ตอนที่ 1 นางฟ้าตกสวรรค์ NC 25+
"คุณเคลลินซ์อยากให้ผมจัดการกับครอบครัวนี้ยังไงดีครับ" หรินลูกน้องคนสนิทถามขณะที่มาเฟียหนุ่มกำลังจ้องมองบางสิ่งบางอย่างในมือ
"ฆ่ามันให้ตายทั้งครอบครัวอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว กูเกลียดพวกทรยศ!" น้ำเสียงเย็นยะเยือกน่าเกรงกลัวเสียจนขนหัวลุก
"แต่บ้านนี้มีลูกสาวหนึ่งคน เธอยังเด็กนะครับนาย จำไม่ผิดน่าจะสิบเก้าปี"
"จับมันไปไว้ที่โรงนา เที่ยงคืนกูจะไปดูหน้ามันที่นั่น!" สิ้นสุดคำสั่งหรินจึงโค้งคำนับเล็กน้อยและเดินออกไป บอดี้การ์ดหนุ่มนำทีมปฏิบัติหน้าที่ตามที่เจ้านายสั่งอย่างไม่ลังเล
โรงนา
"ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้นะ ไอ้พวกบ้า! ไอ้เลว! พวกแกจะทำอะไรฉัน?" หญิงสาววัยรุ่นแหกปากตะโกนก่นด่าชายฉกรรจ์ที่จับตัวเธอมามัดไว้ที่เสาบริเวณกระท่อมร้างในสถานที่อันเปล่าเปลี่ยวและอับชื้น
"นายมาแล้ว!" ยังไม่สิ้นเสียงคำพูดของบอดี้การ์ดเคลลินซ์ก็เดินพรวดพราดเข้ามา
"ถอดเสื้อผ้าอีนี่ออกให้หมดแล้วไสหัวพวกมึงออกไป!" มาเฟียหนุ่มออกคำสั่ง
"กรี๊ดดดดด ไม่นะ! แกจะข่มขืนฉันหรือยังไง ไอ้เลว!"
"สำคัญตัวเองเกินไปหรือเปล่า กูไม่เอาของๆ กูเข้าไปเกลือกกลั้วกับพวกคนสกปรกหรอก อ้าปาก!"
"แกจะให้ฉันทำอะไร?"
"กูสั่งให้อ้าปากและนั่งคุกเข่าลง ถ้าไม่อยากตาย!" มือหนากดหัวไหล่เล็กให้นั่งคุกเข่าลง ส่งผลให้มือเรียวที่ถูกมัดกับเชือกติดอยู่เหนือศีรษะของหล่อน เคลลินซ์ถอดหัวเข็มขัดราคาแพงของตนออกแล้วดึงกางเกงชั้นในลง จากนั้นจึงโอบกุมแท่งมหึมาที่กำลังผงาดตัวเหนือศีรษะของหญิงสาวออกมา แสงไฟในนี้สว่างพอให้หล่อนมองเห็นเส้นเลือดโอบล้อมลำใหญ่ชัดเจน เขากดมันชี้ลงตรงใบหน้าหวานซีดเจื่อน จากนั้นจึงยัดเยียดปลายดอกเห็ดมันวาวเข้าไปประชิดกับริมฝีปากบางของหล่อน
"ทำยังไงก็ได้ให้น้ำมันแตกออกมา!" เคลลินซ์ออกคำสั่ง เธอพยายามหยุดร้องไห้จึงเอาแต่สะอึกสะอื้น หากขัดขืนก็มีแต่เพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่ข้างหน้า จึงจำใจต้องใช้ปลายลิ้นยื่นออกมาแตะสัมผัสปลายดุ้นดอกเห็ดที่คนดินเถื่อนยัดเยียดให้
"อ้าปากแล้วดูดมัน" หล่อนไม่ได้ไร้เดียงสาในเรื่องเช่นนี้ ทว่าชายหนุ่มกลับไม่มีเสียงครวญครางเล็ดลอดออกมาจากปากเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวละเลงลิ้นโลมเลียลงมาตามลำร้อนจนถึงพวงไข่คู่ที่เริ่มตึงขึ้น มันปราศจากเส้นขนรบกวน มาเฟียหนุ่มเชิดหน้าขึ้นพลันหายใจหอบหนักอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นจึงรีบร้อนดึงลำแท่งเนื้อของตนออก เขาชักรูดเอ็นแข็งถี่ขึ้นเพื่อปลดปล่อยน้ำใคร่รักสีขาวขุ่นออกมา มันถูกปลดปล่อยกระเด็นใส่ใบหน้าสวยของหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุอย่างตั้งใจ
"หึ! อ่อนชะมัด" เคลลินซ์เหยียดยิ้มมุมปากพลางจัดแจงกับหัวเข็มขัดของตนเองจนเรียบร้อย จากนั้นร่างสูงกำยำจึงเดินออกไปโดยที่ไม่หันมามองหล่อนแม้แต่หางตา หญิงสาวเอาแต่ก้มหน้าก้มตาและปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
"ขังมันไว้ เค้นเอาความลับมาให้หมด!" เคลลินซ์พูดจบแล้วจึงเดินกลับไปขึ้นรถและขับออกไปทันที
"เอาอีกแล้วใช่ไหมวะ" ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
"พวกมึงก็รู้ๆ อยู่ว่านายไม่ชอบเอากับผู้หญิง อย่านินทาเจ้านายแล้วกลับไปทำงานซะ" หรินสั่งลูกน้อง
"นายครับ นั่นผู้หญิงกำลังวิ่งหนีอะไรครับ" ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบกายไว้วิ่งมาตัดหน้ารถตน
"ไม่ต้องสนใจ กูจะกลับบ้าน!" ทว่าหญิงสาวคนนั้นกลับวิ่งมาเคาะประตูฝั่งที่เคลลินซ์นั่งอยู่
"คุณคะ ช่วยด้วยค่ะ เปิดประตูรถช่วยทีนะคะ มีคนจะฆ่าฉันค่ะ ช่วยฉันด้วยนะคะ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณเลย คุณอยากได้อะไรฉันจะให้คุณทุกอย่างเลย ช่วยฉันทีนะคะ" หญิงสาวอ้อนวอนในขณะที่มือยังคงระรัวลงบนกระจกรถอยู่
ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นจากระยะไกลและใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แม้เคลลินซ์จะเกลียดผู้หญิงแต่เขากลับไม่อยากเห็นใครตายต่อหน้าต่อตา ทว่าจังหวะที่เปิดประตูรถออกไปเพื่อดึงร่างบางเข้ามา ผ้าขนหนูที่พันรอบตัวของเธออยู่ดันหลุดออกจากกายบอบบาง มีเพียงเรือนกายเปลือยเปล่าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเท่านั้นที่กระโดดเข้ามาในรถและนั่งอยู่บนตักแกร่งของตน จากนั้นลูกน้องจึงรีบบึ่งรถออกไปทันที
สองหนุ่มสาวสบตากันในขณะที่มาเฟียหนุ่มมีสีหน้าที่เรียบเฉย หญิงสาวรีบยกไม้ยกมือขึ้นมาปกปิดหน้าอกอวบอิ่มของตนไว้ทันที
"ถอยออกจากตัวฉัน ขยะแขยง!" เคลลินซ์ตะคอกเสียงดัง
"แต่ฉันโป๊อยู่นะ ขอยืมเสื้อหน่อยสิ" เขาไม่สนใจคำพูดของหล่อน ไม่มองแม้แต่หน้าเสียด้วยซ้ำ
"หนีเสือปะจระเข้หรือยังไงกันเนี่ยฮะ! ผู้ชายอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย ใจร้ายใจดํา อ้อ! แต่ก็ขอบใจนะที่อุตส่าห์รับฉันขึ้นมาบนรถ แต่ฉันขอเสื้อคลุมตัวเดียวแค่นี้ไม่ได้หรือยังไงกัน" หญิงสาวพูดใส่หน้าเขารัวเร็วชนิดไม่ลดราวาศอก คนขับรถได้แต่อึ้งไปและไม่กล้าพูดอะไรออกมา
"ก็ได้ งั้นฉันไม่ปิดก็ได้ อยากดูกันนักก็เชิญเลย" สาวเจ้าประชดประชันโดยการเอามือออกจากหน้าอกอวบใหญ่ของตนเอง ในที่สุดเคลลินซ์ก็อดทนไม่ได้จึงจำใจถอดเสื้อสูทตัวโคร่งให้หล่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่แม้แต่จะปรายตามองเต้าขาวอิ่มอันน่าเสน่หาตรงหน้าแม้แต่น้อย
"บ้าชะมัด!"
"ให้ฉันไปบ้านคุณได้ไหม ฉันขอร้องเถอะนะ"
"ไม่ได้!" เขาตอบเสียงแข็งในทันทีทันใด
"ทำไมอ่ะ ฉันเดือดร้อนจริงๆ นะ ฉันขอความช่วยเหลือจากคุณจริงๆ นะ ฉันรู้ว่าคุณ...คุณก็คงร่ำรวยแต่ว่าตอนนี้คุณอยากได้อะไรฉันก็ยอมทั้งนั้นแหละ ฉันโดนตามล่า ได้โปรดนะให้ฉันไปอยู่บ้านของคุณด้วยนะคะ แค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง" เธออ้อนวอนขอความเห็นใจจากคนแปลกหน้า
"จะเอาอย่างนั้นจริงๆ เหรอ" มาเฟียหนุ่มหันขวับมาหาคนข้างกายด้วยแววตามีเลศนัย
"ก็ต้องอย่างนั้นแหละ ได้โปรดเถอะนะฉันไม่มีที่ไปจริงๆ"
"แล้วคิดได้ยังไงว่าอยู่ที่บ้านฉันแล้วจะปลอดภัย"
"ไม่รู้...รู้แต่ว่าคงไม่มีที่ไหนอันตรายเท่ากับที่ๆ มีคนถือปืนไล่ยิงฉันแบบนั้นหรอก"
"ก็แล้วไปสร้างศัตรูไว้ที่ไหนล่ะ"
"เปล่านะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฉันอายุแค่สิบเก้าปีเองนะ จะไปรู้เรื่องได้ยังไงว่าใครจะมาทำอะไรฉันแบบนี้" หญิงสาวคิดแล้วก็ได้แต่โกรธแค้นในใจ เคลลินซ์จึงถอนหายใจเฮือกใหญ่และเอาแต่นั่งเงียบไม่ได้ให้คำตอบจนรถยนต์คันหรูวิ่งเข้ามาจอดในคฤหาสน์ของตน
"จัดการเรื่องเสื้อผ้าให้แม่นี่ด้วย" เขาออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิทหลังลงจากรถ หญิงสาวจึงก้าวตามชายหนุ่มลงไป สิ่งที่ได้เห็นในวินาทีมันน่าทึ่ง ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีบ้านหลังใหญ่โตราวกับวังตั้งอยู่กลางมหานครเช่นนี้ ทั่วบริเวณบ้านมีบอดี้การ์ดราวๆ ไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน ดวงตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ จึงนึกหวาดหวั่นเมื่อเห็นสีหน้าของแต่ละคนนั้นช่างน่ายำเกรง
"นายมันมาเฟียชัดๆ ไอ้คนที่มาตามล่าฉันก็ไม่ใช่มาเฟียเหมือนนายหรอกเหรอ นี่ฉันหนีเสือปะจระเข้ชัดๆ ทำไมชีวิตของฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ" เสียงเล็กโวยวายลั่นบ้าน
"หุบปาก! ฉันให้เธอเข้ามาในบ้านนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ถ้าเกิดว่ายังพูดมากเดี๋ยวจะให้ไอ้พวกข้างนอกมันจับเธอไปชำแหละเนื้อออกทีละชิ้น เดินตามมาแล้วก็หุบปาก!" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดบอกถึงอารมณ์โมโหจริงจัง
"อ้าว...ฉันพูดมากเหรอ?"
"หุบปากแล้วเข้าไปอยู่ในนั้น" เขาพูดเสียงดุและชี้นิ้วไปยังห้องห้องหนึ่ง หญิงสาวเห็นแววตาดุดันจึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย อีกอย่างตนก็รู้สึกเหนื่อยล้ากับวันนี้เต็มทน
"มึงไปทำอะไรให้สมองนายกระทบกระเทือนหรือเปล่าวะ พาผู้หญิงเข้าบ้านเนี่ยนะ ตั้งแต่กูอยู่ที่นี่กับนายมาไม่เคยเห็นผู้หญิงหน้าไหนได้มาเหยียบที่นี่" ลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้น
"เก็บได้ข้างทาง ไม่รู้นายจะเอามาทำไม" คนขับรถตอบ
"หรือนึกอยากเอามาทำเมียวะ?"
"นายไม่เอากับผู้หญิงหรอกเว้ย น่าจะมีเหตุผลอื่นที่เอามาที่นี่ เลิกนินทานายแล้วไปหางานทำกันสิวะ" หรินเดินเข้ามาสมทบจึงทำวงสนทนาแตก
สองชั่วโมงผ่านไปเคลลินซ์ยังคงนั่งอ่านเอกสารในมือภายในห้องที่มีเพียงแสงจากโคมไฟหลอดเดียวเท่านั้น เขาชอบอยู่ในที่สงบและมีความมืดมากกว่าความสว่าง แปลกใจที่วินาทีในหัวสมองกลับมีแต่ภาพของหญิงสาวที่เปลือยหน้าอกนั่งอยู่บนตักตนในรถผุดขึ้นมาเป็นระยะ ชายหนุ่มครุ่นคิดเนิ่นนานก่อนที่จะเรียกให้หรินเข้ามาหา
"ไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้มาให้หมด หล่อนเป็นใครมาจากไหน แล้วก็ประวัติครอบครัวด้วยฉันอยากรู้" หรินรับคำสั่งด้วยความแปลกใจ จากนั้นจึงโน้มศีรษะลงเล็กน้อยและเดินออกไป...