บทที่ 4/5 ผู้ชายสายรุก

1087 Words
ศราวิลเองก็เจริญอาหารยามเห็นอาทิตากินได้ อย่างน้อยหล่อนก็คงไม่อดตาย อย่างน้อยก็กินปลาร้าได้ละนะ วงมื้อเที่ยงของชาวไร่ปกฉัตรเริ่มขึ้นหลังเที่ยง กว่าจะจบมื้ออาหารก็ปาเข้าไปบ่ายโมงเศษๆ เหล่าคนงานลงไปสำรวจความเรียบร้อยของไร่นา ในขณะที่อาทิตาถูกศราวิลสั่งให้กลับบ้านพร้อมกับรถของป้าพุด “นั่งคันนี้กลับเหรอ” เธอมองกระบะเหล็กที่พ่วงกับรถไถนา “อาฮะ รถอีแต๋นเอาไว้ส่งคนงานกลับบ้านพัก” เขาอธิบาย “อันที่จริงฉันกลับพร้อมคนงานก็ได้” “กว่าพวกนั้นจะกลับฝนคงตกพอดี เห็นไหมนั่น ฟ้าครึ้มมาโน่นแล้ว เฮ้อ...เพิ่งหว่านข้าวแท้ๆ ฝนจะมาทำไมตอนนี้ก็ไม่รู้” เขาบ่นแล้วชี้ให้หล่อนดูเมฆฝนเหนือหัว “แต่ว่า...” “อย่าเรื่องมาก หน้าแดงเป็นกุ้งต้มอย่างนี้มีหวังไข้ขึ้นแน่ๆ ป่วยตายขึ้นมาลำบากฉันอีก” หญิงสาวกัดฟันกรอดๆ มันเรื่องอะไรต้องมาแช่งเธอด้วยล่ะ กลับก็กลับสิ ดีเหมือนกัน เพลียร่างเหลือเกินแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ที่ป้าพุดขนมา ถูกลำเลียงขึ้นรถพ่วงเหล็กที่ทิดอ่ำเป็นคนขับ บนนั้นมีอ่างน้ำพลาสติก ถังน้ำอีกหลายสิบใบรวมถึงเสื่อหลายม้วนและหม้อข้าวหม้อแกง เหลือพื้นที่ให้ได้นั่งเพียงเล็กน้อย ป้าพุดนั่งอยู่ข้างหน้า ส่วนอาทิตากับศราวิลนั่งห้อยขาอยู่ข้างหลัง ลมแรงพัดผ่านมาไม่หยุด พาเมฆก้อนใหญ่มาลอยเหนือหัว ทั้งยังหอบเอากลิ่นดินกลิ่นหญ้ามาด้วย “อืม...หอมจัง” เธอเปรยออกมา อากาศที่นี่ดีกว่ากรุงเทพฯ มากๆ เลย “กลิ่นดินกลิ่นหญ้าก็แบบนี้” “มันสดชื่นดีนะ ดีว่ากลิ่นควันรถที่กรุงเทพฯ เยอะเลย...ฮ้าว....” ว่าแล้วอ้าปากหาวหวอดๆ พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน ลมเย็นๆ ก็ด้วย มันทำเอาเธอง่วงนอนขึ้นมา ตอนนี้ไม่มีแสงแดดแล้ว เมฆฝนดำทะมึนเบื้องบนคล้ายว่าจะหล่นลงเป็นเม็ดฝนได้ทุกเมื่อ “ทิดอ่ำนะทิดอ่ำ ไหนบอกว่าสองสามวันนี้ไม่มีฝนไง!” ศราวิลเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์นัก ข้าวเพิ่งหว่านแท้ๆ ฝนจะมาตกได้ยังไง “สงสัยสิเป็นพายุคับละคับลูกพี่!” เสียงทิดอ่ำร้องแข่งกับเสียงรถไถ ศราวิลส่ายหัว ถ้าฝนตกหนัก ข้าวที่หว่านไว้คงดูไม่จืด ด้วยว่าพื้นที่เป็นนาไร่ ไม่ใช่ที่ลุ่ม เวลาฝนตกอย่างนี้ บริเวณที่ต่ำกว่า น้ำก็จะไหลไปขัง พาเอาเมล็ดข้าวที่หว่านไว้ไปกองรวมกัน ได้หว่านกันใหม่อีกรอบแน่ “ภาวนาว่าอย่าให้ตกแฮงกะแล้วกันเนาะคุณฉัตร” ป้าพุดออกความคิดเห็น “นั่นสิครับป้า เฮ้อ...ทิดอ่ำนะทิดอ่ำ บอกให้เช็กข่าวพยากรณ์อากาศก่อนนัดคนงานหว่านข้าว ไม่ได้ทำเลยใช่ไหม” ศราวิลบ่นไปเรื่อย รู้ทั้งรู้ว่าเสียงบ่นนั้นไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายได้ยิน เสียงเครื่องยนต์รถไถดังเกินกว่าเสียงบ่นของเขาจะเข้าถึงหูทิดอ่ำที่นั่งบังคับรถอยู่ข้างหน้า อาทิตาอยากเออออในสิ่งที่ได้ยิน แต่ลมเย็นๆ กับเนื้อตัวที่เริ่มรุมๆ ทำให้เธอยิ่งง่วงนอนมากขึ้นไปอีก ตอนนี้แสงตะวันมิได้สาดส่องแล้ว มีแต่ความมืดครึ้มและลมเย็นชื้น ชวนให้เธออยากเปลี่ยนท้ายกระบะพ่วงให้กลายเป็นที่นอนเหลือเกิน “นี่! ไหวไหม นั่งดีๆ เดี๋ยวก็ตกหรอก” ศราวิลเตือนคนที่นั่งสัปหงก อาทิตาหันมายิ้มให้เขาจนตาหยี หล่อนเอนร่างลงมาดื้อๆ เอนเฉยๆ ไม่ว่าแต่พาศีรษะทุยๆ วางแหมะลงกับตักเขานี่สิ “เฮ้ย! ทำบ้าอะไรของเธอฮะ” “อ่อยเหยื่อ...” ตอบเขากวนๆ ยิ้มทะเล้นทั้งที่ยังหลับตา ตักของศราวิลมิได้นุ่มนิ่มเลย มันแข็งอย่างกับนอนหนุนท่อนไม้ “อ่อยบ้าอ่อยบออะไร ลุกเดี๋ยวนี้” “จุ๊ๆๆ บ่นอะไรนักหนาเล่า น้องง่วงจังเลย ขอนอนหน่อยนะคะพี่ฉัตรขา...” เธอใช้ไม้อ่อน น้ำเสียงที่ใช้มิใช่ประชดอย่างทุกคราว แล้วมีหรือศราวิลจะทำใจแข็งได้ตลอดรอดฝั่ง สุดท้ายก็อุทิศตักแข็งๆ ให้เธอได้นอนหนุน “ยกหัวขึ้นหน่อย” “ฮื่อ...อย่ากวน ไม่ยก จะนอน” ตอบเขาเสียงอืออา ศราวิลส่ายหน้า ประคองศีรษะอาทิตาขึ้นแล้วใช้มือตัวเองรองใต้แก้มบาง หล่อนลืมตาในทันที มองขึ้นมาที่เขาราวกับมีเครื่องหมายคำถามแปะไว้ที่หน้าผาก “เธออ่อยเหยื่อได้คนเดียวเหรอ ฉันก็อ่อยได้เหมือนกัน ยกนี้เราเสมอ” เขาชี้แจง อาทิตาค้อนเข้าให้ ก่อนจะหลับตาลงอีกคราว “กางเกงฉันมีแต่ฝุ่นยังหนุนลงมาได้ แก้มขาวๆ ได้เปื้อนพอดี ยัยซกมก” “ยุ่งน่า...ฉันง่วงนี่นา” ตอบเขาแล้วดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา ทั้งเหนื่อยเมื่อยล้า ทั้งลมเย็นกับอากาศชื้นๆ ก่อนฝนตก ชวนให้อยากหลับแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย ตอนนี้ที่ท้ายกระบะพ่วงของรถไถนา ปรากฏว่ามีร่างของชายหนุ่มกับหญิงสาว นั่งห้อยขาอย่างสบายอารมณ์ ฝ่ายหญิงนั้นหลับอุตุไปแล้ว มือข้างหนึ่งของฝ่ายชายรองใต้แก้มหล่อน ส่วนอีกข้างกอดกันร่างหล่อนไว้มิให้ตกลงไป ด้วยถนนลูกรังที่พื้นเป็นหินก้อนเล็กก้อนน้อย รถจึงโยกคลอนตามสมควร รถไถแล่นมาได้ครึ่งทาง ฝนเม็ดใหญ่ๆ ก็โปรยลงมา อาทิตาดีดตัวลุกขึ้นนั่งราวกับถูกสาดน้ำ หมวกลายดอกของป้าพุดมิได้ช่วยอะไรเลย ที่นี่มันที่ไหนกัน เมื่อเช้าแดดเปรี้ยงๆ ตกบ่ายฝนตกซะงั้น ร่างกายเธอไม่ใช่ปรอทวัดอุณหภูมินะ ปรับตัวไม่ทันแล้ว “ฮัดเช้ย!” อาทิตาจามแรงๆ ท่ามกลางสายฝนโปรย “คุณฉัตร! เอากางหัวค่า เดี๋ยวสิเป็นหวัดเด้อ” ป้าพุดส่งกะละมังใบย่อมมาให้จากส่วนหน้าของกระบะพ่วง นางคลุมศีรษะด้วยถุงพลาสติกใบใหญ่ในขณะที่ส่งกะละมังพลาสติกให้เจ้านาย มันช่วยกันฝนได้ดีพอดู แต่คงดีกว่านี้ถ้ามีอีกสักใบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD