ไม่เพียงแต่อาการเจ็บป่วยออดแอดๆ ที่เริ่มเรื้อรังไม่หายขาดเขายังเจอกับเหตุการณ์แปลกๆอีกหลายครั้งอย่างเช่นเวลานอนเขามักจะฝันถึงสถานที่ที่หาคำตอบไม่ได้ว่าคือที่ใด
ณ คืนหนึ่ง ที่เขาล้มตัวลงนอนและหลับไป
ปริญเดินไปอย่างไร้จุดหมาย เขากำลังเดินไปที่ไหนสักแห่งที่มีแต่ม่านหมอก มองไม่ค่อยเห็น การเดินมันช่างกินเวลานานเหลือเกินเพราะไม่รู้ว่าปลายทางคือที่ใด สองข้างทางเต็มไปด้วยความมืด เขาเดินไปพร้อมด้วยอาการหอบหนาวสั่น หวังว่าจะเจอใครสักคนที่พอจะสอบทางได้แต่ก็ไม่มีใครให้ความร่วมมือ นานๆ จะเจอใครสักคนพอจะเรียกตัวเขาก็ไม่มีเสียง พยายามจะเข้าไปสะกิดก็เหมือนเดินไปหาคนๆนั้นไม่ถึงตัวเสียทีและแต่ละคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดคุยกับเขาเลย อากาศในตอนนั้น ทั้งๆที่เขาเหงื่อออกจนตัวเปียกแต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่ามันหนาวจนจับขั้วหัวใจ
"ติ๊ดดดด" เสียงนาฬิกาปลุกดังทำให้ปริญเริ่มรู้สึกตัวแต่เหมือนเขาไม่มีแรงที่จะลุกสักเท่าไร เขาพยายามฝืนยันกายตัวเองขึ้นมานั่งบนที่นอน
"โอย เกือบ 7 โมงเช้าแล้วหรือ" เขาดูนาฬิกาบ่งบอกว่าเขาต้องรีบไม่งั้นจะต้องไปถึงที่ทำงานสายอย่างแน่นอน พนักงานดีเด่นอย่างเขาจะไม่มีวันให้ประวัติด่างพร้อยเป็นแน่
ปริญมาถึงที่ทำงานด้วยอาการไม่สดชื่นเท่าไร หน้าดูซีดเผือดเหมือนคนไม่สบายจับไข้
"ปริญ ผมว่าคุณลาพักบ้างก็ได้นะจะลาพักร้อนหรือลาป่วยก็ได้ งานที่ค้างอยู่ก็ส่งต่อให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลคนใหม่ที่มาแทนคุณได้เลย เป็นถึงผู้อำนวยการแล้วกระจายงานไปบ้างก็ได้ เดี๋ยวจะไม่ไหวเอา" นพดลผู้บริหารเห็นท่าทางเขาไม่ดีตั้งแต่อาทิตย์ก่อน จึงได้เรียกเขามาพบเพราะเห็นว่าหน้าเขาดูอิดโรยเป็นอย่างมาก
"ผมยังไหวครับ แต่ถ้ามันอาการหนักมากไปกว่านี้ผมจะลาไปหาหมอครับ" ปริญยังดื้อ อาจเพราะอยากแสดงพาวเวอร์ให้ผู้บริหารเห็นว่าเขาสู้และขยันมากเพียงไร
เขาเดินกลับมาทำงานที่โต๊ะท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทาของพนักงาน ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาตรงๆทุกคนมีแต่พูดถึงเขาลับหลัง มีบ้างที่ได้ยินแต่เมื่อเขามองกลับด้วยสายตา คนที่นินทาก็ต้องรีบก้มหน้างุด
"แกๆ แกว่าพี่ปริญเป็นโรคอะไรไหมวะ อาการออกมาเป็นอาทิตย์แล้วนะหน้าซีด ผอมลง มะเร็งป่าววะ" เสียงน้องในแผนกหันไปคุยกัน
"ก็ไม่แน่นะแกอาการเฉียบพลันแบบนี้ ระยะไหนแล้วไม่รุ้ โหมงานหนักก็งี้แหล่ะไม่ได้พักผ่อน"
"แฮ่มๆ" ปริญได้ยินเสียงแว่วมาก็กระแอมพร้อมมองหางตาเป็นการเตือนว่า "ฉันได้ยิน"
แต่คำนินทาก็ทำให้ปริญลังเลใจไม่น้อย เย็นวันนั้นเขาจึงตัดสินใจไปหาหมอ
"แปลกมาก อาการเหมือนจะป่วยแต่ตรวจดูแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ เผื่อความสบายใจหมออยากให้คุณมาทำซีทีสแกนแล้วก็เจาะเลือดด้วย" หมอแนะนำเขา
"ได้ครับ" เขาเองก็สงสัยแต่เพื่อความแน่ใจและจะได้กลับไปทำงานแบบไร้กังวลเขาจึงตัดสินใจลางานเพื่อพักรักษาตัวและไปตรวจตามที่หมอนัด
................................................................
"ไม่เจออะไรเลยหรือ แปลกมาก คุณพยาบาลผมขอผลเลือดแล้วก็พาคนไข้ไปเอ๊กซเรย์เพิ่มด้วยนะ" หมอแปลกใจที่ตรวจไม่พบอะไรเลยจากร่างกายของปริญ เลยพยายามทุกทางที่จะสามารถตรวจและวิเคราะห์อาการได้หมอได้ให้เขาไปติดต่อทำใบนัดใหม่อีกครั้งเพื่อมาฟังผลตรวจในวันรุ่งขึ้น
"นี่ค่ะคุณหมอ" เมื่อผ่านกระบวนการตรวจต่างๆจนครบแล้วพยาบาลก็ได้นำเอาฟิล์มและผลเลือดมาให้หมอทันที
"ร่างกายคุณไม่มีอะไรผิดปกติสักอย่าง หรืออาจเป็นเพราะคุณแค่เครียด" ที่จริงหมอก็สงสัยแต่ด้วยไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะระบุได้ว่าเขาเป็นอะไรจึงตอบได้แค่ว่าคงเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอเท่านั้น
"หมอสั่งวิตามินเสริมไปให้คุณทานเพื่อบำรุงนะครับ ช่วงนี้ก็พักผ่อนให้มากๆหน่อยอาจจะต้องลางานแล้วลองพักผ่อนนอนให้เต็มที่ดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรของร่างกายไหม"
"ครับ" ปริญตอบรับหมอเขาเองก็ไม่คาดคิดถึงการเป็นโรคร้ายใดๆเชื่อว่าคงเครียดและก็พักผ่อนน้อยจริงๆ แต่มีอยู่หนึ่งคำจากปากหมอที่สะกิดใจเขาคือให้นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
เขานอนเหมือนกันแต่ทำไมรู้สึกเหมือนอดนอนมาหลายวันหลายคืน!
นอนแต่เหมือนไม่ได้นอน เหมือนเหนื่อยและเดินทางอยู่ตลอดเวลา
..................................................................................................................................................................................