ตอนที่ 4

2938 Words
สองวันต่อมา เพียงฟ้าเดินทางเข้ากรุงเทพอีกครั้งเพื่อมาที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ S&K คอเปอร์เรชั่นจำกัด มหาชน และการมาของหญิงสาวในครั้งนี้ก็แตกต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง ด้วยเพราะบุคคลที่หญิงสาวจะได้พบนั้นหาใช่ยงยุทธแต่อย่างใด แต่เป็นท่านประธานบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ S&K คอเปอร์เรชั่นจำกัด มหาชน แทนนั่นเอง หญิงสาวนั่งรออยู่ภายในห้องรับรองของบริษัทฯ อยู่เพียงคนเดียว เพียงฟ้ามาถึงที่นี่ตั้งแต่เก้าโมงเช้า จนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงแล้วแต่ก็ไร้วี่แววของคนที่เธอต้องการพบ ใบหน้างามงอง้ำลงด้วยความหงุดหงิด เธออุตส่าห์รีบตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาขึ้นเครื่องบินให้ทันไฟลต์แรก ด้วยหวังที่จะมาพบกับผู้ร่วมทุนแต่เช้า ทั้งๆ ที่ได้นัดหมายเวลากับคุณยงยุทธไว้แล้วว่าจะได้พบไม่เกินเก้าโมงครึ่ง เพียงฟ้าพยายามระงับอารมณ์หงุดหงิดด้วยการลุกขึ้นเดินไปที่กระจกบานใหญ่เพื่อมองไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา ดวงตากลมโตมองดูสายน้ำเพื่อหวังให้ใจที่ร้อนรุ่มอยู่นั้นให้เย็นลงเหมือนกับสายน้ำ หญิงสาวบอกกับตนเองว่าจะให้เวลาอีกฝ่ายอีกเพียงสิบนาทีเท่านั้น ถ้าสิบนาทีนี้เธอยังไม่ได้พบกับผู้ร่วมทุนเห็นทีคงต้องไปหาอะไรกินก่อนแล้วถึงจะค่อยกลับมารอใหม่ ตอนนี้เธอหิวจนแทบจะกินช้างเข้าไปได้อยู่แล้ว และก่อนที่ความอดทนของหญิงสาวจะสิ้นสุดประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดออกเสียก่อน เพียงฟ้าหันกลับมามองตามเสียงของประตูที่ถูกเปิดออก ดวงตากลมโตของหญิงสาวมองสบกับดวงตาสีสนิมเหล็กชวนหลงใหลของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตร ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มก้าวเดินตรงมาที่โต๊ะรับแขกมันช่างสะกดสายตาของเพียงฟ้าให้จ้องมองมาที่เขาแต่เพียงผู้เดียว ริมฝีปากหนาได้รูปยกยิ้มขึ้นมาอย่างน่าชวนฝันยิ่งนัก อยู่ๆ หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวก็เต้นระทึกขึ้นมา ใบหน้าเนียนสวยแดงซ่านขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณรอนาน พอดีผมติดสายลูกค้าจากฮ่องกงหวังว่าคุณคงจะเข้าใจ” สิงหาบอกอีกฝ่ายออกไป ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้หลุยส์แล้วมองหญิงสาวที่ยืนนิ่งเหมือนดั่งถูกสะกด ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยอย่างตื่นตะลึง ไม่คาดคิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะมีใบหน้าและเรือนร่างที่งามสง่าราวกับเจ้าหญิงเช่นนี้ ดวงตาสีสนิมของสิงหามองสบกับดวงตากลมโตของเพียงฟ้าที่ถูกล้อมกรอบไปด้วยแพขนตางามงอนที่ดกดำ คิ้วโก่งราวกับคันศรไร้ซึ่งการวาดแต่ง จมูกโด่งรั้นซึ่งสวยได้รูปรับกับริมฝีปากที่อวบอิ่มน่าจูบเป็นยิ่งนัก ในขณะที่เส้นผมยาวสลวยสีดำสนิทถูกรวบเก็บขึ้นและมัดเข้าไว้ด้วยกันปล่อยเป็นหางม้ายาวลงมาดูก็รู้ว่าผมของเพียงฟ้ายาวมากขนาดไหน หัวใจของสิงหาอยู่ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่ชายหนุ่มจะเมินหน้าหนีไปอีกทางด้วยไม่อยากที่จะสบประสานสายตากับผู้หญิงที่ตนเองต้องการจะแก้แค้น แล้วพูดกับตัวเองในใจว่า ‘อย่าได้ไปหลงในรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนี้เด็ดขาดสิงหา จำเอาไว้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนทำให้เจสซี่ต้องตาย! อย่าลืมสิ!’ คิดได้ดังนั้นความแค้นของสิงหาก็กลับลุกโชนขึ้นภายในใจของเขาอีกครั้ง ความเงียบแผ่เข้ามาปกคลุมพื้นที่ภายในห้องรับรอง ก่อนที่ยงยุทธเลขาคนสนิทของสิงหาจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเพียงฟ้าใกล้ๆ เพื่อที่จะพูดให้หญิงสาวนั้นได้สติ แต่หารู้ไม่ว่าสิงหาเจ้านายของตนเองนั้นก็มีอาการไม่แตกต่างกับหญิงสาวเท่าใดนัก “คุณเพียงฟ้าครับ เจ้านายของผมมาแล้วครับ” คำพูดของยงยุทธที่พูดบอกออกมาค่อนข้างดังทำให้หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ก่อนที่จะพูดขอโทษขอโพยอีกฝ่ายออกมา “อะ..เอ่อ...ขอโทษค่ะ เมื่อครู่คุณพูดว่าอะไรนะคะ”พูดออกไปก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองยิ่งนัก ‘โอย! ยายฟ้า! ทำไมถึงได้ไปถามเขาแบบนั้นนะ’ หญิงสาวคิดในใจ ก่อนที่จะค่อยๆ เดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้หลุยส์ฝั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม “ฉันบอกว่าฉันติดสายลูกค้าที่ฮ่องกงเลยมาพบเธอช้าหวังว่าคงจะเข้าใจ” น้ำเสียงที่พูดออกมาแสดงถึงความไม่พอใจเท่าไรนัก ชายหนุ่มปรายตามองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างเหยียดๆ ใบหน้าของเพียงฟ้าเห่อแดงขึ้นด้วยความโกรธขึ้นมาทันที หญิงสาวไม่ชอบที่อีกฝ่ายมองเธอด้วยสายตาเช่นนี้ ก่อนจะตอบออกมาว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันรอได้” “ดี! ได้ยินเธอพูดแบบนี้ฉันก็ค่อยสบายใจหน่อย” สิงหาพูดขึ้นโดยไม่มองหน้าหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เพียงฟ้าเองก็ไม่ได้คิดเฉลียวใจเลยสักนิดว่าภัยร้ายกำลังคืบคลานเข้าใกล้เธออยู่ทุกขณะ หญิงสาวยื่นแฟ้มเอกสารข้อมูลค่าใช้จ่ายที่ตั้งเบิกในงวดที่สองให้กับชายหนุ่มผู้ร่วมทุนของเธอตรงหน้า โดยที่สิงหาเองก็รับมาเปิดดูเหมือนกับว่ากำลังตรวจดูบัญชีที่หญิงสาวทำมาด้วยความสนใจก่อนจะจรดปากกาเซ็นเอกสารอนุมัติในเอกสารทันทีแล้วส่งต่อไปให้กับยงยุทธเพื่อจัดการสานต่อ และยงยุทธเองก็ยื่นส่งเอกสารที่เตรียมมาให้กับหญิงสาวได้เซ็นด้วยเช่นกัน โดยบอกว่าเป็นการเซ็นรับยอดเงินงวดที่สอง และด้วยความไว้ใจประกอบกับดีใจที่จะได้เงินงวดที่สองหญิงสาวจึงไม่ได้อ่านรายละเอียดด้านบนแม้แต่น้อย หากอ่านสักนิดเพียงฟ้าคงไม่ยอมเซ็นอย่างเด็ดขาด เพราะเอกสารใบนั้นมันคือการยินยอมซื้อขายที่ดินไร่องุ่นเพียงฟ้าของเธอให้กับเจ้านายหนุ่มของยงยุทธต่างหาก “ฉันดีใจนะที่ได้ทำธุรกิจร่วมกันกับเธอ เดี๋ยวยงยุทธจะโอนเงินงวดที่สองเข้าบัญชีของไร่เพียงฟ้าให้ภายในวันนี้” สิงหาพูดบอกพร้อมกับแสยะยิ้มออกมาให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้เห็นในทันทีที่หญิงสาวเซ็นเอกสารฉบับนั้นเสร็จ เพียงฟ้าถึงกับหน้าม้านขึ้นมาทันที หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่าเหตุใดชายหนุ่มผู้ร่วมทุนคนนี้ถึงได้แสดงกิริยาเช่นนี้กับเธอ หรือว่านี่อาจจะเป็นบุคลิกของเขา ก่อนจะสลัดความคิดทุกอย่างออกไปแล้วพูดขึ้นว่า “ต้องขอขอบคุณคุณสิงหามากนะคะที่ให้ความสนใจในไร่องุ่นของเรา ดิฉันรับรองค่ะว่าจะบริหารเงินลงทุนให้เกิดผลกำไรงอกเงยกลับคืนมาได้อย่างแน่นอนเลยค่ะ” เพียงฟ้าบอกอีกฝ่ายด้วยความมุ่งมั่นที่มีเต็มเปี่ยมอยู่ในหัวใจว่าจะพลิกฟื้นพื้นดินไร่เพียงฟ้าให้กลับมามีผลกำไรขึ้นมาได้อีกครั้ง สิงหาปรายตามองหญิงสาวด้วยความดูถูกอย่างไม่ปิดบังก่อนจะพูดในสิ่งที่ตั้งใจไว้แต่แรกออกมา “เธออย่าเพิ่งดีใจไปเลย ฉันเองยังพูดไม่ทันจบเลยนะว่าเงินงวดที่สองที่เธอตั้งเบิกขอมานั้นมันจะได้ครบตามจำนวนที่เธอต้องการหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้มันก็ต้องขึ้นอยู่กับเธอด้วย” “อะไรกัน? ที่คุณสิงหาพูดนี่มันหมายความว่ายังไง? แล้วทำไมถึงต้องขึ้นอยู่กับฉัน คุณช่วยอธิบายให้ฉันได้กระจ่างมากกว่านี้ได้ไหม” เพียงฟ้าถามออกไปในสิ่งที่เธอสงสัย และเธอก็หวังว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะให้ความกระจ่างกับเธอ ยงยุทธที่ยืนเยื้องทางด้านหลังของสิงหาทำท่าจะขยับปากพูดอะไรออกมา แต่เสียงเข้มจัดของสิงหาก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน “หมดธุระของนายแล้วยงยุทธ นายรีบไปจัดการเอกสารต่อได้แล้ว” “เอ่อ...ครับ เจ้านาย” ยงยุทธรับคำอย่างเสียมิได้ ก่อนจะโค้งคำนับให้เจ้านายหนุ่มของตนแล้วรีบเดินออกไปจากห้องรับรองนั้นทันที สิงหามองตามร่างสูงของเลขาคนสนิทที่เดินออกไปจากห้องแล้วก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าของผู้หญิงที่เป็นตัวการทำให้คนรักของเขาต้องตายแทน ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้าวเดินเข้ามากระชากข้อมือของเพียงฟ้าเพื่อให้เธอลุกขึ้นยืนด้วยอีกคน แรงกระชากของสิงหาทำให้เพียงฟ้าเจ็บที่ข้อมือ ประกอบกับความตกใจจึงทำให้หญิงสาวหวีดร้องออกมา “ว้าย!...โอ๊ย! นี่คุณทำอะไรเนี่ย! ปล่อยนะฉันเจ็บ!” “เธอเจ็บแค่นี้น่ะมันน้อยไป แต่ฉันสิ! ฉันเจ็บเสียยิ่งกว่าเธอเป็นร้อยเป็นพันเท่าเธอเคยรู้บ้างไหม” สิงหาตะโกนว่าใส่หน้าหญิงสาวออกมา เพียงฟ้าเองได้แต่งุนงง หญิงสาวได้แต่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก ที่อยู่ๆ ผู้ร่วมทุนของเธอที่เพิ่งจะเคยพบหน้ากันเพียงครั้งแรกก็มาแสดงกิริยามารยาทที่ก้าวร้าวและหยาบคายกับเธอเช่นนี้ ก่อนที่เพียงฟ้าจะพยายามรวบรวมสติแล้วพูดถามอีกฝ่ายออกไปดีๆ “เดี๋ยวนะคะคุณสิงหา ฉันว่าคุณใจเย็นก่อน เราน่าที่จะพูดคุยกันด้วยเหตุผลนะคะ ถ้าหากฉันพูดหรือทำอะไรให้คุณไม่พอใจฉันก็ขอโทษค่ะ หรือว่างบค่าใช้จ่ายงวดที่สองที่ฉันยื่นขอมามันสูงเกินไปฉันก็ยินดีที่จะเอากลับไปแก้ไขใหม่ได้นะคะ” เพียงฟ้าเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษชายหนุ่มก่อน ไม่ว่าเธอจะผิดหรือไม่ผิดตอนนี้หญิงสาวไม่สน ขอแค่ให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้านี้ไปได้ก่อนเป็นพอ ดวงตาสีสนิมเหล็กของสิงหามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความแค้น และมันกำลังแผ่กระจายรัศมีของความอำมหิตออกมาจากตัวเขาส่งมาให้เพียงฟ้าได้รับรู้ “ขอโทษเหรอ! คำขอโทษของเธอมันไม่มีค่าอะไรสำหรับฉันหรอก ส่วนไอ้ค่าใช้จ่ายบ้าบออะไรนั้นฉันก็ไม่สนใจทั้งนั้น ไอ้ไร่องุ่นเฮงซวยที่ฉันร่วมทุนด้วยมันก็แค่เศษเงินเล็กๆ น้อยๆ ของฉันเท่านั้นแหละ แต่สิ่งที่ฉันสนใจมันก็คือเธอต่างหากยังไงเล่า นางฆาตกร!” คำกล่าวหาของชายหนุ่มมันช่างฉกรรจ์นัก เหตุไฉนเขาถึงได้กล่าวหาเธอเช่นนี้ “ฉันไม่เคยรู้จักคุณ เราไม่เคยรู้จักกัน คุณจะมากล่าวหาว่าฉันเป็นฆาตกรได้ยังไงกัน! คุณจำคนผิดแล้วล่ะ แล้วไร่องุ่นที่คุณบอกว่ามันเฮงซวยน่ะมันคือไร่ที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างของฉันเอาไว้ มันคือหัวใจของฉัน! คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าไร่ของฉันแบบนี้ คุณควรที่จะถอนคำพูดซะคุณสิงหา! ถ้าคุณไม่ถอนคำพูดฉันก็จะยกเลิกสัญญาทุกอย่างกับคุณเหมือนกัน ฉันไม่ขอทำธุรกิจร่วมกันกับคุณอีกแล้ว!” “เมินเสียเถอะ! ทุกอย่างมันสายไปแล้วล่ะ! และขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่านับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปไร่องุ่นเฮงซวยนั่นมันได้เป็นกรรมสิทธิ์ของฉันไปแล้ว” “ไม่จริง!” “จริง!” “ฉันไม่เชื่อ! คุณโกหก!” “คนอย่างฉันไม่เคยโกหก! ในเมื่อเธอเป็นคนเซ็นขายไร่องุ่นเฮงซวยนั่นให้กับฉันเองเธอลืมแล้วหรือไงห๊ะ!” “โอ๊ย!” เพียงฟ้าร้องออกมาด้วยความเจ็บ เมื่อสิงหากระชากร่างงามระหงเข้ามาปะทะกับร่างสูงใหญ่ของเขา นิ้วเรียวแกร่งบีบเข้าที่คางของหญิงสาวเข้าให้เต็มแรง แรงบีบราวกับคีมเหล็กก็ไม่ปาน “เจ็บเหรอ! ร้องเลย ร้องออกมาดังๆ ฉันอยากให้เธอได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดมากๆ” พูดจบสิงหาก็สะบัดมือออกจากคางมนของเพียงฟ้าด้วยความรังเกียจ “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณเอาไร่ฉันไปทำไม!” เพียงฟ้าร้องไห้ออกมาในที่สุด เมื่อนึกถึงเอกสารที่ยงยุทธเลขาของชายหนุ่มเอาให้เธอเซ็นแล้วบอกกับเธอว่าเป็นเอกสารเพื่อยืนยันการรับเงินงวดที่สอง “ทำทำไมเหรอ เธอยังมีหน้ามาย้อนถามฉันอีกเหรอ ก็เพราะเธอนั่นแหละ เธอมันฆาตกร! เธอทำให้คนรักของฉันต้องตาย! เจ้าสาวของฉันต้องมาตายในวันแต่งงานก็เพราะเธอเป็นต้นเหตุ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องชดใช้!” สิงหาตะโกนก้องออกมาลั่นห้อง ดวงตาสีสนิมเหล็กแดงก่ำด้วยความโกรธยามพูดถึงชื่อคนรักที่ตายจากเขาไป เพียงฟ้าถึงกับเบิกตากว้าง ใบหน้าหวานอาบนองไปด้วยน้ำตาก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหาของอีกฝ่ายทันที “ไม่จริง! ฉันไม่ได้เป็นคนผิด คนรักของคุณต่างหากที่เป็นคนขับรถชนท้ายรถของฉันเอง ทางตำรวจก็พิสูจน์ออกมาแล้ว” หญิงสาวบอกความจริงที่เกิดขึ้นออกไป แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น แต่มันกลับเป็นการเพิ่มเชื้อไฟแค้นให้กับชายหนุ่มตรงหน้าแทน “สารเลว! เธอยังมีหน้ามาพูดใส่ร้ายคนตายอีกเหรอ ผู้หญิงอย่างเธอนี่มันน่าขยะแขยงที่สุด! ในเมื่อกฎหมายมันเอาผิดเธอไม่ได้ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนพิพากษาเธอเอง!” พูดจบสิงหาก็ผลักร่างงามระหงของเพียงฟ้าให้ออกห่างจากตัวเองด้วยความรังเกียจ จนหญิงสาวเซถลาไปข้างหน้าแล้วล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง “โอ๊ย!”เพียงฟ้าร้องครางออกมาด้วยความเจ็บ แต่สิงหาก็ไม่สนใจเสียงร้องของอีกฝ่าย ชายหนุ่มเดินเข้าไปฉุดกระชากแขนของเพียงฟ้าให้ลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างแรง “ถ้าเป็นคนอื่นฉันคงสงสาร! แต่นี่เป็นเธอยังไงฉันก็ไม่มีวันสงสารได้หรอก! อย่ามาทำสำออยกับฉัน! ลุกขึ้นมา!” สิงหายังคงใช้แรงที่มีมากกว่าฉุดกระชากแขนของหญิงสาวให้ลุกขึ้นด้วยอารมณ์โกรธ แต่เพียงฟ้าหาได้ยอมทำตามแต่อย่างใด หญิงสาวยังคงขืนตัวต้านแรงดึงของอีกฝ่ายไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหนแม้ว่าแขนเรียวของเธอตอนนี้นั้นแดงเถือกไปด้วยแรงบีบรัดที่เกิดจากมือเรียวแกร่งของอีกฝ่ายก็ตาม ร่างงามระหงของเพียงฟ้ายังคงนั่งกองอยู่ที่พื้นร้องไห้ไม่ยอมหยุด ก่อนที่หญิงสาวจะพูดขึ้นมาว่า “คุณกำลังเข้าใจฉันผิดคุณสิงหา สิ่งที่คุณทำมันผิด ได้โปรดคืนไร่เพียงฟ้าให้กับฉันเถอะ ฉันขอร้อง ถ้าคุณต้องการให้ฉันชดใช้ฉันก็ยอม” “เธอไม่มีสิทธิ์มาต่อรองอะไรกับฉันทั้งสิ้น” สิงหาพูดเสียงลอดไรฟันออกมา เพียงฟ้าเงยมองหน้าชายหนุ่มทั้งน้ำตาก่อนจะป้ายปาดมันออกไปจากใบหน้า ดวงตากลมโตมองสบกับอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมหลบแล้วพูดออกมาว่า “ถ้าคุณต้องการแก้แค้นฉัน ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว ฉันจะยอมชดใช้ให้กับคุณทุกอย่างแต่ยกเว้นไร่ของฉัน คุณต้องสัญญาว่าจะไม่แตะต้องไร่เพียงฟ้าของฉันอย่างเด็ดขาด” หญิงสาวพูดบอกสิงหาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ชายหนุ่มปรายตามองอีกฝ่ายอย่างเหยียดหยามแล้วพูดถามออกมา “แน่ใจนะว่ายอมชดใช้ให้ทุกอย่าง” “ทุกอย่างที่คุณต้องการยกเว้นไร่องุ่นเพียงฟ้า” หญิงสาวย้ำเสียงหนัก “ก็ได้ ฉันรับปาก” สิงหายอมรับปากหญิงสาวออกไปในที่สุด เขาเองก็ไม่ได้อยากจะได้ไร่องุ่นของผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่น้อย แต่เพราะต้องการใช้เป็นเครื่องต่อรองกับเธอต่างหากถึงได้ดึงเอาไร่นี้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย อันที่จริงหากเขาจะจัดการกับไร่องุ่นเพียงฟ้าของหญิงสาวเลยก็ได้ แต่มันก็คงไม่หายแค้นหากว่าไม่ได้ชำระโทษกับผู้หญิงคนนี้ด้วยตัวของเขาเอง ก่อนที่มือเรียวแกร่งของสิงหาจะฉุดแขนอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง “เอ้า...ลุกขึ้นมาสักทีสิ จะนั่งแช่อยู่ตรงนี้หาสวรรค์วิมานอะไรล่ะ” ร่างงามระหงของเพียงฟ้าค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าของชายหนุ่มแล้วพูดน้ำเสียงเย็นชาออกมาว่า “แล้วคุณจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้กับฉัน!” “ฉันจะไม่มีวันเสียใจที่ทำแบบนี้กับเธอ!” สิงหาตอบกลับอีกฝ่ายทันทีที่หญิงสาวพูดจบเช่นกัน ความแค้นของเขาจะสามารถสงบลงได้ก็ต่อเมื่อผู้หญิงคนนี้ได้รับการชำระโทษแล้วเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD