บทที่14
เพื่อนเก่าของวาโย
ถึงวันที่วาโยต้องเดินทางเขากลับร้อนรนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าไลน์แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตนไม่เคยมีไลน์ของลัลลาเบลก็เลยหันไปมองหน้าคุณแม่ที่กำลังยืนรอขึ้นรถ
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมวาโย ไปเถอะลูกเดี๋ยวตกเครื่อง”
“ครับ”
ผมขึ้นมานั่งรถเพื่อเดินทางไปสนามบิน พอขึ้นเครื่องผมก็ถ่ายรูปจากหน้าต่างพร้อมลงไอจี ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมทำไปทำไมเหมือนอยากให้ใครเห็น
(เดินทางแล้วนะครับ^^)
ผมปล่อยให้เพื่อนๆ มาคอมเมนต์โดยที่ผมได้แต่กดอ่าน ส่วนลัลลาเบลเธอจะแอบมาส่องผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมเลยโพสต์ลงเฟซบุ๊กด้วย
เดี๋ยว...แล้วทำไมผมต้องอยากให้เธอรู้ด้วยวะ?
มาถึงภูเก็ตคนของพ่อผมที่ดูแลบ้านก็มารับเพื่อเดินทางไปยังเกาะที่ครอบครัวผมมีบ้านพักตากอากาศอยู่ แม้จะเป็นเกาะท่องเที่ยวแต่ปีกซ้ายของเกาะก็เป็นที่ส่วนบุคคลของบ้านผม คนนอกจะเข้ามาไม่ได้
ตอนเด็กๆ ผมก็มาที่นี่บ่อยแต่พอคุณยายผมเสียปีนึงจะมาสักครั้ง แต่ที่นี่ก็มีแม่บ้านและคนสวนดูแลอยู่ตลอด ตอนนี้พ่อกับแม่ผมขึ้นไปพักที่ชั้นสองส่วนผมยังนั่งอ่านคอมเมนต์อยู่ข้างล่าง
“ไม่เห็นมีเลยวะ”
“มีอะไรเหรอคะคุณวาโย”
“อุ๊ย! ป้าตาล ตกใจหมดเลยครับ”
“ฮ่าๆ ป้าจะมาเช็กความเรียบร้อยค่ะ ขาดเหลืออะไรหรือเปล่าคะเดี๋ยวป้าจะจัดการให้”
“ไม่ครับ ป้าตาลไปพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะ มีอะไรโทรหาป้าได้ตลอดนะคะ”
ผมพยักหน้าให้ป้าตาล ป้าแกเป็นคนดูแลบ้านและเป็นแม่ครัวเวลาครอบครัวผมมาที่นี่ บรรยากาศที่นี่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ผมชอบที่นี่อยากจะมาบ่อยๆ แต่งานก็รัดตัวจนผมไปไหนไม่ได้
ตกเย็นผมเดินออกมารับลมชมวิวในโซนท่องเที่ยว ที่นี่มีรีสอร์ตเล็กๆ อยู่ด้านปีกขวาของเกาะ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ จุดชมวิว แม้จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวแวะมาตลอด
“วาโย!” เสียงเรียกใสๆ ที่ทำให้ผมต้องมองหา จนไปสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่งแต่ผมนึกชื่อเธอไม่ออก
“จำเราไม่ได้เหรอวาโย แพนไง^^”
“แพน....อ๋อนึกออกแล้ว ขอโทษทีนะเราไม่ได้มานานน่ะ”
“ไม่เป็นไร มานานหรือยังไม่เห็นส่งข่าวมาเลย”
“มาถึงตั้งแต่บ่ายแล้วล่ะ ส่วนพ่อกับแม่อยู่ที่บ้านปล่อยให้สวีทกันบ้าง แล้วนี่แพนเป็นไงบ้าง”
“สบายดี ว่าแต่ไม่พาแฟนมาด้วยเหรอ^^”
“ยังๆ ยังไม่มีเลยมีแต่ผู้หญิงที่แม่หาให้”
สาวสวยเงียบไปชั่วขณะแต่ก็ยิ้มหวานให้ จากนั้นทั้งสองก็เดินคุยกันจนตะวันตกดิน วาโยจึงขอตัวกลับก่อน กลับมาถึงอาหารเย็นก็ถูกป้าตาลจัดเตรียมเอาไว้ให้แล้ว
ผมนั่งคุยกับพ่อถึงเรื่องงานและเรื่องธุรกิจที่ผมกำลังทำ พ่อผมท่านสนับสนุนทุกอย่าง ท่านมีความสุขเวลาที่ผมประสบความสำเร็จแต่อีกสิ่งหนึ่งที่ท่านรอคอยก็คือข่าวดีของผมกับลัลลาเบล
“ได้ข่าวว่าพาไปเที่ยวมาเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ก็ดีครับ ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะแต่ไม่รู้ว่าจะดีตลอดไปหรือเปล่า”
“พ่อเชื่อว่าวาโยจะเปลี่ยนน้องได้ หมอเบย์ไว้ใจลูกนะ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่แอบหยิบโทรศัพท์ส่องเฟซบุ๊กของเธอที่ไม่มีความเคลื่อนไหว ไอจีก็เช่นกันปกติอัปรูปทุกวันแต่ทำไมวันนี้ถึงไม่อัปเดตอะไรเลย แล้วผมจะดูอะไร
แต่ผมไม่ได้คิดอะไรนะ
“ส่องจังเลยไม่ทักน้องไปล่ะ” จู่ๆ แม่ผมก็โผล่หน้ามาข้างหลังพร้อมกับหอมแก้มผมกับคุณพ่อ นี่ก็อีกคน
“แค่เปิดไปเจอเฉยๆ ไม่ได้ส่อง” ผมคว่ำหน้าจอลงบนโต๊ะจากนั้นก็นั่งทานข้าวจนแม่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครก็ไม่รู้
การสนทนา
(ฮัลโหลค่ะคุณป้า) ชัดเจนนี่มันเสียงลัลลาเบลชัดๆ ผมนั่งฟังเธอคุยกับแม่ผมคุยกันเสียงดังขนาดนั้นอยู่บนบ้านยังได้ยินเลย
“รอบหน้าต้องมาให้ได้นะหนูเบล ดูสิพี่วาโยนั่งหงอยเลยหนูเบลไม่มา”
ผมไม่ได้นั่งหงอยสักหน่อย ผมหันไปมองหน้าจอเห็นเธอยิ้มหวานโบกมือทักทายจึงพยักหน้าให้เธอ
“เห็นหมอลงรูปหนูนอนป่วย เป็นอะไรมากหรือเปล่าลูก”
(ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ เบลดีขึ้นเยอะแล้วคุณป้าเที่ยวให้สนุกนะคะ)
“จ้า พักผ่อนเถอะเออหนูเบลหนู Add Friend พี่วาโยมาด้วยนะลูก เอาแต่ส่องหนูจะทักก็ไม่ทักป้ารำคาญลูกตา อิอิ”
(ได้ค่ะคุณป้า)
จบการสนทนา
ผมนั่งทานข้าวเงียบๆ จนมีเสียงแจ้งเตือนดังมาจากโทรศัพท์ของผม ผมจึงขอตัวขึ้นไปพักข้างบนโดยไม่สนใจสายตาของพ่อกับแม่แถมแม่ยังเบะปากใส่ผมอีก โว๊ะจะขึ้นไปพักเฉยๆ
ปิดประตูห้องได้ผมก็รีบเปิดดูเฟซบุ๊กจนเห็นเฟซของเธอแอดมาก็รีบกดรับทันที ผมรีบส่งข้อความไปถามถึงอาการป่วยของเธออย่างน้อยก็แค่แสดงความเป็นห่วง
บทสนทนา
“ไม่สบายเป็นอะไรครับ”
(ปวดท้องค่ะ แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วคุณพ่อให้ทานยาแล้ว)
“ดีแล้ว พักผ่อนด้วยล่ะ”
(ค่ะ ว่าแต่ที่นั่นสวยมากไหมคะเบลอยากเห็นของจริงจังเลย)
“เดี๋ยวรอบหน้าพามา”
ผมส่งรูปพระอาทิตย์ตกดินที่ผมถ่ายจากจุดชมวิวให้เธอดูเธอจึงส่งสติ๊กเกอร์มาให้ผม ผมนอนอ่านแชตที่คุยกับเธอจนรู้สึกเมื่อยหน้าเพราะผมยิ้มอยู่นาน
แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริงๆนะ