CHAPTER 8 ห้ามเข้าใกล้เกิน 5 เมตร

1398 Words
“พี่เหมียว พอดีฝันพึ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ทำงานส่งยังไงฝันขอตัวก่อนนะคะ มื้อนี้ฝันเลี้ยงเอง” พูดเองเออเองจบก็ควักเงินจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวแล้วรีบแจ้นออกมาไม่เหลียวหลัง เมื่อกี้เฮียน็อตได้ยินคำพูดของพี่เหมียวรึเปล่านะถ้าขนาดพี่ธูปที่นั่งไกลกว่ายังได้ยิน เฮียน็อตก็คงได้ยินเต็มสองหู “เรื่องจุ๊บยังไม่เคลียร์ เรื่องใหม่งอกอีกแล้ว ไอ้ฝันนะไอ้ฝัน” ทำไมช่วงนี้ดวงตกนักก็ไม่รู้ เรื่องเก่ายังไม่คลี่เลยด้วยซ้ำ เรื่องใหม่ก็งอกมาให้ปวดหัวเพิ่มจนได้ “อยู่ไหนเนี่ย!” ฉันควานหากุญแจห้องในกระเป๋ากางเกง แต่หายังไงก็หาไม่เจอ พอดึงถุงออกมาถึงได้รู้ว่า “ขาด?” ฉันตีหน้าผากตัวเอง ชีวิตใครจะซวยเท่าไอ้ฝันมีอีกไหม วิ่งหนีเฮียน็อตมาแท้ ๆ ยังต้องเดินกลับมาทางเดิมเพื่อไล่หากุญแจอีก ถ้าคืนนีhหาไม่เจอจะนอนไหน คุณป้าเจ้าของหอคงหลับปุ๋ยแล้วป่านนี้ ถ้าไปปลุกขอกุญแจสำรอง แน่นอนว่าต้องโดนสวดยันลูกโต “อยู่ไหนไอ้ลูกไม่รักดี ดึกดื่นป่านนี้ยังกล้าหนีออกจากกระเป๋า” ก้มหน้าบ่นพึมพำเหมือนคนบ้า หายก็ดันมาหายวันนี้ หายพรุ่งนี้มะรืนนี้ไม่ได้ไง “เอาไป” กุญแจดอกน้อยถูกยื่นมาตรงหน้า ฉันหลุดยิ้มเมื่อเห็นว่าบนกุญแจมีสติกเกอร์ MF ติดอยู่ แต่พอเงยหน้าเท่านั้นแหละ ปากฉันหุบเข้าหากันแทบไม่ทัน “ไม่เอาใช่ไหมจะได้ทิ้ง” “เดี๋ยวค่ะเดี๋ยว ฝันเอา” ฉันถอยหลังมาหนึ่งก้าวแบมือขวาออกไปตามด้วยมือซ้ายที่รองข้อมือขวาไว้อีกชั้น ทำตัวเรียบร้อยยิ่งกว่ากุลสตรีแห่งกรุงศรีอยุธยา แต่จนแล้วจนรอด คนที่ถือกุญแจอยู่ก็ไม่ยอมยื่นให้กัน “ฝันขอกุญแจคืนด้วยค่ะ” เกร็งจนตะคริวจะขึ้นอยู่แล้วนะ ยังไม่ยอมคืนให้อีก “ต่อไปนี้เธอห้ามเข้าใกล้ฉันเกินห้าเมตร” “ยังไงนะคะ” กลัวว่าตัวเองฟังผิดถึงกับต้องถามซ้ำ ห้ามเข้าใกล้เกินห้าเมตรเนี่ยนะ? “ฉันว่าเธอได้ยินแล้ว เอาไป” กุญแจดอกเล็กลอยลิ่วกลางอากาศ ฉันกุลีกุจอรีบพุ่งตัวเข้าไปรับ รับได้ก็มุ่ยหน้าใส่คนทำ อุตส่าห์แบมือรอตั้งนาน ถ้าจะโยนขึ้นฟ้าทำไมไม่บอกจะได้ไม่เสียเวลาแอคท่า “ทำไมต้องห้ามเข้าใกล้ด้วยล่ะคะ” “ฉันไม่ชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของ” “ไม่ใช่อย่างที่เฮียคิดนะคะ” รีบคว้าแขนไว้กลัวเฮียน็อตจะเดินหนี แต่พอคนพี่ปรายตามองด้วยสีหน้าเหวี่ยงจัด ฉันก็รีบปล่อยมือราวกับต้องของร้อน “ฝันโสดจริง ๆนะไม่ได้โกหก” “นั่นมันเรื่องของเธอ” “เรื่องของฝันก็จริง แต่ฝันอยากให้เฮียรู้ด้วย” “ฉันรู้แล้ว รู้ว่าเธอมีคู่หมั้น แต่ก็ยังตามจีบผู้ชายคนอื่นหน้าตาเฉย” “ไม่ใช่สักหน่อย ทำไมเฮียไม่ฟังฝันพูดบ้าง” เอาแต่พูดเองเออเองอยู่นั่น ฟังคนอื่นพูดบ้างไม่ได้รึไง “ฉันเชื่อในสิ่งที่เห็น คำพูดเป็นแค่ลมปาก ลิ้นไม่มีกระดูกจะพูดอะไรก็ได้” พูดจบก็เดินออกไปเลย ไม่ว่าฉันจะเรียกยังไงเฮียน็อตก็ไม่ยอมหันกลับมา “ต้องทำยังไงเฮียน็อตถึงจะฟังฉันพูดเนี่ย” ยีหัวตัวเองอย่างคนคิดไม่ตก เดินคอพับขึ้นห้องด้วยร่างกายไร้วิญญาณ “อยากมีแฟนทั้งทีทำไมอุปสรรคเยอะขนาดนี้ หรือว่าฉันควรจับเฮียน็อตลากเข้าห้องให้มันจบ ๆ ไป ใช้ร่างกายอันเย้ายวนชวนฝันหลอกล่อให้น้ำลายหก” หัวเราะคิกคักกับความคิดของตัวเอง แต่พอฉุดคิดว่ากว่าจะลากคนตัวโตเข้าห้องได้ ฉันน่าจะโดนฆ่าปาดคอก่อน “เฮ้อ… นี่สินะที่โบราณบอก มีรักย่อมมีทุกข์” วันต่อมาฉันนอนเปื่อยอยู่ห้องเหมือนอย่างเคยไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร คิดวนแต่คำพูดของเฮียน็อตที่ว่าห้ามฉันเข้าใกล้เกินห้าเมตร “จะว่าไป ถ้าเฮียน็อตไม่ได้แคร์ฉัน แล้วเฮียเขาจะโมโหทำไมเรื่องที่รู้ว่าฉันมีคู่หมั้น แบบนี้แสดงว่ามีใจรึเปล่า มีใจแล้วแน่ ๆ” เด้งตัวลุกจากเตียงด้วยความตื่นเต้น เปิดแช็ตส่งข้อความหานินิวว่าจะไปหาที่ห้อง รายนั้นตอบมาว่าโอเค ฉันเลยรีบอาบน้ำ กะว่าจะแต่งตัวสวย ๆ ไปให้คนหล่อเห็นหน้า “ห้ามดีนัก เดี๋ยวทำให้รักแล้วจะรู้สึก!” เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้เหมือนฝันย่อท้อหรอกนะจะบอกให้ แค่ห้ามเข้าใกล้แต่ไม่ได้ห้ามให้ไปหาสักหน่อย ดังนั้นด้านได้อายอด ท่องไว้ให้ขึ้นใจนะเหมือนฝัน “ทำไมถึงออกจากถ้ำในวันหยุดแบบนี้ได้คะคุณเหมือนฝัน” “คิดถึงเพื่อนค่ะเลยมาหา” นินิวหลี่ตามองกันอย่างไม่เชื่อ แน่ล่ะ พึ่งเจอกันเมื่อคืนจะคิดถึงได้ยังไง “เฮียน็อตไม่อยู่ห้องหรอกนะ” “อ้าว” เหวอเลย ทั้งที่ตั้งใจแล้วแท้ ๆ ว่าจะมาเจอ “พอรู้ว่าฝันจะมารีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปเลย”แรงมาก แรงดีไม่มีแผ่ว “แล้วแบบนี้ยังคิดถึงกันอยู่ไหม” นินิวยิ้มเย้ย “คิดถึงค่ะ แบบนี้ยิ่งคิดถึงมากกว่าเดิม จะอยู่จนดึกดื่นไม่กลับห้องเลยคอยดู” ดูซิว่าจะหนีได้สักกี่น้ำ ยิ่งไกลมักยิ่งใกล้ ยิ่งเกลียดอะไรยิ่งได้อย่างนั้น ไม่เคยได้ยินรึไงคะเฮียน็อตขา หนีไปเถอะ จ้างให้ก็หนีฝันไม่พ้นหรอก! “นี่กะจะรอเฮียน็อตจริง ๆ เหรอ” นินิวเท้าเอวถามเมื่อเห็นว่าฉันนอนอืดอยู่บนโซฟาตั้งแต่เที่ยงจนปาเข้าไปเกือบสามทุ่มก็ยังไม่มีวี่แววว่าเฮียน็อตจะกลับมา “บอกแล้วไงว่าจะรอ” กอดหมอนอิงแล้วเลื้อยตัวหันข้างเข้าหาพนักพิง ทำตัวตามสบายราวกับห้องของตัวเอง “คืนนี้เฮียไม่กลับ” “พูดจริง?” ฉันหมุนตัวกลับไปถามนินิวอย่างไม่เชื่อ “จริง” คนตัวเล็กพยักหน้า “ส่งข้อความมาเมื่อกี้” นินิวให้ฉันอ่านแช็ตที่พี่ชายตัวเองส่งมา อ่านเสร็จฉันก็ย่นจมูกใส่หน้าจอโทรศัพท์ ประหนึ่งว่าเจ้าของแช็ตนั่งอยู่ตรงนี้ด้วย “สรุปเอาไง กลับหรือนอนนี่?” “กลับแหละ ไม่ได้เตรียมอะไรมา” “ใช้ของฉันก็ได้” “ไม่เป็นไร” “ตามใจ” เพื่อนรักไม่เซ้าซี้ “งั้นกลับดี ๆ ไม่ลงไปส่งนะ” “เค” ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เบ้ปากบ้ายบาบนินิวแล้วเดินคอตกออกจากห้อง แผนการที่วางไว้สุดท้ายก็ล่มไม่เป็นท่า นี่เฮียน็อตรังเกียจฉันขนาดนี้เลยงั้นเหรอ ลงทุนค้างห้องเพื่อนเพียงเพราะฉันอยู่คอนโดเขาเนี่ยนะ? “กูกลับมาเอาของไอ้สัสมึงจะโทรจิกอะไรนัก” เสียงคุ้นหูทำให้ฉันที่กำลังก้าวขาขึ้นรถเงี่ยหูฟัง “เมียก็ไม่ใช่แค่นี้” พอแน่ใจว่าใช่แน่ ๆ ฉันจึงไม่รอช้าพุ่งตัวดักหน้าไว้ทันที “เฮ้ย! เธอเล่นบ้าอะไรเนี่ย!” เฮียน็อตถอยหลังหนีด้วยความตกใจถึงสองก้าว ฉันเองก็สะดุ้งเพราะตกใจเสียงอุทานของเฮียเขาด้วยเหมือนกัน “ฝันไม่เล่น วันนี้ฝันเอาจริง” “เธอจะทำอะไร” เฮียน็อตเดินถอยกระทั่งแผ่นหลังติดกับฝากระโปรงรถ เห็นดังนั้นฉันก็ยิ้มกริ่ม รีบเอาแขนกักร่างสูงไว้ทันที “ทำให้เฮียไม่กล้าห้ามฝันอีกยังไงคะ” ไม่รอให้คนหน้าเหวี่ยงได้วิเคราะห์อะไร ปลายเท้าเขย่งสูงประกบริมฝีปากสีชมพูพีชเข้ากับริมฝีปากของคนพี่ เฮียน็อตตาเบิกกว้างอย่างคนตกใจถึงขั้นสุด ตัวของเฮียแข็งทื่อเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก ฉันเลยใช้จังหวะที่เฮียอ้าปากส่งเรียวลิ้นสอดล้วงเข้าไปถึงโพรงปากทางด้านใน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD