บทที่ 2/2 ผู้ชายเถื่อนๆ

1107 Words
โสภีหน้าเจื่อน “ถ้าสู้กันซึ่งหน้า แม้สู้ไม่ได้แต่ฉันเชื่อว่ายัยซันเอาตัวรอดได้แน่ๆ กลัวแต่คุณฉัตรสิคะ กลัวว่าเธอจะทำอย่างที่ฉันกลัว” เหมือนว่ามารตีจะล่วงรู้ในสิ่งที่อีกฝ่ายคิด “ถึงจะเจ้าชู้และโมโหร้ายไปบ้าง แต่ตาฉัตรไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบบังคับใคร ถ้าหากฝ่ายหญิงไม่ยอม ลูกของฉันก็ไม่แตะหรอก เธอเชื่อใจเขาได้” โสภีส่ายหน้าดิก เชื่อได้หรือ ศราวิลรูปงามไม่แพ้ท่านศรา ขนาดท่านมีภรรยาอยู่แล้ว นางยังอดใจไม่ไหว ยอมตกอยู่ในฐานะเมียน้อย มิใช่เพราะเสน่ห์ของท่านหรอกหรือ แล้วอาทิตาเล่า หนุ่มสาวอยู่ด้วยกันห่างไกลสายตาผู้ใหญ่ อาทิตาจะดูแลหัวใจตัวเองได้ไหม “ฉันอยากเชื่อคุณนะคะ แต่ลูกสาวฉันไร้เดียงสาเหลือเกิน เห็นปากจัดทันคนอย่างนั้น แต่เรื่องผู้ชายยังอ่อนหัดนัก ถ้าคุณฉัตรล่อลวงยัยซันขึ้นมา...” “ชู่ว์...ไม่ได้ยินหรือว่าฉันจะจัดการเขาเอง อย่าคิดเรื่องที่ยังไม่เกิดสิโสภี ทำใจให้สบายแล้วอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข อย่างที่คุณศราต้องการเถอะนะ” มารตีส่งยิ้มไปให้ เอื้อมมือไปตบมือบางของโสภีเบาๆ “เอาไว้ให้ทุกอย่างลงตัวแล้ว ฉันจะพาเธอไปเยี่ยมลูกๆ ที่ไร่เอง ดีไหม” “จริงนะคะ คุณต้องพาฉันไปนะคะ” มารตีพยักหน้ายิ้มๆ “ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำก็คือตามเด็กๆ ไปดูตึกชมพู เธอจะได้เลือกยังไงล่ะ ว่าจะอยู่ห้องไหน” มารตีเอ่ยบอกราวกับโสภีเป็นแขกผู้มาเยือน นางต้อนรับผู้มาใหม่อย่างเต็มกำลัง ให้สมกับที่ครั้งหนึ่งสามีเคยรักผู้หญิงคนนี้ หากจะถามนางว่าเจ็บไหม ใช่...นางเจ็บ แต่ความเจ็บของนางถูกบรรเทาให้เบาบางด้วยการแลเห็นสามีมีความสุข เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ในเมื่อสิ่งนี้สามีประสงค์ให้มันเป็นไป นางก็จะสานต่อเจตนารมณ์ของเขาเอง บางทีเขาอาจเล็งเห็นบางอย่างในอนาคตที่นางและโสภียังคิดไม่ถึงก็เป็นได้ ‘หลับให้สบายนะคุณศรา ฉันจะดูแลคนที่คุณรัก ด้วยหัวใจของฉันเอง’ ภายในรถกระบะสี่ประตูที่เคลื่อนสู่ดินแดนที่ราบสูง อาทิตานั่งปาดน้ำตาป้อยๆ เหลือบมองป้ายบอกทางที่ตั้งวางอยู่ข้างถนนแล้วก็ทอดถอนใจ เธอไม่เคยไปจากเมืองกรุงฯ นานๆ แบบนี้ ไม่เคยห่างจากอกแม่ ที่สำคัญไม่เคยเดินทางรอนแรมไปไหนไกลๆ กับผู้ชายเพียงลำพังสักครั้ง เธอจะรอดถึงมหาสารคามไหมนะ ดูแล้วเขาไม่ได้ปากจัดอย่างเดียว ท่าทางจะกัดเจ็บเสียด้วย “เลิกปาดน้ำตาป้อยๆ ซะทีเถอะ น่ารำคาญ!” ศราวิลโพล่งออกมาด้วยเสียงห้วนจัด เขาไม่ชอบเห็นน้ำตาของใคร โดยเฉพาะสาวๆ แม้ว่าสาวๆ ที่ว่าจะเป็นศัตรูก็เถอะ “รำคาญก็ไม่ต้องมองสิ คนร้องไห้ยังจะมาห้ามอีก” ว่าแล้วก็สูดน้ำมูกพรืดๆ ศราวิลทนไม่ไหวก็ปาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองใส่ตักหล่อนแรงๆ “เช็ดเลยนะ อย่าให้เลอะรถฉันเป็นอันขาด” อาทิตาเบะปากใส่เสียงบ่นจู้จี้ราวป้าแก่ของเขา หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาได้ก็สลัดแรงๆ แล้วเอามาประกบกับรูจมูก ก่อนจะ... พรืด! ศราวิลเบ้ปากอย่างขยะแขยงเมื่อได้ยินเสียงสั่งน้ำมูกพรืดใหญ่ หล่อนทำอย่างนั้นอีกสองสามทีก่อนจะพับผ้าเช็ดหน้ามาคืน โดยวางไว้บนหน้าขาของเขา “โอ้...ไม่! อยากตายหรือไง เอามันออกไปเดี๋ยวนี้!” อาทิตาบ่นงึมงำ น้ำตาเริ่มแห้งหายเพราะต้องหาทางสู้รบกับศราวิล เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าโยนไปทางตอนหลังของรถ ศราวิลยังบ่นขมุบขมิบ เธอไม่สน และหันมาใส่ใจวิวที่อยู่นอกรถแทน หญิงสาวนั่งเงียบๆ ไปตลอดทาง ไม่คุย ไม่กวนประสาทคนขับเพราะตั้งใจไว้ว่าจะเก็บแรงกายแรงใจและฝีปากคมๆ ไปฉะกับเขาเมื่อถึงที่หมายแล้ว ใกล้เที่ยงวัน รถของศราวิลแล่นมาจอดภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งภายในตัวเมืองนครราชสีมา อาทิตาเมื่อยขบจนต้องลงมายืดแข้งยืดขา หญิงสาวเดินเข้าร้านกาแฟที่อยู่ภายในปั๊ม สั่งน้ำกีวี่ปั่นมาดื่ม ในขณะที่ศราวิลเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เขาล้างหน้าล้างตาเรียกความสดชื่นแล้วเดินเข้ามาสั่งกาแฟ เธอลอบมองเขาตั้งแต่ยังไม่เปิดประตูร้านเข้ามาด้วยซ้ำ ศราวิลบอกว่าจะจอดพักที่นี่ครึ่งชั่วโมง แน่นอนว่ายังมีเวลาอีกมากโข อาทิตาเลยซื้อขนมปังกรอบมาแทะเล่น ศราวิลก็ทำเช่นเดียวกัน ผิดก็แต่เขาไม่ได้ซื้อขนมปังกรอบ และทั้งคู่ ไม่ได้นั่งโต๊ะเดียวกัน ชายหนุ่มนั่งละเลียดกาแฟไปเรื่อยๆ ราวกับจะให้ความสดชื่นแทรกซึมเข้าไปในร่างกายให้มากที่สุด เวลานี้ในร้านกาแฟไม่ค่อยมีลูกค้ามากนัก อาจเพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาล แล้วดวงตาของคนทั้งสองก็สานสบกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ท่ามกลางไอร้อนของดวงตะวันด้านนอกร้าน ดูเหมือนว่าไอร้อนนั้นกำลังคืบคลานเข้ามาข้างในด้วย “หน้าขาวๆ ปากแดงๆ คงไม่เคยโดนแดดโดนฝน สนุกแน่!” ศราวิลเอ่ยกับตัวเอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างนึกสนุก แต่อาทิตากลับได้ยินเต็มสองหู “ฉันถึกกว่าที่ นาย คิด อย่าประมาทฉัน!” อาทิตาโต้คืน กัดขนมปังทีเดียวหมดไปเกือบครึ่งแผ่น สองตาจ้องมองร่างสูงที่ลุกจากโต๊ะตัวเองแล้วก้าวยาวๆ มายังโต๊ะของเธอ กาแฟในถ้วยเกือบจะกระฉอกตอนที่เขาวางมันลงบนโต๊ะอย่างไม่ปรานีนัก “เมื่อกี้เรียกฉันว่าอะไรนะ! นาย? งั้นเหรอ” อาทิตายักไหล่ “ใช่! ฉันมารยาทดีเฉพาะตอนมีบุพการีคอยคุมน่ะ ตอนอยู่คนเดียวฉันหยาบคายมาก อย่างที่นายเห็นนี่แหละ” ศราวิลถลึงตาใส่ “ยังไงฉันก็อายุมากกว่าเธอ” “ทำตัวให้น่าเคารพสิ ฉันจะได้เคารพนายอย่างสะดวกใจ” “อาทิตา!” “ขา...พี่ฉัตร....” อาทิตาทำเสียงอ่อนเสียงหวาน หน้าตาแย้มยิ้มเกินพอดี ทว่าทุกอย่างก็หยุดชะงักในวินาทีถัดมา “นายอยากให้ฉันเรียกแบบนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!” บอกแล้วยิ้มยั่ว กะพริบตาปริบๆ ล้อเลียนอย่างน่าตี “เธอนี่มัน...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD