ตอนที่ 3

2491 Words
สิงหานั่งดื่มวิสกี้อย่างใจเย็นภายในชั้นบนสุดของตึกหรูที่เป็นที่ตั้งของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ S&K คอเปอร์เรชั่นจำกัด มหาชน ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มือเรียวแกร่งหมุนแก้วน้ำสีอำพันอย่างใช้ความคิด ผู้หญิงคนนั้นต้องได้รับการลงโทษ แผนการทุกอย่างที่เขาวางไว้กำลังเดินหน้าเต็มตัว เมื่อชายหนุ่มสืบรู้ชื่อ ประวัติ ที่อยู่ และทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่ชื่อว่า เพียงฟ้า เดชดำรง ไว้ได้แล้วจนหมดสิ้น แผนที่จะชำระความแค้นของเขาก็เริ่มต้นขึ้นทันที และเหมือนกับว่าสวรรค์เป็นใจ เมื่อที่ดินของไร่เพียงฟ้าถูกนำไปใช้เป็นหลักทรัพย์ในการกู้ยืมเงินมาลงทุนหมุนเวียนภายในไร่ และธนาคารที่หญิงสาวเอาหลักทรัพย์ไปกู้นั้นเป็นธนาคารที่เขาเป็นลูกค้ารายใหญ่เสียด้วย การที่อยากจะเข้าไปร่วมทุนทำธุรกิจด้วยจึงไม่น่ามีปัญหาเพราะทางธนาคารเองก็ไม่ต้องการให้เกิดหนี้สูญ และก็เห็นว่าสิงหาเป็นลูกค้าชั้นดีเยี่ยมและอาจจะสนใจธุรกิจของไร่เพียงฟ้าจนถึงขั้นไถ่ถอนที่ดินออกไปเลยก็เป็นได้ แต่ใครเลยจะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่สิงหาทำนั้นมันมาจากความแค้นล้วนๆ ที่มีต่อหญิงสาวที่ชื่อเพียงฟ้า เดชดำรง เขาต้องการที่จะแก้แค้นหญิงสาวคนนี้ คนที่ทำให้คนรักของเขาต้องมาจบชีวิตลงในวันแต่งงาน ในเมื่อเขาไม่มีความสุข ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่สมควรที่จะมีความสุขเหมือนกัน ยิ่งคิดสิงหาก็ยิ่งเจ็บปวด มือแกร่งบีบแก้ววิสกี้ไว้แน่น และก่อนที่แก้ววิสกี้จะแตกคามือชายหนุ่มเลขาคนสนิทของเขาก็เดินเข้ามารายงานความคืบหน้าให้เขาได้รับรู้ “ปลาติดเหยื่อแล้วครับเจ้านาย” “ดี แล้วนัดหมายเวลาเอาไว้แล้วใช่ไหม” สิงหาพูดพร้อมแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ “ครับ คุณเพียงฟ้านัดจะเข้ามาคุยรายละเอียดกับผมในวันพรุ่งนี้ครับเจ้านาย แล้วเจ้านายจะให้ผมทำยังไงต่อไปครับ” ยงยุทธรายงานความคืบหน้าของงานนี้ให้กับผู้เป็นนายได้รับรู้ สิงหาเงยมองหน้าของลูกน้องคนสนิทก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วเดินผ่านหน้ายงยุทธไปหยุดยืนอยู่ที่กระจกบานใหญ่ ดวงตาสีสนิมมองออกไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านอยู่ภายนอก ยงยุทธมองผู้เป็นนายนิ่ง เขาไม่รีบร้อนที่จะเอาคำตอบ เพราะถึงยังไงเจ้านายของเขาก็ต้องบอกแผนการต่อไปกับเขาอยู่ดี และการรอคอยของยงยุทธก็สิ้นสุดลง เมื่อสิงหาหันกลับมามองหน้าเลขาคนสนิทแล้วพูดตอบคำถามออกมาในที่สุด “ทำยังไงต่อน่ะเหรอ นายก็ต้องทำให้ผู้หญิงที่ชื่อเพียงฟ้ายอมร่วมทุนกับฉันให้ได้น่ะสิ และทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นลงชื่อร่วมทุนในสัญญาของเราแล้วนายก็โอนเงินก้อนแรกให้ไปเลย แล้วเร่งให้เจ้าหล่อนใช้เงินของฉันให้เร็วที่สุด และจำเอาไว้ให้ดีด้วยว่าทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นมาขอเบิกเงินงวดที่สองนายจะต้องรายงานฉันทันที เพราะเงินงวดที่สองผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นคนมารับไปกับมือของฉันเองยังไงล่ะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ เข้าใจไหม” เสียงหัวเราะของสิงหาที่ดังออกมานั้นถึงกับทำให้ยงยุทธเลขาคนสนิทขนหัวลุกขึ้นมาทันทีทันใด เสียงหัวเราะของเจ้านายทำให้ชายหนุ่มหนาวยะเยือกเข้าไปถึงในอก ความแค้นของเจ้านายที่มีต่อผู้หญิงที่ชื่อเพียงฟ้านั้นมันช่างมีมากมายนัก ก่อนจะตอบรับคำคนเป็นนายออกไป “รับทราบครับเจ้านาย” “หมดธุระแล้วใช่ไหม นายออกไปได้แล้วฉันต้องการอยู่คนเดียว” สิงหาพูดพร้อมกับกระดกวิสกี้ในแก้วที่อยู่ในมือเข้าปากรวดเดียวหมด ก่อนที่จะปรายตามองร่างของยงยุทธลูกน้องคนสนิทที่เดินออกไปจากห้องพร้อมๆ กับประตูบานใหญ่นั้นถูกปิดลง ใบหน้าหล่อเหลาของสิงหาหันกลับมามองที่แม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับเสียงพูดลอดไรฟันที่พูดบอกกับตนเองว่า “เวลาที่นายจะได้ชำระแค้นใกล้มาถึงแล้วสิงหา รออีกนิดเดียวเท่านั้น!” S&K คอเปอร์เรชั่น บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ S&K คอเปอร์เรชั่นจำกัด มหาชน ที่ในเช้าวันนี้เพียงฟ้าได้เดินทางเข้ามาพูดคุยตกลงในเรื่องการร่วมทุนทำธุรกิจกับคนที่สนใจไร่องุ่นของเธอ และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความราบรื่น จนหญิงสาวเองแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทุกอย่างมันช่างรวดเร็วและง่ายได้เหลือเกิน นิ้วเรียวจรดปากกาเซ็นสัญญากับอีกฝ่ายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง และบัดนี้เงินก้อนแรกในการดำเนินธุรกิจก็วางอยู่ตรงหน้าหญิงสาวแล้ว “นี่ดิฉันฝันไปหรือเปล่าคะคุณยงยุทธ ทำไมมันถึงได้รวดเร็วเช่นนี้ล่ะคะ” เพียงฟ้าพูดถามชายหนุ่มที่นั่งยิ้มอยู่ตรงหน้าหญิงสาวอยู่ในขณะนี้ “คุณไม่ได้ฝันไปหรอกครับคุณเพียงฟ้า นี่คือเรื่องจริง ก็อย่างที่ผมได้เรียนให้คุณเพียงฟ้าทราบนั่นแหละครับว่าเจ้านายของผมท่านเป็นคนใจร้อน ท่านอยากจะเห็นไร่องุ่นที่ร่วมทุนกับคุณพลิกฟื้นกลับมาได้อีกครั้งหนึ่งน่ะครับ” ใบหน้างามพยักขึ้นลงฟังคำอธิบายของอีกฝ่ายด้วยความตั้งใจอยู่ตลอดเวลา “อีกอย่างแนวคิดของคุณเพียงฟ้าที่จะปรับปรุงพื้นที่ของไร่องุ่นครึ่งหนึ่งให้เปลี่ยนไปเป็นแปลงปลูกผักปลอดสารพิษที่คนรักสุขภาพกำลังนิยมกันอย่างมากเจ้านายผมก็สนใจ แถมยังจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมในไร่องุ่นในบางส่วนอีกด้วย ธุรกิจเห็นผลกำไรเหนาะๆ แบบนี้เจ้านายผมไม่อยากร่วมทุนก็บ้าแล้วล่ะครับ”นายยงยุทธพูดไม่หยุดเลยทีเดียว ก่อนจะนึกขึ้นได้ “อ้อ...เจ้านายผมท่านกำชับมาอีกอย่างว่าให้คุณดำเนินงานได้อย่างเต็มที่เลยนะครับ และก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินด้วย ท่านพร้อมจะจ่ายเงินงวดที่สองให้ทันทีที่ทางคุณเพียงฟ้าขอเบิกมานะครับ” คำพูดของยงยุทธที่บอกออกมาทำให้หญิงสาวที่ยิ้มแก้มปริด้วยความดีใจอยู่นั้นแทบอยากกระโดดกอดคอชายหนุ่มยิ่งนัก ถ้าหากว่าเจ้านายของชายหนุ่มตรงหน้านี้ให้เงินอัดฉีดในการทำธุรกิจของเธอเช่นนี้แล้วละก็รับรองได้เลยว่าไร่องุ่นเพียงฟ้าของหญิงสาวนั้นต้องกลับฟื้นคืนมาได้อย่างแน่นอน ขอบคุณคุณยงยุทธมากเลยนะคะที่กรุณา”เพียงฟ้าพูดบอกปากคอสั่นด้วยความดีใจ “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ขอบคุณเจ้านายของผมดีกว่า ท่านต่างหากที่คุณจะต้องขอบคุณ” ยงยุทธพูดน้ำเสียงราบเรียบ นึกเห็นใจหญิงสาวตรงหน้าไม่ใช่น้อย แต่จะให้ขัดคำสั่งเจ้านายของตนเองนั้นเขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน ได้แต่ภาวนาในใจว่า ‘ผมก็ขอให้คุณโชคดีนะคุณเพียงฟ้า หวังว่าคุณสิงหาจะเมตตาคุณบ้าง’ “อ้อ... แล้วฉันจะได้พบกับเจ้านายของคุณเมื่อไหร่เหรอคะคุณยงยุทธ” “ก็ถ้าคุณทำเรื่องเบิกเงินค่าใช้จ่ายงวดที่สองมาเมื่อไหร่ คุณก็จะได้พบกับท่านเองแหละครับ” คำพูดของยงยุทธสร้างความอยากรู้ให้กับเพียงฟ้าเป็นยิ่งนัก “ทำไมต้องรอให้ฉันเบิกเงินค่าใช้จ่ายงวดที่สองด้วยล่ะคะ ฉันขอพบเจ้านายของคุณก่อนเพื่อขอบคุณเขาเลยไม่ได้หรือคะคุณยงยุทธ” เพียงพูดถามออกไปอย่างที่ใจคิด “ไม่ได้หรอกครับคุณเพียงฟ้า เพราะว่าตอนนี้ท่านไม่ได้อยู่ที่เมืองไทย ท่านเดินทางไปดูธุรกิจที่เมืองนอกครับ ท่านสั่งไว้ว่าถ้าคุณส่งค่าใช้จ่ายงวดที่สองเมื่อไรท่านจะมาพบกับคุณเองครับ ถ้าหากคุณเพียงฟ้าอยากพบกับท่านเร็วๆ คุณเพียงฟ้าก็คงต้องส่งค่าใช้จ่ายเร็วหน่อยละครับ เพราะว่าเงินงวดที่สองที่คุณเพียงฟ้าจะได้รับเจ้านายของผมจะนำมาให้ด้วยตัวของท่านเองเลยนะครับ” ยงยุทธพูดตามแผนที่เจ้านายของเขาต้องการให้กับหญิงสาวฟัง และดูเหมือนว่าเพียงฟ้าจะอยากที่จะพบและขอบคุณผู้ร่วมทุนคนนี้เป็นอย่างมาก “จริงๆเหรอคะคุณยงยุทธ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ฟ้าเข้าใจแล้วค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฟ้าขอตัวนะคะ” หญิงสาวพูดบอกออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขยิงนัก “เชิญเลยครับ ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว” ยงยุทธพูดตอบกลับไปอย่างมีไมตรีเช่นกัน ก่อนที่จะยกมือขึ้นรับไหว้หญิงสาวตรงหน้าที่ยกมือกระพุ่มไหว้ตนเองด้วยความขอบคุณ “ลาล่ะค่ะ” “ครับ โชคดีครับ” ยงยุทธมองตาร่างงามระหงของหญิงสาวไปจนลับสายตา ก่อนที่จะยกโทรศัพท์ต่อสายภายในไปที่ห้องของผู้เป็นนายในเวลาต่อมา และกรอกเสียงพูดบอกออกไปทันทีที่ปลายสายกดรับว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยครับเจ้านาย” “ทำได้ดีมาก!!!”ปลายสายตอบกลับมาน้ำเสียงเย็นยะเยียบพร้อมหัวเราะอยู่ในลำคอ หากแต่ฟังแล้วขนหัวลุก ไร่เพียงฟ้า และแล้วไร่เพียงฟ้าก็กลับฟื้นคืนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง พื้นดินส่วนใหญ่ที่เคยแห้งแล้งกลับมีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อได้รับน้ำ เพียงฟ้านำเงินก้อนแรกที่ได้มาไปชำระหนี้ให้กับทางธนาคารก่อนครึ่งหนึ่ง ที่เหลือทั้งหมดหญิงสาวนำมาลงทุนในเรื่องของระบบน้ำและปรับสภาพดินและสร้างโรงเพาะปลูกพื้นผักปลอดสารพิษขึ้น มิหนำซ้ำยังเดินท่อสปริงเกอร์ปล่อยน้ำเข้าไปในไร่เพิ่มเติมอีกหลายจุดเพื่อให้แปลงเพาะปลูกของเธอมีน้ำหล่อเลี้ยงส่งไปได้ทั่วถึง และขุดสระเพิ่มเพื่อที่จะเก็บกักน้ำในหน้าฝนเพื่อเอาไว้ใช้ให้ได้มากที่สุดขึ้นอีกสองสระ งานทุกอย่างในไร่นั้นเพียงฟ้าดูแลอย่างใกล้ชิดที่สุด และงานนี้ก็มีน้ำหนึ่งคอยดูแลอยู่อย่างไม่ห่างกายเธอเช่นกัน “พี่ฟ้า หนึ่งว่าอีกไม่นานไร่เพียงฟ้าจะต้องเป็นไร่ที่ใครๆ ก็อยากที่จะมาเที่ยวและเยี่ยมชมไม่แพ้ไร่อัครโญธิน ของพี่ติณเป็นแน่เลย” น้ำหนึ่งพูดบอกออกมาอย่างดีใจ เพียงฟ้าหันมายิ้มให้กับความช่างคิดเปรียบเทียบของหญิงสาวตรงหน้าไม่น้อย “พี่ไม่คิดไปไกลถึงขนาดนั้นหรอกนะหนึ่ง และก็ไม่กล้าไปเทียบกับไร่อัครโญธินด้วย ไร่นั้นน่ะเขารวยเป็นพันเป็นหมื่นล้านได้ละมั้ง ของเราน่ะไม่ได้สักเสี้ยวของไร่นั้นเลย พี่ขอเพียงแค่ไร่องุ่นของคุณพ่อเติบโตและคงอยู่ไปตลอดไม่พังทลายลงพี่ก็ดีใจมากแล้วล่ะ” “แหม...พี่ฟ้าก็พูดดูถูกไร่เพียงฟ้าของเราไปได้ ไร่เราก็ไม่ได้น้อยหน้าไร่ใครเลยนะคะ” น้ำหนึ่งพูดน้ำเสียงน้อยใจนิดๆ ที่หญิงสาวที่ตนเองนับถือเสมือนพี่สาวพูดออกมาเช่นนั้น “พี่ไม่ได้ดูถูก แต่พี่แค่พูดความจริงเท่านั้น” เพียงฟ้าพูดบอกหญิงสาวตรงหน้ายิ้มๆ แก้มเนียนแดงปลั่งด้วยไอแดดที่ร้อนแรง ดวงตากลมโตทอดสายตามองอาณาบริเวณของไร่เพียงฟ้าที่กำลังค่อยๆ พลิกฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง “ต่อไปหนึ่งคงต้องเรียกพี่ฟ้าว่าแม่เลี้ยงเสียแล้วล่ะ” น้ำหนึ่งพูดยิ้มๆ ออกมา “บ้าน่าหนึ่ง อย่าเรียกพี่แบบนั้นเชียวนะ” เพียงฟ้าพูดบอกเสียงไม่จริงจังนัก “ทำไมล่ะ ดูโก้ออกพี่ฟ้า เดี๋ยวหนึ่งจะลองเรียกดูนะ แม่เลี้ยงเพียงฟ้า ฮู้!!!... โก้จะตายพี่ฟ้า” น้ำหนึ่งร้องตะโกนก้องออกมาดังๆ ก่อนที่เพียงฟ้าจะยกมือเรียวขึ้นมาปิดปากน้ำหนึ่งเอาไว้ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมาดทอมบอยจะร้องโตโกนออกมาอีกครั้ง “ไม่เอาน่ะหนึ่ง ห้ามเรียกแบบนี้อีกนะ เดี๋ยวใครเขาเข้าใจผิดคิดว่าพี่อยากจะเป็นแม่เลี้ยงจริงๆ ห้ามพูดอีกนะ ไม่งั้นพี่โกรธจริงๆ ด้วย” เพียงฟ้าพูดบอกขึ้นน้ำเสียงจริงจัง น้ำหนึ่งถึงกับหน้าจ๋อยลงทันทีที่โดนดุเช่นนั้น “ค่ะพี่ฟ้า ทีหลังหนึ่งจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว แต่ถ้าคนงานเขาพากันเรียกเองหนึ่งไม่เกี่ยวนะจะบอกไว้ก่อน” “แล้วพี่จะเรียกประชุมคนงานในไร่อีกที ถ้าหากคนงานคนไหนเรียกพี่ว่าแม่เลี้ยงน่ะพี่จะตัดเงินค่าแรงเลยเชียว ไม่เว้นแม้กระทั่งหนึ่ง” หญิงสาวพูดทีเล่นทีจริง “หูยยยย พี่ฟ้าหนึ่งขอโทษหนึ่งจะไม่พูดอีกแล้วค่ะ” พูดพลางขยับร่างเข้าไปโอบกอดรอบเอวของหญิงสาวที่ตนรักราวกับพี่สาวเอาไว้แน่น เพียงฟ้าพยักหน้าให้แล้วยิ้มอ่อนโยนก่อนพูดขึ้นว่า “รับปากพี่แล้วอย่าลืมเสียล่ะ อ้อ เดี๋ยวหนึ่งช่วยไปดูที่โรงเพาะผักปลอดสารพิษให้พี่ด้วยนะ พี่ขอกลับไปทำบัญชีค่าใช้จ่ายงวดที่สองก่อน เงินงวดแรกใกล้จะหมดแล้วพี่ต้องรีบตั้งเบิก ถ้าทำเสร็จวันนี้ไม่แน่พรุ่งนี้พี่จะเข้ากรุงเทพฯ เลย แต่ถ้าทำไม่ทันก็คงต้องเลื่อนออกไป ยังไงพี่ฝากงานที่ไร่ด้วยนะหนึ่ง” “ได้เลยค่ะ พี่ฟ้าไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้นะคะเดี๋ยวหนึ่งดูแลเองค่ะ” น้ำหนึ่งรับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ แววตาฉายความมุ่งมั่นในเรื่องนี้ “ได้ยินแบบนี้แล้วพี่ก็สบายใจ ยังไงก็ฝากด้วยนะ” เพียงฟ้าไม่วายกำชับ หญิงสาวไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด ก่อนจะเดินกลับไปที่รถกระบะคันใหญ่เพื่อขับกลับไปที่บ้าน เธอต้องรีบทำบัญชีตั้งงบค่าใช้จ่ายในงวดที่สองให้กับผู้ร่วมทุนได้ตรวจสอบดูเพื่อที่การจ่ายเงินงวดที่สองจะได้มีขึ้นในเร็ววัน และการเบิกเงินงวดที่สองนี้เธอก็จะได้พบกับผู้ร่วมทุนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอในครั้งนี้ด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD