ณ ห้องประชุมบริษัทซินเนอร์แกรนเนสกรุป
โปรเจกต์ใหม่ที่แดเนียลนำเสนอออกไปกลายเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นในที่ประชุม แม้เขาจะบารมีของคุณย่าคอยหนุนหลังอยู่ ก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริหารทุกคนได้
ในที่ประชุมไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะความเป็นคนรุ่นใหม่แบบแดเนียล จึงมักถูกตราหน้าว่าอ่อนประสบการณ์และความรู้เสมอ
โชคยังดีที่มีลูกน้องคนสนิทอย่างเอกคอยดึงสติ ไม่ให้เขาโมโหพวกคนรุ่นเก่าดักดาน ชอบใช้ความสำเร็จในอดีตของตนมาข่มแนวคิดและอุดมการณ์ของเขา
หลังจากประชุมบอร์ดบริหารเสร็จสิ้น แดเนียลก็ไม่มีสมาธิในการทำงาน เขาเอาแต่นั่งคิดถึงคาริสา เธอทำให้เขาไม่เป็นอันทำอะไร
ไอรีนเดินเข้ามายื่นเอกสารหลังการประชุมให้เซ็นต์ แต่แดเนียลกลับไม่สนใจ เขาปัดมือให้เธอออกไปจากห้องทำงาน
“คุณไอรีนเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เอกยืนสั่งงานลูกน้องอยู่แถวนั้น เห็นไอรีนเดินคอตกออกมาจากห้องทำงานของเจ้านาย ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงเดินเข้าไปพูดคุยกับเธอ
“คุณแดเนียลดูเหม่อ ๆ น่ะค่ะ ปกติคุณแดเนียลจะเข้มงวดเรื่องเอกสารมาก แต่วันนี้ไอเอาเอกสารไปให้เซ็นต์ คุณแดเนียลกลับไล่ให้ไอออกมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ”
“คุณไอรีนอย่ากังวลไปเลยครับ สงสัยนายจะคิดถึงคนที่อยู่ทางบ้าน”
“คนที่อยู่ทางบ้าน?” ไอรีนทำหน้าสงสัย ก่อนที่จะสะดุ้งตกใจเมื่อคิดอะไรออก “คุณแดเนียลมีเมียแล้วเหรอคะ”
ไอรีนพูดเสียงดังจนเอกต้องยกมือมาปิดปากเธอไว้
ทำให้พนักงานที่ทำความสะอาดอยู่บริเวณนั้น ถึงกับต้องรีบเงี่ยหูฟังด้วยความอยากรู้
“เบา ๆ สิครับ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงนั่นแหละ” เอกไม่ได้อยากที่จะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย เขาเพียงแค่ต้องการให้ไอรีนสบายใจขึ้นก็เท่านั้น
“หมายความว่าไงคะ” ไอรีนจับมือหนาออกจากปากของเธอแล้วถามต่อ
“ไอ้เอก” เสียงเกรี้ยวกราดดังมาจากข้างหลัง ทำเอาคนทั้งสองตกใจสะดุ้งแล้วหันไปหาที่มาของเสียงพร้อมกัน
“คุณแดเนียล...” ไอรีนเอ่ยเรียกเจ้านายเสียงแผ่ว เอกก็ตกใจไม่แพ้กัน เขาได้แต่กุมมือแล้วก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“เอาไปแก้ใหม่ทั้งหมด” แดเนียลยื่นเอกสารให้ไอรีน โดยที่ไม่ให้เหตุผลว่าทำไมต้องแก้ไขมัน ก่อนจะทำหน้าดุลูกน้องแล้วเดินจากไป
“นายจะไปไหนครับ” เอกรีบเดินตามโดยเร็วเพื่อให้ทันเจ้านายหนุ่ม
ไอรีนมองตามคนทั้งคู่พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะเดินคอตกไปนั่งยังโต๊ะทำงานของเธอ
“สั่งให้คนของเราออกรถ กูจะกลับบ้าน” แดเนียลออกคำสั่ง โดยไม่หันมองลูกน้องที่เดินตามมาด้วยสักนิด
เอกหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงต่อสายหาคนขับรถให้เตรียมตัว ทว่าคลาดสายตาไปเพียงแป๊บเดียว เจ้านายก็ลงลิฟต์ไปแล้วโดยไม่รอเขา
“โธ่นาย จะรีบไหนเนี่ย ไม่รอกันเลย”
หลังจากทานข้าวทานยา คาริสาก็ถูกกักบริเวณอยู่แต่ในห้องตามสเต็ป เขาพลาดแล้วที่ปล่อยให้เธออยู่ในนี้เพียงลำพัง
ดวงตาคู่สวยมองแขนและขาข้างที่ใส่เฝือกแล้วดึงออก เนื่องจากไม่ได้เจ็บหนักถึงขั้นต้องใส่มัน แต่ทว่ามือเจ้ากรรมก็ดันไปโดนบางอย่างข้างหัวเตียงเข้า
กริ่ง~
“ฉิบหายล่ะ!” คาริสาสบถออกมายังไม่ทันจะขาดคำ ลูกน้องของแดเนียลก็เปิดประตูเข้ามาแทบจะทันที
“ครับคุณเคส”
“มีอะไรให้พวกเรารับใช้ครับ”
แดเนียลสั่งให้ลูกน้องคอยดูแลคาริสาเป็นอย่างดี เพียงแค่เธอสั่นกระดิ่ง คนที่อยู่นอกห้องก็พร้อมจะเข้ามาปรนนิบัติรับใช้
“มะ...ไม่มีอะไร มือฉันคงไปโดนน่ะ” โชคดีที่เธอยังถอดสายสะพายเฝือกไม่สำเร็จ ไม่งั้นก็จบเห่กันพอดี
สองลูกน้องก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกไปยืนเฝ้านอกห้องเช่นเดิม
คาริสาถอนหายใจอย่างโล่งอกพลางทิ้งตัวลงนอน อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลซึมออกมาอย่างรู้สึกผิด ทั้งที่แดเนียลเป็นห่วงเธอขนาดนี้ แต่เธอกลับจ้องจะเล่นงานเขาอยู่ตลอดเวลา
ทำไมจะต้องรู้สึกแย่แบบนี้ซ้ำ ๆ ด้วย มันไม่ใช่ตัวเธอเลย เธอเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุด
ครืด! ครืด!
คาริสาสะดุ้งตกใจจนหลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อมีสายโทรเข้ามา เธอเช็ดน้ำตาออกลวก ๆ ก่อนจะหยิบหูฟังที่อยู่ใกล้มือมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์ แล้วกดรับมันด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“ค่ะ”
(อยู่ที่ไหน)
“ดี”
D ย่อมาจาก Dangero หมายความว่า เธอกำลังอยู่ในที่ที่อันตราย
มันเป็นรหัสลับขององค์กร ซึ่งปลายสายก็เข้าใจความหมายเป็นอย่างดี
(โอเค งั้นเธอไม่ต้องพูดอะไรฟังฉันอย่างเดียว)
“...”
(ฉันจะโทรมาบอกเบาะแสของไดรฟ์ สายของฉันรายงานมาว่าไอ้แดเนียลเก็บมันไว้ในตู้เซฟที่ห้องทำงาน)
ขณะที่เตชินพูดคาริสาก็คิดตาม เธอแอบเอะใจอยู่เหมือนกันว่าสายของหัวหน้าเป็นใคร ทำไมถึงได้รู้ข้อมูลก่อนเธอไปหนึ่งก้าวเสมอ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ที” คาริสาเอ่ยรหัสลับอีกครั้งแล้วรีบตัดสายจากหัวหน้า
T ย่อมาจาก Target หมายความว่า ตอนนี้เธออยู่ใกล้เป้าหมาย
นิ้วเรียวลบข้อมูลการโทร ก่อนจะกดไปยังเมนูเพลง แล้วแสร้งทำว่ากำลังฟังมันอย่างสบายใจ
“ของว่างกับน้ำผลไม้ค่ะคุณเคส” ป้าพิมพ์พูดพร้อมเดินมาประคองให้คนเจ็บลุกขึ้นมานั่ง
คาริสาได้แต่เหลือบตามองบน ไม่เห็นน่ากินตรงไหน!
พรึ่บ!
“ถอยไป!” เสียงนั้นเปล่งออกมาอย่างวางอำนาจ ก่อนจะส่งสายตาให้ลูกน้องที่ติดตามมาด้วยช่วยเคลียร์ทางให้
“ขึ้นไปไม่ได้นะครับคุณหญิง”
“ทำไมจะขึ้นไปไม่ได้ ตาแดนเป็นอะไร ทำไมฉันถึงไปหาไม่ได้” คนถามไม่ได้รอฟังคำตอบ แต่กลับเดินขึ้นบันไดไปอย่างถือวิสาสะ
“คุณหญิงครับ นายไม่ได้อยู่บนห้อง นายออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วครับ”
“ถ้าไปทำงานแล้ว ทำไมถึงมีคนเอาอาหารขึ้นมาบนห้อง เอามาให้ใคร?”
“นายไปทำงานแล้วจริง ๆ นะครับ”
“ฉันถามว่าเอาอาหารมาให้ใคร?”
เสียงสนทนาของคนทั้งสองเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอน
คาริสาที่กำลังตักขนมเข้าปากถึงกับต้องชะงัก เมื่อคนที่เดินพรวดพราดเข้ามาคือ...
“คุณย่า!”