บทที่ 1 เหยื่อล่อ
ครืด! ครืด!
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในรอบสัปดาห์ ‘คาริสา’ ไม่รอช้ารีบกดรับสายทันทีเมื่อเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามา ‘เตชิน’
“ว่าไงคะหัวหน้า!” หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน
(อยู่ไหน!)
“ฉันเหรอ? ฉันก็อยู่ที่ห้องสิ จะให้ไปอยู่ดาวอังคารหรือไงมิทราบ?”
(ปากดี! งานการไม่มีทำหรือไง!)
ปลายสายตะโกนพูดเสียงดัง จนคาริสาต้องรีบดึงมือถือออกห่างจากหูของเธอ
“อะไรของมันวะ” แม้จะรู้สึกงุนงงปนหัวเสียเล็กน้อย แต่คาริสาก็ต้องดึงมือถือกลับมาแนบหูอย่างเลี่ยงไม่ได้
(ฉันมีงานให้ทำ!)
“อะไรนะ หัวหน้ามีงานให้ทำ นี่ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า” เหลือกตามองบนพร้อมเอ่ยประชดประชัน
(...)
“เหอะ ฉันเองก็ไม่อยากนั่งงอมืองอตีนอยู่กับที่หรอกนะคะหัวหน้า แต่หัวหน้าลืมไปแล้วเหรอ ว่าหัวหน้าสั่งพักงานฉันอยู่” เธอโวยวายโดยเน้นคำว่า ‘หัวหน้า’ ทุกประโยค
(เสียงอาฆาตเชียวนะ! รีบมาก่อนที่จะโดนพักงานยาว)
ออกคำสั่งจบเตชินเพื่อนรักที่ชอบเอาตำแหน่งหัวหน้ามากดหัวเธอก็ตัดสายไปดื้อ ๆ
คาริสาส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจพรืดใหญ่ รู้สึกเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของคนที่เป็นทั้งหัวหน้าและเพื่อนสนิท อย่างไรเสียคนที่ไม่มีทางเลือกอย่างเธอก็ต้องรีบไปแต่งตัวให้ไว ขืนช้าจะโดนคนเป็นหัวหน้าบ่นให้อีกชุดใหญ่
สองมือรวบผมขึ้นมัดเป็นทรงหางม้า ก่อนจะสวมใส่กางเกงยีนรัดรูป เสื้อยืดสีดำ สวมทับด้วยแจ็กเกตสีเดียวกับเสื้อ ก่อนออกจากห้องคาริสาหยิบมีดพกและผ้าเช็ดหน้าอาบยาสลบซึ่งเป็นอาวุธประจำกายติดตัวมาด้วย
ชั่วโมงต่อมา...
“สายตำรวจรายงานมาว่ามีพวกมาเฟียฮ่องกงนัดส่งของกันในผับ หน้าที่ของเธอคือล่อพวกมัน”
“ฉันต้องเป็นเหยื่อล่ออีกแล้วเหรอ แหม...หัวหน้าก็คงจะให้ฉันไปแต่งตัวโป๊ ๆ อีกแล้วสิ”
“อย่าบ่น! งานถนัดเธอไม่ใช่หรือไง” คำพูดคำจาของเตชินทำเอาคาริสาแทบจะยกกำปั้นทุบศีรษะเขาให้แบะเสียเดี๋ยวนั้น ติดตรงที่เขาเป็นหัวหน้าเธอหรอกนะ หัวหน้าที่สามารถสั่งพักงานเธอได้ทุกเมื่อ ไม่อย่างงั้นละก็อย่าหวังว่าจะได้ปากสุนัขใส่เธอเลย
ภายในห้องแต่งตัว คาริสามองสิ่งประดิษฐ์ในมือ ซึ่งเป็นหนึ่งใน ‘หน้ากากเพชรร้อยหน้า’ มันถูกออกแบบมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เธอสวมใส่มันอย่างชำนาญ ตามด้วยวิกผมสั้นหน้าม้า
คาริสาลงมือแต่งหน้าแต่งตา เริ่มจากการเขียนคิ้ว ขีดอายไลเนอร์ ปัดขนตาจนงอนหนา ทาปากสีแดงสด และปัดแก้มให้อมชมพูอ่อน ๆ เช็กความเรียบร้อยผ่านกระจกเงาบานใหญ่อีกที ก่อนจะเดินออกพร้อมอุปกรณ์สื่อสารและจีพีเอส
เท้าเรียวบนส้นสูงสีแดงเข้มเดินเข้าไปภายในสถานที่รื่นรมย์ท่ามกลางแสงสีเสียงและผู้คนมากมาย คาริสาก้าวขาขึ้นไปบนเวทีด้วยความมั่นใจ ความสวยเซ็กซี่ของเธอสะกดสายตาเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี ดวงตาคู่งามมองหว่านเสน่ห์ผู้คนภายในผับ มุมปากกระจับเหยียดยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ สะโพกงอนงามโยกย้ายส่ายยั่วผู้คน โดยเฉพาะเป้าหมายสำคัญที่มีการนัดส่งของกันภายในนั้น
การได้ยืนอยู่เหนือผู้คนทำให้เธอมองเห็นกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน สองเท้าทิ้งน้ำหนักก้าวเดินบนส้นสูงด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอ เธอมุ่งตรงไปยังเป้าหมายซึ่งกำลังมีการเจรจาส่งของบางอย่างกันอยู่ หากมองโดยไม่คิดอะไร ผู้คนเหล่านั้นดูเหมือนมาสังสรรค์และพูดคุยกันธรรมดา แต่สายตาของคนที่มีประสบการณ์ช่ำชองอย่างคาริสา ผู้คนเหล่านั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผิดปกติ
ทันทีที่เดินผ่านคนกลุ่มนั้นข้อเท้าของคาริสาก็พลิกฉับพลัน ส่งผลให้เธอนพลาดท่าล้มลงไปนั่งบนตักของชายคนหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้
ใช่...เธอตั้งใจ
วิธีง่าย ๆ ตื้น ๆ แต่ทำให้เหยื่อตกหลุมพรางได้นับครั้งไม่ถ้วน
“ขอโทษค่ะ ฉันเดินไม่ระวังเอง” คาริสากล่าวขอโทษพลางส่งสายตายั่วยวนคนตรงหน้า จังหวะนั้นเองเธอจึงจัดการหย่อนอุปกรณ์จีพีเอสสำหรับจับพิกัดลงในกระเป๋าเสื้อสูทของชายหนุ่มอย่างแนบเนียน
“ไม่เป็นไรครับ” มือขวาของนักธุรกิจรายใหญ่ซึ่งเป็นตัวแทนส่งของในครั้งนี้เอ่ยพูดแล้วยิ้มให้เธอ
“ขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษอีกครั้งค่ะ” ว่าแล้วคาริสาก็ลุกขึ้นเดินจากไป
‘เอก’ มองตามหญิงสาวจนสุดทางเดิน สีหน้าที่เขามองเธอไร้ซึ่งความรู้สึกเสน่หา ก่อนจะหันไปกระซิบบอกกับลูกน้องที่มาด้วยกัน
“ตามผู้หญิงคนนั้นไป ถ้าเห็นว่ามีพิรุธก็จัดการได้เลย”
“ครับ” ลูกน้องสองคนตอบรับแล้วเดินตามคาริสาไปห่าง ๆ ดูเหมือนพวกเขาจะติดกับเธอเข้าแล้ว
“ขออะไรแรง ๆ หน่อยค่ะ” คาริสาสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับบาร์เทนเดอร์หนุ่ม เธอหยิบกระดาษโน้ตมาเขียนด้วยลายมือหวัด ๆ ไม่นานนักบาร์เทนเดอร์ก็ผสมเครื่องดื่มเสร็จสรรพ เขาส่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเธอ คาริสายกมันขึ้นมาดื่มคราวเดียวหมดแก้ว “หล่อจังเลยค่ะ นี้เบอร์ฉันนะคะ อย่าลืมโทรหานะ”
เธอพูดเสียงหวานพร้อมส่งสายตายั่วยวน จากนั้นจึงยื่นเศษธนบัตรและกระดาษโน้ตที่จดเบอร์ลงไปก่อนหน้าให้กับบาร์เทนเดอร์
“น้อง! ขอดูกระดาษนั่นหน่อย” ชายฉกรรจ์ที่สะกดรอยตามคาริสามาได้สักพักเดินตรงไปยังบาร์เทนเดอร์คนนั้นเพื่อขอดูกระดาษโน้ต
“แค่เบอร์โทรน่ะครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มพูดพร้อมยื่นกระดาษจดเบอร์ให้
“ก็แค่พวกดาวยั่วในผับ กลับเถอะ”
“แต่น้องเขาสวยนะเว้ย กูว่าตามไปอีกหน่อยดีกว่า”
“เฮ้ย! เรามาทำงานนะเว้ย งานนี้จะพลาดเพราะผู้หญิงไม่ได้”
“อย่าชะล่าใจไป บางทีอาจเป็นตำรวจปลอมตัวมาก็ได้”
ชายฉกรรจ์สองคนคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามหญิงสาวต่อ คาริสาเดินผ่านหัวหน้าของเธอ สองมือเรียวโอบรัดคอของเตชินทำท่าทางยั่วยวน ก่อนจะเสียบกระดาษโน้ตใบเล็กไว้ที่กระเป๋าเสื้อของเขาแล้วเดินจากไป
“แม่งมั่วไปทั่วเลยว่ะ กูว่ากลับกันเถอะ”
“มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”
หลังจากที่เตชินได้อ่านข้อความของคาริสา เขาจึงส่งสัญญาณให้เซนกับซานเด็กฝึกที่อยู่ในการดูแลดำเนินแผนสองต่อ
คาริสาเดินตรงไปยังห้องน้ำ ชายฉกรรจ์ที่เดินตามเธอมาค่อย ๆ ย่องไปข้างหลังของเธอ คาริสารู้ตัวมาตลอดแต่ก็พยายามทำตัวปกติ เธอหันหลังกะทันหันทำให้ชนเข้ากับชายคนนั้น
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” คาริสาเอ่ยถาม ก่อนจะโดนมือหยาบกร้านผลักจนแผ่นหลังของเธอแนบชิดกับผนังห้องน้ำโดยไม่ทันตั้งตัว
“มี...” เขาพูดเสียงหื่น คาริสายิ้มพลางส่งสายตามองเขาอย่างยั่วยวน เธอเดินวนรอบตัวของชายคนนั้นด้วยท่าทางสนอกกสนใจ เมื่อเขาไม่ระวังตัว กำปั้นหนัก ๆ ของหญิงสาวทุบลงไปที่ท้ายทอยของเขาอย่างแรง ส่งผลให้ชายคนนั้นหมดสติไปในทันที
คาริสาลากเขาเข้าไปไว้ในห้องน้ำริมสุด เธอริบอาวุธปืนของเขาเอาไว้ป้องกันตัวในยามฉุกเฉิน ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาเป็นชุดเดิมพร้อมกับถอดหน้ากาก จากนั้นจึงวิ่งไปดักรอที่ทางออกของผับ
คาริสากับเตชินตามสืบเรื่องนี้มาค่อนปี มันคือการส่งสินค้าผิดกฎหมายข้ามประเทศ เธอต้องการรู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง จึงทำเกินหน้าที่ที่เตชินมอบหมาย ด้วยการมาดักรอตรงบริเวณทางหลบหนี
“เรียบร้อย” หนุ่มใหญ่เอ่ยขึ้นหลังจากที่ลูกน้องคนสนิทเช็กของที่โกดังและส่งข้อความรายงานความเรียบร้อย จากนั้นจึงส่งกระเป๋าที่บรรจุด้วยเงินจำนวนมากมายให้กับเอกซึ่งเป็นตัวแทนมาเจรจาค้าขายแทนเจ้านาย เขาเปิดดูจำนวนเงินในกระเป๋าแล้วยิ้มออกมาอย่างยินดี
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับเสี่ย”
“เสี่ยครับเกิดเรื่องใหญ่แล้ว อยู่ ๆ พวกตำรวจก็โผล่มา ตอนนี้โกดังกำลังโดนค้น”
เอกเห็นท่าไม่ดีเมื่อมีบุคคลแปลกหน้าต่างตรงมาที่เขา ก่อนจะสังเกตเห็นว่าหนึ่งในลูกน้องของเสี่ยอาจจะเป็นสายให้กับตำรวจ เขาไม่รอช้ารีบคว้าปืนยิงสายตำรวจคนนั้นแล้วรีบคว้ากระเป๋าเงินเพื่อหลบหนีทันที
ปัง!
คนที่อยู่ภายในผับแห่งนั้นต่างร้องตกอกตกใจพากันแตกตื่นกับเสียงปืนที่ดังสนั่น ทุกคนต่างก็หนีเอาตัวรอดจนชุลมุนวุ่นวายไปหมด
คาริสาที่แอบดักรออยู่เห็นเอกวิ่งหนีออกมา จึงรีบวิ่งตามเขาไปห่าง ๆ เธอพยายามยิงสกัดโดยเล็งเป้าไปที่มือฝั่งที่เอกถือกระเป๋าบรรจุเงิน แต่ไม่สำเร็จเพราะเอกไหวตัวทัน กระสุนปืนเฉียดฉิวไปเพียงนิดเดียว
คาริสารีบหาที่หลบเอาตัวรอดเมื่อถูกเอกยิงสวนกลับมา ตำรวจชุดจับกุมของคดีนี้รีบวิ่งไปทางต้นเสียงของปืนที่ดังกังวานไปทั่วพื้นที่ใกล้เคียง จึงทำให้มีการต่อสู้กันระหว่างเอกกับตำรวจหลายนายอยู่พักใหญ่ ๆ
คาริสาที่หลบอยู่อีกฟากพยายามเล็งปืนไปยังมือของเอกข้างที่ถือกระเป๋าบรรจุเงิน ก่อนจะเหนี่ยวไกยิงด้วยความเด็ดเดี่ยว เอกได้รับบาดเจ็บที่มือทำให้เขาเลือกที่จะทิ้งกระเป๋าบรรจุเงินแล้วรีบหนีเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียว
เอกกระโดดขึ้นเรือเพื่อหลบหนี คาริสาที่วิ่งตามเขาไปติด ๆ กระโดดขึ้นเรือเพื่อสืบหาคนบงการรายใหญ่ เธออยากจะช่วยตำรวจปิดคดีนี้เต็มทน
สองเท้าค่อย ๆ เดินย่องไปบนเรือด้วยความเงียบงัน เธอเห็นว่าภายในเรือมีชายฉกรรจ์อยู่เต็มไปหมด รวมทั้งคนบงการรายใหญ่ด้วย โดยหารู้ไม่ว่าเรือที่เธอแอบขึ้นมาโดยไม่ได้รับอนุญาตกำลังจะแล่นออกไปจากจุดเทียบท่า