ตอนที่ 10

974 Words
มันวูบๆ วาบๆ ปนเสียว ปนกลัวเกรงไปหมด เหมือนรู้ว่าฝนกำลังจะมาแต่หล่อนก็ต้องออกไปหาของสำคัญที่ทำตกเอาไว้ ไม่ไปเอาก็ไม่ได้เพราะคงจะทรมานด้วยความต้องการของสิ่งนั้นจนอดรนนอนหลับไม่ไหว “คุณ... คุณพี่เจ้าคะ คุณพี่... คุณพี่...” หลวงสรเดชฯ ยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงหวานๆ เปล่งครวญครางเรียกเขา และอีกไม่นานนับจากนี้หล่อนจะต้องส่งเสียงครางระงมพร้อมกรีดร้องด้วยความสุขสมครั้งแรกจนอดไม่อยู่ จมูกซุกไซ้ควานหาความหอมหวานที่มีตามธรรมชาติของกายสาว และกลิ่นเนื้อสาวก็เร่งเร้าให้ความแข็งขืนตื่นตัวมากมายกว่าครั้งไหน สาวบริสุทธิ์เขาเคยได้ร่วมมาก็มาก รู้ดีว่าครั้งแรกนั้นแต่ละคนต้องเจ็บปวดรวดร้าวสักเพียงไหน แต่เพราะนั่นเขาไม่คิดที่จะถนอม การเสพสมกับบ่าวไพร่ไม่มีความจำเป็นใดที่เขาต้องรอคอย อีกทั้งเนื้อตัวของบ่าวไพร่ก็ไม่ได้หอมกรุ่นจนเขาต้องละเลียดดม ก็แค่ต้องการปลดเปลื้องความตื่นตัวในแต่ละค่ำคืนให้จางหายไปเท่านั้น แต่สำหรับแม่พิศคนนี้ไม่ใช่ แม่ศรีแม่เรือนที่เขานับวันรอคอยจะได้ร่วมหอร่วมห้อง เขาจำต้องถนอมเนื้อหวานๆ นี้ไว้กินให้ได้นานที่สุด ยิ่งบำรุงบำเรอแม่พิศให้งดงามเพียงใด ก็ยิ่งถือว่าเป็นหน้าเป็นตาสำหรับเรือน “แม่พิศจ๋า... แม่พิศรู้หรือไม่ว่าแม่พิศงดงามที่สุด” หลวงสรเดชฯ พูดพร่ำราวละเมอเมื่อปลดผ้าแถบคาดอกออก เผยให้เห็นดอกบัวตูมที่เชยชิดไปแล้วเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา แต่ยังมิได้ลิ้มรสชาติของน้ำทิพย์ยอดแฝดว่าจะหอมหวานและให้ความสดชื่นแก่ปลายลิ้นแค่ไหนกัน แลปลายยอดที่สั่นระริกพร้อมพุ่งชูชันอย่างตื่นตัวก็ทำให้เขาอดใจไม่ได้ที่จะลิ้มลอง “อา... คุณพี่เจ้าขา... อา... คุณพี่ทำอะไรน้อง อื้อ...” แม่พิศดิ้นพล่านตามแรงอารมณ์ ไม่ต้องอาศัยจริตจะกร้านอะไรอีกแล้ว เพราะสิ่งที่หลวงสรเดชฯ ทำอยู่นี้เกินจะทนไหว เมื่อปลายลิ้นร้อนๆ ของสามีตวัดเลียไล้ปลายยอดเม็ดบัวของหล่อนรัวเร็ว ยิ่งหล่อนร้องเขาก็ยิ่งทำให้เร็วขึ้น ดูราวกับว่าสามีมิได้ยินเสียงครวญครางราวจะขาดใจของหล่อนเลย หรือเขาคิดจะฆ่าหล่อนให้ตายด้วยปลายลิ้น “อา... คุณพี่เจ้าขา... อา... คุณพี่... โอว... คุณพี่ขา... ทำอะไรน้อง  อื้อ... คุณพี่...” น้ำเสียงหวานของแม่พิศที่ครวญครางด้วยความซ่านเสียว แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ ยิ่งสร้างความหึกเหิมโจนทะยานในใจของหลวงสรเดชฯ มากขึ้น ฝ่ามือใหญ่กอบกุมเต้าอวบอิ่มสมตัวพลางเคล้นคลึงอย่างเบามือแต่เป็นจังหวะจะโคนเสียจนแม่พิศร้องครวญครางไม่หยุด เพราะเมื่อข้างหนึ่งถูกคลึงเคล้น อีกข้างก็กำลังถูกเลียไล้ปลายยอด ราวกับคนตรากตรำทำงานหนักแลกระหายน้ำอยู่เป็นทุน เมื่อพบเจอแหล่งน้ำก็ต้องดูดดุนเสียให้สิ้นซาก “อื้อ... คุณพี่เจ้าขา... น้อง... อื้อ... น้อง... คุณพี่... น้อง... น้องสะ... โอว... น้องเสียว... คุณพี่เจ้าขา... อื้อ...” “หึหึหึ... นี่ยังเพิ่งเริ่มเองนะแม่พิศ แม่พิศยังต้องพานพบกับความเสียวมากกว่านี้อีก” “มากกว่านี้อีกเหรอเจ้าคะ” แม่พิศร้องถามราวละเมอก่อนจะปรือตาขึ้นมอง และก็เห็นรอยยิ้มพร้อมดวงตาวูบวาบที่ทำให้หล่อนต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง แต่หลวงสรเดชฯ ก็ไม่ยอมปล่อยให้หล่อนทำอย่างนั้นได้นาน เมื่อฝ่ามือร้อนๆ ของเขากำลังเลื่อนลงล่างให้แม่พิศต้องเบิกดวงตากว้างมองเขาอย่างตื่นตกใจ ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อฝ่ามือนั้นตะปบลงที่กลางดอกไม้กลีบบอบบางของหล่อน พร้อมกับคลึงเคล้นเล่น ไม่ต่างจากริมฝีปากและปลายลิ้นที่กำลังทำหน้าที่หยอกเย้าเต้าอวบอิ่ม “คุณพี่... โอว... คุณพี่ขา... คุณพี่ทำอะไรน้อง คุณพี่ขา... โอว... คุณพี่... อื้อ... โอว... น้องใจจะขาดอยู่แล้ว คุณพี่ขา...” เสียงหวานแว่วที่ครวญครางฟังไม่รู้คำ ยิ่งทำให้หลวงสรเดชฯ ลงน้ำหนักปลายลิ้นและปลายนิ้วมากยิ่งขึ้น เพราะเสียงร้องครางระงมนั้น กระตุ้นความแข็งขืนให้เติบโตเต็มตัวพร้อมที่จะมอบความสุขแสนหฤหรรษ์ให้กับเมียรักแล้ว แต่ก็รู้ว่ายังไม่พอเพียง แม่พิศต้องได้รับความสุขสมมากกว่านี้อีก เพื่อให้ครั้งแรกของแม่พิศดูดดื่มและเต็มไปด้วยความเสียวซ่านจากความสุขสุดยอด มือปลดผ้านุ่งเนื้อดีให้หลุดเลื่อนออกตามต้องการ ก่อนริมฝีปากจะลากไล้ลงต่ำสลับกับฝ่ามือยังบีบเคล้นบัวคู่งามไม่หยุด เมื่อริมฝีปากร้อนๆ ของหลวงสรเดชฯ นาบแน่นอยู่ที่หน้าท้อง แม่พิศก็นึกรู้ในทันทีว่าจุดหมายของริมฝีปากและปลายลิ้นนี้จะไปหยุดอยู่ที่ใด เส้นไหมสีดำอ่อนบางเบามีไม่มากอย่างที่คาดคิดเอาไว้ ทว่าความโหนกนูนโอมอูมนั้นเหลือกินเหลือใช้มากมายเสียจนปลายลิ้นร้อนต้องแลบออกมาเลียไล้ที่ริมฝีปากด้วยลำคอนั้นแห้งผากอย่างที่สุดเมื่อคิดว่าหยาดน้ำหวานโชกชุ่มในช่องทางที่คับแน่นนั้นจะมากมีและหอมหวานได้มากแค่ไหน เพราะยิ่งเห็นดอกไม้กลีบน้อยปิดแน่นแนบสนิท เขาก็ยิ่งกระหายอยากจะลิ้มรสชาตินั้นเหลือเกิน “อ่ะ! ไม่นะเจ้าคะ ไม่นะ! คุณพี่! ไม่นะเจ้าคะ!” 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD