การใช้ชีวิตแบบเดิม

1462 Words
ไม่นานรถหรูก็เคลื่อนตัวมาจอด​ที่หน้าคอนโดของเขา อึก ฉันกลืนน้ำลายอย่างช้าๆ "ลงมา" ฉันส่ายหน้าทันที ไม่ ฉันไม่ยอมลงเด็ดขาด เสืออย่างเขามันไว้ใจไม่ได้ "ถ้าไม่ลงมา ฉันอุ้ม" "ไม่ ยังไงฉันก็ไม่ลง" พรึบ!! เขาไม่ได้ขู่แต่เขาทำจริง เขาอุ้มฉันพาดบ่าแล้วเดินขึ้นลิฟต์ "ไอ้หมอเจ้าเล่ห์ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ" ฉันดิ้นพร้อมกับทุบหลังเขา ติ้ง ไม่นานลิฟต์ก็เปิดออก "ว้าย คุณหนูทำไมอุ้มหนูมะนาวอย่างนั้นละคะ" เสียงป้าส้มทักด้วยท่าทางตกใจแต่กลับส่งยิ้มมาให้ "ไม่มีอะไรหรอกครับป้า" "ป้าช่วยฉันด้วย ป้าคะ ป้า" ปัง เสียงปิดประตูดังขึ้น ตุ๊บ เขาโยนฉันลงเตียงโดยไม่ใยดี ฉันฉันรู้สึกจุกขึ้นมา "หมอพาฉันมาที่นี่ทำไม อย่าคิดทำอะไรไม่ซื่อกับฉันนะ ไม่งั้นฉันจะชกหน้าจริงๆด้วย" ฉันตั้งการ์ดพร้อมรบทันที ซึ่งทำให้ฉันตรงหน้ายิ้มขึ้นมา ยิ้มอะไร ยิ้มทำไมอ่า ฉันเดาอารมณ์ไม่ถูกแล้วนะ "เห๊อะ ยัยบ๊องเอ้ย เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอห้ะ ถึงถ้าฉันคิดจะทำอะไรเรื่องอย่างว่ากับเธอล่ะก็ ยังไงเธอก็ไม่มีทางรอดหรอกนะ" "แล้วพาฉันมาที่นี่ทำไม ทำไมไม่ส่งฉันกลับบ้าน" เขาเดินมานั่งที่ปลายเตียงแล้วมองมาที่ฉันด้วยแววตาเหมือนกังวลอะไรบางอย่าง "ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เธอห้ามมาให้ฉันเห็นหน้าอีกเด็ดขาด" หัวใจฉันหล่นวูบทันทีเมื่อฟังประโยคนั้นจบ ทำไม ฉันทำอะไรให้เขาไม่พอใจ "ทำไมนาย.." "ฉันช่วยเป็นนายแบบตามที่เธอขอแล้ว ส่วนเงินสองล้านเธอไม่ต้องเอามาคืน เธอก็ใช้ชีวิตตามที่เธอเคยใช้เหมือนตอนที่เธอยังไม่รู้จักฉัน ส่วนฉันก็จะใช้ชีวิตเหมือนตอนที่ฉันที่ฉันไม่รู้จักเธอ" อึก ฉันเม้มปากแน่นพร้อมพยักหน้าเบาๆ "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าหมอทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่มาให้หมอเห็นหน้าอีก งั้นฉันว่าฉันกลับดีกว่า" ฉันเดินตามทางไปเรื่อยๆ แสงไฟหลากหลายสีตอนกลางมันช่างสวยเหลือเกิน แต่ทำไมฉันรู้สึกไม่มีความสุขเลยน่ะ จู่ๆฉันก็รู้สึกร้อนที่ขอบตาพร้อมกับน้ำใสๆค่อยๆไหลออกมา "ฮือ ทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วย เราไม่ต้องเจอกันมันก็ดีแล้วนี่ ฉันจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม โลกที่ไม่มีคนชื่อต้า" ฉันเช็ดน้ำตาก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ฟิ้ว กึก ฉันหยุดเดินทันทีเมื่อรู้สึกเหมือนเดินชนอะไรสักอย่างแต่กลับไม่รู้สึกเจ็บ "เธอเห็นฉันใช่ไหม" ฉันหันไม่มองตามทิศทางของเสียงแต่กลับไม่พบใคร แปลก ถ้าเป็นวิญญาณฉันต้องมองเห็นสิ ฉันหลับตาพร้อมกับตั้งสมาธิ แต่พอลืมตาขึ้นมาก็ปรากฏรูปร่างคนซึ่งมันเป็นสีขาวที่กลมกลืนกับอากาศอย่างมาก มันทำให้ฉันขมวดคิ้วทันที "นายเป็นวิญญาณเหรอ ทำไมฉันไม่เคยเห็นวิญญาณแบบนายเลยล่ะ" "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าฉันเป็นผีไหม ผมจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อของตัวเองด้วยซ้ำ" "แล้วนายจำได้ไหมว่านายตายที่ไหน เป็นอะไรถึงตาย แล้ว.." "ผมไม่รู้" ฉันจับขมับตัวเองทันที "คุณช่วยผมได้ไหม ช่วยผมตามหาครอบครัว" ฉันอ้าปากค้างทันทีเมื่อเขาจับมือฉัน "เดี๋ยว ทะ...ทำไมนายจับมือฉันได้" ปกติวิญญาณบริสุทธิ์จะแตะต้องตัวฉันได้แต่ต้องเป็นวันพระเท่านั้น แต่วันนี้มันไม่ใช่วันพระ ฉันก้าวถอยหลังทันที "นายหยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ห้ามเข้ามาเด็ดขาด และอีกอย่างฉันมองเห็นนายแค่รูปร่างเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าหน้าตานายเป็นยังไง ฉันช่วยนายไม่ได้หรอกนะ ขอตัว" ฉันรีบเดินออกจากตรงนั้นทันที "เป็นวิญญาณที่แปลกจริงๆ " และฉันต้องตกใจอีกครั้งเมื่อแขนฉันถูกคว้าไว้ด้วยฝีมือวิญญาณตนนั้น "ผมไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ ช่วยผมเถอะนะ" "ไม่ แล้วก็อย่าตามฉันมานะ" ฉันชี้ไปหาวิญญาณตนนั้นแล้วโบกแท็กซี่ทันที ก ฉันรีบเดินขึ้นบ้านทันที "คุณอย่าพึ่งเข้าไป ช่วยผมเถอะนะ" ฉันหันไปมองนอกบ้านก่อนที่จะเข้าอาบน้ำนอน "กลับไปที่ชอบๆซ่ะ ยังไงนายก็เข้าบ้านฉันไม่ได้หรอก" ติ๊ด ฉันปิดไฟเข้านอนทันที แต่หลับตาได้ไม่นานก็คิดถึงคำพูดของเขาขึ้นมา เขาไม่อยากเจอฉันงั้นหรอ ของวันปิดภาคเรียน อื้อ ฉันบิดขี้เกียจแล้วลุกอาบน้ำแต่งตัว ฉันมองตัวเองผ่านกระจกก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ ฉันใส่แว่นตากระจกขาว ใส่วิกผมสั้นแนวผู้ชาย เสื้อยืดกางเกงยีนก่อนที่จะเดินออกจากห้อง "แม่ฉันไปทำงานก่อนนะ" ฉันตะโกนบอกแม่แล้วเดินไปหน้าบ้านทันที ฉันมองซ้ายมองขวาแต่กลับว่างเปล่า "หึ สงสัยคงไปแล้ว" แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก "เธอแต่งตัวแบบนี้จะไปไหน" "นี่ นายยังอยู่อีกเหรอ" ฉันมองนาฬิกาซึ่งพบว่ามันสายแล้ว ณ ที่เกิดเหตุ ไม่นานฉันก็มาถึงที่เกิดเหตุ ฉันถอยหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเดินไปหาพี่ก้อง โดยมีวิญญาณตนนั้นเดินตามมาด้วย "เธอเป็นอะไรถึงตายเหรอค่ะ" แชะ แชะ ฉันถามพี่ก้องพร้อมกับกดชัตเตอร์รัวๆ ซึ่งเป็นข่าวใหม่ที่ฉันต้องทำ "เอ่อ คุณคือ.." "นาวเองค่ะ" ฉันกระซิบข้างหูพี่ก้องเบาๆ "จากร่องรอยแผลบนตัวเธอแล้ว คาดว่าน่าจะโดนฆ่าชิงทรัพท์" ฉันเดินไปรอบๆศพผู้หญิงที่คลุมผ้าขาวอยู่ แต่ต้องขมวดคิ้ว "นาวว่ามันไม่ใช่การฆ่าชิงทรัพท์หรอกค่ะ" ฉันนั่งลงข้างๆศพแต่เว้นระยะห่างไว้ "เธอยังใส่แหวนกับนาฬิกาอยู่ค่ะ" พี่ก้องพยักหน้าพร้อมกับเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ "ผมว่าเธอต้องถูกฆ่าเพราะดันไปรู้อะไรมาแน่ๆ" ฉันเลิกคิ้วให้กับวิญญาณตนนั้น และฉันต้องถอยให้กับเจ้าหน้าที่ที่จะทำการนำศพขึ้นรถ ฉันถ่ายรูปที่หลังมือขวาของศพทันที "รอยสักนั่น" ทำไมเธอถึงมีรอยสักนั่นด้วยนะ มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่ารอยสักนั่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ชายที่ฆ่าฉันเมื่อ 9 ปีก่อนยังไง "นาวว่าอะไรนะ" "อ๋อ เปล่าค่ะ งั้นนาวขอเก็บหลักฐานต่ออีกสักหน่อยนะคะ" ฉันเดินรอบๆตึกร้าง ซึ่งบรรยากาศมันชวนสยองสุดๆ "นี่ นายจะเดินตามฉันอีกนานไหม" ฉันขยับแว่นแล้วมองไปที่วิญญาณตนนั้น "ผมไม่มีที่ไป" นี่มันปีซวยของฉันชัดๆ "ว่าแต่ถ้าให้เดานายคงจะอายุเท่าฉัน งั้น นายเรียกฉันว่ามะนาวนะ ไม่ต้องเรียกคุณ " ผมที่เดินมาที่ห้องๆหนึ่ง ซึ่งมีร่างหนึ่งที่นอนไม่มีท่าทีจะฟื้น ซึ่งเขาก็คือน้องชายผม น้องชายคนเล็กของผม "กัปตันฟื้นมาคุยกับพี่สิ" ผมกุมมือเด็กหนุ่มที่นอนแน่นิ่งไม่ได้สติ "มันจะเข้า 2 ปีแล้วนะ แกอย่าทิ้งพี่กับต้นกล้าเหมือนแม่นะ" "เฮียอย่าคิดมากสิ ไอ้กัปตันมันต้องฟื้นแน่ๆ" ผมหันไปมองตามเสียงก็พบกับไอ้ต้นกล้าของชายผม ผมเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องทำงานโดยมีต้นกล้าเดินตามมาด้วย "ว่าแต่เฮียเถอะ ทำไมไม่บอกความจริงกับมะนาว ทำไมต้องเลือกวิธีนี้ด้วย" "แกไม่ต้องมายุ่งหรอก" "เฮียก็รู็ว่ามะนาวคือ.." "ฉันจะทำงาน ออกไปได้แล้ว" ผมตั้งใจดูเอกสารโดยไม่สนใจบุคคลที่นั่งอยู่ตรงหน้า "วันนี้ผมกับไอ้มอคไปหามะนาวที่บ้านแล้วแต่ไม่เจอ ไปหาที่ที่ทำงานก็ไม่เจอ โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง เมื่อคืนเฮียปล่อยเธอกลับบ้านคนเดียว คงไม่เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรอกนะ" ว่าเสร็จมันก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้ใจผมร้อนรุ่มอยู่คนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD