บทที่13
ว่าที่คู่หมั้น?
ฉันเดินตามพวกเขาไปยังจุดต่างๆ ด้านบนชั้นสองเป็นออฟฟิศที่เหลือแค่ตกแต่งภายใน เท่าที่ฟังดูพี่บอลน่าจะเป็นฝ่ายการตลาด คอยดูเรื่องการขายพี่ไกด์กับพี่โอมเป็นแผนกบัญชีและจัดซื้อ ส่วนพี่วาโยเป็นทั้งนักแข่งและนำเข้ารถยนต์ อะไหล่ที่ถูกนำเข้ามาก็เป็นพี่วาโยที่รับผิดชอบเรื่องนี้
“ร้อนไหม” เขาถามฉันแต่สายตาไม่ได้หันมามองยังคงคุยกับเพื่อนเรื่องปรับเปลี่ยนบางจุดด้านในอยู่
“นิดหน่อยค่ะแต่ทนได้ ตามสบายเลยค่ะ”
“ก่อนกลับบ้านเดี๋ยวพาไปกินไอติม” ฉันยิ้มให้เขาโดยที่เขาไม่ได้หันมามอง ทำไมนะเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างฉันและเขามันถึงได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
“ถ้างั้นก็ตามนี้ก็แล้วกันนะ ที่เหลือเดี๋ยวรอช่างมาค่อยแก้ กูอยากให้มันจบไปเลยไม่ต้องมากังวลในอนาคต ตรงไหนแก้ได้ก็แก้เลย” วาโยตัดบทจบจนเพื่อนๆ พยักหน้าเพราะตอนนี้ลัลลาเบลเริ่มมีเหงื่อผุดตามใบหน้าแล้ว
เมื่อทุกคนแยกย้ายกันฉันก็ถูกเขาพามานั่งที่ร้านไอติมที่เป็นของรุ่นน้องเขา ร้านนี้เจ้าของเป็นผู้หญิงน่ารักช่วยกันทำงานขายของกับแฟนเห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้
“มุกกับมาร์ชคบกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านไอ้มาร์ชทาบทามมุกไว้ตั้งแต่เธอเกิด เหมือนพวกเรานั่นแหละ”
ฉันหันไปมองหน้าเขาด้วยความตกใจทำไมอะไรๆ มันดูเปลี่ยนไปขนาดนี้นะ เปลี่ยนไปชนิดที่ว่าเขาดูอ่อนโยนกับฉันมากมายเหลือเกิน หรือเขาจะตกหลุมรักฉันแล้ว
“พี่วาโยว่าอนาคตพวกเราจะเป็นยังไงคะ”
“ไม่รู้สิ อะไรก็เกิดขึ้นได้” ถ้าเธอทำตัวดีขึ้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละจริงไหมครับ
พอไอติมรสสตอเบอรี่มาเสิร์ฟ ฉันก็ได้ทำความรู้จักกับพี่เจ้าของร้านทั้งสองคน พวกเขาดูดีใจที่ได้เจอพี่วาโย นี่เขาเป็นคนดังหรือไง
“น้องสาวเหรอพี่ ผมว่าจะเข้าไปเอาอะไหล่ก็ยังไม่มีเวลาเลย” ชายหนุ่มเจ้าของร้านมองหน้าลัลลาเบลพร้อมก้มหัวให้นิดหน่อยเมื่อเธอยกมือไหว้
“ว่าที่คู่หมั้นอะ”
ฮะ! ฉันหันไปมองหน้าเขาทันที ปกติเขาไม่เคยพูดแบบนี้นะ ไม่เคยยอมรับด้วยฉันว่าเขาต้องชอบฉันเข้าแล้วแน่ๆ
“ว้าว ขอให้มีข่าวดีเร็วๆ นะครับพี่ชาย”
หลังจากนั้นฉันก็เหมือนคนหูดับ อื้อไปหมดใครพูดอะไรทำอะไรฉันไม่รู้เรื่องเลย เหมือนเขาจะรู้ว่าฉันตกใจกับสิ่งที่เขาพูด หรือไม่เขาก็คงตกใจตัวเองเพราะตอนนี้ต่างคนต่างนั่งเงียบ ขึ้นรถมาก็ไม่มีคำพูดอะไรเลย
อย่าหวั่นไหวลัลลาเบล แกแค่ต้องการแก้แค้นจัดการผู้ชายคนนี้ อย่าหวั่นไหว
“ถึงบ้านแล้ว...”
“อะ....ค่ะ...” ถึงตั้งแต่เมื่อไหร่นี่เขาพาฉันวาร์ปมาหรือยังไง
“พี่วาโยไม่อยู่3วันใช่ไหมคะ”
“ใช่ไปพักร้อนที่บ้านพักตากอากาศ อยากได้อะไรไหมจะซื้อมาให้” เขาหันมามองหน้าฉันแต่ฉันกลับรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะ พักผ่อนให้เต็มที่นะคะ แล้วก็ขับรถกลับบ้านดีๆ ด้วย”
“อือฮึ....พี่ไม่อยู่ก็….อย่าดื้อนะครับ”
ขิตค่ะ! อีลัลลาเบลอยากจะกลั้นหายใจให้มันตายๆ ไปเลยเจอคำว่าครับที่ละมุนละไมละเมียดละม่อมเข้าไป หัวใจตอนนี้กำลังเต้นเป็นจังหวะสามช่า
จนอยากจะตะโกนออกไปว่า คนจนมีสิทธิ์ไหมคะ
“ค่ะ...บ๊ายบายค่ะ”
ลงจากรถได้ฉันก็รีบวิ่งเข้าบ้านโดยไม่ลืมหันกลับไปบ๊ายบายเขาก่อน เข้าบ้านมาก็เจอทุกคนกำลังนั่งทานขนมที่แม่กับป้าพลอยทำแต่ฉันไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวจริงๆ
“เจ้หน้าแดง?”
ไอ้โบ๊ทแกไม่ต้องพูด ฉันยกสองมือขึ้นมาปิดแก้มแล้ววิ่งขึ้นห้องด้วยความเร็วแสง จากนั้นก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนชักดิ้นชักงอเหมือนปลาที่กระโดดขึ้นฝั่งแล้วหาทางลงน้ำไม่เจอ
ติก! เสียงแจ้งเตือนจากกลุ่มลับนัดเย็บดังขึ้นฉันจึงหยิบขึ้นมาดูก็ไปเจอกระทู้ของใครไม่รู้ที่โพสต์เอาไว้เมื่อคืนแต่คอมเมนต์กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
คนมีความรักอาการมันเป็นยังไงคะทุกคน
นานา: ใจสั่น ร้อนวูบวาบ พร่ำเพ้อหาเขา ทำอะไรก็คิดถึงประมาณนี้ค่ะ
ยากูซ่าคือพ่อกู: อยากผสมพันธุ์กับเขาตลอดเวลามั้งครับ
Wayo56: @ยากูซ่าคือพ่อกู จริงเหรอครับเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความรักจริงๆ เหรอ
ไอ้นี่ก็บ้ากามจริงๆ ฉันคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลงแล้วหลับตาแต่พอลืมตาขึ้นมาก็เจอแม่ยืนกอดอกมองหน้าฉันอยู่ แม่คือผู้หญิงอันตรายจริงๆ
“แม่! ตกใจหมด” ฉันลุกขึ้นมานั่งมองหน้าแม่แล้วมองไปที่ประตู
“ไม่มีใคร ทุกคนอยู่ข้างล่าง วันนี้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างลูกเล่าให้แม่ฟังหน่อย”
“แม่คะเขาพาหนูไปกินอาหารจีนแล้วก็นั่งคุยกับเพื่อนๆ เขาเรื่องธุรกิจนำเข้ารถยนต์รวมถึงอะไหล่รถยนต์ด้วย เขาพาหนูไปดูโกดังออฟฟิศและรถที่กำลังทยอยเข้ามา หนูพึ่งรู้นะคะว่าเขาเป็นนักแข่งด้วย”
ต้นหอมหรี่ตามองลูกสาวที่พูดไปยิ้มไปในตาเป็นประกายวิบวับอย่างไม่รู้ตัว นี่คงเป็นสัญญาณที่ดีอย่างที่หมอเบย์บอก
“แม่เห็นลูกมีความสุขแม่ก็ดีใจ พักผ่อนเถอะแม่ไปหาพ่อก่อน” ต้นหอมลูบหัวลูกสาวเบาๆ จากนั้นก็ออกมาคุยกับสองสามีที่แอบฟังอยู่ข้างนอก
“ใจสั่นว่ะ” ไบร์ทจับหน้าอกตัวเองพร้อมกับมองไปที่ประตู
“ไม่ต่างกัน” หมอเบย์ถอนหายใจออกมา จนต้นหอมส่ายหน้า สุดท้ายพ่อๆ ทั้งสองก็แอบใจหายที่ลูกสาวกำลังมีความรัก
“แต่ลูกดีขึ้นเยอะเลยนะคะ เมื่อกี้พูดไปยิ้มไปช่วงนี้ลูกไม่ค่อยเหวี่ยงไม่ค่อยวีน ดูใจเย็นกว่าเมื่อก่อน”
“ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แล้วทางนั้นเป็นยังไงบ้างมีอาการอะไรบ้างไหม” หมอเบย์หันไปถามน้องชายคุณไบร์ทจึงส่งรูปให้ดู คนที่ให้แอบติดตามอยู่ห่างๆ ส่งรูปทั้งสองคนมารายงาน มีจับมือเดินขึ้นไปบนห้องอาหาร ยิ้มหวานให้กัน นั่งคุยกันในร้านไอติม มีหลายรูปที่วาโยแอบมองลัลลาเบล
“ดูท่าจะเปิดใจกันทั้งคู่แล้วล่ะ แต่ก็ระวังหน่อยนะอย่าพึ่งให้ใกล้ชิดกันมาก ยังไงก็ขอให้เรียนจบก่อน”
“หมอกลัวทำใจไม่ได้เหรอคะ หอมเข้าใจลูกเรายังเด็กแต่ถ้ามันถึงเวลาปีกกล้าขาแข็งขึ้นมา พวกเราห้ามไม่ได้หรอกค่ะ ออกจากบ้านไปลูกก็เป็นอิสระแล้ว”
“ไม่ได้ เดี๋ยวผมให้คนตามลูกเองจะไม่มีการชิงสุกก่อนห่าม!!” คุณไบร์ทพูดจบก็เดินลงจากบ้าน ต้นหอมจึงรีบดึงคุณหมอเบย์ลงมาด้วยเพื่อปล่อยให้ลูกสาวได้ฮัมเพลงต่อ