“เคสเป็นอะไร” แดเนียลที่ได้ยินชื่อคาริสาก็ละความสนใจจากลูกน้องตรงหน้า แล้วรีบเดินไปหาป้าพิมพ์ทันที
“คุณเคสตกบันไดค่ะ ช่วยคุณเคสด้วย!”
“เคส!” แดเนียลรีบวิ่งไปหาคาริสาทันควัน เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นนอกจากเธอ
“ถือว่าคุณเคสช่วยชีวิตมึงก็แล้วกันนะ” เอกตรงไปหาลูกน้องที่ถือปืนจ่อกบาลตัวเองอยู่ พลางขอปืนคืนกลับไป
“คุณเคส คือ?”
“ไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าเธอคือใคร มึงไปพักเถอะ เดี๋ยวกูคุยกับนายเอง”
เอกมองปืนในมือแล้วแสยะยิ้ม เนื่องจากมันนี้ไม่มีกระสุนตั้งแต่แรก เจ้านายของเขาแค่ต้องการลองใจความจงรักภักดีของลูกน้องเท่านั้น เอกรู้จุดประสงค์ของแดเนียลดี
ณ โรงพยาบาลเอกชน
“เคสเป็นยังไงบ้างครับหมอ”
ทันทีที่เห็นหมอเดินออกมาจากห้องเอกซเรย์ แดเนียลก็รีบถามอาการของคาริสา
“คนไข้ตกมาจากที่สูงและถูกกระแทกด้วยพื้นแข็งหลายครั้ง ทำให้กระดูกแขนขวาและขาขวาร้าว ส่วนอื่น ๆ ฟกช้ำเล็กน้อย หมอใส่เฝือกและให้ยาแก้ปวดไปทาน รับยาแล้วกลับบ้านได้เลยนะครับ”
“เธอเป็นยังไงบ้างเคส” แดเนียลรีบเข้ามาดูอาการของคาริสาทันทีที่ได้รับอนุญาต ความห่วงใยของเขามันแสดงออกมาชัดเจนผ่านการกระทำ
“แดน... โอ๊ย!” คาริสาร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด แดเนียลจึงรีบถอยตัวออกห่างจากเธอเพียงนิด
“เจ็บตรงไหน”
“ระบมไปหมดทั้งตัวเลย” คาริสาบอกเขาพลางเบ้ปากทำท่าเหมือนจะร้องให้ แดเนียลจึงเข้าไปกอดปลอบเธอไว้อย่างห่วงใย
“อาการมันเป็นยังไง บอกหมอซิ”
“นั่นมันคำพูดฉันนะ อึก!” มาเฟียหนุ่มใช้หูแนบไปที่อกด้านซ้ายตำแหน่งกันกับหัวใจของเธออย่างระมัดระวัง “ทะ...ทำอะไร ฟังเสียงหัวใจฉันเหรอ!”
“อยู่เฉย ๆ เคส ฉันฟังเสียงหัวใจของเธอไม่ถนัด” แดเนียลเลียนแบบท่าทางของเธอ ก่อนจะทำเป็นสะดุ้งแล้วอุทานด้วยความตกใจ “หัวใจเราเต้นไม่พร้อมกันเลย”
“ทำไม?”
“เพราะหัวใจของฉันกำลังเต้นตามเธอ”
คำพูดนั้นทำเอาคาริสาหลุดขำทั้งน้ำตา ไม่คิดว่ามาเฟียหน้าโหดแบบเขาจะมาเล่นมุขนี้
“แดน...” คาริสากุมมือแดเนียลพลางลูบหลังมือเขาเบา ๆ ให้หายกังวล “ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”
มือหนาลูบศีรษะทุยเล็กเบา ๆ ก่อนจะก้มจูบกลางหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน
หลายชั่วโมงต่อมา...
“ยังเจ็บตรงไหนอยู่ไหม” แดเนียลวางร่างคาริสาให้นอนลงบนเตียงอย่างเบามือ
“เริ่มทุเลาลงแล้ว”
“คืนนี้ฉันจะดูแลเธอเอง”
“แดน ฉันไม่เป็นไรหรอก นายไปทำงานเถอะ เห็นเอกบอกว่านายมีงานต้องเคลียร์ไม่ใช่เหรอ”
“เธอไม่ต้องห่วงเรื่องงานของฉันหรอก ต่อให้ฉันไม่อยู่ไอ้เอกมันก็จัดการทุกอย่างแทนฉันได้ แล้วอีกอย่าง...” มาเฟียหนุ่มคว้ามือเรียวมาแนบแก้มสาก “ฉันไม่อยากอยู่ห่างจากเธอ”
“แดน...” ยิ่งเขาพูดแบบนั้นเธอก็ยิ่งรู้สึกผิด
ย้อนกลับไปก่อนเกิดเหตุ
ขณะที่ป้าแม่บ้านกำลังนำเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเพื่อเก็บเข้าตู้ คาริสาก็รีบหาทางขัดจังหวะ
“ป้าคะ ห้องน้ำอยู่ตรงไหนเหรอคะ” เธอเอ่ยถามแล้วทำท่าชะเง้อคอมองหาห้องน้ำไปด้วย
“ห้องน้ำอยู่ทางนั้นค่ะคุณเคส เดินเลยห้องแต่งตัวไป”
เธอพยักหน้าขอบคุณเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบไปเห็นโต๊ะทำงานจากอีกห้องซึ่งเชื่อมติดกับห้องนอน
“เวียนหัวจัง ป้าช่วยไปเอายาดมให้ฉันหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะคุณเคส รอสักครู่นะคะ” ป้าพิมพ์ยังไม่ทันจะจัดกระเป๋าของเธอให้เข้าที่เข้าทาง ก็ต้องรีบไปเอายาดมตามคำสั่ง
คาริสามองป้าแม่บ้านจนสุดทาง ก่อนที่จะเปิดกระเป๋าเอาอุปกรณ์บางอย่างออกมา แล้วเดินเข้าไปยังห้องทำงานของแดเนียล
พรึ่บ!
ขณะที่คาริสากำลังจะกระเถิบตัวออกมาจากใต้โต๊ะ มือเจ้ากรรมก็ดันปัดไปโดนอะไรบางอย่างเข้า เธอรีบเก็บมันวางไว้ที่เดิม ก่อนจะเห็นสีไฮไลท์ที่ถูกขีดเน้นไว้อย่างสะดุดตา
'นำเสนอโปรเจกต์ใหญ่'
“แดนต้องไม่พลาดแน่”
เงื่อนไขของแดเนียลคือเธอต้องตัวติดกับเขาตลอดเวลา เพราะฉะนั้นทำอย่างไรก็ได้ ให้เขายอมปล่อยเธอไว้ที่บ้านตามลำพัง
คาริสาจึงจัดฉากอุบัติเหตุขึ้นมา
“แดน คือฉัน...”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” มือหนาจัดการปลดกระดุมเสื้อของเธอทีละเม็ด จนเผยให้เห็นทรวงอวบใต้ชั้นในสีดำ
มุมปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มร้ายอย่างพึงพอใจ
“นะ...นายจะทำอะไร” คาริสาเอ่ยถามเสียงสั่นเครือ ร่างกายที่ระบมอยู่ไม่สามารถลุกมาต่อต้านความต้องการของเขาได้
มือหน้าลูบไล้และพรมจูบไปทั่วทรวงอกอวบที่อัดแน่นอยู่ใต้ชั้นใน ร่างเล็กสะท้านไหวไปกับสัมผัสสวาท
“ฉันต้องการเธอเคส” แดเนียลบอกความต้องการเสียงกระเส่า เขาปรารถนาในตัวเธอเหลือเกิน
“อ๊ะส์” คาริสาส่งเสียงครางอย่างลืมตัว ใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบควบคุมความต้องการเอาไว้ไม่อยู่ “แดน... พะ...พอได้แล้ว ฉันเจ็บ”
“...” เขาไม่ฟังที่เธอร้องขอ ลิ้นร้ายไล้ลงมาโลมเลียท้องน้อยอย่างเอาแต่ใจ
“แดน... โอ๊ย!”
“จะ...เจ็บเหรอ” เสียงร้องของเธอเรียกสติเขากลับมา ดวงตาคมปลาบมองคนใต้ร่าง “ฉันขอโทษ”
คาริสาถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อแดเนียลยอมหยุดการกระทำของตน พร้อมกับติดกระดุมเสื้อให้เธออย่างน่าเสียดาย
“แดน...” มือเรียวเอื้อมไปสัมผัมแก้มสากอย่างปลอบโยน รู้สึกแย่เหลือเกินที่ให้เขาสมหวังตอนนี้ไม่ได้ “คืนนี้นายนอนกอดฉันได้ไหม”
มาเฟียหนุ่มเผยยิ้มออกมาเพียงนิด ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างคนเจ็บ พร้อมกับเสียสละท่อนแขนให้เธอนอนหนุน
“ฝันดีนะ”