#8

1552 Words
ก็อก ก็อก เสียงเคาะทำทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นหยุดชะงัก ประตูถูกผลักเข้ามา นับดาวชะงักค้าง เมื่อเห็นคนสองคนแทบจะนั่งตักกันอยู่แล้วในมุมที่ไว้สำหรับรับแขก “เข้ามาสิ” ทิวาผละออกห่างจากพร้อมรักอย่างช้าๆขณะที่เอ่ยกับนับดาว เขาเคาะหลังมือพร้อมรักเบาๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินไปยังโต๊ะทำงานในขณะที่นับดาวก็เดินไปตรงนั้นด้วย พึ่บ ทิวาเป็นฝ่ายหยิบแฟ้มยื่นส่งให้นับดาว “ตอนนี้เหลืออีกสิบกว่านาทีก็จะเที่ยง คุณกินข้าวมื้อเที่ยงเลสหน่อยได้มั้ย” คะ? นับดาวเงยหน้ามองทิวาด้วยความแปลกใจ “ผมจะไปดูตลาดอีกที่ และต้องการผู้ติดตามไปทำข้อมูลให้” อ่อ นับดาวพยักหน้าและขอตัวออกไปก่อน “คุณจะต้องออกไปข้างนอกเหรอคะ พร้อมคิดว่าจะได้ทานมื้อเที่ยงกับคุณเสียอีก” “ตลาดที่ต้องไปดูค่อนข้างไกลจากที่นี่สักหน่อย ใช้เวลาเดินทางรวมรถติดด้วยก็น่าจะประมาณสี่สิบนาที ผมเลยกะว่าจะไปหาอะไรกินแถวนั้น” “พร้อมไปด้วยได้มั้ยคะ ไหนๆพร้อมก็ตั้งใจไว้แล้ว” ทิวายิ้มและพยักหน้า และเขาก็รั้งร่างอรชรเข้ามา ใบหน้าโน้มลงมาสานต่อสิ่งที่ทำค้างไว้ พร้อมรักคล้องคอและตอบสนองกลับเขาทันทีเช่นกัน เฮ้ยยย นับดาวรู้สึกว่าตัวเองแก่ลงไปมากแค่ช่วงเวลาสองสามวันนี้ ความคาดหวังที่อยากเป็นคนไร้ตัวตนในสายตาประธาน ดูท่าแล้วคงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว แม้ว่าเขาจะมองเธอเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงานเท่านั้นก็ตามทีเถอะ จะให้ทำไงละก็เธอเป็นพวกร้อนตัวนี่น่า  “ดาวเที่ยงกว่าแล้ว ทานอะไรดีจ่ะ” !! นับดาวนั่งถอนหายใจจนลืมเรื่องที่ต้องออกไปข้างนอกกับท่านประธานไปเลย  “ดาวต้องออกไปข้างนอกค่ะ” พูดจบเธอก็คว้ากระเป๋าและวิ่งไปที่ลิฟท์ นิ้วชะงักเธอลังเลว่าจะกดขึ้นหรือกดลงดี ตอนนี้เธอไม่มีเรี่ยวแรงเหลือ เธอจึงใช้ลิฟท์แทนบันไดหนีไฟขึ้นไปชั้นหก ขึ้นไปก่อนแล้วกัน! ก็อก ก็อก ไม่รู้ว่าจะมีใครอยู่หรือเปล่า แต่เคาะก่อนผลักเข้าไปก็น่าจะดีกว่า ในห้องมีแค่เขายืนหันหลังให้ประตู เขากำลังยืนดูอะไรที่ผนังกระจกด้านหลังโต๊ะทำงานของเขาหรือแค่กำลังรอ “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว?” ทิวาหันกลับมาเอ่ยถาม นับดาวพยักหน้ารับเงียบๆ  “งั้นเราก็ไปกันได้แล้วใช่มั้ย” เสียงพร้อมรักดังมาจากด้านหลังของนับดาว เพราะนับดาวไม่ได้เดินเข้าไปในห้อง เธอก็จับประตูที่เปิดกว้างไว้และยืนอยู่ตรงนั้น นับดาวแอบยิ้มและโล่งอกอยู่เงียบๆ เพราะเธอกำลังหนักใจที่จะต้องไปไหนกับเขากันเพียงลำพัง แม้จะเป็นเรื่องงานก็ตามที และสีหน้าผ่อนคลายนั้นทิวาดันไปเห็นโดยบังเอิญ ทิวานั่งประจำตำแหน่งหลังพวกมาลัย ข้างกายแน่นอนว่าต้องเป็นพร้อมรัก เบาะหลังฝั่งพร้อมรักเป็นนับดาวที่นั่งชิดประตูหลุดกรอบกระจกส่องหลัง ทำให้ตลอดการเดินทางทิวาไม่อาจเห็นนักศึกษาฝึกงานที่ผันตัวมาเป็นผู้ช่วยชั่วคราวของเขา นับดาวไม่ได้ถามว่าตลาดสาขาไหนที่เขาจะไป แต่เมื่อรถขับออกมาได้ยี่สิบนาที ดวงหน้าหวานก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เพราะนี่มันเส้นทางกลับบ้านของเธอนิ หรือว่า! ความโล่งอกเกิดขึ้นได้ไม่นาน...และยี่สิบนาทีต่อมาสิ่งที่เธอกลัวก็เป็นจริง นี่ตลาดใกล้บ้านเธอ และเป็นตลาดที่แม่เซ้งแผงขายขนมหวานไว้ด้วย แม่ค้าในตลาดเกือบครึ่งต่างก็รู้จักเธอรวมถึงคนดูแลที่นี่ “ตลาดที่นี่ เป็นของคุณแม่ และมันก็ได้เวลารีโนเวทแล้ว ผมอยากให้คุณช่วยคุมเรื่องการเบิกจ่ายแทนผม” นับดาวเข้าใจแล้ว ตลาดที่นี่จะเป็นงบประมาณส่วนตัวซึ่งเขาจะเป็นคนจ่ายเองทั้งหมด เป็นแบบนั้นก็หมายความว่าเธอก็มีเรื่องราวให้ต้องพบและวุ่นวายกับเขามากขึ้นไปอีกสิ นี่มันอะไรกัน ยิ่งหนียิ่งเจอชัดๆ แต่ก่อนที่พวกเขาจะเดินสำรวจ เทวาบอกให้หาอะไรกินกันก่อน เขาไม่ได้เลือกร้านในตลาดหรือข้างทางใกล้ๆตลาด เขาจอดรถหน้าร้านอาหารที่ไม่ไกลจากตลาดมากนัก เป็นร้านที่พวกเขานั่งได้อย่างสบายกายสบายใจ “พวกคุณทานกันไปเลยนะคะ เดี๋ยวหนูขอเข้าไปในตลาดก่อนค่ะ” นับดาวรีบพูดไม่รอคำอนุมัติต่อคำพูดของเธอ เธอหันหลังให้ทั้งสองทันทีและมุ่งหน้าเดินไปในทิศทางของตลาด “ไม่ต้องเรียกหรอกค่ะ ดูแล้วคงไม่กล้านั่งร่วมโต๊ะกับเราหรอก อีกอย่างเธอโตแล้วถ้าหิวก็คงหาอะไรกินเองได้” พร้อมรักเอ่ยขัดเมื่อทิวาทำท่าจะตาม ทางด้านนับดาวเมื่อรอดออกมาได้ ก็รีบไปที่แผงขายขนมของแม่ เวลานี้แม่เธอต้องอยู่ที่แผงพร้อมหญิงสาวชาวต่างชาติที่เข้ามารับจ้างทำงานอย่างถูกกฎหมายในประเทศ กำลังช่วยแม่ของเธอตักขนมขายลูกค้าที่เดินเข้ามาสั่งอย่างต่อเนื่อง “ดาว มาได้ไงเนี่ย” “มาทำงานจ่ะแม่ แม่จ๋าหิวจังเลย” “น้องดาวรอพี่ เดี๋ยวพี่ไปสั่งเตี๋ยวแห้งของโปรดให้ดีมั้ย” นับดาวหันไปพยักหน้ารับด้วยความดีใจ และเข้าประจำตำแหน่งแทนพี่สาวชาวต่างชาติ ช่วยแม่จัดแผงขนมย้ายถาดเก่าที่หมดแล้วออก หยิบถาดใหม่เข้ามาเติม “แล้วตกลงมาไง” “มาสำรวจตลาดที่นี่จ่ะ ท่านประธานจะปรับปรุงใหม่” อ่อ ประภาเข้าใจ จะว่าไปที่นี่ก็ครบวาระที่ต้องปรับปรุงแล้วจริงๆ “แล้วทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่มั้ย” นับดาวพยักหน้ารับ เธอไม่ได้เล่าให้แม่ฟังทุกเรื่อง แม้แต่วันนี้ที่เธอนั่งรถมากับประธานเธอก็ไม่ได้บอก ตลาดใหญ่โตคงไม่บังเอิญเจอกันหรือเจอกันก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ได้รู้จักกัน เธอกะว่าเดี๋ยวกินเสร็จก็จะไปที่สำนักงานของตลาดคุยกับลุงตุ่มคนดูแลที่นี่ เอารายละเอียดกลับไปเพราะการเดินสำรวจเธอคงไม่ต้องก็ได้สำหรับตลาดที่นี่ ความผิดพลาดครั้งใหญ่ของนับดาวคือเธอคิดไม่รอบคอบ เพราะการที่เธอปลีกตัวออกมาจากทิวาที่ต้องทำงานร่วมกัน เขาต้องสั่งการเธอ แต่จู่ๆเธอก็หายตัวไป และเขาไม่มีแม้แต่เบอร์ติดต่อรวมถึงชื่อเสียงเรียงนามของเธอ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ ไม่จำเป็นที่ประธานบริษัทใหญ่โตจะต้องรู้จักชื่อพนักงานตำแหน่งทั่วไปทุกคน เพราะงั้นตำแหน่งเด็กฝึกงานไม่จำเป็นยิ่งกว่า แต่ตอนนี้ทิวาไม่รู้จะไปหาเธอจากที่ไหน เขาจึงโทรกลับไปที่ออฟฟิศฝ่ายบุคคล เดชะบุญของนับดาวที่ตอนนี้ยังเที่ยงอยู่ ไม่มีคนรับสายเพราะเขาต้องโทรเข้าเบอร์สำนักงาน เขาจึงโทรหาปริญญาโดยตรง  “เบอร์น้องหนู ได้ค่ะได้...เดี๋ยวปริญส่งเข้าไปในไลน์ท่านค่ะ” โชคดีที่ปริญญามีความเอ็นดูในตัวนับดาวไม่น้อย จึงติดปากสรรพนามเรียกนับดาวกับทิวาไปแบบนั้น “น้องหนู” ทิวาพึมพำออกมา เข้าใจว่าเป็นชื่อเล่นของเด็กฝึกงาน “คุณอยู่ที่ไหน” เมื่อได้เบอร์เขาก็กดโทรหาทันที เมื่อปลายสายรับ เขาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ถามตำแหน่งขอเธอทันที นับดาวที่ตอนแรกลังเลที่เห็นเป็นเบอร์แปลกไม่อยากรับ โชคดีที่รับสาย ซึ่งเธอก็ลืมไปเลยว่าเธอกับเขาไม่มีเบอร์ติดต่อกัน เธอจึงบอกตำแหน่งที่อยู่ของตัวเอง เธอนั่งอยู่ที่ม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนเล็กๆข้างตลาด แต่ไม่ลืมเสริมต่อว่าตัวได้ข้อมูลมาจากผู้ดูแลตลาดแล้ว  ทิวาแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมผู้ดูแลที่นี่ทำงานหละหลวมเพียงนี้เลยเหรอ ที่ให้ข้อมูลตลาดกับเด็กฝึกงานที่ไม่รู้ว่าแอบอ้างมาจากคู่แข่งหรือเปล่าไปง่ายๆ “ถ้าท่านประธานจะเดินสำรวจก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวถ้าเสร็จแล้ว หนูจะเอาข้อมูลที่ได้มานำไปให้ที่รถค่ะ” นับดาวตัดบท แม้เธอจะบอกตำแหน่งของตัวเอง ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะให้เขาต้องเดินมาหา เพราะเมื่อกี้ที่บอกไปเพราะถูกถามเท่านั้น แม้ทุกอย่างดูประจวบเหมาะ แต่นับดาวก็รอดมาได้อย่างไม่รู้ตัวและไม่ได้คิด แต่ทุกอย่างก็มีเวลาของมัน ความลับไม่มีในโลก 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD