"รอสักครู่ ผมให้คนไปเอารถแล้ว"
"คุณจะพาฉันไปที่ดินเลยใช่มั้ยคะ" สวีเอ่ยถาม เมื่อเห็นชายหนุ่มชื่อหยกพยักหน้า เธอก็รีบพูดต่อ
"ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปรับลูกสาว ลูกชายไปด้วยได้มั้ยคะ เรายังมีปศุสัตว์และผู้ติดตามด้วย"
"งั้นผมให้คนเอารถคอกไปด้วยแล้วกันครับ รอสักครู่"
"รบกวนด้วยนะคะ" สวีไม่คิดเกรงใจ เพราะความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เพียงวันสองวันแล้วจบลง เธอยังมีผลประโยชน์ให้คุณเจ้าหญิงอีกมาก ท่าทางมั่นใจและความคิดของสวีมีหรือ 'หยง' ชนชั้นสูงที่ถูกสั่งสอนมาไม่ต่างกันนักจะไม่สามารถรับรู้ได้จากการกระทำของอีกฝ่าย
ความมั่นใจในคุณค่าตัวเองของหล่อนแผ่ออกมาจนเขาสงสัยและอยากเฝ้ามองว่าสิ่งไหนที่หญิงสาวจะนำพามาสู่คุณเจ้าหญิงอีกครั้ง
"รถมาแล้ว มาเถอะครับ" คุณหยกเปิดประตูรถให้อย่างมีมารยาทและให้เกียรติ ก่อนที่หยงสาวใช้ผู้ติดตามของสวีจะไปเปิดประตูรถให้หยงเช่นกัน ทำให้เขาแปลกใจมากขึ้น ธรรมเนียมของไทยนี้จะเปิดประตูให้แค่แขก เขาไม่ถืออะไรกับคนไม่รู้ แต่หยงไม่รู้อะไรจริงๆหรือรู้อะไรมา? แม้จะสงสัยคุณหยกก็ไม่ได้พูดอะไร
หยงเดินไปขึ้นรถคอก ขณะที่สวีซึ่งอยู่ในรถคันหน้าต้องคอยบอกทาง โชคดีที่เธอจำทางได้ เมื่อไปถึงสถานที่ซึ่งข้ารับใช้แล้วลูกสาวลูกชายรออยู่ หยกก็พูดขึ้น
"ที่นี่ต่อไปจะถูกปรับปรุงเป็นตลาดจีน"
"ตลาดจีน"สวีทวนคำพูดของชายหนุ่ม เธอจำได้ว่าชาติก่อนตลาดจีนก็คือสำเพ็ง เยาวราช ไม่แน่นี่อาจเป็นยุคเริ่มต้นของสถานที่เหล่านั้น ดังนั้นเธอต้องจับโอกาสให้ได้
"ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ฉันตั้งใจจะปักหลักอาศัยอยู่ในแผ่นดินสยาม ก็ย่อมคิดทำการที่จะทำให้สยามเป็นบ้านที่น่าอยู่อาศัยต่อไป"
"คุณมีวิธีการพูดที่ดี" หยกอดชื่นชมไม่ได้ เขามองหญิงสาวด้านข้างมากขึ้น ก่อนจะย้ายตนเองไปนั่งด้านหน้าเมื่อเห็นหญิงสาวและชายหนุ่มที่น่าจะเป็นลูกชายและลูกสะใภ้ของอีกฝ่ายเดินเข้ามา
"นี่คือลูกชาย และลูกสะใภ้ของดิฉัน หลง กับหง"
"ยินดีที่ได้พบคุณหลง คุณหง" หยกมองชายหนุ่มชื่อหลงผ่านกระจกหลัง เขาดูโตมากกว่าจะเป็นลูกของหญิงสาวด้านหลัง เธอดูเหมือนผู้หญิงอายุยี่สิยต้นๆ ดูแล้วไม่น่าจะเป็นแม่ของเด็กที๋โตขนาดนี้ได้เลย อีกอย่างคนอื่นอาจไม่มีข้อมูล แต่หยกอยู่กับคุณเจ้าหญิงประภาซึ่งมีสมเด็จย่าองค์เดียวกันกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ย่อมมีข้อมูลที่ได้มามากกว่า
อีกทั้ง 'หลง' ชื่อนี้ในจีนแต่เดิมถูกจำกัดไว้ให้กับเชื้อพระวงศ์ หรือบางยุคสมัยยังจำกัดให้ใช้กับฮ่องเต้เท่านั้นด้วย เขาจึงมีความคิดว่าเด็กคนนี้อาจเป็นเชื้อสายราชวงศ์ที่แยกย้ายออกมา ไม่แปลกใจเลยที่จะมีมารดาฉลาดๆอย่างสวีคอยดูแลเคียงข้าง เขาได้ยินว่านางในถวายตัวกันตั้งแต่อายุยังน้อย
"แล้วคุณ...จะอาศัยยังไงครับ ที่ดินนั้นเป็นที่เปล่า มีเพียงบ้านเล็กๆของแรงงาน ซึ่งไม่ได้เรียบร้อยนัก"
"คุณหยกเห็นสภาพในตอนนี้ของเรา คุณคงลืมไปว่าพวกเราล้วนเป็นผู้อพยพ ระหว่างทางนอนกลางดินกินกลางทรายก็อยู่กันมานับแรมปีแล้ว ดังนั้นอยู่ในบ้านสภาพอย่างไรก็ย่อมได้ขอเพียงเป็นบ้าน"
"นั่นสิครับ ขอแค่เป็นบ้านของเราเอง" คุณหยกพยักหน้าเข้าใจ เขายังชื่นชมที่สวีรู้จักตอบคำถาม ใช้คำได้ฉลาดและไม่เผยเรื่องของตนมากเกินไป แต่ก็ไม่ปิดบังจนน่าเกลียด ถือว่าเป็นคนฉลาดพูดจริงๆ
"ถ้านั่งรถก็ใช้เวลาสิบนาทีจากในเมือง ถ้าเดินก็ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง คุณเจ้าหญิงเธอน่าจะชื่นชอบกำไลของคุณมาก จึงได้ประทานที่ดินแถบนี้ให้" คุณหยกเริ่มพูดเมื่อรถจอดเทียบริมถนนลาดยางมะตอย ดูแล้วแถบนี้เริ่มเจริญจริงๆนั่นแหละ อีกสิบปีข้างหน้าที่ดินตรงนี้จะต้องมีแต่ตึกสูงแน่นอน
"คุณเจ้าหญิงเธอมีเมตตา" สวีว่าก่อนจะหันไปพูดกับลูกชาย "หลงพาน้องไปพักในบ้านคนงานก่อน บอกแม่หยงว่าให้นายตูมาติดตามฉัน ฉันจะไปทำธุระกับคุณหยกเขาต่อ"
"ครับคุณแม่" หลงไม่ได้ถามเซ้าซี้ เขาประคองภรรยาลงจากรถก่อนจะเรียกตูมาแทนที่แม่หยง ขณะที่แม่หยงจัดแจงคนรับใช้อยู่ที่บ้านใหม่นั่นเอง
นายตูเดินมาหยุออยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ คุณหยกเห็นเช่นนั้นก็ต้องลงจากรถไปนั่งด้านหลังเพื่อให้ที่นั่งด้านคนขับกับเขาไป นี่ทำให้เขามั่นใจมากขึ้นว่าคนรับใช้ของสวี ไม่ใช่คนรับใช้ธรรมดา
"ขอโทษที่ทำให้ยุ่งยากนะคะ"
"ยินดีครับ"
สวีมองเส้นทางที่รถวิ่งผ่าน มีรถวิ่งสวนจำนวนไม่น้อยแล้ว คาดว่าการพัฒนาเทคโนโลยีอะไรก็เริ่มมีมากตามยุคสมัยปกติ แต่ที่แตกต่างก็คือการปกครอง ขนาดของโลก และจำนวนผู้คนนั่นเอง
เดินทางมาประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงเห็นคฤหาสน์หลังหนึ่งตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางสวนแบบยุโรป ดูแล้วหรูหรากว่าวังแบบโบราณที่จัดสวนแนวไทยโบราณมาก ราชวังของไทยไม่ได้มีการจัดแต่งโอ้อวดเท่าคฤหาสน์ยุโรปตรงหน้าด้วยซ้ำ
"ที่นี่คือ...ที่อยู่ของคุณหญิงสะเดาหรือคะ" สวีเริ่มสงสัยแล้วว่า เจ้าพระยาอะไรนั่นบ้าจริงๆ ทุ่มเงินให้เมียน้อยสุดๆจริงๆนั่นแหละ ก็เหมือนที่เขาว่า เมียแต่งกับเมียรักสามีมักจะเลือกเมียรักเสมอ
คิดแล้วก็ปวดใจแทนคุณเจ้าหญิงประภาเธอจริงๆ
"ไม่ใช่ครับ ที่นี่เป็นบ้านที่ ไมเคิล ลูกชายบุญธรรมของคุณหญิงเธอสร้างให้แม่"
สวีได้ยินคำตอบก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ลูกชายบุญธรรมเป็นชาวต่างชาติ นี่ต่างจากขายชาติยังไง คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นนายห้างฯอะไรสักอย่างที่มาลงทุนในสยามเป็นแน่ สุดท้ายแม้เหมือนเขาจะมาช่วยเหลือให้คนสยามมีงาน แต่ความจริงก็คือมากอบโกยทรัพยากรจากสยามประเทศดีดีนี่เอง
"ไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ค่ะ รูปทรงแบบยุโรป"
"คุณดูมีความรู้ทางนี้นะครับ ผมมองของฝรั่งก็เหมือนๆกันหมด" คุณหยกเอ่ยขึ้นมาอย่างแปลกใจ เขาเองศึกษาเกี่ยวกับพวกฝรั่งแต่ก็ไม่ได้รู้แบบมองเห็นแล้วรู้เลยว่ามาจากประเทศไหน ซึ่งไมเคิลมาจากยุโรปจริงๆ
"พอดีเรือสำเภอของดิฉันใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน ได้พักในหลายๆประเทศในโลก เลยได้เห็นมาหลากหลายค่ะ ยังมีของจากประเทศต่างๆมาก็มาก อย่างที่คุณเห็น"
"..." คุณหยกพยักหน้ารับรู้ เขาเองก็เห็นของที่พวกหล่อนนำขึ้นรถ เยอะจนคนต้องนั่งบนกล่องของเหล่านั้นอีกชั้นเพื่อเดินทาง เพราะที่ที่เหลือเอาให้สัตว์หมดแล้ว
คุณหยกรีบเดินเข้าไปในบ้านหลังจากคนรับใช้เปิดประตูให้ สวีเดินตามเขาไปเงียบๆเมือ่เห็นท่าทางรีบร้อนและหน้าตาเคร่งเครียดของเขา เมื่อทั้งสามคนรวมถึงตูที่ติดตามมา เดินเข้ามาในห้องรับรอง เสียงหวีดแหลมของหญิงสาวคนหนึ่งก็ดังขึ้นก่อนเลย
"ตาหยกก็มาด้วยอย่างนี้ แล้วฉันจะต้องเสียที่ดินกี่แปลงเพื่อเครื่องประดับสวยๆกันล่ะ"
"ถ้าไม่เป็นเพราะคุณแม่พระสุดที่รักของตาหยกสั่งให้มา ก็ไม่คิดจะมาหาฉันเลยสินะ ใช่สิ ฉันมันก็แค่เมียสองของคุณพระยา เธอเลยไม่เคารพฉันเหมือนเคารพคุณแม่พระ"
"คุณหญิงสะเดาจะพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกนะครับ ผมก็แวะมาเป็นประจำ"
"หากไม่ใช่มาหาเจ้าพระยา แล้วจะมาหาฉันบ้างหรือก็ไม่ อย่ามาพูดดีเลย เอาล่ะนั่งๆๆๆ มีอะไรมาให้ฉันดูอีกล่ะ ของจีนเธอจับได้ก่อนฉันเสียที่นาเพิ่ม คุณแม่พระอยากได้ของฝรั่งก็ต้องเสียที่นาให้ฉันอยู่ดี อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทัน"
สวีได้ยินคำพูดห้วนๆของคุณหญิงสะเดา ก็คาดได้ว่าสงครามการค้าปะทะกันด้วยที่ดินของเมียหลวงเมียน้อยคู่นี้มีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และคนที่ได้รับผลประโยชน์ ก็คือตัวกลางที่เอาของมาขายให้ทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
"คุณหญิงสะเดาพูดเกินไปแล้ว คุณเจ้าหญิงไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเลย"
"ช่างเถอะ จะอย่างไรก็ช่าง แม่หนูนี่หน้าตาดีนะ น่าเสียดายเป็นเจ๊ก ไม่ใช่อยากจะได้เมียเ**กเหมือนที่ชอบของเ**กอีกหรอกนะตาหยก"
"คุณหญิงสะเดาพูดเกินไปแล้ว นี่คือคุณสวี เธอมากับเรือสำเภาลำล่าสุด แล้วยังมีของดีดีมาอีกด้วย ที่มอบให้คุณเจ้าหญิงคือหยกพม่า ผมเลยพามาพบคุณหญิงด้วยครับ"
"ไหนเอามาดูซิ จะดีสมที่เธอพูดรึเปล่า"
สวีคิ้วกระตุก รู้สึกว่าเจ้าพระยาอะไรนั่นต้องโดนปลวกกินสมองแหงๆถึงได้เลือกรักหลงเมียน้อยมากกว่าเมียหลวง ไม่แน่อาจเป็นปฏิกริยาตอบสนองอัตโนมัติของผู้ชายทุกคนที่ชอบกินของต่ำ เอ้ย ไม่สิ จะบอกว่าผู้ชายไม่ชอบถูกบังคับ แต่จะชอบของที่เลือกเองมากกว่า
เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีอำนาจ มีพลังเหนือกว่าสิ่งที่ควบคุมเขาเช่นพ่อแม่ พวกเขาเลยเลือกที่จะแสดงความรักและมอบใจให้กับคนที่พวกเขาเลือกมาด้วยตัวเองมากกว่า แม้ว่าคนๆนั้นจะด้อยกว่าเมียหลวงในทุกๆด้านก็ตามที
ใช่แล้ว คุณหญิงสะเดาไม่ได้สวยขนาดนั้น ไม่ได้หุ่นดีขนาดนั้น ไม่ได้น่ารักขนาดนั้น ไม่ได้นิสัยดีขนาดนั้น แถมไม่ได้มีกริยามารยาทที่ดีขนาดนั้น ต้องบอกว่าด้อยกว่าคุณเจ้าหญิงทุกๆด้าน และด้อยกว่ามากก็ไก่ล้านตัวเลยทีเดียว
แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่นี่คือลูกค้าคนสำคัญที่จะตัดสินว่าเธอจะได้รับที่ดินเพิ่มมากแค่ไหน ด้วยเหตุนี้สวีเลยต้องยิ้มและพูดคุยอย่างเป็นมิตรพอประมาณ คือเป็นมิตรชั่วคราว มอบรอยยิ้มทางการค้าให้อย่างไม่นึกหวงแหน
ทันทีที่เธอหยิบเครื่องประดับชุดแรกออกมาคุณหญิงสะเดาก็ตาโตจนเก็บไม่อยู่ ผุดลุกขึ้นแล้วนั่งลงก่อนจะวางมาดสั่งให้สาวใช้มาหยิบไปดู พอมองดูก็ดูแล้วดูอีก ทั้งที่นั่นเป็นเครื่องประดับหยกพม่าสำหรับสาวใช้ระดับล่างในวังสมัยก่อน
แต่ถึงอย่างนั้นดูเหมือนคุณหญิงเธอจะชอบมากที่มันมีหยกใหญ่ดีเนื้อใสกิ๊ก ดังนั้นเลยมองแล้วมองอีกจนแทบบอยากหยิบไปขัดถูและเอามาใส่ทันที
"ว่าราคามาเถอะ"
"เรียนคุณหญิงดิฉันเดินทางมาจากเมืองจีนมีหมูเห็ดเป็ดไก่และข้ารับใช้อีกจำนวนหนึ่งจึงต้องการที่ดินเพื่อทำกินมากกว่าเงินทอง ดังนั้นจึง..."
"ฉันให้ที่นาห้าสิบไร่"
"คุณแม่พระให้ที่นาแปดสิบไร่ ที่เขาร้อยไร่" คุณหยกพูดแทรกขึ้นมา ทำให้คุณหญิงสะเดาโวยวายทันที
"นั่นประไร ฉันนึกแล้วว่ามีอะไร มาเอาที่นาของคุณพี่อีกแล้วนี่เอง หึ! ช่างเถอะ อย่าให้คุณแม่พระมาเอาอะไรที่ไมเคิลแล้วกัน ฉันให้เครื่องประดับชุดนี้ที่นาร้อยไร่ ที่เขาสามร้อยไร่"
"นอกจากนี้ยังมี..." สวีเริ่มนำของออกมา ซึ่งเป็นเครื่องประดับเล็กๆน้อยๆที่ไม่ได้เป็นชุด ที่เป็นชุดก็ขายได้เยอะ ที่ไม่เป็นชุดก็ขายได้เยอะ เพราะมีคุณหยกช่วยโก่งราคาขึ้นอ**บางอย่างเป็นสิบเท่า จนเธอตกใจ แต่คุณหญิงสะเดาก็ถึงกับมองสวีอย่างสงสัย แต่ก็ยังเสนอราคาออกมาเรื่อยๆอย่างไม่เสียดายเงิน
สวีก็ไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย ในเมื่ออีกฝ่ายมีนายทุนต่างชาติอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ต้องมีเงินมาก มีที่ดินมากเป็นธรรมดา เธอจะยักยอกออกมาสักหนึ่งสองส่วนก็คงจะไม่เป็นอะไร
จนกระทั่งชุดเครื่องประดับที่สวีหยิบออกมาเสนอคุณเจ้าหญิงถูกนำขึ้นมา คุณหญิงสะเดาก็ถึงกับนั่งไม่ติดผุดลุกขึ้นมาหยิบทันที
"ฉันให้ห้าพันไร่!"
"คุณหญิง!" เสียงตะโกนขัดดังขึ้น ก่อนที่ชายร่างสูงพอๆกับคุณหยกจะปรากฎขึ้นที่หน้าประตู เขาปรี่มาจับภรรยาก่อนจะกระซิบถามเธอ
"คุณหญิง คุณตรวจสอบดีหรือยัง คุณจะถูกหลอกอีกรึเปล่า ห้าพันไร่เป็นจำนวนไม่น้อย คุณคิดว่าคุ้มจริงๆหรือ"
"คุณพี่เจ้าขา หญิงไม่เคยเห็นชุดเครื่องประดับหยกชุดไหนดีขนาดนี้มาก่อน ถ้าจะโทษก็โทษตาหยกเถอะเจ้าค่ะ เขาเอาแต่โก่งราคาหญิงอยู่เรื่อยเลย" ว่าแล้วคุณหญิงสะเดาเธอก็ทำทีเป็นออดอ้อนออเซาะผู้มาใหม่ที่น่าจะเป็น 'เจ้าพระยาตาบอด' ที่สวีว่าไว้ในใจ เขาก็หน้าตาดีนะแต่ทำไมตาบอดก็ไม่รู้เหมือนกัน
"เจ้าพระยา ผมขอพูดว่านี่ไม่เกี่ยวกับผม ห้าพันไร่ผมไม่ได้พูดสักคำ" หยกรีบแย้งเมื่อเจ้าพระยาหันมามองตนตาขวาง สวีรู้สึกนับถือใจชายหนุ่มจริงๆ อาจเพราะเขาเป็นคนสนิทของเมียหลวงเก่าเจ้าพระยาจึงไม่พูดอะไรแล้วหันไปปลอบเมียน้อยต่อ ไม่สิ ตอนนี้ก็คงเป็นเมียหลวงแล้ว เห็นเรียกว่าเมียสอง หมายถึงเมียหลวงคนที่สองนั่นเอง
"คุณหญิงอยากได้ก็ซื้อเถอะ แต่รอผมตรวจสอบสักหน่อย หรือให้ไมเคิลนำไปทดสอบสักนิดก่อนว่าเป็นของจริง แล้วค่อยจ่ายเงินเถอะนะ ถึงจะเป็นตาหยกพามา แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นของจริงเสมอไป จำเครื่องปั้นจากราชวงศ์ซ่งใต้อะไรนั่นได้มั้ย"
"นั่นผมก็ไม่รู้เรื่อง"
"ตาหยก!" คุณหญิงสะเดารีบปกปิด เธออ้างว่าซื้อกับตาหยกแต่จริงๆแล้วซื้อกับไมเคิลต่างหาก เสียไปกว่าพันไร่ เธอจึงกลัวสามีดุ ด้วยคิดว่าปกติตาหยกมาหาสามีก็คุยกันเรื่องธุระจึงไม่คิดว่าเขาจะเปิดเผยเช่นนี้
"เอาล่ะๆ ไม่เป็นไร ซื้อน่ะซื้อได้ผมตามใจคุณหญิงอยู่แล้วแต่รอก่อนนะ"
"ก็ได้ค่ะคุณพี่ ได้ยินมั้ย ได้ยินพวกเธอก็ออกไปได้แล้ว" คุณหญิงสะเดารีบไล่แขกเพราะกลัวว่าตาหยกจะเผลอพูดอะไรเปิดเผยเธออีกครั้ง มีหลายเรื่องเหมือนกันที่เธอแอบอ้างชื่อตาหยกเพราะคิดว่าเขาคงไม่นำมาพูดต่อกับท่านเจ้าพระยาแน่ๆ
สวีและคุณหยกรู้สึกได้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากคนสนิทของคุณหญิงสะเดามาชำระค่าเครื่องประดับชุดอื่นๆแล้วก็เดินไปส่งแขกถึงหน้าประตูใหญ่ ก่อนจะเอ่ยย้ำ
"เจ้าพระยาจะนำหยกไปทดสอบก่อน เมื่อเป็นของจริงค่อยให้คุณหยกมารับโฉนดที่ดิน"
"อย่างไรก็ให้เจ้าพระยาติดต่อมา" หยกรับปาก ก่อนจะนำสวีกลับไปที่รถ ในที่สุดตูก็มีบทบาทเปิดประตูให้คุณหยกก่อน แล้วจึงเปิดให้เจ้านาย
คราวนี้หยกไม่ได้ไปแย่งหน้าที่ของข้ารับใช้อีกแล้ว เขาขึ้นรถแล้วคิดในใจว่า ข้ารับใช้ของสวีไม่ธรรมดาสักคนจริงๆ จะชายหรือหญิงก็ล้วนถูกฝึกมาอย่างดีทั้งสิ้น
"นี่คือส่วนแบ่งของคุณ รวมทั้งสิ้น 400ไร่ เป็นที่นาหนึ่งร้อยไร่ ที่เขาสามร้อยไร่อยู่ติดกันทั้งหมด ส่วนอีกห้าพันไร่ คุณจะได้ส่วนแบ่งห้าร้อยไร่ ผมจะนำไปส่งเป็นที่ดินระแวกนั้นเช่นกัน แต่จะเป็นที่นา หรือที่เขาก็สุดแล้วแต่เจ้าพระยาท่านจ่ายมา"
"ที่ดินเมืองกรุงทั้งหมด มีกี่ไร่กันคะ" สวีรู้สึกสงสัยขึ้นมา เพราะดูแล้วมีพื้นที่มากเหลือเกิน หรือเป็นเพราะที่ดินยื่นออกไปนอกเมืองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่ดินทำการเกษตรในรอบนอกของเมืองเยอะมากจริงๆ
"ประมาณ7หมื่นตารางกิโลเมตร ที่พวกฝรั่งมาวัดกัน แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าสักกี่ไร่กันแน่"
สวีครุ่นคิดในใจ ดูเหมือนในโลกนี้กรุงเทพมหานครหมายถึงปริมณฑลทั้งหมดแน่ๆ เพราะถ้ากรุงเทพอย่างเดียว ถึงจะมีพื้นที่มากขึ้นสิบเท่าก็ไม่ถึงเจ็ดหมื่นตารางกิโลเมตรได้
แต่นี่...เธอมีพื้นที่รวมแล้วเกือบพันไร่ อยู่ๆก็ได้ที่เพิ่มมา ที่คิดไว้ว่าจะทำเกษตรพอเพียงให้พอเลี้ยงคนแค่สิบกว่าคนที่มีอยู่ในครัวเรือนตอนนี้ ใช้แค่ยี่สิบไร่ก็พอแล้ว
แต่ได้ที่เพิ่มมาเกือบพันไร่...จะทำอะไรดีล่ะ
ตาหยกพาไปที่ดิน สวีเลยขอไปรับลูกมาที่ดินก่อน แล้วบอกให้สร้างกระท่อมไผ่ขึ้นมาอยู่ไปก่อนดี ก่อนจะไปหาคุณหญิงสะเดาในตอนเยน แล้วคุณหญิงสะเดาเธอก็พูดกับตาหยกไม่ดีก่อน เหมือนไม่ชอบ ก่อนจะพูดกับสวีแล้วก็มีตาหยกช่วยเพิ่มราคา จนสุดท้ายได้ที่นามาแปดพันไร่ ที่สวนมาแปดพันไร่ ทำให้สวีได้ที่มาเพิ่มอีกอย่างละ80ไร่ พร้อมทั้งข้ารับใช้จากคุณเจ้าหญิงอีกยี่สิบคน โดยหนึ่งครอบครัวในนั้นเป็นคนของคุณเจ้าหญิง ที่คนรู้จักกันดีก็รู้ว่าสวีเป็นคนของคุณเจ้าหญิง พวกเขามาอีกวันเพื่อสร้างกระท่อมไม้ไผ่ก่อน แล้วจึงช่วยกันสร้างเรือนให้เจ้านายต่อ แล้วค่อยทำเกษตร(บทต่อไป)