บทที่7 ย่าสวีกับขี้สัตว์

1383 Words
เพราะเมื่อวานสะเทือนใจกับเสียงร้องไห้ของลูกสาวสวีจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงจนต้องพักเรื่องที่จะปรึกษากับหลงเอาไว้ หงดูเหมือนจะใจเย็นลงมากเมื่อมีแม่อยู่ใกล้ๆ และมั่นคงมากขึ้นเมื่อแม่หยงหรือหลงมาผลัดกันดูแล จนสองวันต่อมาเธอถึงได้เอ่ยปาก "คุณแม่ พี่หลง แม่หยงยุ่งมาพอแล้ว ไม่ต้องเสียเวลามาเฝ้าหงแล้วค่ะ หงรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว" "ไม่เป็นไร แม่กับหลงสลับกันออกไปดูแลคนงานเท่านั้น" "แต่หนู...อยากให้คุณแม่กับพี่หลงพักผ่อนกันมากกว่านี้" "หง ไม่ต้องรู้สึกแย่ มีแค่ตอนนี้ที่พี่กับแม่จะทำเพื่อหงได้ เอาอย่างนี้พี่กับแม่จะคุยงานกันในห้อง หงอาจจะต้องทนฟังสักหน่อยนะ" "ได้ค่ะ หงแค่ไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของพี่กับแม่" หงรู้ดีว่าตอนนี้ทุกคนกำลังยุ่งกับการลงหลักปักฐานในบ้านแห่งใหม่ แม้จะรู้สึกดีที่ได้เป็นจุดศูนย์กลางความสนใจของทุกคน แต่ก็รู้ว่าไม่ควรเห็นแก่ตัวในเวลาแบบนี้ "พอดีเลยหลง แม่มีเรื่องจะปรึกษาเธอ แบบคลองไส้ไก่ออกแบบแล้วก็จริง แต่ตอนนี้ในพื้นที่ของเราไม่มีบ่อน้ำสำหรับกักเก็บน้ำ แล้วก็ต้องหาคนมาเจาะน้ำบาดาล นอกจากนี้ ที่อยู่อาศัยจำนวนมากขนาดนี้ถ้าขุดแค่บ่อเกรอะสักวันก็คงเต็ม แม่เลยอยากหาจ้างคนมาทำระบบท่อน้ำทิ้งดีดีให้เป็นระเบียบ จะได้ไม่ต้องรื้อทำบ่อยๆหลังจากนี้" "ได้ครับ ให้ผมติดต่อบริษัทมาทำเลยมั้ย" "โอเค งั้นเรามาพูดเรื่องต่อไป" "คุณแม่จะจ้างคนมาทำท่อระบายน้ำอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นบ้านล่ะคะ" หงเอ่ยถาม "บ้านเราใช้แบบของเราและใช้คนของเราทำดีกว่า" ว่าแล้วก็หันมองหลง ซึ่งเขาพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น เพราะบ้านของพวกเธอไม่ใช่แค่บ้านแต่จะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดอีกด้วย ดังนั้นจึงให้คนที่ไว้ใจได้ สร้างให้จะดีกว่า "หนู...เข้าใจแล้วค่ะแม่" หงมีท่าทีหงอยไป "แม่เข้าใจว่าลูกหวังดีกับทุกคนที่ต้องเหน็ดเหนื่อยเพราะงานหนัก แต่เราไม่ใช่...ไม่สามารถไว้ใจใครได้นอกจากตัวเอง นอกจากเราเอง ลูกเข้าใจใช่มั้ย เพราะเรานั้นแตกต่าง" "หนูลืมคิดไปค่ะแม่ ว่ามีแค่ข้ารับใช้และเราที่ไว้ใจกันได้" "เอาล่ะหลง แม่กำลังคิดว่าจะจ้างชาวบ้านแถบนี้มาช่วยขนดินลงมาจากภูเขา" "คราวนี้ผมขอถามเหตุผลได้มั้ยครับ" "แต่ก่อนชาวนาในจีนเองก็มักจะขุดลอกดินตะกอนที่สะสมริมตลิ่งแม่น้ำเพื่อนำมาทำแปลงผัก ก็เหมือนกันหน้าดินบนภูเขาซึง่มีใบไม้หล่นลงมาทับถมทุกปีก็เป็นสมบัติชั้นดีเหมือนกัน" "ได้ครับแม่ คราวนี้ผมจะให้ อาจงจัดการเอง" "ดี! จงเหมาะกับการติดต่อกับชาวบ้านรอบๆ ส่วนค่าแรงก็เอาตามอัตราจ้างของประเทศ อย่าไปเอาเปรียบใครเขา อย่าลืมหาน้ำหาท่าให้เขากินด้วย เลี้ยงข้าวสักมื้อเป็นสินน้ำใจ เรามาอยู่ใหม่แต่มีพื้นที่กว้าง ก็ต้องผูกมิตรเอาไว้หน่อย" "ครับแม่ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะบอกอาจง" อาจงเป็นหนึ่งในข้ารับใช้ผู้ภักดีที่ติดตามมาหลายปี อายุมากกว่าหลงไม่ถึงสิบปีจึงกลายเป็นผู้ติดตามของเขา อาจเรียกว่าเป็นมือขวาของหลงก็ว่าได้ "ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ" "ยังๆ ฟังก่อนแม่ยังพูดไม่จบ" "ครับ" "เธอรู้ใช่มั้ยว่าแม่กำลังจะทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรพอเพียง ซึ่ง ลม น้ำ ดิน ไฟ เป็นส่วนสำคัญทั้งหมด แม่เลยอยากให้หลงไปหาเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้าน ธรณีวิทยา แล้วก็ กรมอุตุวิทยา ที่สะดวกจะเข้ามาวิเคราะห์ที่ดินของเราทั้งสี่ร้อยไร่ได้ ข้อมูลตรงนี้แม่จะเอามาปรับปรุงประยุกต์ใช้ในเรื่องการเพาะปลูก และการเลี้ยงสัตว์" "นอกจากนี้ ดินยังเป็นส่วนสำคัญในการทำการเกษตร ดังนั้นนอกจากเอาดินลงมาจากบนภูเขาเสร็จแล้ว เธอต้องห่มคลุมหน้าดินเอาไว้ แล้วรดด้วยนน้ำหมักชีวภาพหรือ EM ทุกวันตลอดเวลาหนึ่งหรือสองเดือน จากนั้นค่อยเริ่มลงมือเพาะปลูกอะไรก็ตาม" "ทำแบบนี้พืชที่ปลูกจะไม่เป็นโรคเหรอครับ ปกติแล้วที่ผมเคยได้ยินเขานิยมให้มีการตากดินการเพาะปลูกทั้งนั้น" "นั่นเป็นความเชื่อเก่าๆ...แม่หมายถึงมันเป็นความเชื่อที่ทุกคนคิดแบบนั้น ลองเชื่อแม่ดูสิแล้วจะรู้ว่า โรคพืชบางครั้งโดนแสงแดดไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร ไม่สู้เพิ่มเชื้อลงไปให้เขากัดกินกันเองตามธรรมชาติจะดีกว่า" "ผมเชื่อแม่อยู่แล้วครับ เพียงแค่สงสัย" "ถูกแล้วเมื่อสงสัยก็ให้ถาม เมื่อไม่รู้ไม่เข้าใจก็ให้ถาม ทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมรับความรู้ใหม่ได้ตลอดเวลา แล้วเธอจะพัฒนาและประสบความสำเร็จแน่นอน" "ขอบคุณครับแม่" "เธอไม่ถามหรือว่า ทำไมแม่บอกให้ทำอะไรมากมาย" "ไม่ครับ" หลตอบกลับฉับพลัน ก่อนเสียงหัวเราะของหงจะดังขึ้น "คิกๆ คุณแม่ก็ถามแปลกๆ ในบรรดาผู้คนจากเมืองจีน มีใครบ้างจะกล้าสงสัยคุณแม่" "หง ลูกพูดตรงนี้ได้ แต่ต่อไปอย่าพูดถึงอีกเข้าใจมั้ย" สวีทำสีหน้าจริงจัง ทำให้หงรู้ตัวว่าหลุดปากก่อนจะพยักหน้ารับ "ขอโทษค่ะคุณแม่ หนูจะไม่หลุดปากอีก" "ยังไม่หมดเรื่องนะตาหลง คราวนี้แม่อยากให้อาจงเป็นคนจัดการเหมือนกัน แม่ต้องการหญ้าแฟ้งหรือฟางสำหรับคลุมหน้าดินจำนวนมาก มูลสัตว์เช่น หมู เป็ด ไก่ วัว ควาย ช้าง ม้า จำนวนมาก เพื่อนำมาบำรุงดินและเตรียมทำปุ๋ยหมัก" "ครับ?" "งงตรงไหนลูก แม่อยากได้มูลสัตว์" "พี่หลงคงงงว่าคุณแม่จะเอามูลสัตว์มาทำอะไรมากกว่าค่ะ" "งงตรงไหนกัน แม่จะเอามูลสัตว์มาบำรุงดินไง" "ก็ปกติแม้คนจะใช้มูลบำรุงดินอยู่แล้ว แต่ผมไม่เคยเห็นว่าจะต้องใช้เยอะ" หลงบอกความสงสัยของตัวเอง "นั่นเพราะ เรามีที่ดิน400ไร่ที่ต้องบำรุงยังไงล่ะ" "แต่เรามีที่นาเพียงร้อยไร่เองนะครับ แถมที่ดินส่วนใหญ่ก็คงไม่ได้ทำนาด้วย" "หลง เธอคิดว่าถ้าที่ดินเหลือว่างก็จะปล่อยไว้เฉยๆงั้นหรือ เกษตรพอเพียงแม้จะเป็นการทำเกษตรเพื่อให้พอมี พอกิน พอใช้ แต่ก็มีคำต่อมาคือ เหลือกินเหลือใช้ก็นำไปขาย แม้พื้นที่จะมีร้อยไร่แต่ถ้าทำเกษตรพอเพียงก็เอาไปขายได้เหมือนเดิม อีกอย่าง...เกษตรพอเพียงก็ยังสามารถปลูกอะไรบางอย่างจำนวนวมากๆได้ ตามแต่เราสะดวก" "และคุณแม่ก็มีความคิดแล้วใช่มั้ยคะว่าจะปลูกอะไร" หงพูดขึ้นด้วยท่าทางตื่นเต้น เพราะเธอเชื่อมั่นในตัวมารดาอย่างมากนั่นเอง สวีเห็นอย่างนั้นก็กุมหัวใจ ลูกสาวของเธอช่างน่ารักจริงๆ สวีคนเก่านี่ยังไงนะที่สามารถมองข้ามลูกสาวน่ารักๆแบบนี้ไปได้ หลงดู...แม้จะเลี้ยงดูให้ดียังไงก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ระยะห่างก็ย่อมมีเพราะเรื่องเพศ แต่กับลูกสาวนี่ อ่า สวีนึกอยากกอดลูกสาวจริงๆ แต่ลัวว่าเธอจะอึดอัด ไว้หงคลอดเมื่อไหร่ค่อยกอดแล้วกัน คิดแล้วก็ส่งสายตาไม่พอใจให้หลงแวบหนึ่ง บังอาจทำลูกสาวของเธอท้องจนไม่ได้กอดเลยเห็นมั้ย งื้อ หลงที่กำลังล่ำลาภรรยาเพื่อไปทำงานขนลุกวูบหนึ่ง เมื่อเขามองกลับไปด้านหลังก็เห็นเพียงมารดาที่ยิ้มหวานอย่างมีเมตตาเหมือนปกติ หรือเขาคิดมากไปเองนะ .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD