05 - ห้องทำงานกับหนังสือ

1767 Words
[Mao's Part]   "เอ่อ... กาแฟใช้ได้ไหมครับ?"   ผมมองคนนั่งจิบกาแฟที่ผมตั้งใจชงให้ด้วยอาการลุ้น จะอร่อยไหมนะ   "อืม ใช้ได้ ดีกว่าเมื่อวาน"   คุณทิวากรยิ้มแล้วชมผมด้วย ผมดีใจมากเลย เขาบอกให้ผมใส่กาแฟสองช้อน น้ำตาลสองช้อน นมสดพอประมาณ ไอ้พอประมาณนี่ล่ะ มันขนาดไหนก็ไม่รู้ เขาไม่กินครีมเทียม แต่จะใส่นมสดแทน วันแรกผมใส่ไปเกือบครึ่งถ้วยกาแฟ คุณทิวากรมองแล้วไม่จิบด้วยซ้ำ แต่ยื่นมาให้ผมกินแทน 'ฉันไม่กินนมรสกาแฟ' เขาบอกมาแบบนี้อะ ทำผมห่อเหี่ยวไปทั้งวันเลย   ผมไม่ใช่เด็กฉลาด ออกจะโง่ด้วยซ้ำ ผมเลยไม่ค่อยรู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะทำให้คุณทิวากรพอใจ แต่ผมก็จะพยายามนะ เอาใจช่วยผมกันด้วยนะครับ   "แล้วขนมปังปิ้งของฉันล่ะ?"   "อ๊ะ! ขอโทษครับ ผมลืม" ผมสะดุ้งแล้วรีบไปหยิบจานใส่ขนมปังปิ้งทาเนยวางในจานคู่กับไข่ดาวและไส้กรอกทอดบนเคาน์เตอร์ครัวมาวางให้ที่โต๊ะ นี่แหละครับ อาหารเช้าของคุณทิวากร   "อืม หน้าตาสวยขึ้นนะ ไข่ดาวไม่สุก กับไส้กรอกที่ทอดพองกำลังดี ดีกว่าวันแรกเยอะ"   คุณทิวากรชมผมอีกแล้ว ผมนี่ปลื้มสุด ๆ เลย นี่แสดงว่าผมพัฒนาขึ้นนะเนี่ย ผมจำได้ว่าวันแรกผมทอดไข่ดาวสุกแบบไข่ขาวกรอบเลย ไส้กรอกก็เหี่ยว คุณทิวากรไม่กินสักคำแล้วยื่นจานมาให้ผมกินแทน จากนั้นเขาก็ไปทอดเอง แล้วเอามาให้ผมดูว่าต้องประมาณนี้   ก็ผมไม่รู้นี่นา ตอนอยู่ที่บ้านผมก็ทอดไข่แบบนั้นแหละ ไข่ขาวกรอบ ๆ กับไข่แดงสุกเหยาะน้ำปลาอร่อยจะตาย ส่วนไส้กรอกผมไม่เคยกินเลยทอดจนมันพองสวย แต่พอมันเย็นแล้วมันเหี่ยวซะหมดรูป   "มองอะไร แล้วส่วนของนายล่ะ?" คุณทิวากรเงยหน้ามองผมที่ยืนอยู่ไม่ไกล   "ผมจะกินข้าวครับ กำลังรอข้าวสุก" ผมตอบ คุณทิวากรพยักหน้าแล้วจัดการมื้อเช้าของเขาต่อจนเรียบร้อย   ผมรอเก็บจานของเขาไปวางที่อ่างแล้วมากินข้าวเช้าของผม แค่ไข่เจียวกับน้ำพริกผักสดอีกถ้วย ผมกินง่ายครับ แต่ผมอยากกินข้าวเหนียวมากกว่าน้า   หลังมื้อเช้าผมก็ล้างจานและกวาดถูบ้านทั้งชั้นล่างชั้นบน รวมถึงห้องนอนคุณทิวากรด้วย จากนั้นก็ขนเสื้อผ้าลงมาซักตาก เสร็จแล้วก็รดน้ำต้นไม้ ล้างรถอาทิตย์ละครั้ง พุ่มดอกเข็มก็นาน ๆ เล็มที แค่นี้ละครับงานผม เรื่องกับข้าวกับปลา บางทีคุณทิวากรก็จะซื้อเข้ามา ผมแค่หุงข้าวรอ นอกจากเขาอยากกินอาหารอีสาน ถึงจะสั่งผมทำสักครั้ง   "ข้าวเม่า อยู่ไหน? มาหาฉันที่ห้องทำงานหน่อย" เสียงคุณทิวากรเรียกผมจากในบ้าน ผมวิ่งไปปิดก๊อกน้ำต่อสายยางที่กำลังรดน้ำต้นไม้แล้ววิ่งไปหาเขาที่ห้องทำงาน   "ผมมาแล้วครับ" ผมเคาะประตูห้องก่อนเปิดเข้าไป   นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามาในห้องทำงาน ทั้งที่ผมมาอยู่กับเขาได้เกือบเดือนแล้ว ห้องทำงานเป็นเขตหวงห้ามที่ผมไม่มีสิทธิ์เข้ามาถ้าไม่ได้รับอนุญาต มันกว้างกว่าห้องนอนคุณทิวากรเสียอีก มุมหนึ่งเป็นโซฟาที่ไม่มีโต๊ะรับแขก ถัดไปเป็นชั้นหนังสือ และหนังสือที่เยอะมาก กับโต๊ะทำงานตัวกว้างที่มีโน้ตบุ๊กวางอยู่ และหนังสือที่กองสุมบนโต๊ะ   "ช่วยจัดหนังสือพวกนี้ขึ้นชั้นให้ที แยกหมวดนิยายด้วยนะ นิยายโรแมนติก นิยายผี นิยายแฟนตาซี นิยายดราม่าอะไรก็แยกกันไว้ ดูจากแถบตรงชั้นหนังสือแต่ละชั้นก็แล้วกัน หนังสือสารานุกรมกับบทความแยกไว้อีกตู้" เขาสั่งผมและชี้ไปที่กองหนังสือบนโต๊ะ   "หนังสือพวกนี้คุณกรเป็นคนเขียนหมดเลยเหรอครับ?" ผมหยิบหนังสือขึ้นมาดูชื่อเรื่องและประเภทนิยายแล้วแยกกองไว้ก่อน   "เปล่า มีของคนอื่นด้วย ฉันซื้อมาอ่านไว้เป็นแนวทาง เพื่อไม่ให้เรื่องซ้ำกับของคนอื่น แต่บางเรื่องซื้อมาอ่านเพราะชอบเนื้อเรื่อง" เขาตอบแล้วหันไปสนใจในจอโน้ตบุ๊กต่อ   ผมเพิ่งเคยเห็นคุณทิวากรทำงานนี่ล่ะ เขาสวมแว่นตาด้วย ดูเท่ไปอีกแบบ   "มองอะไร?" เขาหันมาถาม ผมสะดุ้งเลย เพิ่งรู้ตัวว่าผมยืนมองเขาจนลืมทำงานที่เขาสั่ง ก็เขาหล่อนี่นา ผมชอบมองหน้าเขาจริง ๆ   "เปล่าครับ ขอโทษครับ" ผมรีบตอบแล้วหันหน้าหนีมาสนใจกองหนังสือต่อ สายตาเขาทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นล่ะ ปกติตาเขาคมและดุ แต่ตอนเขาตั้งใจทำงานมันดูดีมาก จะว่าไงล่ะ ผมบอกไม่ถูก เหมือนคนที่กำลังสนุกและมีความสุข   ผมรีบจัดหนังสือเข้าชั้นจนเรียบร้อยและมาหาเขาที่โต๊ะ เผื่อเขาจะมีอะไรสั่งผมอีก ผมมองไปที่ห้องอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ มันมีฉากไม้สักสูงประมาณหนึ่งเมตรกั้นแยกไว้ ด้านในเป็นตู้โชว์ที่มีพวกตัวการ์ตูนกับนักรบ ที่เรียกว่า... ฟิกเกอร์ ใช่หรือเปล่านะ อีกตู้เป็นพวกเครื่องบินรบกับรถถังเท่ ๆ แบบที่เคยเห็นในหนัง ยานอวกาศก็มี แล้วก็... ผมมองไปที่ผนังกว้างที่แขวนปืนสารพัดแบบเอาไว้ กว่ายี่สิบกระบอกเลยมั้ง ของจริงไหมเนี่ย   "ปืนจำลองน่ะ เป็นบีบีกันหมดเลย ฉันชอบสะสมมัน รวมถึงฟิกเกอร์กับโมเดลพวกนั้นด้วย" เขาบอกเมื่อเห็นผมยืนมองของในตู้โชว์พวกนั้น   "ของจำลองเหรอครับ? มันเหมือนของจริงมากเลยนะครับ" ผมยังละสายตาจากปืนพวกนั้นไม่ได้ มันสวยจริง ๆ   "เคยเห็นของจริงหรือไง?" เขาถามอีก   "เคยเห็นจากในหนังครับ" ผมหัวเราะแหะ ๆ ของจริงน่ะ ผมไม่เคยเห็นหรอก   "ของฝั่งนั้นแค่ดูก็พอนะ ห้ามแตะ ราคามันมากกว่าหนังสือพวกนี้รวมกันอีก" คุณทิวากรบุ้ยไปทางชั้นหนังสือที่ผมคิดว่าน่าจะมีเกือบพันเล่ม   "ครับ ผมจะไม่แตะมันครับ" ผมรับปาก ถึงยังไงเขาก็ไม่ให้ผมเข้ามาในห้องนี้อยู่ดีนี่ ผมคงไม่ได้แตะมันหรอก   "ไอ้กร!"   ประตูห้องทำงานเปิดผลัวะจนผมตกใจรีบหันไปดู และมีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาข้างใน เขาชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นผม   "เด็กนี่มาจากไหน?" เขามองผมแล้วหันไปมองคุณทิวากร   "กูเก็บได้จากหน้าบ้าน เลยเอามาเลี้ยงกับไอ้ข้าวตัง ให้ทำงานบ้านแลกค่าอยู่ค่ากิน" คุณทิวากรตอบแล้วมองมาที่ผม   "นี่มึงเลี้ยงเขาแบบแมวเหรอวะไอ้นักเขียนโรคจิต เด็กนี่หน้าตาออกจะน่ารัก ดันเห็นเป็นแมวซะได้" ผู้ชายตัวสูงหันไปด่าเจ้านายผมเฉยเลย   "เออน่า เรื่องของกู แล้วมึงมีไรไอ้เกย์เพลย์บอย จะมาก็ไม่โทรมาบอก" คุณทิวากรด่ากลับ ปากจัดพอกันเลยครับ   "ไอ้ผีแมวโพง มึงลืมเหรอว่านัดกูไว้ ความจำสั้นจังวะ" เขาด่านายผมอีกแล้ว หน้าตาก็ออกจะหล่อ ทำไมปากจัดกันแบบนี้นะ   "เออว่ะ กูลืมไปเลย งั้นมึงรอกูไปแต่งตัวแป๊บ"   คุณทิวากรถอดแว่นตาเก็บใส่ลิ้นชักโต๊ะ ปิดโน้ตบุ๊กแล้วเดินออกจากห้อง ผมเลยเดินตามออกมาพร้อมผู้ชายคนนั้น เขาปิดประตูห้องทำงานแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา ผมเลยรีบไปรินน้ำใส่แก้วยกมาให้   "หนุ่มน้อย เราชื่อไรล่ะ? แล้วมาจากไหน?" เขาถามแล้วยิ้มให้ผม   "ผมชื่อข้าวเม่าครับ มาจาก เอ่อ..." ผมไม่รู้จะตอบยังไงแฮะ   "หลงทางมาเหรอ? แล้วไอ้กรเลยให้มาอยู่ด้วย" เขาถามอีก   "ครับ ประมาณนั้น เอ่อ... คุณเป็นเพื่อนคุณกรเหรอครับ?"   "ฉันชื่อเทวินทร์ เรียกพี่วินทร์ก็ได้นะน้องข้าวเม่า" เขายิ้มแล้วจับมือผม   "เอ่อ... ครับคุณวินทร์" ผมรีบดึงมือหนี สายตาเขาดูแพรวพราวไม่น่าไว้ใจเลย   "วันหลังพี่มารับไปเที่ยวได้ไหม? อยู่แต่ในบ้านน่าเบื่อแย่"   "ไม่ว่ะ กูไม่อนุญาต ถ้ามึงไม่อยากโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ ก็ไม่ต้องมายุ่งกับเด็กกู" คุณทิวากรจับบ่าผมแล้วดึงเข้าไปหาเขา   "กูพูดเล่นน่า ใครจะยุ่งกับเด็กวะ มันต้องระดับเด็กมหาลัยสิ ถึงจะร้อนแรงน่ากินที่สุด" คุณเทวินทร์มองผมอีกทีแล้วก็เลิกสนใจ ผมงี้แอบถอนหายใจเลยครับ เขาดูอันตรายจัง พูดจาก็แปลก ๆ   "ข้าวเม่า วันนี้ฉันจะออกไปข้างนอกนะ ไม่ต้องรอกินข้าวเย็น อาจจะกลับดึก หาอะไรกินเองเลย เอ้านี่เงิน แถวหน้าปากซอยมีร้านขายของ มีรถเข็นขายของกินด้วย อยากกินอะไรก็ซื้อเอา แล้วอย่าไปเดินตามคนแปลกหน้าล่ะ" คุณทิวากรสั่งแล้วยื่นเงินให้ผมตั้งห้าร้อยแน่ะ เยอะมากเลย   "ขอบคุณครับ" ผมรีบยกมือไหว้ขอบคุณแล้วรับเงินใส่กระเป๋า   "ไปล่ะ อย่าลืมเทอาหารให้ไอ้ข้าวตังด้วยนะ" เขายกมือลูบหัวผมแล้วเดินกอดคอคุณเทวินทร์ออกไปจากบ้าน   วันนี้ผมอยู่คนเดียวอีกแล้วสินี่ ผมถอนหายใจแล้วเดินไปเปิดทีวีดู แต่มันไม่มีอะไรน่าดูเลย ผมเลยปิดทีวีแล้วเดินไปชั้นหนังสือข้างผนัง มองรายชื่อหนังสือว่ามีอะไรน่าอ่านบ้าง แต่ก็มีแต่น***********กอะ ไม่ไหวแฮะ แล้วนี่อะไร? นิยายวาย คืออะไร? ผมเลยหยิบมาดูเล่มหนึ่ง   "ผู้ชายกับผู้ชายเหรอ?" ผมมองรูปหน้าปกด้วยความแปลกใจ ผู้ชายกับผู้ชาย ไม่ใช่กะเทยแบบที่ผมเคยเห็นด้วย ผมถือมานั่งที่โซฟาแล้วเริ่มอ่านมัน   แล้ววันนี้ทั้งวันผมก็จมตัวเองไปกับนิยายเล่มนี้   -------------------------  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD