ตอนที่ 1 แสนดีไม่ใช่แสนเลว 4

1126 Words
เด็กๆ ติดแสนดีแจ จูงมือหญิงสาวเดินคนละข้าง คนนอกมองมาคงจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นครอบครัวสี่คนพ่อแม่ลูก ตั้งแต่ลงจากเครื่องบินไปจนถึงผ่านด่วนตรวจคนเข้าเมือง และตลอดทางไปจนถึงจุดรับกระเป๋าเด็กๆ ยังไม่ยอมปล่อยแสนดี ส่งเสียงเจื้อยแจ้วไร้เดียงสาชวนแสนดีคุยหลายเรื่อง แสนดีไม่อยากคุยกับเด็กๆ พยายามจะส่งสายตาให้พ่อเด็กมารับลูกกลับไป ภาคย์เฉยและชิลล์มาก ทอดน่องนับช่องกระเบื้องปูพื้นว่ามีกี่แผ่นหรืออย่างไรไม่ทราบ ถึงได้ช้านัก เข็นรถกลับมาล็อกล้อจอดไว้ คอยมองหากระเป๋าสัมภาระของเขากับลูกๆ และทยอยยกขึ้นเก็บบนรถเข็นทีละใบ “เมื่อวานน้องพิมพ์กับน้องพลอยไปหาที่บ้าน ทำไม ไม่เจอเลยคะ พี่แสนดีไปไหน น้องพิมพ์กับน้องพลอยให้อาหนูดีพูดภาษาอังกฤษถามเพื่อนที่อยู่บ้านเดียวกัน ไม่รู้ว่าพี่แสนดีไปไหน น้องพิมพ์อดเล่นกับพี่แสนดีเลย” “ไปมหา’ลัยหรือเปล่าคะ” แฝดพี่ถามขึ้นมาบ้าง “อาหนูดีบอกว่าพี่แสนดีเรียนจบแล้ว เรียนเก่งมากด้วย พี่แสนดีไม่กลับบ้าน จะทำงานในมหา’ลัย พี่แสนดีเป็นคุณครูมาสอนน้องพลอยเหรอคะ หรือจะเป็นนักเรียน” เด็กๆ ทั้งสองคนถามไร้เดียงสา ยังไม่รู้ความจริงว่าแสนดีไม่ได้ไปไหน อยู่ในบ้านเช่าที่หล่อนแชร์ห้องอยู่กับเพื่อนชาวต่างชาติ เพียงแต่ไม่อยากออกมาเจอเด็กๆ ก็เท่านั้น คงต้องขอบคุณภารดีหรือหนูดี น้องสาวของภาคย์ ที่ไม่ได้บอกความจริงให้หลานฟัง ไม่อย่างนั้นเด็กๆ คงจะเสียใจ แสนดีละอายใจไม่น้อย แต่หล่อนไม่เคยชอบเด็กมาแต่ไหนแต่ไหนแล้ว เด็กเองต่างหากที่เป็นฝ่ายมาชอบหล่อน ทั้งที่หล่อนก็ไม่ได้พาเล่นซนหรือตามใจจนถึงขั้นที่เด็กๆ จะติดงอมแงม ได้เจอกันแค่ปีละครั้งสองครั้งก็ไม่ลืมหล่อน ยังคงเรียกหาพี่แสนดี และคอยเดินตามวิ่งตามหลังอยู่เรื่อย พี่หนูดี แต่งงานกับชายชาวอเมริกัน มีลูก สร้างครอบครัวด้วยกันที่นี่ และมีธุรกิจร้านอาหารไทย คุณพิมล คุณแม่ของภาคย์ตามมาอยู่กับลูกสาวตั้งแต่ช่วงก่อตั้งธุรกิจ เพราะเป็นห่วงกลัวลูกสาวจะอยู่ต่างประเทศคนเดียวไม่ไหว ติดใจอากาศเย็นๆ กับบ้านเมืองที่เจริญจนไม่อยากกลับไทย กอปรกับสามีของท่านเสียไปนานแล้วจึงอยู่ยาวเป็นเวลานานกว่าสิบปี หากท่านคิดถึงหลานสาวฝาแฝดเมื่อใด คุณพิมลมักจะให้ภาคย์พาหลานมาเยี่ยมสม่ำเสมอ รออีกสิบกว่าปี เด็กๆ เดินทางออกนอกประเทศได้เองเมื่อไหร่ คงจะได้ขึ้นเครื่องบินไปอเมริกาจนเบื่อ และไม่แน่ว่าคุณพิมลกับพี่หนูดี อาจจะปูทางให้เด็กๆ มาเรียนที่เมืองนอก เพราะมีเงิน ทุกอย่างจึงฟังดูง่ายไปหมด แสนดีรู้จักกับคุณพิมล เนื่องจากมหาวิทยาลัยอยู่ในรัฐเดียวกับร้านอาหารไทยของของพี่หนูดี หล่อนไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง ต้องทำงานพาร์ทไทม์หาเงินมาใช้จ่ายค่าเช่าบ้านค่าอาหาร ได้ทำงานในร้านพี่หนูดีนานมากกว่าสองปีกว่าจะจบการศึกษา ในช่วงที่ทำงานร้านอาหารแสนดีได้เจอกับภาคย์บ่อยจนเบื่อหน้า เจอกันทีไร เขามักจะเอาเงินมาให้โดยบอกว่าพ่อหล่อนฝากมา แสนดีไม่เคยรับสักครั้ง หล่อนยอมกินน้ำก๊อกประทังชีวิตยังดีกว่ารับเงินเขาคนนั้นมาซื้อข้าวกินให้ท้องอิ่ม ทั้งที่อุตส่าห์ยอมลำบากถึงขั้นนี้ แต่เขาก็ยังไม่หยุดบ้าอำนาจ ลากเอาแม่บ้านที่แสนดีรัก มาข่มขู่ให้ยอมกลับไทย อยากให้กลับนัก แสนดีกลับได้ แต่อย่าหวังว่าจะยอมกลับไปอย่างคนหัวอ่อน แสนดีจะไม่มีวันยอมให้พ่อ คุณแพร หรือพี่ๆ ทั้งสามรังแกได้อีก! “พี่แสนดีง่วงนอนเหรอ ถ้าไปถึงรถ น้องพิมพ์ให้นอนที่เบาะหลัง” “อ้าว แล้วพี่พลอย กับคุณพ่อจะไปนั่งตรงไหนเหรอ” “เราก็นั่งข้างหน้าด้วยกัน กับตาเสริม” “ตาเสริมขับรถเก่ง น้องพิมพ์กับน้องพลอยตัวเล็กนั่งตักคุณพ่อได้” เด็กๆ มีน้ำใจ จะยกที่นั่งกว้างให้พี่แสนดี พี่แสนดีของเด็กๆ ละอายใจไปกันใหญ่ หล่อนแข็งกระด้างได้แค่กับผู้ใหญ่ แต่กับเด็กๆ ถึงจะคอยปฏิเสธโดยการพาตัวเองออกมาให้ห่าง แต่ในวันที่ได้อยู่ใกล้ แสนดีไม่กล้าพูดจาไม่ดี หรือทำนิสัยหัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่ได้ จึงจูงมือเด็กๆ มายืนตัวติดกันแล้วกอดพร้อมกันให้อบอุ่น “พี่แสนดีไม่ง่วงค่ะ น้องพิมพ์กับน้องพลอยนั่งสบายๆ ได้เลยนะคะ ส่วนเรื่องงาน พี่แสนดีไม่ได้ทำงานที่มหาวิทยาลัยแล้วค่ะ พี่แสนดีกลับมาอยู่ไทย จะหางานทำที่นี่ ไว้ถ้าได้งาน พี่แสนดีจะบอกน้องพิมพ์กับน้องพลอยคนแรกเลยนะคะ แล้วก็จะพาไปเลี้ยงไอศกรีมด้วยดีไหม” “ดีค่ะ/ดีค่ะ สัญญานะ น้องพิมพ์กับน้องพลอยชอบกินไอศกรีม” “สัญญาค่ะ” เกี่ยวก้อยกับเด็กๆ ไว้ก่อน ถึงตอนได้งานทำ อาจจะไม่ได้เจอเด็กๆ อีกแล้วก็ได้ ทำตัวเนียนลืมคำสัญญาในวันนี้ ไว้วันหน้าบังเอิญเจอกันอีกครั้งค่อยทำทีเป็นว่าจำได้ แล้วพาเด็กๆ ไปเลี้ยงก็ไม่สาย แสนดีแค่ชื่อเท่านั้น นิสัยจริงๆ ของหล่อนเจ้าเล่ห์จนไม่น่าคบหา “ไงจ๊ะเด็กๆ คุยกับพี่แสนดีพอหรือยัง เราจะกลับบ้านกันแล้วนะ คุณพ่อได้กระเป๋ามาครบแล้ว” คุณพ่อตามมาสมทบกับลูกสาวทั้งสองคน ลากรถเข็นที่มีกระเป๋าสัมภาระสามใบนอนเรียงเป็นระเบียบ แสนดีหันขวับมาตามเสียงห้าวของภาคย์ นับจำนวนกระเป๋าบนรถเข็นได้แค่สามใบ “แล้วกระเป๋าของฉันล่ะ! อุตส่าห์ดูลูกให้ ไม่...” แสนดีอยากจะกรี๊ดดังๆ ทว่าหญิงสาวต้องหุบปากฉับพลันเพราะมีเด็กๆ อยู่ด้วย ด่าภาคย์ทางสายตาว่าเขาไม่ได้เรื่องเลย เห็นแก่ตัว ยกลงจากสายพานแค่กระเป๋าของตัวเองกับลูกสาว แต่ไม่มีน้ำใจถามว่าใบไหนของหล่อน! ภาคย์ทำหน้าตาเหมือนเพิ่งจะคิดได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD