ชายกระโปรง

1496 Words
“ถือชายกระโปรงให้หน่อยสิ เดี๋ยวมันจะเปื้อน” เจ้าสาวในชุดที่ด้านบนเป็นเกาะอกด้านล่างเป็นกระโปรงฟูฟ่องชุดเดียวแบบในแบบที่คล้ายๆกับวันที่ถ่ายพรีเวดดิ้งเดินยกกระโปรงตัวยาวเข้ามาหาวาสิตาที่นั่งอยู่แถวหน้างาน เธอทั้งเหนื่อยที่ต้องหอบชุดยาวๆไปไหนมาไหนด้วยตัวเองเลยอยากหาตัวช่วยที่มักชอบทำตัวน่าสงสารอย่างวาสิตา เพราะงานนี้คงเหมาะกับวาสิตาดีด้วยเธอคงได้คะแนนสงสารมากพอสมควรสมใจอยากกันเลยก็ว่าได้ “ถือเองซิ” มือบางที่จับชายกระโปรงอยู่กำลังจะยื่นมันให้กับวาสิตาต้องชะงักเมื่อมีเสียงหนาเข้ามาขัดจังหวะ ใบหน้าหวานของเจ้าสาวที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเอาไว้อย่างสวยงามหันไปมองตามเสียงนั้นในทันที “ฉันอยากจะใช้ใครมันก็เรื่องของฉัน” พอหันไปดูจนรู้ว่าเป็นใครที่เดินเข้ามาส่งเสียงขัดจังหวะเธอ ณลินก็ส่งเสียงแหวใส่เขาทันที โดยไม่สนว่าจะมีแขกบางคนเริ่มทยอยเดินเข้ามาในงานแต่งนี้แล้ว ด้วยเธอไม่จำเป็นที่จะต้องรักษาหน้าใครทั้งนั้น สนใจแต่จะใช้อารมณ์ของตัวเองเป็นใหญ่เพื่อให้อีกฝ่ายรีบๆเบื่อเธอซะ “ฉันสั่งเธอก็ควรทำตาม” พายัพเสียงดังใส่เธอกลับอย่างไม่มียอมและไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น เพราะเขาไม่ชอบเห็นการทำตัวข่มกันเพื่อให้อีกคนดูด้อยกว่าอย่างที่เธอกำลังทำกับน้องของตัวเองอยู่ เธอควรได้รับการสั่งสอนให้หลาบจำจะได้เป็นผู้เป็นคนกับเขาเสียบ้าง “ฝันไปเถอะที่จะสั่งคนอย่างฉันได้” สองมือบางจับชายกระโปรงยาวและฟูของเธอเอาไว้อย่างดีไม่ให้มันหล่นลงมาลากกับพื้น แล้วเธอก็เดินหนีออกไปจากตรงนั้นหายเข้าไปในงานโดยไม่หันมามองคนทั้งคู่อีก “คุณหมอไม่น่าจะพูดแบบนั้นกับพี่ณิเลย แค่ถือชายกระโปรงแค่นั้นเองอิ้งทำได้ค่ะ” วาสิตามองตามพี่สาวของเธอที่เดินจากไปจนสุดสายตาราวกับอยากจะเดินตามไป พร้อมกับเอ่ยคำพูดต่อว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเบาๆที่มาต่อว่าพี่สาวของเธอ “คนแบบนั้นควรได้รับการดัดนิสัย ต่อไปน้องอิ้งอย่าไปยอมอีกนะ” สายตาคมมองตามหลังของเจ้าสาวของตัวเองไปอย่างไม่พอใจนักที่เธอมาเดินหนีเขาไปแบบนั้น แต่ก็พยายามข่มใจไว้ไม่ตามไปเพราะไม่อยากต้องทะเลาะด้วยจนงานแต่งนี้พัง “ค่ะ” วาสิตารับปากอย่างไม่เต็มเสียงนักเพราะไม่อยากทำอะไรที่ขัดใจณลินอย่างที่ทุกๆคนเห็นอยู่เสมอๆ “ไอ้เหนือ” ภูผาที่เดินเข้ามาภายในงานพร้อมกับครอบครัวและพี่น้องคนอื่นๆเอ่ยทักทายน้องชายคนที่สี่ของเขาก่อนใคร ด้วยเขาค่อนข้างตื่นเต้นกันงานนี้จนเก็บอาการไม่มิดเพราะไม่คิดว่าน้องชายคนนี้จะยอมแต่งงาน ถึงจะแค่ต้องการจบเรื่องบ้าๆบอๆก็ตาม “ไหนเจ้าสาววะ เห็นแต่รูปเต็มงาน” รัตติที่เดินเข้างานมาพร้อมกับทุกคนเอ่ยขึ้นเมื่อเขาพี่ชายผู้เป็นเจ้าบ่าวของงานนี้ยืนอยู่คนเดียว “ไม่รู้เหมือนกัน” พายัพหันไปทักทายหลานๆของเขาที่เดินเข้ามาภายในงานพร้อมกับพี่น้องของเขา แล้วก็หันมาตอบคำถามไปด้วยอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะงานนี้มันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ไปเดินหลงที่ไหนหรอก “เจ้าสาวหายไป แบบนี้ก็ได้เหรอวะ” เวฆาเอ่ยพูดขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเขาไม่เคยเห็นว่างานแต่งไหนๆจะเป็นแบบนี้เลย “เดี๋ยวถึงเวลาเริ่มงานก็คงเดินมาเองแหละ” พายัพยังคงเล่นกับหลานของเขาอย่างไม่สนใจอะไรอยู่ดี เพราะถ้าเจ้าสาวหายไปก็ดีเขาจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปอย่ากับเธออีก “เขากำลังจะเป็นเมียมึงเป็นว่าที่แม่ของลูก หัดดูแลเขาให้ดี” ธาราเอ่ยพูดขึ้นอีกคนด้วยน้ำเสียงที่ค่อนไปทางดุดันเพื่อให้น้องชายที่กำลังจะแต่งงานมีครอบครัวได้ลองหยั่งใจคิดดูใหม่ เพราะหลังจากแต่งงานแล้วก็ต้องดูแลกันเหมือนกับที่เขาและพี่ๆทำกันอยู่ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยแบบที่กำลังทำอยู่ เพราะวันหนึ่งอาจเกิดเรื่องที่น่าเสียใจขึ้นได้ “ใครบอกมึงว่ากูวางอนาคตไกลขนาดนั้น แค่แต่งให้เรื่องมันจบๆไปแค่นั้น” พายัพหันมามองหน้าบรรดาพี่ชายน้องชายของเขาที่คงกำลังต้องการคำตอบแบบจริงๆว่าทำไมเขาถึงทำตัวแบบนี้ แล้วตอบคำตอบออกไปตามตรงอย่างไม่มีปิดบังอะไร “เหรอ” ภูผาฟังแล้วก็กรอกตาไปมาอย่างไม่เชื่อจนภรรยาของเขาอย่างอลิสสาต้องยกมือขึ้นตีเบาๆที่ต้นแขนของเขาให้เขาหยุดทำแบบนั้น “แขกเริ่มมากันแล้ว มึงไปยืนต้อนรับแขกเหอะ เดี๋ยวพวกกูไปลองฉลองที่โต๊ะนะ” เวฆาที่เบื่อจะซักถามคนที่ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงนั้นมีความสามารถมากแค่ไหน มีวิธีที่มัดใจดีแค่ไหน เลยไล่ให้พายัพไปทำหน้าที่ในคืนนี้เสีย แล้วเขากับครอบครัวและพี่น้องคนอื่นๆก็พากันเข้าไปในงานแต่งที่จัดขึ้นอย่างหรูหราสมฐานะของพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงของเขา และงานนี้มันใหญ่โตมากเพราะเหมาะโรงแรมทั้งชั้นของน้องชายของเขาอย่างธาราจัดงานกันเลยทีเดียว “ยายณิหายไปไหน” เมื่อเริ่มมีการออกมาต้อนรับแขก คุณหญิงไขศรีก็เริ่มร้อนใจขึ้นมาจนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ เพราะหลานสาวของเธอที่เป็นเจ้าสาวในค่ำคืนนี้ยังไม่ยอมออกมาต้อนรับแขกที่หน้างาน แถมพอมองซ้ายมองขวาไปแล้วก็ยังไม่เห็นว่าอยู่ตรงส่วนไหนของงานอีก “ไปเข้าห้องน้ำมั้งคะ” ลักษณาที่คอยเดินประคองแขนคุณหญิงแม่ของเธออยู่เอ่ยตอบออกไปเพื่อให้คุณหญิงแม่ของเธอสบายใจ ทั้งที่เธอนั้นไม่ได้รู้อะไรด้วยตั้งแต่ลงมาจากห้องแต่งตัวก็ยังไม่เห็นณลินเลย “ไปตามมา อย่าให้ทางนั้นเขาต้องหงุดหงิด” ไขศรีรีบเร่งให้ลูกสาวของเธอออกไปตามแม่หลานสาวตัวดีมาก่อนที่ทางนู้นเขาจะถามหา เพราะแค่ฟังคำตอบของผู้เป็นลูกสาวก็พอจะเริ่มเห็นเค้าลางแล้วว่าหลานสาวตัวดีกำลังจะก่อเรื่อง “ค่ะ” ลักษณารีบออกไปทำตามคำสั่งของคุณหญิงแม่ของเธอทันที โดยมีวาสิตาเดินตามมาช่วยอีกแรง “รอยายณิสักครู่นะคะ รายนั้นตื่นเต้นมากขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” ไขศรีรีบแก้ตัวออกไปก่อนที่ทางนู้นจะถามหาหลานสาวเหลือขอของเธอ เพราะไม่อยากขายขี้หน้ากลางงานที่อยู่ดีๆหลานสาวของเธอก็หนีหายไปไหนไม่รู้ “ไม่เป็นไรค่ะคุณหญิง ให้หนูณิทำธุระให้เสร็จเถอะค่ะ ไม่ต้องรีบ” ศจีหันมาส่งยิ้มอย่างคนใจเย็นให้กับคุณหญิงไขศรีด้วยเธอไม่ได้เคร่งอะไรมากนัก อยากให้งานนี้เป็นแบบสบายๆและดูมีความสุข แต่พายัพผู้เป็นเจ้าบ่าวกลับหันมาส่งสายตาไม่พอใจเมื่อเขาต้องคอยมาตอบคำถามบรรดาแขกผู้ใหญ่ที่เริ่มจะถามหาเจ้าสาวของงาน “สกล” คุณหญิงไขศรีเห็นท่าไม่ค่อยดีเกรงว่าจะถูกเจ้าบ่าวของงานถอกงอกเอาได้เลยรีบเรียกลูกเขยให้เข้ามาหา “ครับคุณหญิงแม่” สกลที่กำลังคุยอยู่กับเพื่อนนักลงทุนด้วยกันรีบเดินเข้ามาหาผู้เป็นแม่ยายทันทีด้วยท่าทางอ่อนน้อม “แม่วานหน่อย ช่วยไปตามยายณิอีกแรง พาตัวมาให้ได้อย่าให้ก่อเรื่อง” ไขศรีรีบไหว้วานลูกเขยในทันทีเพราะเกรงว่าสองคนแรกที่ส่งไปจะตามหาหลานสาวเหลือขอของเธอไม่เจอหรือเจอก็อาจจะพาตัวมาไม่ได้ ณลินไม่ใช่ธรรมดาที่เพียงแค่จะเดินไปนั่งพักเหมือนที่คนทั่วไปเขาทำกัน หายไปแบบนี้คงไปก่อเรื่องอะไรแน่นอน “ครับคุณหญิงแม่” สกลก้มหัวหนึ่งทีรับคำแล้วก็รีบเดินเข้าไปภายในงานที่ใหญ่โตทันทีเพื่อทำตามคำสั่งของแม่ยายของเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD