ซารียาเดินตรงเข้ามาหาเคลลินซ์หลังจากที่ฝึกเสร็จด้วยเหงื่อที่เปียกชุ่มเต็มใบหน้าและลำตัว
"เด็กคนนี้คือ..." เหมไม่กล้าคิดไปไกล เขาหันมาหาหรินและเจ้านายเพื่อเป็นการยืนยันคำตอบ
"มึงเข้าใจถูกแล้ว ตอนนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของกู" เคลลินซ์พูดในขณะที่จ้องหน้าหญิงสาวไม่วางตา
"ทุเรศ! นายสิเป็น..."
"หุบปาก!" ยังไม่ทันที่ซารียาจะได้พูดอะไรก็ถูกหรินห้ามไว้ก่อน
"แสนรู้ดีนี่ ปกป้องเจ้านายยิ่งกว่าชีวิต"
"ที่นี่ไม่ใช่บ้านเธอ อย่าปากดี" มาเฟียหนุ่มเตือนสติเล็กน้อย
"แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้ออกไปจากที่นี่" เธอถามเสียงดุกลับไปบ้าง
"เธอถูกตามล่าอยู่ไม่ใช่เหรอ ออกไปจากที่นี่ก็มีแต่ความตายเท่านั้นแหละที่รอเธออยู่" เคลลินซ์พูดเตือนสติอีกครั้ง
"แล้วทำไมนายถึงไม่ฆ่าฉันล่ะ"
"เพราะว่าพ่อของเธอเป็นคู่ค้าของฉัน ถ้าฉันไม่เห็นแก่พ่อเธอ อย่าหวังว่าจะมีลมหายใจจนถึงป่านนี้!" เขาพูดจบแล้วจึงลุกขึ้นและเดินออกไปจากบริเวณสนามฝึกซ้อมไปทันที
"ไอ้บ้า!"
"อย่าไปว่านายแบบนั้นสิ นายดีกับเธอนะ" เหมเดินเข้ามาใกล้และเอ่ยขึ้นเสียงทุ้มฟังดูอ่อนโยน
"แล้วนายเป็นใคร"
"ฉันเคยทำงานกับพ่อเธอบ่อยๆ เธอหน้าเหมือนพ่อมากนะ" เหมมองหน้าหญิงสาวก็แลเห็นความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวในสายตาของเธอ
"เจอพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่" หญิงสาวถามเสียงขุ่นเคือง
"เมื่อวันก่อนยังคุยกันอยู่เลย เสียใจเรื่องพ่อกับแม่ของเธอด้วยนะ" เหมดวงตาแดงก่ำ ปกติเขาเป็นคนเลือดเย็น ทว่าเมื่อเห็นเด็กสาวคนนี้แล้วกลับรู้สึกอ่อนไหวขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครฆ่าพ่อกับแม่ของฉัน" น้ำเสียงและแววตามุ่งมั่นทำให้เหมรู้สึกหนักใจ และหวาดหวั่นต่ออันตรายในสิ่งที่หญิงสาวคิดอยากจะทำ
"มันอันตรายมาก เธออยู่ภายใต้การปกป้องคุ้มครองของคุณเคลลินซ์น่ะดีที่สุดแล้ว" ยังไม่ทันที่ซารียาจะพูดอะไรก็มีลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามา
"นายบอกให้คุณเหมกับผู้หญิงเตรียมตัวครับ เราต้องไปที่โรงนาโดยด่วน"
"ตกลง" เหมตอบกลับไป
"ไปไหนเหรอ" ซารียาเห็นท่าทีเร่งรีบของทุกคนก็รู้สึกแปลกใจ
"เดี๋ยวก็รู้เอง อยู่ข้างๆ ฉันไว้" ซารียาฟังเท่านั้นแล้วจึงวิ่งตามเหมไปขึ้นรถ
"ซารียา..." เป็นครั้งแรกที่เคลลินซ์เรียกชื่อของเธอ
"มาขึ้นรถกับฉัน!" มาเฟียหนุ่มออกคำสั่งพร้อมทั้งชักสีหน้าไม่พอใจใส่เหม หญิงสาวไม่อยากขัดเพราะเห็นว่าทุกคนกำลังเร่งรีบจึงทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
"ที่โรงนามีอะไร นายทำอะไรผิดกฎหมายบ้างหรือเปล่า?" เธอถามออกไปตามตรงเพราะเข้าใจเรื่องนี้ดี
"ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย เธอจะเชื่อหรือเปล่า" เคลลินซ์เบือนหน้าหนีไปอีกทาง
"เชื่อ!" เขาหันขวับกลับมาแววตาเป็นประกาย
"เชื่อก็บ้าแล้ว!" ซารียาพูดใส่ใบหน้าคมคายอย่างไม่เกรงกลัว
"ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอเหรอ ฉันอายุสามสิบส่วนเธอแค่สิบเก้า อย่ามาเล่นลิ้น!" เขาหงุดหงิด หญิงสาวจึงเบะปากเบาๆ ไม่โต้ตอบแล้วจึงทำทีเบือนหน้าหนีไปทางอื่นบ้าง
รถยนต์ของเคลลินซ์และลูกน้องอีกหลายคันขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าโรงนาขนาดใหญ่ ซารียาเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีสถานที่เช่นนี้อยู่ใกล้กับเมืองหลวง
"โอ้โห โรงผลิตอะไรกันแน่" หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ
"โรงเก็บพวกทรยศ" มาเฟียหนุ่มพูดใส่ใบหน้าสวยด้วยระยะประชิด
"นายครับ ผู้หญิงคนที่เราจับมาเมื่อคืนไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเลยครับ ถามหาแต่นาย บอกจะบอกความจริงกับนายคนเดียวเท่านั้นครับ" ลูกน้องรายงานภารกิจระหว่างที่เคลลินซ์ก้าวลงจากรถ
"มันอยู่ที่ห้องเดิมใช่มั้ย"
"ใช่ครับนาย" ลูกน้องพูดจบแล้วจึงเดินนำหน้าเข้าไป เคลลินซ์ถือวิสาสะดึงข้อมือเล็กของซารียาเดินตามเข้าไปด้านใน
"ปล่อยนะ จะพาฉันไปไหน?" หญิงสาวพยายามแกะมือเขาออกจากการเกาะกุม
เคลลินซ์ไม่สนใจและพาร่างบางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องห้องหนึ่ง เขาใช้เท้าถีบประตูเพื่อเดินเข้าไปภายในนั้น
"คุณคะ ฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน" สิ่งที่ซารียาได้เห็นคือหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งถูกเชือกมัดมือมัดเท้าติดกับเก้าอี้ มาเฟียหนุ่มไม่ยอมปล่อยมือเธอ และใช้อีกมือหนึ่งของเขาปลดหัวเข็มขัดพร้อมกับรูดซิปกางเกงยีนลง
"ทำให้น้ำแตกเหมือนเมื่อคืนสิ!" เขาออกคำสั่งพร้อมทั้งล้วงลำเอ็นของตนที่เริ่มขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ออกมาให้หญิงสาวตรงหน้าได้เชยชม
"ใหญ่เหลือเกิน ฉันชอบคุณจังเลยค่ะ" หญิงสาวที่ถูกมัดอยู่พูดเสียงออดอ้อนคลอเคลียแท่งเนื้อที่โอบล้อมด้วยเส้นเลือด
"กรี๊ดดดดดด...พวกแกจะทำอะไรกัน!" ซารียายกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นมาปิดตาไว้
"อ่าาส์...ดูเป็นตัวอย่างสิว่าเขาทำกันยังไง เพราะเธอก็ต้องทำให้ฉัน ตอบแทนค่าข้าวค่าน้ำและค่าคุ้มกะลาหัวเธอยังไงล่ะ"
"ไอ้บ้า! ตอนนี้ฉันไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากแกนะไอ้โรคจิต คิดเหรอว่าฉันจะอยู่กับไอ้คนโรคจิตทำตัวทุเรศๆ แบบแกได้!"
'ตุบ!'
"โอ๊ย!" คำด่าทอของซารียาส่งผลให้มาเฟียหนุ่มผลักร่างเล็กกะทัดรัดจนล้มลงไปกองบนพื้นสกปรก
"ไอ้หน้าตัวเมีย!!!" ซารียาน้ำตาคลอเบ้า เธอรีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นและจ้องมองมาเฟียหนุ่มด้วยแววตาตัดพ้อ จากนั้นจึงวิ่งหนีออกไป
"เด็กบ้าเอ๊ย!" มาเฟียหนุ่มดึงแท่งเนื้อของตนออกจากปากหญิงสาวและรีบดึงกางเกงขึ้นมาสวมจนเรียบร้อย เขาวิ่งตามซารียาออกไป
"จับตัวซารียาไว้ ใครปล่อยให้หลุดออกไปกูจะฆ่ามึง!" คนบ้าคลั่งออกคำสั่งเสียงเกรี้ยวกราด
"เธอวิ่งออกไปทางประตูหลัง รีบตามไปเร็ว" ลูกร้องเกือบสิบคนวิ่งตามเด็กสาวออกไปในระยะกระชั้นชิด
เสียงฟ้าฝนกระหึ่มลงมาสู่พื้นดินราวกับกำลังโกรธแค้นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความหวาดกลัวทำให้ซารียาต้องวิ่งเข้าไปหลบอยู่ภายใต้ต้นไม้ใหญ่
"ซารียา! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ ที่นี่ป่าลึก! ใกล้มืดแล้ว ฉันไม่รับรองความปลอดภัยของเธอนะ" หรินตะโกนเรียกหาหญิงสาวในขณะที่เธอเอาแต่ร่ำไห้แข่งกับสายฝนที่กำลังซัดกระหน่ำลงมา
"ทำไมชีวิตฉันต้องเฮงซวยขนาดนี้ด้วย...ฮือ..." หญิงสาวตัดพ้อ แม้จะหวาดกลัวเพียงใดแต่ก็เลือกที่จะหลบอยู่ในมุมที่มืดที่สุดเพื่อหลีกหนีให้พ้นจากพวกคนใจร้ายเช่นเคลลินซ์
บ้านเคลลินซ์
"นี่มันมืดแล้วนะ! ผู้หญิงคนเดียวทำไมพวกมันยังหาตัวไม่เจออีก!" มาเฟียหนุ่มกระวนกระวายใจจนเผลอแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว
"แล้วนายไปทำอะไรให้เธอวิ่งหนีออกไปแบบนั้นล่ะครับ" เหมอดที่จะถามเสียมิได้
"เรื่องของกู! โทรหาไอ้หริน ถ้ายังไม่มีทีท่าว่าจะเจอให้เตรียมคนที่นี่ออกไปตามหาให้ทั่ว!" เขาสั่ง
"เธอก็แค่เด็กผู้หญิงคนเดียวนะครับ ไม่ได้มีความหมายอะไรกับนายเลย ทำไมต้องเอาคนของเราที่รอทำงานใหญ่ๆ ไปเสี่ยงกับเรื่องเล็กๆ ด้วยครับ" เหมพูดออกไปตามหลักของความเป็นจริง เคลลินซ์ไม่เคยให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน
"มันเรื่องของกู มึงแค่ทำตามคำสั่ง!"
"เสียงรถมาแล้ว ผมจะออกไปดู" บอดี้การ์ดหนุ่มเดินออกไปพร้อมทั้งส่ายหน้าเบาๆ ให้กับเจ้านาย
"เจอตัวไหม" เหมเอ่ยถามเมื่อเห็นหรินเดินเข้ามาในสภาพที่เปียกปอนไปทั้งตัว
"นายให้ฆ่าทิ้งเลยมั้ยวะ" หรินถามเสียงหงุดหงิด
"มึงสิจะโดนฆ่า นายถึงขั้นยอมใช้คนทั้งหมดที่นี่เพื่อไปตามหาตัวเด็กคนนั้น" ไม่ทันที่เหมจะพูดจบ เสียงดุดันก็ดังขึ้น
"พวกมึงมีปัญหาอะไร?" เคลลินซ์เดินลงมาจากชั้นสอง
"ผู้หญิงอยู่ในรถครับนาย" มาเฟียหนุ่มฟังเช่นนั้นแล้วจึงรีบร้อนเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน เขาเปิดประตูรถและช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนอย่างง่ายดายแม้เธอจะไม่ได้สติ จากนั้นเคลลินซ์จึงอุ้มซารียาขึ้นห้องนอนไปท่ามกลางสายตาที่มองมายังตนอย่างประหลาดใจ