ตอนที่ 9

968 Words
                แม่พิศอมยิ้มดวงตาสวยหวานมองโต๊ะเครื่องแป้งที่ปรารถนาสักวันหนึ่งว่าอาจได้มี เพราะเครื่องของใช้เหล่านี้มิใช่ฐานะเพียงนางพนักงานจะหาซื้อได้ ต้องเป็นพวกเจ้านายเท่านั้นที่จะมีเงินมีทองไปแลกมา แลกระจกบานใหญ่นั้นก็ใสเสียจนสะท้อนใบหน้าเอียงอายของหล่อนออกมาอย่างชัดเจน และในนั้นหล่อนก็เห็นสายตาของสามีกำลังโลมเลียเนื้อตัวของหล่อนด้วยความกระหาย แลเมื่อดวงตาคมเข้มช้อนขึ้นสบดวงตาของหล่อน ก็เป็นหล่อนเองที่เอียงอายจนต้องหลบเลี่ยง                 “พี่จัดเตรียมไว้ให้แม่พิศโดยเฉพาะ เพราะรู้ว่าสตรีล้วนต้องการมีข้าวของเครื่องใช้ที่สวยงาม และหากพี่พบเจอของสวยหรือน้ำอบน้ำปรุงที่เหมาะสมกับแม่พิศ พี่ก็จักจัดหามาให้มิขาด”                 “ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”                 แม่พิศละทิ้งความอายหันร่างมาเผชิญหน้าก่อนจะก้มกราบลงที่อกของสามี เมื่อเวลานี้จริตจะกร้านแต่พองามกำลังส่งผล                 “แม่พิศง่วงรึยัง”                 น้ำเสียงทุ้มที่ถามมาอย่างลองเชิงยิ่งทำให้แม่พิศต้องก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มเอียงอายมากขึ้น ใครเล่าจะไม่รู้ว่าคำถามนี้ส่อความหมายถึงสิ่งใด ในเมื่อฝ่ามือของหลวงสรเดชฯ นั้นยังเคลื่อนไปมาบนเรือนกายของหล่อนไม่หยุด                 “น้อง... เอ่อ...” คำใดเล่าจะเหมาะสมในช่วงเวลานี้                 “งั้นถ้ายังไม่ง่วง เรามานั่งคุยกันตรงนี้เถิด”                 แลฝ่ามือของบุรุษก็เข้าประคองและคะยั้นคะยอให้หล่อนเดินไปร่วมกับเขา จุดหมายที่หลวงสรเดชฯ พาหล่อนไปถึงก็คือเตียงใหญ่ที่บนหมอนหนุนสองใบวางเคียงกันนั้นมีมาลัยดอกมะลิวางไว้ให้กลิ่นหอมกำจายไปทั่วทั้งห้อง แต่แม่พิศก็ประหม่าเสียจนก้าวขาไม่ออก ทั้งที่เตรียมกายเตรียมใจไว้พร้อมแล้วว่าสิ่งนี้จะต้องบังเกิด และหล่อนก็อยากให้ถึงช่วงเวลานี้โดยเร็ว แต่เมื่อเอาเข้าจริงก็อดไม่ได้ที่จะประหวั่นพรั่นพรึง ด้วยเนื้อกายนี้กำลังจะมีบุรุษได้ครอบครอง                 “แม่พิศ กลัวพี่รึ”                 “เอ่อ... เจ้าค่ะ น้อง... น้องกลัว”                 “กลัวอันใดกันเล่า พี่ไม่ใช่ยักษ์มารเสียหน่อย มองพี่สิแม่พิศ ดูสิว่าพี่น่ากลัวอย่างที่แม่พิศคิดรึไม่”                 ดวงตาคมเข้มของหลวงสรเดชฯ ที่ฉายแววหวานอย่างที่สุดนั้นทำให้แม่พิศต้องก้มหลบเลี่ยงสายตา จะให้บอกได้อย่างไรว่าที่กลัวน่ะไม่ใช่ยักษ์ใช่มาร แต่กลัวว่าเทพเทวาจะอุ้มสมหล่อนขึ้นสรวงสวรรค์ต่างหากเล่า                 “แม่พิศ อย่าได้กลัวอันใดพี่เลย ยามนี้เราตบแต่งเป็นเมียผัวกันเรียบร้อยแล้ว และพี่ก็เข้าตามตรอกออกตามประตู สู่ขอแม่พิศมาเป็นเมียอย่างถูกต้อง ถึงคราที่แม่พิศต้องทำหน้าที่เมียที่ดีแล้วล่ะ”                 “เอ่อ... แล้วน้อง น้องต้องทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ”                 แม่พิศถามใบหน้าก้มงุดเอียงอายไม่กล้าแม้แต่จะช้อนขึ้นมองดวงตาที่เผยถึงความปรารถนาในตัวหล่อนจนหมดสิ้น                 “แม่พิศไม่ต้องทำอันใด”                 แต่แล้วคำตอบที่ได้ก็ทำให้ดวงตาสวยหวานราวแม่กวางสาวต้องช้อนขึ้นมองหลวงสรเดชฯ อย่างงุนงง ริมฝีปากเม้มเข้าหากันไม่เข้าใจในสิ่งที่สามีพูด                 สิ่งที่หล่อนเข้าใจมาตลอดว่าเขาจะกระทำการไม่ต่างจากที่แม่อ่ำทำนั้นไม่ใช่หรอกหรือ กลายกลับเป็นว่าหล่อนไม่ต้องทำอะไรเลยอย่างนั้นหรือไร                 “พี่หมายถึงว่า แม่พิศไม่ต้องทำอันใดเลย แต่พี่จะเป็นผู้ทำให้ทุกอย่าง”                 คำตอบที่หลวงสรเดชฯ เฉลย ช่างหวานระรื่นหูนัก แลเมื่อฝ่ามือใหญ่ของสามีเลื่อนไล้ไปมา แม่พิศก็สั่นสะท้านเสียราวกับไข้จะถามหา                 “ไม่มีอันใดน่ากลัวดอกแม่พิศ พี่จะทำให้แม่พิศมีความสุข” เมื่อเห็นเมียรักสั่นไหวราวลูกนกพลัดรัง หลวงสรเดชฯ ก็ยิ้มอย่างเอาใจ ก่อนจะโอบประคองเรือนร่างงดงามเข้าใกล้ ประทับรอยจูบที่หน้าผากโหนกนูนเกลี้ยงเกลา ที่เมื่อแรกเห็นนั้นเขาก็หมายมั่นว่าต้องหาทางสู่ขอหล่อนมาเป็นภรรยาให้ได้ เพราะไม่มีเสียล่ะที่จะผิดคำโบราณว่าไว้ ลูกสาวบ้านใดหน้าผากโหนกนูนเกลี้ยงเกลาท่านว่าของสงวนก็จะอวบอูมใหญ่น่าพิศวาสปรารถนาเป็นที่สุด                 “ไม่น่ากลัวจริงๆ นะเจ้าคะ” เสียงร้องถามสั่นไหวราวหวาดหวั่น ทั้งที่หัวจิตหัวใจนั้นกำลังเต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้น เพราะคุณหลวงกำลังจะทำอะไรๆ อย่างที่แม่อ่ำทำจริงๆ ทว่าฝ่ามือหยาบใหญ่และอุ่นจัดของสามีนั้นให้ความสยิวกว่าและเสียวซ่านกว่าฝ่ามือเล็กๆ ของแม่อ่ำมากเสียยิ่งกว่ามาก                 “จริงสิจ๊ะ ไม่น่ากลัวดอก พี่จะทำ... ให้เบามือที่สุด”                 เสียงแหบพร่ากระซิบบอกที่ข้างใบหูยิ่งทำให้แม่พิศสะท้าน หนาวกายแต่ร้อนรุ่มในหัวใจจนต้องบดเบียดเนื้อตัวเข้าใกล้สามีมากยิ่งขึ้น และเสียงหัวเราะทุ้มต่ำที่ตามมาก็ยิ่งทำให้หล่อนซ่านเสียวมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อจมูกซุกไซ้ที่ซอกคอ ริมฝีปากแตะต้องจูบประทับไปทุกที่ มือไม้ของหลวงสรเดชฯ ก็ระดมรัวแตะต้องร่างของหล่อน ไม่เหมือนที่แม่อ่ำทำเลยสักนิด ด้วยสัมผัสจากผู้ชายที่แตะต้องเนื้อตัว ทำให้แม่พิศรู้สึกคล้ายกับว่าหล่อนกำลังจ้องมองเมฆฝนตั้งเค้าและมีสายฟ้าฟาดใส่เป็นเส้นสายสว่างวูบวาบไปมา เพราะทั่วทั้งเนื้อกายของหล่อนกำลังรู้สึกเช่นนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD