"จิ้นเล่อ!!!!!! "
"บังอาจนัก !!!! "
ร่างในชุดเกราะหัวเราะร่าและถอดหมวกออกช้าๆ คารวะคนตรงหน้าแล้วยิ้มร่า
"ข้ามินึกว่าเป็นท่านนี่น่ะท่านพี่ ใครใช้ให้ท่านไร้สง่าราศีเช่นนี้เล่า ท่านมิคิดถึงความปลอดภัยอันใด ก็นึกถึงใจของท่านพ่อบ้าง"
"ครานี้ท่านติดค้างข้าหนึ่งครั้ง ท่านจงจำให้ขึ้นใจ ข้านึกดีใจยิ่งที่ท่านพี่ของข้ายังมิกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนในสนามรบ"
"นึกว่าจะได้ครองตำแหน่งแทนท่านเสียแล้ว ช่างน่าเสียดายนัก "
"ระวังปากเจ้าไว้นะ จิ้นเล่อ หากข้าหายดีข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า!!!! "
ร่างหนาชี้หน้าน้องชายตนและสะบัดหน้าเบาๆ คล้ายจะร่วงหล่นจากหลังม้า ฟุบหน้าลงไปกับแผงคอม้า จนคนด้านหลัง เห็นทวนยาวปักอยู่ที่กลางหลัง
"ท่านพี่...ท่านพี่....หมอ หมอ มาดูท่านอ๋องแปดเร็วเข้า!!!! "
เสียงโวยวายดังไปทั่ว ทหารแบกท่านอ๋องลงจากหลังม้า รองแม่ทัพปูเสื้อคลุมกลางสนามรบ นำร่างท่านอ๋องคว่ำลง และลงมือเย็บแผลเสียที่ตรงนั้น
"อ้ากกกก ข้าเจ็บกว่าตอนที่โดนข้าศึกลอบทำร้าย ก็ตอนทำแผลนี้ล่ะ !!!!! "
ร่างหนาโวยวายทั้งยังหลับตาอยู่ น้องชายลูบผมเบาๆและหัวเราะ บ่นออกมาอย่างคึกคะนอง
"ปากดีเช่นนี้ ท่านคงยังมิตายง่ายแน่ๆท่านพี่ ผู้อื่นอยู่ที่ใดกัน เหตุใดจึงเหลือท่านเพียงผู้เดียวเล่า "
มือแกร่งยกขึ้นเหนือหัวชี้ไปด้านหลัง ทหารองครักษ์จึงจุดพลุประจำกายท่านอ๋องเก้าขึ้นเหนือท้องฟ้า เป็นการนัดหมายรวมพล แสดงว่ากำลังเสริมมาแล้ว ผู้คนจึงทยอยลงจากเขามาได้
อ้ายฉิงนั่งม้ามากับสตรี คนล่ะนางกันกับคนเดิม ล้อมหน้าหลังด้วยสาวใช้กับคนรับใช้ชาย มีทหารล้อมอีกกองใหญ่ จนมาถึงจุดพักแรมเป็นค่ายทหาร อ้ายฉิงมึนงงมาก จะอ้าปากถาม ก็ลืมชื่อผู้ชายบ้านั่น จนเมื่อคนทั้งคณะลงจากม้า และ ยอบกายลงติดพื้น อ้ายฉิงจึงต้องลงตามและกำลังจะก้มลงจนติดพื้น นางข้ารับใช้จึงดึงเอาไว้
"ท่านหญิงท่านมิต้องทำความเคารพองค์ชายเก้าเจ้าคะ ท่านมียศเหนือกว่าในยามนี้ "
องค์ชายเก้าหูกระดิกและทำสายตาแพรวพราวขึ้นมาในทันที
"ฮร้า ท่านพี่แอบซุกสาวไว้ที่นี่เสียแล้วนี่เอง เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่นัก ฮ่า ฮ่า ฮ่า "
อ้ายฉิงยืนงงๆทำตัวไม่ถูกนัก
" จะถามก็ลืมแล้ว หันหาคนตัวโตที่หน้าตาคล้ายกัน คนตรงหน้าผมสั้นเกรียนใบหน้าทะเล้น แต่คนที่เธอหาผมยาว หน้าคมหน้าตาดูดุกว่านี้อีก "
เห็นอ้ายฉิงทำตัวไม่ถูก ร่างหนาก็ผายมือไปข้างหน้า เอ่ยไม่ดังไม่เบานัก ตามอย่างทหาร
"ท่านพี่อยู่ในกระโจมที่กลางทัพ เชิญท่านพี่สะไภ้เถิด ตามข้ามา"
สาวใช้ประคองอ้ายฉิงเดินตามไปช้าๆ เดินล้อมกันเป็นพรวน ป้องกันความเสื่อมเสีย ยามถึงกระโจมที่มีทหารแน่นหนา ยืนจนชิดกันรอบเป็นวงกลม อ้ายฉิงงงๆและเดินตามเข้าไป ร่างหนาเดินมาดูร่างบนเตียงไม้ที่ทำขึ้นรีบๆ คนเจ็บนอนคว่ำหลับตานิ่งไม่ขยับ อ้ายฉิงยกมือป้องปากตกใจมาก เพราะนี่คือคนแรกในโลกใบนี้ที่เธอคุยด้วย
"ท่านพี่จิ่นกวางโดนทวนแทงทะลุหลัง เคราะห์ดีที่มิโดนจุดสำคัญเพราะเกราะหนานัก แต่ก็ได้เลือดและต้องนอนคว่ำเช่นนี้จนกว่าจะหายดี และยามนี้คงยังมีไข้ จนกว่าแผลจะสมานกันดี"
อ้ายฉิงนึกออกทันทีถึงชื่อของคนๆนี้ จิ่นกวางนั่นเอง ...ใบหน้าเล็กๆ มองคนข้างหน้าอย่างเป็นห่วง ร่างสูงอีกร่าง จึงหัวเราะแล้วเดินออกไป ทิ้งคนรับใช้ไว้หนึ่งคนและสั่งกางกระโจมคนรับใช้ข้างๆนั้นอีกหนึ่งกระโจม
อ้ายฉิงขยับบีบน้ำอุ่นเช็ดไปตามตัวคนเจ็บช้าๆ คนเจ็บครางขึ้นมาเบาๆ
"อรือ เจ็บบ "
"อุ้ย ขอโทษคุณเจ็บมากมั้ย ฉันจะเบามือลงกว่านี้นะ ขอโทษนะ จิ่นกวาง "
อ้ายฉิงเรียกชื่อคนขึ้นมาอย่างสนิทสนม สาวรับใช้มองตาโตแล้วขยับกายหนีออกไปในทันใด มือบางปัดผมออกไปให้ร่างหนา บรรจงเช็ดตัวให้จนทั่วจนถึงแผ่นหลังและทั้งตัว ก่อนจะผลัดกางเกงให้อย่างเบามือ เธอนั่งอยู่บนแคร่ด้วยกัน ปัดผมที่ตกลงมาดูหน้าชัดๆ อ้ายฉิงจ้องลงมาใกล้ๆ ร่างหนาลืมตาปรือน้อยๆ เอ่ยออกมาเบาๆ
"ขอยาแก้ปวดให้ข้าหน่อย ข้าปวดแผลเหลือเกิน เจ็บไปหมดจนกายจะขาดแล้ว "
อ้ายฉิงร้อนรนและลุกไปพรวดพราด ตะโกนออกไปไม่ดังมาก
"ขอยาแก้ปวดหน่อย คนเจ็บปวดแผลมาก ปวดมากจะแย่แล้ว !!! "
ทหารข้างนอกทำหน้าแปลกๆ หันมองเข้าไปในกระโจมและรีบหันกลับไปในทันใด หมอทหารส่ายหน้า มองคนรับใช้ทั้งหลายและสั่งคนรับใช้ออกไปในทันใด
"พวกเจ้าไปต้มยามาเยอะๆใส่น้ำมากๆ อย่าใส่ยาข้าเยอะ เปลือง!!!!! "
ทุกคนค้อมกายจากไป และมองหันกลับไปอย่างงุนงง ท่านอ๋องแปดตะแคงตัวนอนบนตักบางแล้วกอดรัดนางแน่นหนา
"อรื้อ ข้าปวดแผล ปวดมาก หัวของข้าจะระเบิดแล้ว ข้าจะตายหรือไม่ ข้ายังมิมีบุตรเลย ข้าต้องตายแน่ๆเลย ข้ากลัว!! "
อ้ายฉิงร้อนรนตื่นตกใจ นางลูบผมคนลงไปเบาๆ กระซิบข้างหูและกอดตอบ ก้มหน้าไปจูบปลอบคนเบาๆ
"คุณต้องปลอดภัยนะ เข้มแข็งนะ ถ้าผ่านช่วงมีไข้ไปได้ก็น่าจะหายดีแล้ว ถ้าแผลไม่ติดเชื้อโรคไม่เป็นอะไรนะ อย่ากลัวเลย "
อ้ายฉิงกระซิบและลูบฝ่ามือนุ่มๆลงไปตามกายแกร่งเบาๆ ถามซ้ำๆขึ้นมา
"เจ็บตรงไหนคุณบอกนะ เผื่อว่าฉันจะไปโดนแผลของคุณเข้า "
เส้าจิ่นกวางแอบยิ้มที่มุมปากน้อยๆ คนข้างนอกกรอกตาขึ้นฟ้ากันไปทั้งสิ้น มิอาจเอ่ยอันใด
อ้ายฉิงรับยามาจากคนรับใช้และนำมาเป่าเบาๆ ช่วยพยุงคนเจ็บขึ้นช้าๆกับข้ารับใช้ และให้พิงไหล่แกร่งลงมาทั้งตัวอ้ายฉิงนั่งบนก้อนหินเตี้ยๆหน้าเตียงแล้วเป่ายาให้ช้าๆ คนเจ็บค่อยๆอ้าปากตัวสั่นระริก
"ข้าหนาว...ปวดแผล"
คนรับใช้ทำตาโต ยามที่ร่างหนากินยาลงไปและพ่นออกมาน้อยๆ จนอ้ายฉิงเอ่ยเบาๆ
"ถ้ากินยาเองไม่ได้แบบนี้จะแย่นะคะ แข็งใจหน่อยนะ ไม่งั้นคุณต้องกินยาจากปากฉันแทนนะคะ "
ข้ารับใช้ตาโตขึ้นมาอีก เหงื่อแตกพลั่กๆ ร่างหนาเป่ายาออกมาที่มุมปาก จนหยดลงเลอะเทอะ ข้ารับใช้ดวงตากระตุกถี่ๆแต่ขยับหนีไปมิได้
ทันใดนั้น อ้ายฉิงจึงตักยาเข้าปากของตัวเอง ทำหน้าเบี้ยวๆน้อยๆและประกบปากกับคนไข้ ปล่อยให้ยาขมๆไหลลงคอคนไข้ไปทันที ร่างหนากลืนยาลงไปแต่โดยดี อ้ายฉิงมองยาในถ้วยแล้วกลั้นใจดื่มลงไปอีกครั้ง ประกบปากลงไปอีกครา ข้ารับใช้ปิดดวงตาจนสนิท มิกล้ามองชมดู อ้ายฉิงบ่นเบาๆขึ้นมา
"ยาขมมากๆเลย ถ้าฉันเจ็บบ้าง คงยอมตายดีกว่ากินยาขมๆอย่างนี้แน่ๆ "
ข้ารับใช้หญิงได้ยิน จึงเร่งออกไปนำน้ำสะอาดต้มสุกมาให้ดื่มกลั้วคอในทันที