แดนแทพมองหน้าวทนิกาที่ยืนนิ่งแบบนั้นก็ยิ้มมุมปากออกมาทันที เพราะการที่เธอเจอกับเขามันทำให้เธออึ้งขนาดนี้เลยเหรอ ทำให้เขานั้นเลือกที่จะพูดทักทายเธอไปอีกรอบ
“คุณจำผมได้ใช่ไหมครับ เราเคยเจอที่งานวันนั้น...” แดนเทพพูดแล้วใช้สายตามองเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
“คุณพระ สายตาแบบนั้น รอยยิ้มแบบนั้นมันหมายความว่าไงกันนะ ทำไมมันทำให้เรารู้สึกร้อนวูบวาบแบบนี้กัน” วทนิการคิดในใจไปแบบไม่เข้าใจกับตัวเอง ก่อนจะสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไปแล้วตอบเขา
“อ่อ จำได้สิคะ ก็ฉันซุ่มซ่ามไปชนคุณขนาดนั้น ไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีก ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องแบบนี้” วทนิกาตอบเขาไปแล้วก็ยิ้มอ่อนๆตอบไป
“คงเป็นพรหมลิขิตล่ะมั้งครับที่ทำให้เราได้มาเจอกันอีก เชิญนั่งก่อนสิครับ...เราสองคนยังมีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะเลย...หึๆ” แดนเทพพูดไปแบบนั้นเพราะเขานี่แหละคือคนที่สร้างพรหมลิขิตของเธอ
“ค่ะ....” วทนิกาก็พยักหน้าแล้วเธอก็เดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับเขาแบบเกร็งๆ เพราะสายตาที่เขามองมาแบบจดจ้อง มันทำให้เธอรู้สึกขนลุกขนพองเลยทีเดียว
“นี่คือหนังสือสัญญาที่ทางคุณวทนิกาเซ็นกับบริษัทของเราครับนาย” สารินพูดบอกไปก็ส่งเอกสารให้กับแดนเทพไป
“อืม เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง นายออกไปรอข้างนอกไป ฉันจะคุยกับคุณวทนิกาเป็นการส่วนตัว” แดนเทพรับเอกสารมาแล้วเขาก็ไล่สารินออกไปทันที เพราะมันอยู่ไปก็ขัดจังหวะเขาเปล่าๆ
“ครับนาย...” สารินยิ้มให้แล้วเขาก็เดินออกไปทันที ทำให้ตอนนี้เหลือแค่วทนิกาและแดนเทพสองคน
“ทีนี้เราก็มาคุยเรื่องงานของเรากันเลยนะครับ ก่อนอื่นผมอยากจะทราบประวัติส่วนตัวของคุณให้ชัดเจนก่อน...อายุยี่สิบปี สถานะโสด...โสดนี่โสดแบบไหนครับ มีคนคุยอยู่หรือเปล่า” แดเทพถามไปอย่างอยากรู้
“คะ..? เรื่องนี้มันเกี่ยวกับงานที่ฉันจะทำด้วยเหรอคะ” วทนิกาถามไปด้วยสีหน้ายิ้มแห้งๆ
“เกี่ยวสิครับ ไม่งั้นผมจะถามคุณไปทำไมล่ะ...สรุปมีหรือเปล่าครับ” แดเทพตอบไปก็ถามย้ำเธอไปอีก
“อ่อ ก็พอมีคนคุยบ้างนิดหน่อยค่ะ...แต่ฉันจะไม่ให้เรื่องนี้มารบกวนงานแน่นอนค่ะ คุณสบายใจได้เลยนะคะ” วทนิกาตอบไปเพราะมันก็มีคนมาจีบเธอเรื่อยๆ เธอก็พอจะมีบ้าง แค่เธอไม่ค่อยได้สนใจเท่านั้นเองเพราะมัวแต่โฟกัสงาน
“อืม...จากนี้ไปเลิกคุยกับคนที่คุณคุยอยู่ให้หมด ผมไม่ต้องการให้นักเขียนของผมมีความรัก หรือมีความสัมพันธ์ใดๆกับผู้ชายคนอื่น...ในสัญญานี้ระบุว่าคุณต้องโสดในระหว่างที่ทำงานกับผม แค่ห้าปีมันคงไม่เกินความสามารถของคุณหรอกใช่ไหม” แดนเทพพูดไป เพราะเขาจะไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับผู้ชายคนอื่นแน่
“แบบนี้ก็ได้เหรอเนี่ย จะให้เธออยู่แบบโสดๆแค่ปีสองปียังพอไหว นี่ห้าปีเลยนะ ถึงตอนนั้นเราก็อายุตั้งยี่สิบเก้าแล้ว จะไปหาผัวยังไงล่ะ แก่ขนาดนั้น ใครจะมาสนใจเรากัน นี่ในสัญญามันมีข้อห้ามนี้ด้วยเหรอเนี่ย โอ้ย รู้งี้อ่านสัญญาให้ครบทุกหน้าก็ดีอ่ะ...เฮ้อ...” วทนิกาคิดในใจไปอย่างอดไม่ได้
“อ่อค่ะ แค่ห้าปีเอง ไม่เป็นไรค่ะ เพื่องานที่สมบูรณ์แบบ ฉันทำได้ค่ะ” วทนิกาพูดบอกไปแล้วยิ้มให้เขาไปแบบยอมๆ ก็สัญญาเซ็นไปแล้วนิ เธอก็ต้องทำตามไหมล่ะ
“ทำได้ก็ดีครับ...แต่ก่อนที่คุณวทนิกาจะเซ็นสัญญาฉบับนี้ คุณได้อ่านข้อมูลทุกอย่างครบถ้วนดีจริงๆใช่ไหมครับ...” แดนเทพถามไป
“ค่ะ ฉันอ่านครบถ้วนแล้วค่ะ” วทนิกาตอบไปแบบโกหก เพราะเธออ่านแค่หน้าแรกๆเท่านั้น เธอก็เซ็นเลย เพราะเงินตั้งสิบล้านเธอจะชักช้าไปทำไมล่ะ เธอถึงได้ไม่รู้ว่ามันมีห้ามไม่ให้เธอมีแฟนด้วย
“แสดงว่าคุณยอมรับกับข้อเสนอที่ผมเสนอให้คุณทั้งหมดแล้วใช่ไหมครับ” แดนเทพได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าพอใจ เพราะเธอจะปฎิเสธเงินสิลล้านที่เขาทุ่มให้เธอยังไงล่ะ
“ค่ะ ฉันยอมรับกับข้อเสนอที่ทางบริษัทเสนอมาทั้งหมดค่ะ และฉันจะไม่ทำให้บริษัทต้องผิดหวังที่เลือกฉันเข้ามาเป็นนักเขียนของที่นี่ค่ะ...” วทนิกาพูดย้ำไปอีกแล้วเธอก็ยิ้มให้เขา
“อืม คุณรับข้อเสนอได้ก็ดี พรุ่งนี้ผมจะให้สารินไปรับคุณมาอยู่ที่บ้านของผม...คุณเตรียมตัวให้ดีก็แล้วกัน...” แดนเทพบอกไป เพราะเขาได้เตรียมที่เฉือดเธอไว้เรียบร้อยแล้ว
“คะ..? เดี๋ยวนะคะคุณแดนเทพ คุณหมายความว่ายังไงอ่ะคะ ทำไมฉันต้องย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของคุณด้วยคะ...” วทนิกาทำหน้างงๆขึ้นมาทันทีที่เขาพูดแบบนั้น เธอก็รีบถามเขาให้กระจ่างทันที
“ก็คุณต้องมาทำงานที่บ้านผมตามสัญญานี้ไง...ไหนคุณบอกว่าคุณอ่านสัญญาบับนี้ครบแล้วไง คุณไม่รู้เหรอว่างานที่ผมให้คุณทำน่ะ คุณต้องทำอะไรบ้าง...” แดนเทพเห็นเธอทำหน้างงก็ถามไป
“อ่อ ฉันขอโทษค่ะ เมื่อวันก่อนฉันใจร้อนไปหน่อยก็เลยไม่ได้สัญญาให้ครบถ้วน ฉันขอดูสัญญาหน่อยได้ไหมคะ” วทนิกาตอบไปตามตรง ก่อนจะขออ่านสัญญาอีกรอบ
“อืม เอาไปสิ คุณจะได้รู้ว่าหลังจากนี้ คุณจะต้องทำอะไรกับผมบ้าง...” แดนเทพตอบไปก็ส่งหนังสือสัญญาให้เธอ แล้วเขาก็มองเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะเธอน่ะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขาที่วางแผนจัดจัดการกับเธอหรอก มารู้ตัวเอาตอนนี้มันก็สายไปแล้วล่ะ
“ขอบคุณค่ะ....พรึบ...” วทนิการับมาแล้วเธอก็รีบเปิดอ่านหนังสือสัญญาที่เธอเซ็นไปทันที ซึ่งสิบหน้าแรกๆมันเกี่ยวข้องกับงานนิยายตามที่เธอเห็นเมื่อวันก่อน แต่พอเธอเริ่มเปิดเข้าไปหน้าหลังๆแล้วเธอก็ทำหน้าอึ้งจนมือไม้สั่นอย่างทำอะไรไม่ถูกเลย
“นี่มันสัญญาบ้าอะไรกัน....ทำไมฉันต้องนอนกับคุณด้วย....ฉัน ฉันไม่เข้าใจ....” วทนิกาเงยหน้าขึ้นมาแล้วเอ่ยถามเขาไปแบบตกใจกับสิ่งที่เธอได้อ่าน
“ในหนังสือสัญญาก็บอกชัดเจนแล้วว่าเพื่องานเขียนที่มีประสิทธิภาพ คือคุณต้องนอนกับผม ทำทุกอย่างที่ผมสั่ง...ยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีกล่ะ...” แดนเทพตอบไปแล้วเขาก็ยิ้มออกมาด้วยสีเจ้าเล่ห์
“แล้วงานเขียนนิยายมันเกี่ยวอะไรกับนอนกับคุณด้วย...” วทนิกาถามไป
“เกี่ยวสิ ก็คุณเป็นนักเขียนที่ผมจะถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครให้ไง ผมอ่านนิยายของคุณแล้วและผมก็ชอบฉากเซ็กส์ที่คุณเขียนมากๆ...ผมก็เลยคิดว่าคุณเหมาะกับการที่จะมาเขียนนิยายของผมที่สุด...” แดนเทพพูดบอกไปก็มองเธอแบบจดจ้องด้วยสายตาที่หื่นกระหาย
“ฉันไม่เข้าใจ...คุณจะให้ฉันเขียนนิยายให้ แล้วจะให้ฉันนอนกับคุณ เพื่ออะไร..” วทนิกาทำหน้างงๆแล้วถามไปเขาแบบไม่เข้าใจที่เขาพูด
“ก็เพื่อความต้องการของผมไง...ไม่งั้นผมจะเสียเงินสิบล้านให้คุณเพื่ออะไรล่ะ ผมอยากให้คุณมาปลดปล่อยด้านมืดของผม...” แดนเทพบอกไปตามตรง แล้วเขาก็มองเธอด้วยสีหน้าเหี้ยมๆที่พร้อมจะเชือดเธอตลอดเวลา
วทนิกาได้ยินแบบนั้นแล้วมองหน้าของเขาที่ยิ้มแบบร้ายๆนั้นแล้วก็กลืนน้ำลายลงคอทันที เพราะคำพูดและสีหน้าของเขามันบ่งบอกเลยว่านั้นกำลังหื่นๆกับเธอแน่ๆ ไม่ได้ เธอจะยอมรับงานนี้ไม่ได้
“นี่คุณจงใจให้ฉันเซ็นสัญญาบ้าๆนี่ เพื่อมาเป็นนางบำเรอให้คุณงั้นเหรอ ฉันไม่ทำ....ฉันจะยกเลิกสัญญานี้...” วทนิกาปฎิเสธไปทันที เธอจะไม่ยอมเป็นนางบำเรอให้เขาเพราะสัญญางี่เง่านี้แน่
“ถ้าคุณจะยกเลิกสัญญานี้ก็ได้ คุณก็แค่ค*****นสิบล้านมาให้ผม แล้วก็จ่ายค่ายกเลิกสัญญานี้สิบเท่าตามที่ในสัญญาระบุเอาไว้แค่นั้น” แดนเทพก็ไม่ได้สนใจการปฎิเสธของเธอเลย เพราะยังไงเธอก็ต้องทำงานนี้ให้เขาอยู่แล้ว
“ห้ะ! สิบเท่า...คุณจะบ้าเหรอ ฉันจะไปหาเงินเป็นร้อยล้านมาจ่ายให้คุณได้ยังไงกัน” วทนิกาพูดไปแบบอึ้งๆ
“นั่นมันก็เรื่องของคุณ ในเมื่อคุณอยากจะยกเลิกสัญญาคุณก็หาเงินมาจ่ายให้ผมก็แค่นั้น ไม่งั้นคุณก็เลือกที่จะติดคุกเอาก็แล้วกัน แบบนั้นชีวิตที่สวยงามของคุณก็คงจบเห่....แต่ถ้าคุณยอมทำงานนี้ให้ผม นอกจากคุณจะได้เงินสิบล้านแล้ว คุณยังได้ทำงานงานนิยายที่คุณรัก แล้วคุณก็ยังได้เงินเดือนอีกเป็นแสน นี่ยังไม่รวมกับที่คุณจะได้จากผมอีกนะ....คิดให้ดีๆนะคุณ...ว่าคุณจะเลือกอะไร...” แดนเทพพูดไป
วทนิกาได้ยินแบบนั้นก็น้ำตาคลอเบ้าเลย เธอไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะต้องมาเจอกับเรื่องราวบ้าๆอย่างนี้ นี่มันยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าที่เธอเขียนซะอีก เธอจะไปหาเงินที่ไหนมาให้เขา ถ้าไม่ทำก็มีแค่ติดคุกอย่างที่เขาพูดแล้วล่ะ นี่เธอต้องทำงานบ้าๆนี่ให้กับผู้ชายคนนี้จริงๆน่ะเหรอ...
“ผมว่ามันก็ไม่มีอะไรให้น่าคิดมากนะคุณ...คำตอบมันง่ายมากๆ....” แดนเทพเห็นเธอเงียบไปก็พูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก
“ฉันมันซวยจริงๆที่มาเจอผู้ชายอย่างคุณ...ก็ได้ฉันจะยอมทำงานกับคุณ แต่ฉันขอไม่มีอะไรกับคุณได้ไหม...แล้วฉันจะเขียนนิยายตามที่คุณต้องการทุกอย่าง...” วทนิกาพูดเสนอเขาไป
“ไม่ได้..และคุณไม่มีสิทธิที่จะมาต่อรองกับผมด้วย คุณมีหน้าที่ทำตามที่ผมสั่งเท่านั้นอย่างน้อยก็จนกว่าสัญญาของเราสองคนจะสิ้นสุดลง...” แดนเทพพูดไป
“ห้าปีเลยนะคุณ มันนานเกินไปไหม แบบนั้นมันเหมือนกับตกนรกชัดๆ...” วทนิกาพูดไป เพราะเวลาห้าปีมันนานมากเลยนะ
“จะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ เดี๋ยวคุณก็ได้รู้....ต่อไปเรียกผมว่าแดนก็พอ...ไม่ต้องเรียกเป็นทางการหรอก เพราะต่อไปเราสองคนก็คงจะสนิสนมกันมากกว่านี้...คุณชื่อเล่นว่าอะไรนะ ผมจำไม่ได้แล้ว” แดนเทพพูดบอกไป ทั้งที่เขาก็จำชื่อเล่นของเธอได้
“ชื่อเนยค่ะ...คุณจะเรียกฉันยังไงก็เรียกเถอะค่ะ ” วทนิกาพูดตอบเขาไปแล้วทำหน้าตึงๆใส่ เพราะเธอกำลังจะกลายเป็นนางบำเรอของเขาอยู่แล้ว จะให้เธอยิ้มออกมันก็คงไม่ใช่
“อืม...งั้นคุณก็กลับไปเตรียมตัวเก็บของเถอะ พรุ่งนี้เจอกัน....อ่อ แล้วเรื่องสัญญานี่เก็บเป็นความลับด้วยนะ ถ้าคนอื่นรู้ คุณรู้ใช่ไหมว่าใครจะเดือดร้อนที่สุด....” แดนเทพบอกไปแล้วเขาก็ยิ้มให้เธอไปแบบชอบใจ เพราะเขาชอบสีหน้าของเธอตอนนี้มาก
“รับทราบค่ะ....ฉันก็คงไม่เอาเรื่องน่าอายแบบนี้ไปป่าวประกาศหรอกค่ะ ขอตัวเลยนะคะ” วทนิกาพูดตอบไปแล้วเธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที เพราะเธอไม่อยากจะอยู่มองหน้าของเขาอีกต่อไปแล้ว คนหล่อใจร้าย เธอมองไม่ลง
“หึๆ ของเล่นชิ้นใหม่ดูจะพยศน่าดู ดี แบบนี้แหละน่าปราบที่สุด....” แดนเทพพูดไปก็มองก้นงอนๆเดินสะบัดไปมาด้วยรอยยิ้ม จนเธอปิดประตูห้องทำงานของเขาจนลับสายตาไป แดนเทพก็เอนหลังไปแบบมีความสุขกับการที่เขากำลังจะได้ของเล่นชิ้นใหม่มา
ด้านวทนิกาที่เดินออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดใจแบบนั้นก็หันไปมองทางประตูห้องแล้วทำมือจะตีไปแบบหมั่นไส้กับความเจ้าเล่ห์ของแดนเทพ ที่หลอกล่อให้เธอเซ็นสัญญากลายเป็นนางบำเรอของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“คุณกับคุณแดนเรียบร้อยแล้วเหรอครับคุณเนย...” สารินที่นั่งโต๊ะทำงานด้านหน้าเอ่ยถามไป
“คุณใจร้ายมากเลยนะคะที่สาริน คุณน่าจะบอกฉันก่อนว่าสัญญานี้มันทำอะไรบ้าง....คุณก็เจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากเจ้านายของคุณเลย” วทนิกาพูดกับสารินไป เพราะเขาน่าจะบอกเธอสักนิด ไม่ใช่ปล่อยให้เธอเซ็นไปอย่างน่ามืดตามัวแบบนั้น
“ผมขอโทษครับคุณเนย..ผมเองก็ลำบากใจมากเลยครับที่ต้องทำแบบนี้ แต่ผมก็ต้องทำตามที่เจ้านายสั่ง....หวังว่าคุณเนยจะเข้าใจผมนะครับ” สารินก้มหน้าขอโทษทันที เพราะเขาเองก็ต้องทำตามหน้าที่ ถ้าเขาเอ็นดูเธอเขานี่แหละจะเดือดร้อนแทน
“ช่างเถอะค่ะ ตอนนี้มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เพราะความโง่และความโลภของฉันเองแหละค่ะที่ทำให้ฉันต้องตกอยู่ในสถานณการแบบนี้....เฮ้อ....ขอตัวก่อนนะคะ” วทนิกามองสารินก้มหน้าก้มตาขอโทษเธอแล้วก็รู้สึกว่าเธอก็ไม่ควรจะพาลใส่เขา เธอเลยเลือกที่จะเดินออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อยใจกับสิ่งที่เธอกำลังเจออยู่ในตอนนี้