้งแล้วเข้าไปช่วยสามีหมาดๆ ปลดกระดุม ตั้งแต่คอเสื้อไล่ลงมาที่ละเม็ด มือเรียวทำงานอย่างไม่ขัดเขิน เมื่อปลดเสร็จก็เงยหน้ายิ้มให้
“พี่ธันไปอาบน้ำก่อนก็ได้ค่ะ เหนื่อยมาทั้งวัน” ดารัณพูดเหมือนเขาเพิ่งกลับมาจากทำงานนอกบ้าน ชายหนุ่มเพียงพยักหน้าให้และเดินหายไปในห้องน้ำ
หญิงสาวถอนหายใจยาว สงบสติอารมณ์ แค่ปลดกระดุมเสื้อเห็นแผงอกของเขาเธอก็มือไม้สั่นแต่หวังว่าเขาจะไม่รู้ หลังจากที่ตกลงเรื่องการแต่งงานเขาก็ขอตัวกลับไปสะสางงานที่ต่างจังหวัดและหายไปเกือบสัปดาห์จนเธอคิดว่าตัวเองคงได้เตรียมงานวิวาห์เก้อ เขาคงไม่รู้ว่าเธอวิ่งวุ่นขนาดไหนแม้กระทั่งขนาดเสื้อผ้าของเขาที่เธอต้องเตรียมให้