ตอนที่ 3

860 Words
“เท่าที่ผมสืบประวัติมาน่าจะใช่นะครับ เดี๋ยวท่านชายลองคุยกับเธอก่อนนะครับ” เกริกเกียรติ ทนายความประจำตระกูลอัครโยธการเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้นเมื่อเด็กสาวที่เขานัดเอาไว้เดินทางมาถึง “เชิญนั่งครับคุณอัจฉรา...” เด็กสาวแต่งตัวน่ารักยกมือไหว้หม่อมราชวงศ์อติเทพอย่างนอบน้อม ก่อนจะทรุดกายลงนั่ง จากนั้นก็รีบจีบปากจีบคอพูดออกมาเสียงอ่อนเสียงหวาน “สวัสดีค่ะคุณปู่ หนูคือแม้นสรวงหลานสาวของคุณปู่ยังไงล่ะคะ” คนฟังขมวดคิ้วมุ่นทันที “เอ่อ หนู... ทำไมหนูถึงคิดว่าตัวเองเป็นหลานสาวของฉันล่ะ” เด็กสาวตรงหน้าระบายยิ้มกว้าง จากนั้นก็เริ่มพูดขึ้นเป็นฉากๆ “คือ... หนูอ่านเจอข้อความประกาศหาหลานสาวของคุณปู่ทางหนังสือพิมพ์ และเรื่องราวทั้งหมดมันก็ตรงกับชีวิตหนูเลยค่ะ” “มันตรงยังไงล่ะหนูอัจฉรา...” หม่อมราชวงศ์อติเทพถามอย่างสนใจ เขายินดีรับฟัง แต่จากความรู้สึกแล้วเด็กคนนี้ไม่มีทางเป็นยายหนูของเขาไปได้ เพราะไม่มีกระแสความผูกพันอะไรสะท้อนออกมาให้เขาได้รู้สึกเลย “คือหนู... กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่สิบสองปีก่อนค่ะ เพราะพ่อกับแม่ของหนูจมน้ำตาย ส่วนหนูก็ถูกคนมีเมตตาอุปการะเลี้ยงดูมาจนโตค่ะ...” “ตอนที่พ่อกับแม่ของหนูจมน้ำ... หนูไม่ได้อยู่กับทั้งสองคนหรอกหรือ” คำถามของหม่อมราชวงศ์อติเทพทำให้เด็กสาวอึกอักอยู่นานก่อนจะตอบออกมา “คือว่าหนู... หนูจำไม่ค่อยได้ค่ะ แต่เห็นป้าที่เลี้ยงหนูมาบอกว่าไม่ได้อยู่ค่ะ บอกว่าหนูนั่งอยู่ที่ชายหาด...” “อย่างนั้นหรือ...?” “ค่ะ คุณปู่...” จบคำของเด็กสาวตรงหน้า หม่อมราชวงศ์อติเทพก็ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็หันไปจ้องหน้าทนายความของตัวเองด้วยสายตาไม่พอใจ “คุณเกริก... ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะชุ่ยแบบนี้ ข้อมูลจากเด็กคนนี้มันก็เป็นข้อมูลทั่วๆ ไปที่ทุกคนสามารถตอบได้ และแน่นอนว่าเด็กคนนี้ไม่มีทางใช่ยายหนูของผม...” “ท่านชายครับ ผม...” คนเป็นทนายความรีบผุดลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ละล่ำละลักออกมา “ผม... ผมขอโทษครับ...” “ไม่ต้องมาขอโทษ... ผมให้โอกาสคุณอีกครั้งเดียวเท่านั้น ถ้ายังพลาดอีกละก็ ผมจะไล่คุณออก” หม่อมราชวงศ์อติเทพพูดจบก็ก้าวยาวๆ ออกไปอย่างหัวเสีย ทิ้งให้เกริกเกียรติถอนใจออกมาด้วยความหนักใจ “ทำไมถึงได้หายากหาเย็นนักนะ...” “คุณลุงคะ ตกลง... หนูจะได้เป็นหลานสาวของผู้ชายคนเมื่อกี้ไหมคะ” เสียงหวานๆ ของเด็กสาวทำให้เกริกเกียรติต้องหันไปมอง เขากระแทกลมหายใจออกมาอีกก่อนจะพูดออกมาอย่างรำคาญ “แล้วหนูใช่หลานสาวของท่านชายจริงๆ หรือเปล่าล่ะ” “หนูไม่รู้...” “อ้าว... ไม่รู้ แล้วทำไมตอนที่ลุงสอบถามประวัติจากหนูและป้าของหนู ทุกคนถึงบอกว่าใช่กันล่ะ” เด็กสาวยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะสารภาพออกมา “ก็หนูจำอะไรไม่ได้นี่คะ เห็นป้าบอกว่ายังไง หนูก็พูดแบบนั้นแหละค่ะ” “แล้วตกลงพ่อกับแม่ของคุณจมน้ำตายจริงๆ เหรอ” คนถูกถามส่ายหน้าน้อยๆ “ไม่ได้จมน้ำตายหรอกค่ะ แต่ถูกรถชนตายทั้งคู่...” “อ้าว... อย่างนี้ก็หลอกลุงน่ะสิ” เกริกเกียรติอุทานดังลั่น ก่อนจะถอนใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เขาผิดเองนั่นแหละที่รีบร้อนจนไม่ทันได้สอบถามอะไรมากนัก เนื่องจากท่านชายใจร้อนอยากพบหลานสาวมากหลังจากที่พยายามเสาะหามานานตั้งสิบสองปีแต่ก็ยังไม่พบเจอ แต่หายังไงก็ยังไม่เจอ ไม่รู้ว่าคุณหญิงแม้นสรวงยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างที่ท่านชายคาดหวังหรือเปล่า “หนู... ไม่รู้ค่ะ ป้าบอกให้พูดแบบนี้” “แล้วปานล่ะ ปานรูปหัวใจที่หลังมีหรือเปล่า” คนฟังส่ายหน้าดิกอีกครั้ง “ไม่มีหรอกค่ะ หนู... โกหก...” จบกัน... ตอนนี้เขาทำพลาดอีกแล้ว ทำพลาดเป็นครั้งที่ร้อยแล้วละกับภารกิจควานหาตัวหลานสาวสุดที่รักของเจ้านาย “ไป... ออกไปได้แล้ว...” “หนูไปก็ได้ค่ะ แต่หนูขอเงินสักหน่อยได้ไหมคะ” เกริกเกียรติกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะรีบหยิบธนบัตรสีเทาให้กับเด็กสาวตรงหน้าเพื่อตัดความรำคาญ จากนั้นก็ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาอีกครั้ง สมองเต็มไปด้วยความเครียดที่มองหาหนทางออกไม่พบ แล้วนี่เขาจะทำยังไงดีนะ จะทำยังไงดีถึงจะสามารถหาคุณหญิงแม้นสรวงหลานสาวของหม่อมราชวงศ์อติเทพพบได้ ทนายวัยกลางคนผ่อนลมหายใจออกจากปากเบาๆ อย่างเหนื่อยหน่าย ดวงตาเต็มไปด้วยความหนักอกหนักใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปจากห้องสูทนั้นอีกคน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD