ภาพการนั่งสนทนากันระหว่างผู้เป็นแม่กับนางกิ่งอยู่ในสายตาของอินทัชที่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยินเข้าตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตกใจเท่าไหร่เรื่องที่พลอยบุหลันท้องเพราะเขาเองก็แอบหวั่นไว้อยู่ก่อนแล้ว แต่เรื่องที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่าเห็นทีจะหนีไม่พ้นเรื่องที่เธอกำลังจะถูกผู้เป็นป้าส่งตัวไปอยู่ที่อื่นนั่นต่างหาก ที่มันทำให้เขาทนอยู่เฉยต่อไปไม่ได้
“ป้ากิ่งครับ” สุดท้ายก็เลือกที่จะเดินตามแม่บ้านวัยชราออกมาเงียบๆ ก่อนจะร้องเรียกแกเอาไว้ เพราะว่ามีบางเรื่องที่อยากจะพูดด้วย
“คุณทัชมีอะไรจะใช้ป้าเหรอคะ” นางกิ่งถามพร้อมทั้งจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา ซึ่งอีกคนก็พอจะรู้ว่าต้นเหตุมันมาจากอะไร และเขาไม่โกรธเลยสักนิดที่จะถูกป้าของพลอยบุหลันมองเช่นนี้
“คือว่าผม…”
คำพูดมากมายที่คิดเอาไว้ก่อนหน้าพลันมีแต่จะค่อยๆ เลือนหายไปจากหัวเมื่อได้เจอเข้ากับสายตาจงเกลียดจงชังของอีกฝ่ายเข้า มันทำให้อินทัชไม่กล้าพอที่จะพูดความจริง มันทำให้อีกคนต้องพูดแทน
“ถ้าคุณทัชไม่มีอะไรจะพูด ป้าขอตัวก่อนนะคะ”
“เด็กในท้องของเทียนเป็นลูกผม!” อินทัชสารภาพความจริงด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง และได้ผล มันทำให้คนที่ตั้งท่าจะเดินหนีชะงักงัน
“แล้วคุณทัชมาบอกเรื่องนี้กับป้าทำไมคะ” ก่อนที่หญิงชราจะทำให้เขาต้องตกใจด้วยคำถามที่ดังขึ้นตามมาติดๆ เหมือนไม่ได้ตกใจต่อคำสารภาพของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ต่างจากเขาที่ลุ้นจนแทบบ้ากว่าจะมีความกล้ามากพอที่จะพาตัวเองมาสารภาพผิด
“อะไรนะครับ”
“ป้าว่าคนที่คุณทัชสมควรไปบอกเรื่องนี้ด้วยน่าจะเป็นคุณหญิงมากกว่านะคะ แต่ถ้าหากคุณทัชไม่กล้า ก็ปล่อยนังเทียนกับลูกมันไปเถอะค่ะ ป้าจะถือเสียว่าหลานสาวของป้ามันกรรมหนัก จากนี้ไปก็ทางใครทางมัน อย่าได้มายุ่งเกี่ยวหรือจองเวรกันอีกเลย” หญิงชราฝากไว้ให้ได้คิด ก่อนจะเดินหนีไป แล้วไม่คิดที่จะหันกลับมาสนใจใยดีเขาอีกเลย
ปล่อยไปอย่างนั้นเหรอ!
แค่คิดว่าวันหนึ่งข้างหน้าเขาจะไม่ได้เห็นใบหน้าของคนอวดดีทั้งๆ ที่ก็แทบไม่มีอะไรให้อวดหัวใจก็แทบร้อนเป็นไฟ ไหนจะลูกเขาอีก!
แค่คิดเขาก็ทนไม่ได้แล้ว เรื่องที่ว่าจะให้เขาตัดใจปล่อยหล่อนกับลูกในท้องไปลืมไปได้เลย เพราะมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!
สีหน้าของบุตรชายในตอนที่เข้ามาหาพร้อมบอกว่ามีเรื่องสำคัญบางอย่างจะพูดด้วยทำให้คุณทอแสงรู้สึกไม่ดี ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะมีโอกาสได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของลูก นั่นทำให้รู้ว่าเรื่องที่อินทัชจะพูดด้วยคงเป็นเรื่องสำคัญ แต่จะเป็นเรื่องอะไรแบบไหนนั้นก็ยากเกินกว่าจะคาดเดา
“แกมีเรื่องอะไรจะคุยกับแม่” อินทัชเงยหน้าขึ้นมองมารดาอยู่ครู่ ก่อนที่เขาจะสารภาพความจริง ถึงสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไปออกมา
“ลูกในท้องของเทียนเป็นหลานของแม่ครับ!”
“อะไรนะ! นี่แก! แกรู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมาห๊ะอินทัช!” คนมีความผิดติดตัวพยักหน้ารับเบาๆ อย่างคนยอมรับความผิด การกระทำนั้นยิ่งทำให้ผู้เป็นแม่อยากจะเป็นลมไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสีย ตลอดเวลานายคอยแต่จะสอนให้ลูกเป็นคนดี แต่ไหนเลยคำสอนเหล่านั้นมันถึงไม่เคยเข้าหัว ซ้ำยังสร้างเรื่องปวดหัวมาให้ต้องตามแก้ให้ไม่รู้จักจบจักสิ้น
“แล้วแกจะเอายังไงต่อ! นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะตาทัช” จนเมื่อตั้งสติได้ถึงได้ถามออกไป อย่างไรเรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าลูกชายของนางจะตั้งใจให้มันเกิดหรือไม่ยังไงอินทัชก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ นางไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนมาตราหน้าลูกชายของตัวเองได้ว่าเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ
แม้จะมั่นใจเกินร้อยเหลือเกินว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคงเกิดจากความผิดพลาดของลูกชาย เพราะเท่าที่เห็นอินทัชมักจะชอบหาเรื่องพลอยบุหลันอยู่บ่อยๆ คงไม่มีทางทำให้อีกฝ่ายตั้งท้องเพราะความรักแน่นอน
“ผมจะแต่งงานกับน้องแววเหมือนเดิมครับ ส่วนเทียนกับลูก…ก็ให้อยู่ที่นี่ต่อไป ผมจะส่งเสียเลี้ยงดูเด็กทุกอย่าง ส่วนแม่เด็กก็อาจให้เงินเธอสักก้อน…เพื่อเป็นการปลอบขวัญ” อินทัชหาทางแก้ไข โดยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของใครต่อใครว่าจะได้รับผลกระทบต่อคำพูดเขาแค่ไหน เรื่องลูกไม่ใช่สิ่งที่เขาหวังจะเกิดขึ้น แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเขาก็จะรับผิดชอบ แต่ครั้นจะให้เขาแต่งงานกับพลอยบุหลันเขาก็คงทำไม่ได้
เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอมันคือความต้องการทางเพศ ไม่ได้มาจากความรักอย่างที่เขารู้สึกกับคนรักอย่างแววดาว
“นี่แกใช่ลูกฉันจริงๆ ไหมเจ้าทัช แกคิดว่าจะมีผู้หญิงสักกี่คนยอมรับเรื่องบ้าบอแบบนี้ได้ห๊ะ ไหนจะหนูแววอีกล่ะ ถึงต่อให้หนูแววเขายอม ครอบครัวของเขาคงจะยอมรับเรื่องบ้าๆ นี่ได้ตายล่ะ ฉันจะทำยังไงกับแกดีเนี่ย!” คุณทอแสงตวาดลั่นอย่างรับไม่ได้ในความคิดของลูกชาย ไม่อยากจะเชื่อว่านางจะได้ยินคำพูดที่ขาดความรับผิดชอบจากลูกแท้ๆ ของตัวเอง เท่าที่จำได้นางไม่เคยสอนให้ลูกเป็นคนแบบนี้
“แล้วแม่จะให้ผมทำยังไง หรือต้องให้ผมแต่งงานกับหลานสาวแม่บ้านมันถึงจะพอใจแม่!” เพราะมารดาเอาแต่ต่อว่าอินทัชจึงประชดกลับไปบ้าง
เขาไม่เชื่อหรอกว่าแม่จะยอมรับสะใภ้ที่มาก้นครัวได้ ถึงต่อให้แม่ยอมรับ พลอยบุหลันก็แทบไม่มีอะไรคู่ควรหรือเหมาะสมกับเขาเลยสักอย่าง หากลองเทียบกับผู้หญิงที่เพียบพร้อมมากกว่าอย่างแววตายังไงก็ดีกว่าเห็นๆ
“มันก็ควรต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่รึไง! แกทำเขาท้อง แล้วยังจะมีหน้าโยนเงินให้เขาเป็นค่าทำขวัญ นี่แกไม่รู้จริงๆ เหรอว่าสองป้าหลานนั่นซื้อด้วยเงินไม่ได้!” หากซื้อได้ป่านนี้ป้ากิ่งคงได้มาฉีกอกกันถึงที่แล้ว แต่ที่อีกฝ่ายเลือกที่จะบอกปัด นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากให้หลานสาวของตัวเองไปจากที่นี่ แต่ไม่ว่ายังไงนางก็ยอมให้พลอยบุหลันกับลูกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น นั่นน่ะหลานของนางทั้งคนเชียว!
“ผมไม่แต่ง! แม่คิดว่าคนอื่นเขาจะมองผมยังไงที่ได้หลานสาวคนใช้มาเป็นเมีย ให้ตายผมก็ไม่แต่ง ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ผมจะแต่งด้วยคือน้องแววเท่านั้น!” จนเมื่อคนทำผิดแต่กลับไม่ได้รู้สึกเลยสักนิดว่าสิ่งที่ตนทำผิด นางก็เริ่มหมดคำพูดหรือบางทีต้องปล่อยเลยตามเลย
“แกคิดได้แค่นี้จริงๆ เหรอตาทัช!”
“หรือว่าแม่มีทางออกที่ดีกว่านี้ครับ” ให้ตายเถอะ ทางออกน่ะนางมีอยู่แล้ว แต่เชื่อเถอะว่ามันคงไม่ใช่ทางออกที่พ่อตัวดีตรงหน้าจะยอมรับแน่ รู้ได้เพราะนางเลี้ยงลูกมากับมือ ย่อมรู้นิสัยใจคอของลูกดี
“ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่แกเลย อยากทำอะไรก็ทำไป แต่แม่ขอเตือนแกเอาไว้ก่อนนะ แกเลือกได้แค่คนเดียว แล้วไม่ว่าสุดท้ายแกจะเลือกใครก็ขอให้จำใส่สมองเอาไว้เลยว่าต้องมีอีกคนที่เจ็บปวดกับการกระทำของแก!” อินทัชไม่ได้ตอบโต้อะไรครั้งนี้ เพราะเรื่องนั้นเขารู้ดีแก่ใจ ว่าไม่ว่าสุดท้ายเขาจะแต่งกับคนไหน ก็ต้องมีอีกคนที่เจ็บปวดอยู่ดี
แต่จะให้เขาทำยังไงได้ ในเมื่อถ้าต้องเลือกจริงๆ เขาก็ต้องเลือกคนที่เขารักอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคนๆนั้นไม่ใช่พลอยบุหลันอย่างแน่นอน