ตอนที่ 2 ภาระ

1685 Words
“เธอจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม รีบ ๆ เข้ามาจะได้ปิดประตู” ปฐวีที่เดินเข้ามาข้างในก่อนหันกลับหลังไปถามคนที่ยังยืนเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยท่าทีไม่มั่นใจอยู่หน้าห้อง “ทะ ที่นี่คอนโดคุณเหรอคะ” นาเดียถามออกมาเบา ๆ พร้อมกับใช้สายตากวาดมองเข้ามาข้างใน คล้ายกำลังพิจารณาความปลอดภัยของตัวเอง “นี่ ถึงสมองเสื่อมก็น่าจะคิดได้นะ ถ้าไม่ใช่คอนโดฉันแล้วจะพาเธอมาทำไม เข้ามาเร็ว ๆ” น้ำเสียงเข้ม ๆ ที่ออกคำสั่งทำให้ขาเรียวต้องรีบก้าวเข้ามาด้านใน และทันทีที่เธอก้าวขาข้ามมาปฐวีก็ปิดประตูลง “ห้องนอนเธออยู่ตรงนั้น มีเสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นเตรียมไว้ให้แล้ว เข้าไปดูว่าครบไหม อยากได้อะไรเพิ่มก็บอก” ระหว่างที่เดินนำหญิงสาวมายังห้องนั่งเล่น ก็ชี้มือไปยังห้องนอนที่อยู่อีกด้านเพื่อบอกเธอ “แล้วฉันต้องอยู่กับคุณที่นี่สองคนแค่นั้นเหรอคะ” ถามออกมาพร้อมกับสายตาไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง จนทำให้เจ้าของห้องถอนหายใจออกมาแรง ๆ “แล้วเธออยากจะอยู่กับใครเพิ่ม หรือจะให้ฉันโทรหาลูกน้อง โทรหาน้องชายให้มาอยู่ด้วย” “ปะ เปล่าค่ะ ฉันแค่ถามดู” “รีบ ๆ ไปดูของในห้องว่าครบไหม” ได้ยินคำสั่งของเขา นาเดียก็รีบเดินไปเปิดประตูห้องที่ว่าในทันที และเมื่อเข้ามาข้างใน ดวงตาคู่สวยก็กวาดมองรอบ ๆ ห้อง ถึงแม้การตกแต่งจะเป็นโทนของผู้ชาย แต่ก็ถือว่ารสนิยมไม่เลว เธอเปิดดูตู้เสื้อผ้า ข้างในนี้มีครบทุกอย่างที่ผู้หญิงทุกคนจำเป็นต้องใช้ ทั้งเสื้อผ้า ชุดชั้นใน รวมไปถึงผ้าอนามัยเขาก็เตรียมไว้ให้ ถัดไปตรงโต๊ะเครื่องแป้งก็มีครีมบำรุงพื้นฐานวางอยู่ มือเรียวหยิบขึ้นมาดูทีชิ้น “เลือกได้ไม่เลว” นาเดียพึมพำออกมาคนเดียวก่อนที่จะวางทุกอย่างกลับที่เดิม “ว่าไง ทุกอย่างครบหรือเปล่า” เมื่อเห็นเธอเดินออกมาด้านนอกปฐวีก็เอ่ยถามขึ้น “ครบค่ะ ใช้ได้ทุกอย่างค่ะ” “ดี แล้วนี่โทรศัพท์ของเธอพร้อมซิมการ์ด มีเบอร์ของฉันและลูกน้อง แล้วก็แม่บ้านบันทึกไว้ให้แล้ว เวลาอยู่คนเดียวเกิดเรื่องอะไรก็โทรมา แต่ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าโทร” ผู้ชายตัวโตพูดมายาวเหยียดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือราคาแพงมาให้ นาเดียยื่นมือไปรับอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จนอีกฝ่ายคงนึกรำคาญ ฝ่ามือหนาจับมือเธอเอาไว้แล้วยัดโทรศัพท์ลงใส่มือของเธอ “นี่ เลิกทำท่ากลัวฉันเสียที เป็นภาระคนอื่นแล้วยังจะมาทำท่าทางแบบนี้ใส่อีก ไม่มีมารยาท” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น จู่ ๆ ก็โดนผู้ชายคนนี้ดุอีกแล้ว ทั้งที่หน้าตาก็ดีแต่ทำไมปากถึงได้ร้ายขนาดนี้นะ “ก็เราเพิ่งรู้จักกัน แปลกเหรอที่ฉันจะไม่ไว้ใจคุณ” เธอแค่พยายามจะอธิบายเหตุผล แต่ดูเหมือนมันจะทำให้เขาไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม “ฉันเป็นคนขับรถชนเธอ เป็นคนจ่ายค่ารักษาทุกอย่าง และเป็นคนรับเธอมาดูแลจนกว่าจะจำอะไรได้ มีอะไรที่ฉันดูไม่น่าไว้วางใจ ฮะ!” หัวคิ้วเข้มที่ผูกเข้าหากันพร้อมกับสายตาดุ ๆ ที่มองมา ทำให้นาเดียต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาของเขา “ขอโทษค่ะ” “เฮ้อ...ช่างเถอะ อยู่ที่นี่อยากกินอะไรก็โทรบอกแม่บ้าน หรือไม่ก็กดสั่งเอาในแอปฯ ฉันผูกบัตรไว้ให้แล้ว เรื่องแค่นี้ทำเองเป็นหรือเปล่า” หญิงสาวก้มมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ เธอกดเข้าไปดูในแอปพลิเคชันที่เขาโหลดเอาไว้ให้เรียบร้อย แล้วมันก็ผูกกับบัตรเครดิตเอาไว้ให้แล้วจริง ๆ “ก็น่าจะใช้เป็นค่ะ” นาเดียตอบกลับ ถึงแม้บอกว่าน่าจะใช้เป็น แต่สีหน้าของเธอเหมือนคนที่กำลังสงสัยอย่างหนักเสียมากกว่า “นี่เธอคงไม่ได้สมองเสื่อมจนลืมแม้กระทั่งวิธีใช้แอปฯ พวกนี้หรอกใช่ไหม” คนตัวเล็กช้อนสายตาขึ้นมองเขาสลับกับมองหน้าจอโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ จะว่าลืมวิธีใช้ก็ไม่ได้หรอก เพราะเธอไม่เคยใช้มันเลยต่างหากล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นนาเดียก็ทำเพียงแค่เงียบไม่พูดอะไรออกมา “เดี๋ยวลองหัด ๆ ดูก็น่าจะทำเป็น คงไม่มีปัญหาค่ะ” “ก็แล้วแต่เธอละกัน ฉันขอเข้าไปนอนก่อน วุ่นวายเรื่องของเธอมาหลายวัน โคตรเหนื่อย” พูดจบปฐวีก็เดินกลับเข้าไปยังห้องนอนของตัวเอง โดยที่ไม่รอให้หญิงสาวตอบอะไรกลับมา ร่างเล็กทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา นิ้วเรียวจิ้มลงไปที่หน้าจอเพื่อหัดใช้แอปพลิชันต่าง ๆ ที่เขาบอก อย่างแรกก็คงต้องหัดสั่งอาหารก่อน เพราะถึงผู้ชายตัวโตจะบอกว่าให้โทรหาแม่บ้านได้ แต่ตัวเองก็ยังไม่ได้สนิทกับใครถึงขนาดนั้น ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนย่อมดีที่สุด “อ๋อ...ใช้แบบนี้เอง” นาเดียกด ๆ จิ้ม ๆ หน้าจออยู่นาน ในที่สุดก็เข้าใจและรู้วิธีการสั่งอาหาร แล้วเธอก็กดสั่งของกินมาหลายเมนูสำหรับตัวเองและเผื่อปฐวีด้วย ครึ่งชั่วโมงต่อมา เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องที่เธอถืออยู่ก็ดังขึ้น นาเดียกดรับด้วยความงุนงงแล้วก็ได้รู้ว่าเป็นเบอร์ของคนส่งอาหาร และแจ้งให้เธอลงไปรับยังข้างล่างที่วางเอาไว้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูหน้าห้องนอนดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่ต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนที่ปฐวีจะลุกเดินมาเปิดประตู “เธอมีอะไรอีก” เสียงเข้ม ๆ เอ่ยถามออกไป แต่ว่านาเดียกลับไม่ตอบคำถาม นัยน์ตาคู่สวยปะทะเข้ากับแผงอกแน่นพอดีเพราะเขาไม่ใส่เสื้อ และสิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้หญิงสาวนิ่งชะงักไป “นี่ ฉันถามว่ามีอะไร” “เอ่อ...คือฉันสั่งอาหารค่ะ แต่ว่าพนักงานโทรมาให้ลงไปรับที่ด้านล่าง แต่ฉันไม่รู้ว่าต้องลงไปยังไง” เสียงลมหายใจจากผู้ชายตัวโตถูกพ่นออกมาอย่างเบื่อหน่าย รับมาเป็นภาระยังไม่พอ ยังต้องคอยมาดูแลเหมือนกับเด็กน้อยอายุไม่เกินห้าขวบอีก “เธอเห็นคีย์การ์ดที่วางอยู่บนโต๊ะนั่นไหม” ถามพลางชี้นิ้วไปทางโต๊ะที่อยู่ข้างโทรทัศน์ไปด้วย “เห็นค่ะ” “เธอก็แค่หยิบคีย์การ์ดนั้นไปแล้วก็ลงไปด้านล่าง ตอนขึ้นมาก็แตะคีย์การ์ดในลิฟต์แล้วกดชั้น 22 เรื่องง่าย ๆ แค่นี้คิดเองไม่เป็นหรือยังไง” นาเดียได้แต่เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น แค่วันนี้วันเดียวเธอโดนเขาดุไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ถ้าสามารถไปอยู่ที่อื่นได้เธอคงไม่มาอยู่กับเขาหรอก “สรุปลงไปเองได้หรือเปล่า” ปฐวีถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ หากว่าลงไปเองไม่ได้จริง ๆ ก็คงไม่มีทางเลือก “ไปได้ค่ะ คุณวีรอแป๊บนะคะ อย่าเพิ่งนอนนะ” พูดเพียงแค่นั้นหญิงสาวก็รีบเดินไปเปิดประตูห้องออกไปในทันที ทิ้งไว้เพียงความงุนงงให้กับเขา “อะไรอีกวะ มีห้ามไม่ให้นอน” แม้จะหงุดหงิดแต่ปฐวีก็เดินออกมานั่งรอในห้องนั่งเล่น รายการโทรทัศน์ถูกเปิดเพื่อฆ่าเวลา จนผ่านไปเกินยี่สิบนาทีนาเดียก็ยังไม่กลับมา “เหี้ยเอ้ย...” ปฐวีสบถคำออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อเธอหายไปนานกว่าที่ควรจะเป็น หรือว่าเกิดอาการหลง ๆ ลืม ๆ จนเดินหลงไปทางอื่น และนั่นมันก็ทำให้เขารีบกลับเข้าไปในห้องนอนแล้วสวมเสื้อเพื่อที่จะลงไปตามหาเธอ แต่พอก้าวขาออกมาจากห้องนอนก็เห็นว่านาเดียกลับมาพอดี “เธอไปไหนมาฮะ!” เพราะตอนนี้หญิงสาวอยู่ในความรับผิดชอบของเขา หากเกิดหายไปก็ลำบากต้องตามหาอีก ทำให้ปฐวีตะคอกถามออกไปเสียงดัง “คุณโกรธฉันทำไม ก็ลงไปเอาอาหารไงคะ พอดีสั่งไว้หลายร้านเลยรอให้มาครบก่อนค่อยขึ้นมาค่ะ” นาเดียตอบกลับมาด้วยหน้าตาใสซื่อ พร้อมกับชูถุงอาหารหลายถุงที่อยู่ในมือเป็นหลักฐานให้เขาดู “แล้วทำไมไม่รู้จักโทรมาบอก” “ก็ไม่คิดว่าคุณจะเป็นห่วง” “เธอนี่มัน...ภาระจริง ๆ” ประโยคสุดท้ายยัยตัวเล็กไม่ได้ยืนรอฟังจนจบ เธอเดินไปยังโต๊ะทานข้าวแล้วหยิบอาหารออกมาทีละถุง “คุณก็มากินด้วยกันสิ ฉันสั่งมาเผื่อคุณด้วยนะ” เสียงหวานเอ่ยบอกแล้วแกะอาหารใส่ลงในจานจัดเรียงสวยงาม ปฐวีก้าวขาไปหยุดอยู่ข้างโต๊ะแล้วใช้สายตาสำรวจอาหารที่วางอยู่ ขนาดความจำเสื่อมยังรู้จักเลือกอาหาร เพราะแต่ละอย่างที่เธอสั่งมันเป็นของที่เขาชอบกินทั้งนั้น “อย่างน้อยก็ยังฉลาดเลือกซื้อของกิน” “คุณชอบอาหารพวกนี้เหรอคะ” “ก็กินได้” รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าสวย นี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอได้รับคำชมจากเขา นาเดียหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้โดยมีผู้ชายตัวโตนั่งฝั่งตรงข้าม ไม่ค่อยมีบทสนทนามากนักระหว่างมื้ออาหาร แต่มันก็ดีที่มีเพื่อนนั่งกินด้วยกัน ///////////////////////////////////////////////////////
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD