อดีต

2217 Words
"​คืนนี้คงต้องนอนที่นี่" สิ้นคำพูดของเขาทำให้ฉันอ้าปากค้างทันที เขาที่กำลังเดินมานั่งข้างๆฉัน ทำให้ฉันขยับออกห่างโดยไว "ฉันไม่น่ามืดทำอะไรทอมอย่างเธอหรอกนะ" ปากนะปาก เขาจะพูดดีๆกับฉันไม่ได้หรือไง "ฉันไม่ได้เป็นทอมสักหน่อย" ทว่า เขากลับโน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนทำให้ฉันถอยชิดกำแพง สายตาที่มองลงมาที่ริมฝีปากของฉันมันทำให้เกิดอาการประหม่า "อย่าคิดทำอะไรบ้าๆนะ" ฉันเม้มปากแน่น ฉันไม่ยอมเสียจูบเป็นครั้งที่สองให้ผู้ชายเจ้าชู้แบบเขาแน่ๆ "ทำไม ทำเหมือนเราไม่เคยจูบกันอย่างงั้นแหละ" ฉันรีบผลักเขาออกทันที แต่เสียงหัวใจฉันที่กำลังเต้นรัวๆมันพลอยทำให้หน้าฉันร้อนผ่าวขึ้นมา เขามันอันตรายต่อหัวใจฉันจริงๆ "ฉะ ฉันง่วงแล้ว" ว่าจบก็ล้มตัวนอนทันที มีเสือแบบเขานอนอยู่ข้างๆ คืนนี้ฉันจะนอนหลับไหมเนี่ย ฉันพยายามข่มตานอน แต่สุดท้ายต้องเบิกตากว้างทันทีเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆพาดอยู่ที่เอว และมันก็คือแขนของร่างสูงที่นอนข้างกาย "นี่ หมออย่าทำเป็นเนียนนะ ปล่อยเดี๋ยวนี่นะ" ฉันที่นอนหันหลังให้เขาทำให้รู้สึกถึงลมหายใจที่กำลังรินรดต้นคอของฉันอยู่ "ถ้าฉันไปเป็นนายแบบให้มหาลัย เธอจะออกไปจากชีวิตฉันจริงๆใช่ไหม" คำถามของเขาทำให้ฉันหยุดชะงักทันที "หมอก็อยากให้ฉันออกไปจากชีวิตหมออยู่แล้วนี่ แล้วจะถามฉันทำไมล่ะ" เขาไม่พูดอะไรแล้วนอนหันหลังให้ฉันทันที อะไรของเขา สงสัยจะเพี้ยนแฮะ "นี่นายเป็นอะไรอ่ะ วันนี้นายแปลกไปนะ" ฉันสะกิดแขนเขาเบาๆ แต่กลับไม่มีสัญญาณตอบกลับ สงสัยจะหลับแล้ว ฉันจึงลุกมานั่งมองไปยังเขาที่กำลังหลับตาอยู่ เหตุการณ์วันนี้ทำให้ฉันคิดถึงเรื่องราวในอดีดขึ้นมาทันที "นายรู้ไหม ตอนเด็กๆฉันมักจะไม่มีเพื่อนคนไหนที่อยากคบฉันเลย ทุกคนต่างพากันบอกว่าฉันเป็นปีศาจ ตอนนั้นฉันรู้สึกกลัวมากๆเลยนะ ฉันกลัวว่าจะไม่มีเพื่อนคบ จนกระทั่งฉันเจอ มอคค่า ธาม เต้ และฟ้าใส พวกเขาคือเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันเลยล่ะ" ฉันนั่งยิ้มพร้อมกับพูดกับร่างสูงที่หลับอยู่ หมับ!! ฉันไปมองคนข้างที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับยื่นมือมากุมมือฉัน "นะ นายยังไม่หลับเหรอ" เขาไม่ตอบแล้วมองหน้าฉันนิ่งๆ "ถ้าเธอไว้ใจฉัน เธอก็พูดมาเถอะ" แววตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ "จริงๆแล้วฉันเคยถูกตามฆ่า" ย้อนไปเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ​เวลา 23:50 คืนวันพระ "ป้าพรคะ หนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ" ฉันเอ่ยปากบอกป้าพร ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารที่ฉันรับจ้างล้างจานอยู่ ด้วยฐานะที่บ้านของฉันไม่ได้รวย ฉันจึงช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ "จ้ะ กลับบ้านดีๆนะ" ฉันพยักหน้าพร้อมกับเดินออกจากร้าน ระหว่างทางฉันเดินไปเรื่อยๆซึ่งทางก็เริ่มมืดขึ้นไปเรื่อยๆเช่นกัน จนกระทั่งฉันเดินไปชนกับผู้ชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีดำ ปิดหน้าปิดตา แต่แววตาของเขากลับทำให้ฉันรู้สึกกลัว "ไง โตขึ้นเยอะแล้วนี่ ฉันไม่น่าไว้ชีวิตแกเลยจริงๆ" ผู้ชายตรงหน้าก็ชักปืนมาจ่อที่ฉัน ทันใดนั่นฉันก็รีบวิ่งทันทีเมื่อรู้ถึงภัยอันตราย ด้วยความตกใจทำให้ฉันวิ่งล้ม และไม่นานผู้ชายคนนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉัน เพราะความตื่นกลัวน้ำตาจึงไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ "อย่าฆ่าหนูเลย ไว้ชีวิตหนูเถอะ" ฉันยกมือไหว้ขอร้องอ้อนวอนให้ผู้ชายคนนั้นไว้ชีวิต "หึ ฉันคงไว้ชีวิตหนูไม่ได้หรอก เพราะการที่หนูมีชีวิตอยู่มันทำให้ฉันเดือดร้อน" ฉันรีบลุกแล้ววิ่งทันที คล้ายกับการดิ้นรนชีวิตเพื่อให้ได้อยู่รอด "ช่วยหนูด้วย ใครก็ได้ช่วยหนูที" ฉันวิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งฉันหยุุดวิ่ง และวันนั้นก็คือวันตายของฉัน เมื่อข้างหน้าเป็นแม่น้ำ ฉันเงยหน้าไปมองพระจันทร์ที่กำลังเต็มดวงสวยงามพร้อมน้ำตาที่ค่อยไหลออกมาไม่หยุด "หึ หมดทางหนีแล้วล่ะสิ" ผู้ชายคนนั้นที่จ่อปืนมาที่ฉัน ปัง!! ปัง!! อึก กระสุนสองนัดที่มุ่งเข้ามาหาฉัน ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดที่อกข้างซ้ายมาก เพราะคืนนี้มีพระจันทร์เต็มดวงทำให้ฉันมองเห็นรอยสักรูปดอกกุหลาบอยู่ที่หลังมือขวาของผู้ชายคนที่ยิงฉัน ตู๊ม ก่อนที่ร่างฉันจะตกลงสู่แม่น้ำ ฉันพยายามว่ายน้ำหาทางรอดแต่ร่างกายฉันกลับไม่ตอบสนอง และขณะที่ร่างฉันกำลังจมลงสู่เบื้องล่าง ก็ปรากฎร่างผู้ชายคนหนึ่งที่กระโดดลงมาช่วยฉัน ซึ่งเขาก็คือพ่อ พ่อที่ช่วยฉันแต่ท่านกลับทิ้งฉันไปแทน จนกระทั่งวันหนึ่งฉันฟื้นลืมตาขึ้นมาที่ห้องดับจิต ก็ปรากฎร่างผู้ชายที่เคยอยู่กับฉัน ผู้ชายที่พาฉันไปโรงเรียนทุกวัน ผู้ชายที่คอยปลอบใจฉันเวลาฉันร้องไห้ ซึ่งตอนนี้เขาไม่หายใจแล้ว "ฮือ พ่อตื่นสิ อย่าทิ้งหนูไป พ่อตื่นสิ" ฉันเขย่าร่างไร้วิญญาณทั้งที่รู้โดยตลอดว่าร่างไร้วิญญาณของท่านไม่มีวันลืมตามาพูดคุยกับฉันได้อีก ปัจจุบัน ​น้ำตาที่กำลังไหลออกมา "ทำไมต้องเป็นพ่อฉันด้วย ทำไมไม่เป็นฉัน" ร่างสูงค่อยดึงตัวฉันเข้าไปกอดเพื่อปลอบใจ "แม่บอกว่าพ่อเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจกำเริ่บตอนไปช่วยฉัน และวันที่ฉันได้ออกจากโรงพยาบาลฉันก็รู้สึกมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน นั่นก็คือฉันสามารถมองเห็นวิญญาณ จนบางครั้งแม่ต้องพาฉันไปพบจิตแพทย์แต่กลับไม่มีอะไรผิดปกติ ทุกๆครั้งที่ฉันเห็นแม่น้ำฉันมักจะคิดถึงพ่อฉันตลอด ฉันกลัวการเข้าใกล้มัน" มือหนาค่อยๆเช็ดน้ำตาให้ฉัน พร้อมกับจับปลายคางฉันขึ้นเพื่อสบตากับเขา "เพราะแบบนี้สินะ เธอถึงมักทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงตลอด " เขาส่งยิ้มมาให้ฉันเป็นรอยยิ้มที่รู้สึกปลอดภัยมากๆ "ฉันจะไปเป็นนายแบบให้มหาลัย" "ถ้ามันฝืนใจ หมอไม่ต้องทำก็ได้นะ" "ฉันเต็มใจ แต่มีข้อแม้" ฉันมองเขาทันที รอยยิ้มที่อบอุ่นตอนนี้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที "ข้อแม้อะไร" เขาค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ "เธอต้องไปเป็นคู่ถ่ายแบบให้ฉัน" ฉันเบิกตากว้างทันที นี่มันอะไรกัน "ฉันว่านีน่าดาวคณะบริหารก็ดีอยู่แล้วนี่ ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ และอีกอย่างอาจารย์ไม่มีทางยอมแน่ๆ" แถเข้าไปค่ะ คนอย่างฉันเนี่ยนะไปถ่ายแบบไม่มีทางค่ะ ให้ไปต่อยมวยยังง่ายกว่าเลย "งั้นฉันก็จะไม่ช่วยเธอ" "โอเคๆ ฉันยอม" จุ๊ป ฉันเบิกตากว้างเพราะจู่ๆเขาก็โน้มหน้าเข้ามาจูบปากของฉันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว "นายทำอะไรของนายห้ะ" "รางวัลไง มัดจำไว้ก่อน" ว้าว ไอ้หมอเจ้าเล่ห์ กลิ่นหอมทำให้ฉันตื่นลืมตาขึ้นมาก็พบกับเจ้าของร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆ แถมยังกอดฉันอีกด้วย ฉันค่อยๆยกแขนหนักๆของเขาออกจากตัว หมับ!! และฉันต้องตกใจอีกครั้งเมื่อร่างสูงกระชับกอดแน่นขึ้น "จะไปไหน เธอควรดีใจนะเพราะฉันไม่เคยนอนกอดผู้หญิงคนไหนเลย" อย่าบอกนะว่านายนี่ฟันแล้วแยกทาง โห่ เหลือเชื่อ แล้วฉันจะยิ้มทำไมเนี่ย "มาบอกฉันทำไมไม่ทราบ แล้วก็กรุณาปล่อยฉันด้วย" "โอ้ย ฉันเจ็บนะ" เขานิ่วหน้าพร้อมกับลูบแขนตัวเอง "คนชอบฉวยโอกาสแบบนาย ต้องเจอแบบนี้แหละ" ฉันลุกเดินออกมาข้างนอกทันที "ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉัน" หญิงชราคนนั้นส่งยิ้มมาให้พร้อมพยักหน้า "งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ" ฉันยกมือไหว้ก่อนที่จะเดินนำหน้าหมอต้าที่กำลังเดินตามฉันมา เขาเป็นผู้ชายแบบไหนกันนะ ฉันสะบัดหน้าเบาๆเพื่อไม่ให้คิดเรื่องนี้อีก เมื่อเดินมาไม่นานก็ถึงที่พัก ทุกคนต่างจับจ้องมาที่ฉันกับหมอต้าทันที "มะนาวมึงเป็นไงบ้างวะ พวกกูเป็นห่วงแทบแย่" ฉันเดินไปตบแขนธามเบาๆ "ฉันไม่ตายง่ายหรอกน่า" "ต้าหายไปไหนมา มินนี่เป็นห่วงนะคะ" ยัยนี่หายเร็วกว่าที่คิดไว้แฮะ "ผมขอตัวก่อนนะ" ฉันมองหมอต้าที่กำลังเดินเข้าไปในที่พัก โดยปล่อยให้ยัยมินนี่ยืน งง อยู่คนเดียว ฉันส่ายหัวเบาๆ " นี่เธอ ถ้าผู้ชายเขาไม่อยากเล่นด้วย ก็อย่าเสียเวลาตามตื้อเขาเลย มันจะทำให้เธอมีค่าน้อยลงนะ" มินนี่หันมามองฉันด้วยสายตาไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ "เธอเป็นใครถึงมาสอนฉัน หัดดูสารรูปตัวเองบ้างนะ ผู้ชายก็ไม่ใช่ ผู้หญิงก็ไม่เชิง" ทำคุณบูชาโทษจริงๆ ฉันค่อยๆเดินไปหายัยมินนี่อย่างใจเย็น เจอยัยนี่ทีไร ชวนไฟร้อนประทุทุกครั้ง "แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาด่าฉัน เธอเคยเห็นเวลาพวกชาววิศวะเลือดร้อนไหม มันเป็นยังไง เธออยากเห็นหรือเปล่าฉันจะได้ทำให้ดู" ยัยมินนี่มองหน้าฉันด้วยอาหารสั่นนิดๆ หึ คงกลัวสินะ "พอเลยไอ้นาว แกจะไปแกล้งเขาทำไม" ฉันยกยิ้มแล้วยืนกอดอกมองยัยมินนี่ที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในที่พัก " เกิดมาพึ่งเคยพบเคยเห็น ผู้หญิงอะไรตามผู้ชายต่อยๆ" " แกก็ตามหมอต้าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ" โป้ก ฉันตีหัวไอ้เต้ จนทำให้มันนิ่วหน้าเจ็บ "มันไม่เหมือนกันเว้ย" ฉันกระโดดขี่หลังไอ้เต้ทันที ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากแกล้งมันเฉยๆ "เฮ้ย แกจะขี่หลังฉันทำไมวะไอ้นาว" "เขาเจ็บขาอ่ะ เต้เต้ ช่วยพาเขาไปที่พักหน่อย" ฉันที่ขี่หลังเต้อย่างสบายใจ จู่ๆก็ต้องชะงักเมื่อพบกับสายตาคู่หนึ่งมองมาที่พวกเรา "เป็นอะไร ทำไมต้องขี่หลังกันด้วย" "อ้อ ไอ้นาวมันบ่นว่าเจ็บขา แล้วมันก็กระโดขี่หลังผมนะหมอ" แกจะบอกเขาทำไมวะไอ้เต้ ฉันแค่แกล้งแกเฉยๆเอง " ลงมาเดี๋ยวนี้ มันไม่เหมาะสม" ตุ๊บ จู่ๆไอ้เต้ก็ปล่อยฉันลงโดยไม่บอกกล่าวทำให้ฉันรู้สึกปวดที่ข้อเท้าขึ้นมาจริงๆ "งั้นฝากหมอด้วยนะ" จู่ๆไอ้เต้ก็วิ่งออกไปทันที " เอ้าเฮ้ย ไอ้เต้ทิ้งฉันได้ไง ฉันเพื่อนแกนะเว้ย"ตะโกนเรียกดังแค่ไหนเต้ก็ไม่กลับมา ชิ๊ ฉันหันไปมองหมอต้าที่กำลังยืนมองฉันอยู่ เขาเป็นอะไรไป "จะลุกขึ้นได้ยัง" ฉันค่อยๆ พยุงตัวเองลุก แกรก "โอ้ย" ฉันจับไปที่ข้อเท้าเพราะรู้สึกเจ็บขึ้นมา แกล้งเขาจนได้เรื่องไหมล่ะไอ้นาว ทว่า จู่ๆมือหนาก็จับข้อเท้าฉันพร้อมกับนวดเบาๆ "มะ หมอจะทำอะไร" "ข้อเท้าเธอคงเคล็ดนะ" "ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันให้ไอ้เต้นวดให้ก็ได้" เขามองกน้าฉันนิ่งๆ ทำไมฉันพูดอะไรผิด สมัยเด็กๆตอนที่ฉันซ้อมมวย ไอ้เต้นี่แหละที่เป็นหมอนวดชั้นดีของฉันเลยล่ะ "ทำไม ฉันแตะต้องตัวเธอไม่ได้เลยหรือไง" แล้วทำไมต้องโมโหด้วยเล่า "แล้วทำไมหมอต้องทำเหมือนไม่พอใจด้วยเล่า" ขณะนั้นเอง จู ๆ ร่างฉันก็ลอยขึ้นหมอต้าที่กำลังอุ้มฉันเดินไปในเต็นท์ "หมอปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นซ่ะหน่อย" เขาปล่อยฉันลงในเต็นท์โดยที่มีเขาเข้ามาด้วย เขาค่อยๆขยับเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ "ถ้าหมอเข้ามาอีกนิด หมอได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่" ฉันตั้งการ์ดขึ้นมาเพื่อขู่คนตรงหน้า เขาส่ายหน้าก่อนจะยิ้มออกมา "โอ้ย หมอจะฆ่าฉันหรือไงเนี่ย" จู่ๆคนตรงหน้าก็จับข้อเท้าฉันหัก จนน้ำตาเล็ด ฉันค่อยๆขยับข้อเท้าเบาๆ ซึ่งตอนนี้ไม่รู้สึกปวดแล้ว "รู้สึกยังไงบ้าง" เขาถามฉันแบบหน้านิ่งๆ "อืม หายแล้วล่ะ ขอบใจนะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD