สองเต้าอวบของนางถูกรวบเข้าหากันก่อนจะถูกปากใหญ่ดูดยอดปทุมถันทั้งสองเข้าไปในคราเดียว แม้สองเต้านางจะอวบใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดของตัวแต่ด้วยขนาดร่างกายของเขาที่ใหญ่กว่านางเกือบเท่าจึงไม่เป็นอุปสรรคที่จะกินอย่างกระหายเช่นนี้
ผู้ที่กำลังถูกกินดิ้นพร่า นางส่งเสียงร้องแปลกๆ แบบที่นางไม่เข้าใจแต่มันไม่สามารถห้ามได้ออกมา สองยอดปทุมถันของนางถูกเขาทั้งดูดทั้งเม้มและกัดจนเลือดไหลซิบ นางได้รับทั้งความรู้สึกเจ็บและความรู้สึกวูบวาบไปทั่วทั้งร่างกาย ส่วนล่างของนางเริ่มที่จะผลิตน้ำใสจนไหลเยิ้มออกมา
“ท่านอย่าสัมผัสส่วนนั้นของข้านะ!”
นางร้องเอ่ยห้าม ดวงตาโตขึ้นอย่างตกใจเมื่อมือของเขาสัมผัสเข้ากับจุดลับของนางที่นางรู้สึกว่ามันน่าอาย เพียงแค่นิ้วใหญ่สัมผัสถูกสะโพกนางก็แอ่นรับขึ้นโดยนางไม่รู้สึกตัว
“หุบปาก!”
เขาตวาดขึ้นมาอีกครั้ง จอมมารเช่นเขาไม่ชอบให้ใครมาเอ่ยคำสั่ง
“อย่าทำให้ข้ารำคาญ ส่งแค่เสียงครางของเจ้าออกมาก็พอ”
บุปผาน้อยตกใจจนไม่กล้าจะเอ่ยคำใดออกมาอีก ทั้งขาและแขนของนางถูกเชือกมนต์ตึงรั้งกายเอาไว้กับพื้นหญ้าเหี่ยวแห้งจนไม่อาจจะขยับได้แม้แต่จะดิ้นพร่า นางไม่อาจจะทนความรู้สึกแปลกที่ถูกยัดเยียดมอบให้จึงต้องส่งเสียงร้องที่นางไม่ทราบว่าเหตุใดนางถึงร้องเสียงน่าอายเช่นนี้ออกมา ตอนนี้นางหวาดกลัวยิ่งนัก นางจึงจำใจยอมให้เขากินแต่โดยดีเพื่อหวังต่อลมหายใจให้นานที่สุด โดยไม่รู้เลยว่าตนเองจะถูกเขากินจนหมดลมหายใจตอนไหน
นิ้วเรียวของจอมมารลูบไร้กลีบบุปผาที่หุบสนิท แน่นอนว่าผู้นำเผ่าปีศาจอย่างจอมมารไม่มีคำว่าอ่อนโยน นิ้วใหญ่ของเขาดันเข้าไปภายในร่องสวาทแน่นของนาง ภายในกายอุ่นบีบรัดนิ้วของเขาจนคับแน่น
“ข้าเจ็บ!”
นางร้องอย่างทรมานแต่จอมมารกับไม่ใส่ใจ นิ้วของเขาเริ่มขยับ จากความเจ็บปวดที่ถูกยัดเยียดเข้ามาภายในเริ่มที่จะกลายเป็นความรู้สึกเสียวซ่านจนบุปผาน้อยส่งเสียงร้องครางหวานออกมาไม่หยุดปาก สะโพกของนางแอ่นรับนิ้วของของเขาตามสัญชาตญาณ
“หึ ที่แท้พวกเซียนบุปผาก็มีกายร่านเช่นนี้”
“อะ อ๊า ร่านคือสิ่งใดหรือเจ้าคะ อ๊า~”
คำถามไร้เดียงสาทำให้เขาส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาภายในลำคอ บุปผาน้อยที่ได้ยินถึงกลับนึกหวั่น นางเบิกตากว้างเมื่อภายในกายของนางนั้นคับแน่นขึ้นจากการที่เขาสอดใส่นิ้วเข้าเพิ่มจากหนึ่งเป็นสอง
นางรู้สึกเหมือนส่วนร่างของนางแทบฉีกขาด แต่เพราะอารมณ์ถูกกระตุ้นจนส่วนล่างเปียกชุ่มทำให้นางไม่รู้สึกเจ็บมากนักจึงพอทนไหว เสียงน้ำภายในกายนางที่ถูกนิ้วใหญ่กวักออกมาฟังดูน่าอายจนบุปผาน้อยไม่กล้ามองเขา ร่างใหญ่ของจอมมารแนบทาบลงมาดูดยอดปทุมถันนางอีกครั้ง ร่างเล็กที่ถูกกระตุ้นทั้งส่วนบนส่วนล่างส่งเสียงร้องครางออกมาจนไม่เป็นภาษา เขากัดเม้มยอดปทุมถันของนางจนเลือดไหลซิบก่อนจะดูดกินอย่างอร่อยโดยไม่สนใจร่างบางใต้ร่างที่ดิ้นพร่าเพราะความเจ็บปวดและความเสียวซ่านที่เขามอบให้
ครั้งเมื่อถูกกระตุ้นจนถึงจุดสูงสุด ปลายเท้าของนางก็เกร็ง ร่างกายพลันกระตุกเหมือนกับถูกปลดปล่อยทำเอานางรู้สึกหัวขาวโพลน พลอยไม่เข้าใจว่าเหตุใดการที่ถูกจอมมารกัดกินมันถึงทำให้นางรู้สึกปลดปล่อยเช่นนี้
ร่างเล็กหอบหายใจเมื่อเขายอมหยุดลง จอมมารมองมือที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานของบุปผาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะลิ้มรสน้ำที่ติดนิ้วมือมา มันชั่งหอมหวานจนเขาไม่อาจจะทน จนต้องก้มลงไปดูดเอาน้ำหวานจากกลีบบุปผาที่ยังคงหุบของนางอย่างกระหาย
บุปผาน้อยตกใจเมื่อส่วนล่างของนางกำลังถูกจอมมารกิน ลิ้นร้อนที่ตวัดเลียทำเอานางเร่าร้อนขึ้นมาอีกครั้ง นางแอ่นสะโพกขึ้น ติ่งไตของนางกำลังถูกดูดเม้มพลางสลับกับลิ้นยาวของเขาที่เข้าไปกวักเอาน้ำหวานภายในถ้ำสวาทออกมา ครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนไม่ยอมจะอิ่มเสียที
“ขะ...ข้าจะไม่ไหวแล้ว ทะ...ท่านทำอะไรข้า”
นางเอ่ยออกมาเสียงสั่นอยากจะให้จอมมารกินตนจนอิ่มเสียที นางรู้สึกเหมือนตนเองกำลังถูกมนต์บางอย่างของจอมมารเล่นงาน เหตุเป็นเพราะร่างกายทุกส่วนของนางเร่าร้อนต้องการให้จอมมารสัมผัส ยิ่งเขาสัมผัสจุดใดนางก็รู้สึกวาบหวิวต้องการมากขึ้น หากไม่ใช่มนต์ของจอมมารแล้วคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
จอมมารไม่สนใจคำเอ่ยถามของบุปผา เขาต้องการเพียงแค่เสียงครางหวานหูที่นางส่งออกมาเท่านั้นจึงเร่งลิ้นให้รัวขึ้น ร่างของบุปผาน้อยสั่นสะท้านตอบรับ ราวกับกำลังอยากจะปลดปล่อยอีกครั้งหนึ่ง จอมมารรู้ถึงร่างกายของนางได้ดี เขาต้องการน้ำหวานของนางอีกจึงไม่ยอมหยุดจนกระทั่งสมหวัง
หลังจากดูดกินน้ำหวานจนพึงพอใจแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นพลางจ้องมองร่างเล็กที่หายใจจนตัวโย
เสียงหวานของนางนั้นได้ปลุกเอามังกรใหญ่ภายในกายเขาจนตื่น หากไม่ได้ปลดปล่อยคงไม่อาจจะมีสมาธิทำสิ่งใดได้อีก!