แช่งชักหักกระดูก ( ตอน 3 )

835 Words
"ท่าทาง พี่ปริญจะอาการหนักว่ะแก เมื่อเช้าไลน์มาบอกพี่อัญว่าขอลาพักร้อน 2 อาทิตย์" แตงกวาหันไปซุบซิบกับแจง "น่าสงสารเนอะแต่ว่า...ฉันชอบว่ะ แมวไม่อยู่หนุร่าเริงฮ่าๆๆๆๆ" แจงแกล้งทำหน้าเศร้าเห็นใจแต่ตบท้ายด้วยความยินดี ซึ่งแตงกวาก็พลอยเห็นดีเห็นงามไปกับแจงด้วย "ตั้งแต่พี่ปริญไม่มาทำงานบรรยากาศในออฟฟิศน่าทำงานขึ้นเยอะเลยว่ะ" พนักงานหลายคนผสมโรง อะไรกันทำให้พวกเขาดีใจเช่นนี้ ทั้งที่ต่อหน้าก็ดูอวยกันดี "จริง จะได้ทำหน้าปกติของตัวเองหน่อย พี่เขาอยู่แล้วกูต้องปั้นหน้าใส่ว่ะ" เอนก พนักงานในแผนกบุคคลเดินแวะมาเม้ามอย ดูเหมือนว่าความเป็นที่รักของเพื่อนๆพี่น้อง พนักงานจะเป็นเรื่องจอมปลอม! ............................................................................ คืนนี้เช่นเคยเมื่อปริญนอนลงด้วยฤทธิ์ยาคลายเครียดที่ได้มาจากหมอเขาจึงหลับลงไม่ยากนัก ความสงบเกิดอยู่กับเขาได้ไม่นาน เขาก็เริ่มรู้สึกเหมือนกำลังออกเดินทางอีกแล้ว เส้นทางที่ไปเป็นเส้นทางสายเปลี่ยวสายเดิม แต่วันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินสวนทางมาทางเขา เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สวมใส่เสื้อผ้าสีดำทั้งชุด ทุกคนเดินก้มหน้าและแบกกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มาด้วยเหมือนขบวนแห่ ระยะทางเหมือนยังเดินไม่มาถึงแต่จู่ๆขบวนแห่ที่ว่าก็ผ่านเขาไปราวกับกดรีโมทคอนโทรลเร่งระยะเวลาให้เดินผ่านเขาไปอย่างรวดเร็วและคนที่อยู่ท้ายขบวนก็หันหลังกลับมามองเขาและกวักมือเรียก โบกมืออยู่อย่างนั้นสักพักคนกลุ่มนั้นก็เดินลับตาไปหัวใจของเขาเต้นรัวไม่เป็นส่ำเพราะคนที่หันมาโบกมือนั้นตัวอยู่ที่กลุ่มขบวนเดินไปจนเกือบพ้นเขาแล้วแต่มือที่โบกเรียกเขากลับใกล้จนเกือบประชิดปลายจมูกของเขาเลยทีเดียว "ตัวอะไรวะ" เขาพูดปากสั่น บอกไม่ถูกว่าสั่นเพราะกลัวหรือสั่นเพราะหนาว เขากอดอกเดินมาตลอดเพราะอากาศที่หนาวเหน็บแต่เหงื่อกลับไหลหยดออกมาไม่ขาดสาย เขาเดินไปได้สักพักก็ต้องวิ่งเพระว่าเขาเดินไปสะดุดกับวัตถุบางอย่างพอก้มลงไปหยิบขึ้นมาดูพบว่ามันคือ"หัวคน" "ช่วยด้วย!ๆๆๆ" เขาวิ่งไปตะโกนไปตะโกนไปทั้งที่ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยได้ " ไปตายซะๆๆๆ" "กูเกลียดมึง!" "ไอ้ชาติชั่ว!" "ไอ้ปากสวะ!" "ตายไปเสียทีคนอย่างมึง!" "ไปลงนรกซะ!" ตลอดสองข้างทางที่เขาวิ่งหนีมามีแต่เสียงก่นด่าผสมสาปแช่งดังระงมอยู่ไม่ขาดสาย ปริญต้องวิ่งไปเอามืออุดหูไปเพราะเสียงดังกึกก้องไปทุกโสตประสาทอย่างไม่มีทางปราณีปราศรัย "โครมมม"เสียงเขากลิ้งตัวล้มลงไปในบ่อโคลน มันเป็นบ่อโคลนตื้นๆแต่ด้วยความกลัวก็ทำให้เขาดิ้นรนกระเสือกกระสนวนเวียนอยู่ที่บ่อนั้นนานนับชั่วโมง "ติ๊ดดดดด" เสียงนาฬิกาปลุกดัง วันนี้ถึงแม้ว่าเขาจะหยุดงานแต่ด้วยความเคยชินจึงตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ วันนี้แปลกกว่าทุกวันเขาตื่นมาพร้อมความเลอะเทอะเปรอะเปื้อน "โคลนมาจากไหนเนี่ย" เขาดึงเสือยืดตัวเองออกมาดูไม่ว่าจะเป็นเสื้อกางเกงแขนขามือเท้า ทุกส่วนของร่างกายเต็มไปด้วยโคลนสีเทาๆเขาคิดไม่ออกว่าเขาเผลอละเมอไปเล่นโคลนตอนไหน แต่...เขานึกถึงความฝัน "ฝันใช่เมื่อคืนเราฝันว่าตกบ่อโคลนนี่หว่าแต่ทำไมมันเปื้อนจริงวะ" เขาพยายามนึกว่าแถวบ้านเขามีบ่อโคลนหรือไม่เผื่อว่านั้นจะเป็นการที่เขาละเมอเดินออกไปนอกห้อง ถึงจะยังไม่ได้คำตอบแต่สิ่งที่เขารู้สึกเหมือนทุกวันคืออาการอ่อนเพลีย เหนื่อยเหมือนถูกดูดวิญญาณ เหมือนไปทำงานยกของหนักแบกหามมาเป็นแรมเดือนแบบไม่ได้พัก สุดท้ายก็ได้แต่ทิ้งไว้เป็นข้อกังขาที่หาสาเหตุไม่ได้ เขาจึงสลัดความคิดทิ้งไปแล้วฝืนตัวเองไปที่โต๊ะทำงานในห้องนอน เขายังคงเอาโน๊ตบุ๊คมาทำงานที่บ้านด้วย ทุกเช้าเขาจะตื่นขึ้นมาเช็คอีเมลและสั่งงานลูกน้องผ่านทางเมลรวมไปถึง...ด่าทางเมล สำเนาเมลนั้นๆถึงผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยหากใครทำผิดอะไรเป็นที่รู้ดีว่าปริญจะส่งเมลคล้ายว่าประจานไปในตัว ถึงวันนี้จะลาแต่ความร้ายของฝีปากที่เขามักสมอ้างเรียกว่ามันคือการพูดตรงๆ ยังคงดำเนินต่อ ลาแค่ตัวแต่ฝีปากไม่ได้ลา นี่คือสไตล์การทำงานของเขา ยิ่งไม่มีใครปริปากเถียง เขายิ่งทำ ยิ่งนายรักยิ่งได้ใจ! .............................................................................................................................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD