สิ่งที่ลูกน้องพูดมันคาใจจนปฐวีเก็บเอามาคิด ต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่อาจจะเป็นไปได้ แต่ถึงอย่างนั้นในความรู้สึกของเขาก็ยังบอกว่าเธอไม่น่าจะใช่หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาทั่วไปอยู่ดี
ก่อนจะกลับคอนโดเขาจึงเลือกแวะห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ ในเมื่อสงสัยก็ต้องทดสอบดูสักหน่อย คนตัวสูงยืนอยู่ในร้านขายสกินแคร์ชื่อดัง แล้วหยิบ ๆ ทุกอย่างมาใส่ในตระกร้าเสร็จแล้วก็เอาไปจ่ายเงิน ยังไม่พอแค่นั้น ปฐวียังแวะร้านอาหารอีกหลายร้าน เลือกเมนูสุดหรูเพื่อสั่งกลับมาทานที่คอนโดกับเธอ
“คุณวี กลับมาแล้วเหรอคะ” ร่างเล็กที่นั่งอยู่หน้าทีวีเอ่ยทัก แล้วเมื่อสายตาหันมาเห็นว่าเจ้าของห้องหิ้วของพะรุงพะรังมาด้วยเธอก็รีบลุกเดินมาหาเขาทันที
“เธอกินข้าวหรือยัง” ปฐวีเอ่ยถามพร้อมกับวางอาหารลงบนโต๊ะทานข้าว
“ยังค่ะ กะว่ารอคุณวีอีกหน่อยถ้ายังไม่กลับค่อยสั่งมากิน แต่คุณก็มาพอดีเลย” เสียงหวานเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงราวกับกำลังดีใจที่เขากลับมาได้ทันเวลา
“ถ้าอย่างนั้นก็มากินด้วยกัน ฉันซื้อมาเผื่อเธอด้วย”
“จริงเหรอคะ คุณวีใจดีจังเลยค่ะ”
ใบหน้ายิ้มแย้มของคนตรงหน้ามันทำเอาเขาเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว จริง ๆ แล้วนาเดียไม่เหมือนคนความจำเสื่อมเลยสักนิด ถ้าไม่นับเรื่องที่จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน นอกนั้นเธอก็ดูปกติดี
“โห...คุณวีซื้อแต่ของอร่อย ๆ มาทั้งนั้นเลยค่ะ นาเดียชอบกินอาหารพวกนี้มากเลยค่ะ”
ปฐวีนั่งนิ่ง ๆ ฟังสิ่งที่เธอกำลังพูด ดูเหมือนผู้หญิงตรงหน้าจะรู้จักอาหารราคาแพงเหล่านี้ดีทีเดียว และเหมือนเธอจะลืมตัวจนเผลอใช้ชื่อตัวเองแทนสรรพนามที่แทนตัวอยู่ทุกวัน
“เธอเคยกินด้วยเหรอ”
“ใช่ค่ะ บ่อยด้วย...” ในขณะที่กำลังตอบกลับเสียงหวานก็ขาดห้วงไป นัยน์ตาคู่สวยช้อนขึ้นมามองเขาก่อนที่จะหลุบสายตาลงต่ำ ทำราวกับกำลังปิดบังอะไรสักอย่าง
“เอ่อ...ฉันหมายถึงเหมือนจะจำได้ลาง ๆ ว่าเคยกินน่ะค่ะ แค่เหมือนเคยเห็นมาก่อน”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร” ปฐวีพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง ระหว่างที่กำลังนั่งทานอาหารสายตาคมก็คอยมองเธอเป็นระยะไปด้วย เรื่องที่เธอเป็นลูกคุณหนูสักตระกูลอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้
ทานเสร็จ นาเดียก็อาสาเอาจานไปล้างเหมือนอย่างเคย และท่าทางของเธอก็ยังเก้ ๆ กัง ๆ ราวกับเด็กเพิ่งหัดล้างจาน
“ถามจริง เธอล้างจานเป็นหรือเปล่า” ผู้ชายตัวโตมายืนซ้อนอยู่ด้านหลังและชะโงกหน้ามาถาม แต่มันคงจะใกล้เกินไปจนทำให้อีกฝ่ายหน้าขึ้นสีเรื่อ
“เป็นค่ะ”
“เป็น แล้วไม่รู้เหรอว่าต้องทิ้งเศษอาหารก่อนล้างน่ะ”
“ขะ ขอโทษค่ะ ฉันลืม”
ไม่หรอก มันไม่ใช่อาการลืม แต่เป็นท่าทางของคนที่ไม่เคยทำเลยต่างหาก เพราะเมื่อครู่ตอนที่นั่งทานอาหารด้วยกัน นาเดียสามารถหยิบจับใช้ช้อนและมีดได้อย่างคล่องแคล่ว เหมือนกับคนที่ถูกฝึกมาอย่างดีหรือคุ้นเคยใช้มันเป็นประจำ
“รีบ ๆ ล้างจาน ฉันมีอะไรให้เธอช่วยหน่อย”
“ค่ะ ได้ค่ะ”
บอกกับเธอแล้วปฐวีก็มานั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น พร้อมกับวางถุงใส่สกินแคร์ที่เพิ่งซื้อมาไว้บนโต๊ะ ไม่นานคนตัวเล็กก็เดินออกมาจากในครัวแล้วหย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาเช่นกัน
“คุณวีมีอะไรให้ฉันช่วยเหรอคะ”
“ฉันเป็นผู้ชาย ไม่ค่อยถนัดอะไรแบบนี้เท่าไหร่ แต่อยากลองให้ครีมบำรุงผิวดู เธอเป็นผู้หญิงน่าจะรู้อะไรพวกนี้ ช่วยฉันดูไหนว่าแบบไหนเหมาะกับผู้ชาย”
นาเดียหยิบของที่อยู่ในถุงออกมาอ่านทีละชิ้นอย่างพิจารณา เธอไล่สายตาอ่านอย่างช้า ๆ อีกทั้งยังเปรียบเทียบครีมที่เหมือนกันแต่คนละยี่ห้อให้เขาฟังอีกต่างหากว่าแบบไหนเป็นอย่างไร
“จากที่ดู ๆ ทั้งหมด ฉันว่าคุณวีใช้เป็นเซ็ตนี้จะดีกว่าค่ะ เหมาะกับผู้ชายมากกว่า” เธอเอ่ยบอกพร้อมกับเลื่อนเซ็ตสกินแคร์ที่ว่ามาตรงหน้าเขา
“งั้นเหรอ ขอบใจนะ ว่าแต่พรุ่งนี้ตอนเย็นออกไปข้างนอกด้วยกันไหม ฉันคิดว่าเธออยู่แต่ในคอนโดน่าจะเบื่อ”
พอได้ยินว่าจะได้ออกไปข้างนอก ดวงตากลมโตก็เป็นประกายแวววับขึ้นมาในทันที
“ไปได้เหรอคะ คุณวีจะพาฉันไปข้างนอกเหรอคะ”
“อืม...แต่เธอต้องรับปากก่อนว่าจะไม่สร้างเรื่อง”
“รับปากค่ะ รับปาก” เสียงใสเอ่ยรับพร้อมกับพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วฉันจะกลับมารับ”
//////
วันต่อมา
“คุณวี ฉันใส่ชุดนี้ออกไปข้างนอกกับคุณได้หรือเปล่าคะ มันไม่น่าเกลียดใช่ไหม” นาเดียเอ่ยถามพร้อมก้มมองชุดเดรสสีขาวที่ตัวเองสวมอยู่
“ก็ไม่น่าเกลียดนะ”
“ค่อยสบายใจหน่อย ปกติไม่ค่อยได้ใส่ชุดแบบนี้เลยค่ะ”
อีกแล้ว เธอพูดเหมือนกับว่าจำเรื่องราวของตัวเองได้ แต่ไม่ยอมบอกเสียทีว่าตัวเองเป็นใคร
“แล้วปกติเธอแต่งตัวแบบไหน”
“ปกตินาเดีย...เอ่อ ไม่แน่ใจค่ะ จำไม่ได้”
เมื่อเห็นคนตัวโตเอาแต่จ้องหน้ารอฟังว่าเธอจะตอบออกมาแบบไหน นาเดียก็รีบตัดบทบอกว่าตัวเองจำไม่ได้อีกเช่นเคย ส่วนปฐวีก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ เขาทำเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น
“แล้วเราจะไปไหนกันเหรอคะ”
“ก็พาไปเดินซื้อของ เผื่อเธอมีอะไรจำเป็นต้องใช้เป็นพิเศษ” เขาตอบแล้วก็เดินนำหน้าเธอมายังรถที่จอดอยู่บริเวณที่จอดรถของคอนโด
แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมผู้ชายที่เอาแต่คอยดุเธอตั้งแต่วันแรกที่ฟื้นขึ้นมา จู่ ๆ ถึงได้มาทำดีด้วย แต่นาเดียก็ยอมเดินตามหลังผู้ชายตัวสูงมาติด ๆ ใบหน้าสวยระบายด้วยรอยยิ้ม อย่างน้อยเขาก็พาเธอออกมาดูโลกภายนอกบ้าง ไม่ได้สั่งให้อยู่แต่ในคอนโดอย่างเดียว
ภายในรถไร้เสียงพูดคุย ใบหน้าหล่อเหลาก็ยังนิ่งเฉยอย่างเช่นทุกที นาเดียลอบมองดูปฐวีเป็นระยะ เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีมากเลยทีเดียว ถึงแม้บางครั้งจะดุไปหน่อย แต่ลึก ๆ ก็น่าจะเป็นคนที่ใจดีอยู่ไม่น้อย
“มองขนาดนั้นแอบนินทาฉันในใจหรือเปล่า”
“เปล่านะคะ ฉันแค่มองว่าคุณหล่อดี”
“เรื่องนั้นฉันรู้ตัว”
เห็นท่าทีมั่นอกมั่นใจในความหล่อของตัวเองแล้วทำให้คนตัวเล็กอดที่จะแอบเบะปากด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้ เขาหล่อไม่เถียงหรอก แต่ว่าดูจะหลงตัวเองไปหน่อย
“นี่แอบนินทาฉันอยู่จริง ๆ สินะ”
ดวงตากลมเบิกกว้าง นอกจากความหล่อแล้ว หรือว่าเขาจะสัมผัสพิเศษสามารถอ่านใจคนได้ ถึงเดาทุกอย่างได้แม่นยำขนาดนี้
ภายในรถคันหรูกลับสู่โหมดความเงียบอีกครั้ง ปฐวีไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ส่วนเธอก็เฉมองไปนอกหน้าต่างรถแทน จนมาถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่
“อยากได้อะไรก็หยิบได้เลย เดี๋ยวฉันจ่ายให้” เสียงทุ้มเอ่ยบอกหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างกาย ดูเหมือนเธอจะตื่นเต้นมากที่ได้ออกมาข้างนอกแบบนี้
“ท่าทางคุณจะรวยมากเลยนะคะ”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น”
“ก็คอนโดคุณใหญ่มาก แถมซื้อแต่ของแพง ๆ ทั้งของกินของใช้ แถมห้างนี้ก็มีแต่ของแบรนด์เนม ถ้าไม่รวยคงจะซื้ออะไรพวกนี้ไม่ได้หรอกค่ะ”
สิ่งที่เธอพูดออกมาทั้งหมดในตอนนี้ทำให้ปฐวีมั่นใจแล้วว่านาเดียต้องไม่ใช่ลูกชาวบ้านธรรมดาแน่นอน เธอต้องมาจากตระกูลที่ร่ำรวยมาก ๆ ถึงได้รู้จักทุกสิ่งที่เขาซื้อ
“ถือว่าเธอตาถึง”
“ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เกรงใจนะคะ”
“ตามสบาย”
เมื่อได้รับอนุญาต นาเดียก็เดินเข้าไปในร้านที่ตัวเองมองเอาไว้ในทันที คนตัวเล็กเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ตามมาด้วยรองเท้า ซึ่งปฐวีก็ปล่อยให้เธอเลือกได้ตามใจ ถือว่าบททดสอบวันนี้ทำให้เขาได้รู้ตัวตนของเธอมากขึ้น
“คุณวี มาซื้อของเหรอครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อหันไปมองก็เห็นชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขาพร้อมกับลูกน้องข้างกายอีกสองคน
“คุณลีโอ สวัสดีครับ” ปฐวีเอ่ยทักทายชายหนุ่มตรงหน้าที่เป็นคู่ค้าของ PN กรุ๊ป
“ว่าแต่คุณวีมากับใครเหรอครับ”
“มากับน้องน่ะครับ พอดีเธอเลือกซื้อของอยู่ด้านใน” ปฐวีตอบคำถามแบบเลี่ยง ๆ ถึงแม้จะเป็นคู่ค้าคนสำคัญ แต่ก็ไม่ได้สนิทกันถึงขนาดจะเล่าบอกทุกอย่างได้ อีกอย่าง เขาไม่เคยชอบขี้หน้าไอ้ผู้ชายคนนี้เลยแม้แต่น้อย ถ้าไม่ติดว่าต้องทำการค้าร่วมกันก็คงไม่เสียเวลาเสวนา
นาเดียเลือกเสื้อผ้ากับรองเท้าที่ถูกใจได้แล้วและกำลังจะเดินมาหาปฐวีที่ยืนรออยู่ เพื่อจะให้เขาช่วยดูว่าที่เธอเลือกมานั้นสวยหรือเปล่า แต่สองขาเรียวต้องชะงักเมื่อเห็นว่าเขากำลังยืนคุยกับใครอยู่
สองเท้าก้าวถอยหลังช้า ๆ แล้วแอบอยู่ข้างชั้นวางของที่มั่นใจว่าจะซ่อนตัวเธอได้มิด ร่างเล็กสั่นไหวด้วยความกลัวเมื่อเห็นผู้ชายคนนั้น
///////////////////////////////////////////////////////