เขายังคงทำงานที่บ้าน จนกระทั่งวันนึงที่เขารู้สึกว่าล้ามากเพราะนับวันเขายังคงฝันแปลกแบบนี้ไม่เลิก เขาจึงจำใจต้องปล่อยงานให้มันเป็นไป ตามวิถีทางที่พนักงานใต้บังคับบัญชาของเขาพึงจะกระทำโดยไม่มีเขามาคอยควบคุมกำกับ
คืนนี้เขากะว่าจะกินยาให้มากเกินกว่าหมอสั่งเผื่อว่าจะไม่ฝันอีกและการไม่ทำงาน อาจจะทำให้เขาดีขึ้นก็ได้ แต่!ฝันร้ายไม่ได้หายไปไหนเลย
คืนนี้ดูเหมือนจะหนักหน่วงกว่าทุกครั้งที่เคยฝันมา
เขาเริ่มเดินไปในเส้นทางคล้ายป่าลึก วันนี้เขาไม่มีอาการหนาวสั่น แต่เขาร้อนมากจนเหมือนมีไฟมาสุมอยู่ทั่วร่างปริญเริ่มมีอาการคันและจามหนักมากเพราะได้กลิ่นฉุน ผิวหนังตามตัวแขนขาเริ่มพองไม่มีที่มาที่ไป เขาเกามันจนผิวหนังถลอกเลือดซิป เดินไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเจ็บเท้าเหมือนเดินเหยียบอะไรมาตลอดเส้นทาง พอยกเท้าขึ้นมาดูเขาเห็นมันเป็นเม็ดสีขาวเล็กๆเกลื่อนกลาดเต็มท้องถนน เขาเดินเขย่งเท้าไปด้วยเกาไปด้วย ผิวหนังเขาเริ่มร้อนผ่าวแสบคัน วันนี้ไม่เจอใครบนถนนสายมืดมัวหมอกนี้แต่เขาได้ยินเสียงดังกังวาลลั่นในหูอีกแล้ว
”ตายซะคนรกโลก!”
”ไปตายซะไอ้เลวไอ้ปากหมา!”
”ตกนรกเสียไป!”
”ไอ้ชิงหมามาเกิด!”
เสียงด่าเหล่านั้นดังคล้ายระฆังใบใหญ่ที่ตีก้องอยู่ในหัวจนปวดหัวแทบระเบิด ปริญทรุดนั่งเดินต่อไม่ไหว
”ติ๊ดดดด” นาฬิกายังปลุกเขาเช่นเดิม
ปริญยันตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ เขาสะบัดหัวไล่ความมึนงง สิ่งที่เจอในเช้านี้คือเกลือเม็ดสีขาวและพริกแห้งอยู่บนที่นอนเขาเต็มไปหมด
”ห๊ะ!มาจากไหนวะ” เขาตกใจถึงแม้จะไม่ใช่ผีแต่ก็ตกใจกว่าเห็นผี สิ่งที่เขาเห็นมันไม่ควรอยู่บนที่นอนเลยสักนิด
เช้านี้เขาอ่อนเพลียมากกว่าที่เคยเป็นอย่างหาสาเหตุไม่ได้ งดทำงานก็แล้ว นอนเร็วก็แล้ว แต่ไม่มีความรู้สึกว่ามันจะดีขึ้นเลยตรงกันข้ามอาการกลับหนักขึ้นทุกวัน
สายของวันนั้นเพื่อนของเขาคนหนึ่งก็ได้โทรมาหา
"ฮัลโหล" ปริญรับสายอย่างอิดโรย
"โหลไอ้ปริญ เป็นไงบ้างวะเพื่อน" ศักดาเพื่อนของปริญตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย นับว่าเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งเลยทีเดียว
"เออ ไม่ค่อยสบายว่ะ มึงมีอะไรไหมวะ" เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
"ไม่มีอะไรแค่คิดถึง แต่ที่จริงก็มีนิดหน่อย" ศักดาแกล้งยวน
"อะไรของมึง กวนตีนกูแต่เช้า"
"ไม่เช้าแล้ว สายแล้วนะมึง"
"ตกลงมึงจะพูดไหมเนี่ย กูจะไม่ไหวแล้ว"
"พอดีเพื่อนๆจะนัดรวมรุ่นกันหน่อยกูเลยจะโทรมาชวนมึงมาเจอเพื่อนๆหน่อย"
"กูก็อยากไปอยู่นะแต่ไม่รู้จะไปไหวไหม ช่วงนี้กูไม่ค่อยสบายว่ะ"
"มึงเป็นอะไรมากป่าววะ"ศักดาเริ่มเป็นห่วง
"กูก็ไม่รู้ว่ะแต่ไม่มีแรงหมดแรงลุกไม่ค่อยขึ้น ไปหาหมอก็ไม่พบโรคอะไร"
"เดี๋ยวกูไปหามึงหน่อยดีกว่าเสียงมึงแย่ว่ะ เดี๋ยวกูซื้อข้าวไปให้ด้วย"
"เออๆ ขอบใจมากมึง" ปริญวางสายแล้วก็ล้มตัวลงนอนต่อ
"ติ๊งหน่องงงงง" เสียงกริ่งหน้าบ้านดัง
ปริญพยายามหอบร่างตัวเองไปเปิดประตู
"โอ้โหไอ้ปริญมึงเป็นอะไรเนี่ย ทำไมมึงซูบผอมหน้าซีดเป็นผีขนาดนี้" ศักดาตกใจเมื่อเห็นสภาพเพื่อนรัก
"ไปหาหมอดีกว่ากูพาไป" ศักดาเอ่ยปากอาสา
"กูไปไม่ไหวว่ะ กูอยู่คนเดียว แต่เคยไปแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นเลย"
"กินข้าวก่อนเพื่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน มากูจัดการให้มึงไปนั่ง" ศักดาจัดแจงเอาข้าวกล่องไปใส่จานมาให้เพื่อนและพาไปนั่งทานที่โต๊ะทานข้าว
......................................................................................................................