bc

แมวขโมยที่รัก

book_age18+
208
FOLLOW
1K
READ
sweet
like
intro-logo
Blurb

ชีวิตปกติแสนจะธรรมดาของ 'ทิวากร' คนเขียนนิยายคนหนึ่ง ที่เปลี่ยนไปตั้งแต่เขาเจอเด็กผู้ชายคนหนึ่ง นอนซุกอยู่ที่ข้างพุ่มดอกเข็มหน้าบ้าน ไล่ยังไงก็ไม่ไป หน้าตาก็มอมแมมเหมือนแมว แถมบาดเจ็บด้วย สุดท้ายก็หิ้วเข้าบ้าน จับอาบน้ำ ทายา หาข้าวให้กิน และโยนไว้มุมหนึ่งของบ้าน เลี้ยงเอาไว้เหมือนเลี้ยงแมวตัวหนึ่ง และให้ทำงานบ้านแลกค่ากินอยู่ แต่เพราะความปากไวของเขา ที่เผลอไล่ลูกแมวตัวนั้นไป เจ้าแมวจรจัดนั่นก็เลยหนีไป พร้อมทั้งขโมยหัวใจเขาไปด้วย แล้วเขาจะไปตามหาแมวขี้ขโมยกับหัวใจของเขาที่ไหนล่ะ?

chap-preview
Free preview
01 - เสียงร้องไห้ปริศนา
บรรยากาศตอนดึกช่างเงียบสงัดและวังเวง ลมสงบนิ่ง ต้นไม้ใบหญ้านิ่งสงบและไม่ไหวติง ไม่มีแม้แต่เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องบรรเลงดังเช่นในสมัยก่อนเก่า นกกลางคืนที่ออกหากินกลางแสงจันทร์นวลสวยก็หาได้ยากยิ่งในเมืองใหญ่ที่มีแต่ตึกสูง ผู้คนต่างหลับไหลเพื่อฟื้นกำลังกายจากงานหนักยามกลางวัน มีผู้คนเพียงไม่มากที่ยังคงทำงานในเวลานี้   รปภ.นายหนึ่งออกตรวจตราเวรยามในหมู่บ้านจัดสรรตามเวลา เขามองไปยังบ้านทุกหลังด้วยความระแวดระวัง ไฟทุกดวงในบ้านปิดและเงียบสนิท ถนนทุกเส้นมีเพียงแสงจากเสาไฟเท่านั้นที่ยังคงส่องสว่าง แต่มันก็สลัวเต็มทีตามอายุการใช้งาน ทุกแห่งเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงเอี๊ยดอ๊าดของโซ่จักรยานที่ไร้การหยอดน้ำมันที่ปั่นไปตามถนนอย่างช้า ๆ มันดังกังวานก้องไปในความเงียบสงัด เงาของเขาวูบวาบล้อแสงไฟไปตามรั้วบ้านมองดูคล้ายกับจะมีสิ่งใดวิ่งตามมาด้านหลัง...   รปภ.ชะงักกึก เขาชะลอรถจักรยานและเงี่ยหูฟังเสียงแผ่วเบาที่ลอยมาตามลม อะไรน่ะ? เสียงร้องไห้เหรอ? ใครกันจะมาร้องไห้เวลานี้? เขาคิดแล้วหันหลังกลับไปมองหนทางที่เพิ่งผ่านมา แล้วเขาก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นเงาสีขาวจาง ๆ เคลื่อนฝ่าความมืดใกล้เข้ามา นั่นมันอะไรกัน!! คนเหรอ? แต่... มันเหมือนกับลอยมามากกว่าจะเดินนะ!!   รปภ.รู้สึกเสียวสันหลังวาบแบบไม่มีสาเหตุ ขนตามตัวลุกตั้งชันพร้อมกัน เหงื่อเม็ดโตผุดออกมาจากรูขุมขน สัญชาตญาณบอกเขาว่า นั่นไม่ใช่คนแน่นอน ถ้างั้นมันก็คือ... เขากลืนน้ำลาย และ...   "???"   เสียงเพลงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือดังลั่นแหวกความเงียบตอนตีสอง พร้อมการสั่นระรัวจนแทบจะตกจากโต๊ะ ทำให้คนที่นั่งจดจ่อหน้าจอโน้ตบุ๊กสะดุ้งเฮือกจนผวาแทบจะหงายหลัง หน้าเขาถอดสีและยกมือลูบหน้าอกปลอบใจตัวเองให้หายตระหนก เขาหันไปมองต้นเสียงด้วยความเคืองก่อนจะคว้ามันขึ้นมารับสาย   "ไอ้เหี้ยวิน!! มึงจะโทรมาทำไมตอนนี้วะ กูตกใจหมด กำลังเขียนนิยายผีอยู่เลย ไอ้..." ทิวากรด่าคนปลายสายเป็นชุด   "ไอ้สัสกร! มึงจะเขียนนิยายผีทำมะเขือไรตอนดึก ๆ วะ ถ้ามึงจะกลัวผีขนาดนี้" เสียงปลายสายหัวเราะออกแนวสะใจ   "กูไม่ได้กลัว! กูตกใจ! เชี่ย กูเกือบหัวใจวายตาย" ทิวากรแว้ดใส่เพื่อน   "งั้นมึงก็ตั้งระบบสั่นสิวะ จะได้ไม่ตกใจ" เทวินทร์ยังหัวเราะไม่เลิก   "ตั้งสั่นกูก็ไม่รู้ว่าใครโทรมาสิวะ แล้วมึงมีอะไรถึงโทรมาตอนตีสอง? ให้มีสาระนะมึง เสียเวลากูสัส ๆ" ทิวากรบ่นใส่ด้วยความเคือง   "ธุระไม่มีว่ะ กูเพิ่งกลับมาถึงบ้านเนี่ย กูรู้ว่ามึงยังไม่นอน กูคิดถึงก็เลยโทรมาหามึงไง" เทวินทร์ส่งเสียงออดอ้อน   "แต่กูไม่ได้คิดถึงมึงว่ะ มึงไปหื่นไกล ๆ กูเลยนะ ไม่งั้นมึงจะโดนตีนกูประทับบนหน้าหล่อ ๆ ของมึง" ทิวากรด่าเพื่อนสนิทด้วยความเคืองมากเป็นสองเท่าเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายแค่โทรมากวนประสาทเขาเล่น   "แหม~ มึงนี่ไม่มีอารมณ์สุนทรีย์กับคารมกูเลยนะ น่าเสียใจจัง" เสียงถอนหายใจเหมือนกำลังน้อยใจ หากแต่คนฟังรู้สึกว่ามันโคตรจะดัดจริต   "พอละไอ้วิน มึงอย่ามาเนียนไร้สาระจีบกู กูจะวางสายละ เสียเวลาทำงานกูสัส ๆ เวลายิ่งไม่ค่อยมีอยู่" ทิวากรส่ายหัวแล้วกดวางสาย ทันได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจจากเพื่อนดังมาก่อนสายจะตัดไป และเหลือเพียงความเงียบ   "ไอ้เหี้ยวิน ไอ้เกย์นรก ทำกูตกใจจนลืมนิยายหมดเลย ตะกี้ว่าจะเขียนต่อยังไงวะ ไอ้รปภ.นั่นมันเจออะไรวะ" ทิวากรซบหน้าลงฝ่ามือด้วยความปวดหัว อารมณ์ที่บิวต์มาสำหรับนิยายผีหายวับไปหมด เขาเงยหน้ามองจอโน้ตบุ๊กที่เขียนค้างไว้แล้วถอนหายใจ   "เกือบตีสามแล้ว พอละ ไปนอนดีกว่า ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่" ทิวากรเซฟงาน ปิดคอม ผลักเก้าอี้ออกจากโต๊ะแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ เขาเดินไปปิดไฟ ปิดประตูห้องทำงานแล้วเดินขึ้นชั้นสอง ผลักประตูห้องนอนแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ตลบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวแล้วหลับไป   ----------   "ฮึก... ฮึก... ฮือออ..."   เสียงร่ำไห้แผ่วเบา ผสมเสียงสะอื้นราวกับเจ็บปวดนักหนาแต่พยายามกัดฟันกลั้นสะอื้นล่องลอยมาตามลม มันแทรกผ่านบานหน้าต่างกระจก ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบหูคนกำลังนอนหลับบนเตียง ทิวากรลืมตาพรึ่บแล้วลุกขึ้นนั่ง เขามองไปรอบ ๆ ห้อง แต่มันก็ไม่มีอะไรผิดปกติ   "ใครร้องไห้วะ? ตอนตี 3 กว่าเนี่ยนะ? คงไม่ใช่... ไอ้นั่นนะ..." ทิวากรขนลุกเกรียวไปทั้งตัว เขาหย่อนเท้าลงจากเตียงแล้วรีบหดขึ้นทันทีเมื่อเสียงร้องไห้ดังมาอีก   "ไม่น่า บ้านนี้เราอยู่มา 20 ปีแล้วไม่เคยเจออะไรสักอย่าง จะมาเจอเอาตอนเขียนนิยายผีหรือไงวะ"   เขาปลอบตัวเองแล้วลุกไปแง้มม่านหน้าต่างมองออกไปที่ถนน แต่มันว่างเปล่า มีเพียงแสงจากหลอดไฟตรงเสามุมรั้วเท่านั้น   "ไม่มีอะไรนี่ หมาก็ไม่หอนสักหน่อย เพ้อเจ้อละ สงสัยหูแว่ว" เขาผ่อนลมหายใจออกมาแล้วเดินกลับไปที่เตียง   "ฮืออ... พ่อครับ... ฮึกก..."   ทิวากรสะดุ้งเฮือก ครั้งนี้เสียงมันชัดขึ้นอีกแล้ว มันดังมาจากบ้านเขานี่เอ๊งงง แล้วมันอยู่ไหน มองออกไปก็ไม่มีอะไรนี่หว่า   เขาลูบหน้าอกหนัาใจที่กำลังเต้นโครมครามแล้วปลอบให้มันสงบ ก่อนจะตัดสินใจก้าวเท้าออกจากห้อง เดินลงไปชั้นล่าง   "มันต้องเป็นขโมยแน่!" เขาเดินไปคว้าปืนไรเฟิลที่แขวนตรงผนังในห้องทำงาน จับให้กระชับมือแล้วเดินไปทางหลังบ้าน แง้มประตูห้องครัวแผ่วเบา สายตามองฝ่าความมืดไปจนทั่วห้อง   "เฮ้ย!" ทิวากรใจหายวาบเมื่อเจอดวงตาสีเขียวคู่หนึ่งที่สูงระดับสายตาเขาพอดี มันเรืองแสงในความมืดและจ้องมาที่เขา เขายกปืนประทับบ่าแล้วเล็งดวงตาคู่นั้น มันมองเขาแล้วกะพริบช้า ๆ ก่อนจะขยับเคลื่อนไปทางขวาและส่งเสียงออกมาแผ่วเบา   "เมี้ยวว..." เจ้าแมวลายสลิดสีน้ำตาลสะบัดหน้าใส่ทิวากรแล้วกระโดดลงจากตู้วางของ เดินนวยนาดออกไปทางช่องประตูแมวหลังครัว   "ไอ้ข้าวตัง! ไอ้แมวนรก ทำกูตกใจหมด นึกว่าผี" ทิวากรด่าแมวตัวเองแล้วลดปืนลง   เดี๋ยวสิ! ทิวากรชะงักกึก ไอ้ข้าวตังมันร้องไห้ไม่ได้นี่หว่า แถมยังเรียกพ่อแบบนั้น แมวโลกไหนมันทำได้วะ!   ทิวากรยืนนิ่งในครัว หูเงี่ยฟังเสียงต่าง ๆ รอบตัวท่ามกลางความเงียบสงัด แล้วเขาก็ได้ยินมันอีกแล้ว เสียงสะอื้นแผ่วเบานั่น มันดังแว่วมาอีกแล้ว   ..เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ถ้าเป็นขโมยก็จะกระทืบมันให้น่วมแล้วจับส่งตำรวจ แต่ถ้าเป็นผี... ค่อยว่ากันอีกที   ทิวากรค่อย ๆ เดินไปจนรอบบ้าน แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเจอคนหรืออะไรสักอย่างในตัวบ้าน เขาเดินไปที่ประตูหน้าบ้านแล้วเปิดออกช้า ๆ แต่ข้างหน้าบ้านว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวเลย ทางโรงจอดรถก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ลานข้างบ้านก็สงบเงียบ สนามหญ้าก็ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่แมวสักตัว มีแต่ความสงัดเงียบท่ามกลางความมืด   เขาเดินออกไปดูที่ถนนหน้าบ้าน สุดถนนทางซ้าย สุดถนนทางขวา แต่ทุกอย่างก็สงบเงึยบ ไม่มีคนเดิน ไม่มีรปภ. ไม่มีขโมย ไม่มีผี ไม่มีหมา ไม่มีอะไรเลย   "สงสัยเขียนเรื่องผีจนหลอนไปเองแน่เลยว่ะ ต่อไปไม่เขียนละ กลับไปเขียนแนวโรแมนซ์อีโรติกแบบเดิมดีกว่า" ทิวากรเกาหัวแล้วหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน   เขาเดินไปห้องทำงาน เก็บไรเฟิลแขวนไว้ที่เดิม ปิดประตูห้องแล้วกลับขึ้นไปนอนต่อ แต่ทำยังไงก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้อีก มันจะตี 5 แล้ว เขาถอนหายใจยาวแล้วลุกขึ้นไปล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปวิ่งออกกำลังกายที่สนามสาธารณะของหมู่บ้าน   "วิ่งเรียกเหงื่อให้มันเหนื่อย ๆ จะได้มานอนสักงีบ ก่อนลุกไปปั่นต้นฉบับต่อ"   -------------------------  

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

マイBLノーベル เขียนนิยายให้กลายเป็นรัก

read
1K
bc

Change you!!! เปลี่ยนจากนายให้กลายเป็นสาว

read
1.9K
bc

Spicy Short Story Set 3 รวมเรื่องสั้นเผ็ดซี้ด ชุดที่ 3

read
1.1K
bc

The Night with the Beast ราตรีอสูร

read
1K
bc

ทาสเรือนพระยา

read
1.2K
bc

เริ่มแรกจากงานวิวาห์

read
2.8K
bc

My Doctor อกเคยหักเพราะรักหมอ

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook