นางร้ายเผด็จศึก...

3173 Words
      แองเจล่าแวะมาคุยเรื่องงานกับมัสยาก่อนจะกลับคอนโดของตัวเอง เมื่อป้าซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอกลับออกไปแล้ว มัสยาก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดขึ้นมาแสกนใบหน้าเปิดหาข้อมูลบางอย่างทันที..       เธอต้องอาศัยศึกษาภาคทฤษฎีจากกูเกิล เรียนรู้อ่านทั้งเรื่องจริงเรื่องเล่า18+ รวมถึงดูภาพการมีเซ็กส์จากหนังและดูคลิปการร่วมรักที่สามารถเข้าถึงหรือหาดูได้ง่ายมากๆทางสื่อทุกรูปแบบในสังคมปัจจุบัน มัสยาดูไปก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นโดยอัตโนมัติ เธอเป็นนางแบบมืออาชีพตั้งแต่อายุ15 ไปเรียนเมืองนอกก็จริง แม้ว่าเธอจะใช้ชีวิตอิสระออกแนวฝรั่งจ๋า จะทำอะไรก็ทำได้เต็มที่แต่มัมของเธอก็สอนกรอกหูทุกวันตั้งแต่เล็กแต่น้อยเกี่ยวกับการประพฤติตนวางตัวให้เหมาะสมกับความเป็นผู้หญิง สอนให้รักนวลสงวนตัว เพราะว่าสังคมทุกวันนี้น่ากลัว มีข่าวข่มขืนแล้วฆ่าเกือบทุกวัน เธอก็ไม่เคยปล่อยตัวจนน่าเกลียดเกินงาม ความเป็นจริงนอกเหนือจากเวลาการทำงาน เธอก็ค่อนข้างจะแต่งตัวรัดกุมออกจะลุยๆตามสไตล์ซนๆแก่นๆไม่อยู่นิ่งของเธอ แต่การแสดงออกของผู้ชายคนนั้นกลับทำให้เธอจงใจอยากแกล้งเขาทั้งการแต่งกายและกิริยาท่าทางที่เธอแสดงออกมาก็ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง เขาคิดว่าเธอเป็นยังไง เขาเกลียดอะไรเธอก็จะเป็นอย่างนั้นให้เขาดู..       มัสยาศึกษาข้อมูลเรื่องเซ็กส์การมีเพศสัมพันธ์อย่างละเอียดจนดึกดื่น รุ่งเช้าเธอก็ผุดความคิดบางอย่างขึ้นมา..นางแบบสาวขับรถบีเอ็มคู่ใจมาหามาร์คัสกับวัสยา แด็ดดี๊กับมัมของเธอทันที “มัมขาา..มายน์คิดถึงมัมจังเลยค่ะ” มัสยาโผเข้ากอดวัสยาเมื่อเข้ามาในเพนท์เฮ้าส์หรูของมาร์คัส “มาหาหม่ามี้ตั้งแต่เช้าแล้วอ้อนผิดปกติแบบนี้..ต้องการอะไรอีกล่ะ ยัยมัสยาตัวแสบ!” “หวาย! ทำไมว่าลูกอย่างนั้น..ลูกอุตส่าห์แวะมาหาเรา” “หึ! หรือว่าไม่จริงล่ะคะ ไม่เชื่อคุณก็ถามลูกสาวสุดที่รักของคุณดู” วัสยาเอ่ยออกมาอย่างรู้ทันความเจ้าเล่ห์ของลูกสาวคนโตที่ได้จากมาร์คัสมาไม่น้อย แต่ไม่ว่าลูกสาวของเธอจะเป็นยังไงก็คือมัสยาตัวแสบลูกสาวที่เธอทั้งรักและเอ็นดูราวกับลูกยังเป็นเด็กน้อยอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เธอหอมศีรษะของลูกสาวก่อนที่มัสยาจะผละไปอ้อนมาร์คัส “แด็ดดี๊ขาา..มายน์คิดถึงแด็ดดี๊ที่สุดเลยค่ะ” มัสยาโผไปหอมแก้มมาร์คัสซ้ายขวาแล้วเกาะแขนออดอ้อนแด็ดดี๊ของเธอ “แด็ดดี๊ก็คิดถึงลูก มายน์..แด็ดดี๊บอกแล้วว่าให้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ที่นี่ออกจะกว้าง” “เวลาการทำงานของมายน์ไม่แน่นอน มายน์ไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของแด็ดดี๊กับมัมหนิคะ” “แล้วมาเช้าแบบนี้มีอะไรอย่างที่หม่ามี้พูดหรือเปล่า..” “ก็มีนิดหน่อยค่ะ..สตูดิโอของมัมที่ปิดไว้ไม่ได้ใช้งาน มายน์ขอได้ไหมคะ”  “มายน์จะเอาไปทำอะไรเหรอลูก..”  “เอ่อ..มายน์จะเปิดให้เช่าน่ะค่ะ ได้ไหมคะมัม”  “ก็แล้วแต่มายน์นะลูก ตั้งแต่ย้ายมาอยู่คอนโด หม่ามี้ก็แทบจะไม่ได้ไปดูแลเลย สตูดิโอนั่นหม่ามี้ก็ตั้งใจจะซื้อไว้ให้ลูกตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งท้องมายน์นั่นแหละ เปิดให้เช่าก็ดีนะ..จะได้มีคนดูแลไม่ทรุดโทรม”  “ขอบคุณนะคะมัม..มายน์จะดูแลสตูดิโอนั่นให้ดีที่สุดเลยค่ะ” มัสยาเข้าไปกอดหอมแก้มขอบคุณมัมของเธอ วัสยาก็กอดหอมลูกสาวด้วยความรัก “ขอบคุณมัมกับแด็ดดี๊มากค่ะ มายน์ต้องไปทำงานก่อนนะคะ แล้วมายน์จะแวะมาหาแด็ดดี๊กับมัมบ่อยๆ” “จ้ะลูก..”       มัสยาออกจากเพนท์เฮ้าส์หรูไปทำงานเดินแบบถ่ายแบบของเธอตามปกติ วันนี้เธอรู้ข่าวจากนริศสปอนเซอร์รายใหญ่ของนิตยสารมาว่า..อีกสองสัปดาห์จะมีงานเลี้ยงฉลองครบรอบของนิตยสารพร้อมกับเปิดตัวนิตยสารฉบับพิเศษที่จะวางจำหน่ายในวันนั้นอีกด้วย เธอจะใช้โอกาสเหมาะนี้จัดการเผด็จศึกนายหน้าขรึมขี้เก๊กที่ชอบดูถูกคนอื่นอย่างเขาให้สำเร็จ!       สองสัปดาห์ต่อมา..งานเลี้ยงฉลองครบรอบ 3ปีของนิตยสาร The Men Plus Magazine ซึ่งรินณภัทรเป็นผู้บริหารดูแล งานฉลองถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่สำนักพิมพ์ของชายหนุ่มและยังเป็นวันเปิดตัวนิตยสารฉบับพิเศษอีกด้วย มัสยาได้รับบัตรเชิญมางานนี้เช่นเดียวกับบรรดาสื่อมวลชนและช่างภาพ เธอรู้ดีว่าเขาเชิญเธอมาด้วยความไม่เต็มใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเธอเป็นนางแบบบนปกนิตยสารฉบับพิเศษของเขา มัสยามาร่วมงานนี้ด้วยเดรสสั้นเกาะอกแนบสรีระสีแดงเพลิงกระโปรงสั้นเหนือเข่า เป็นชุดที่อวดหุ่นเพรียวบางและผิวพรรณขาวผุดผ่องของเธอได้เป็นอย่างดี นางแบบสาวเดินเข้ามาในงานด้วยความมั่นใจโดดเด่นราวนางพญา บรรดาช่างภาพเมื่อเห็นเธอย่างกรายเข้ามาภายในงานก็ต่างรีบยกกล้องถ่ายรูปคู่กายกดชัตเตอร์เก็บภาพเธอกันระรัว มัสยาไล่สายตามองหาเป้าหมายของเธอ..ชายหนุ่มร่างสูงอยู่ในชุดสูทเนี้ยบสุภาพเรียบร้อยทุกกระเบียดนิ้วไม่มีที่ติ เขากำลังพูดคุยให้สัมภาษณ์นักข่าวจากหลากหลายสำนัก เธอเดินเข้าไปทักทายและพูดคุยกับปิ่นกมล บรรณาธิการสาวและทศวินช่างภาพที่เธอรู้จักและพอจะพูดคุยได้มากที่สุดภายในงานนี้ จนกระทั่งรินณภัทรกล่าวเปิดงานเปิดตัวนิตยสารพร้อมกับกล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนที่ดีที่มีให้กับนิตยสารมาตลอดระยะเวลา 3ปี มัสยารอด้วยความใจเย็น เธอหยิบแก้วแชมเปญจากบริกรมาถือไว้แก้วหนึ่งรอจนรินณภัทรเดินขอบคุณสปอนเซอร์และสื่อมวลชนภายในงาน จนชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้จุดที่เธอยืนอยู่นั้น.. “ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ..” นางแบบสาวก้าวเท้าออกไปขวางทางเขาไว้พร้อมกับยื่นแก้วแชมเปญไปตรงหน้าซีอีโอหนุ่ม “มัสยา!” “ค่ะ..ฉันเอง..ยินดีกับความสำเร็จของคุณอีกครั้งนะคะ” เธอมองหน้ารินณภัทรสลับกับแก้วแชมเปญ  “ดื่มสิคะ..ฉันไม่วางยาคุณหรอก” ผู้บริหารหนุ่มมองแก้มแชมเปญตรงหน้าอย่างลังเลครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือออกมารับแชมเปญแก้วนั้นจากมือนางแบบสาว “ขอบคุณ..” รินณภัทรเอ่ยขอบคุณเบาๆก่อนจะยกแก้วแชมเปญขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วแล้วจะก้าวผละออกไป  “เดี๋ยวค่ะคุณฟิค!” มัสยาเรียกรินณภัทรไว้ก่อนที่เขาจะก้าวห่างเธอออกไป ชายหนุ่มก็หยุดชะงักเท้ายืนนิ่ง “ฉันมีเรื่องงานจะปรึกษาคุณ..” “งาน! งานอะไร? คุณควรจะคุยกับคุณปิ่น ไม่ใช่ผม!” “คุณยังต้องการให้สปอนเซอร์สนับสนุนนิตยสารของคุณต่อไปมั้ยล่ะคะ” “คุณหมายความว่ายังไง..” “ออกไปคุยกับฉันข้างนอกเป็นการส่วนตัว! สักครู่..” มัสยาเชื้อเชิญกึ่งบังคับชายหนุ่มไปในตัว รินณภัทรครุ่นคิดมองโดยรอบ “ฉันรบกวนเวลาคุณไม่นาน..ฉันไม่หลอกคุณไปปล้ำหรอกค่ะ”       ผู้บริหารหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิด มองนางแบบสาวอย่างลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกมา.. “ผมมีเวลาไม่นาน ต้องรีบไปคุยงานต่อ คุณมีอะไรก็ว่ามา..” มัสยาได้ยินเขาเอ่ยดังนั้นก็ยิ้มมุมปาก ก่อนที่จะก้าวนำเขาออกมาจากงาน “เชิญตามฉันมาทางนี้ค่ะ..”       มัสยาเดินนำรินณภัทรมายังลานจอดรถ จนมาใกล้รถบีเอ็มของเธอที่จอดอยู่มุมด้านใน “นี่คุณ..” รินณภัทรก้าวตามนางแบบสาวมาด้วยสีหน้านิ่งขรึม คิ้วยังคงขมวดก่อนที่เขาจะรู้สึกเบลอๆ ชายหนุ่มสะบัดหน้าเบาๆเมื่อสายตาเริ่มฟ้าฟางพล่ามัวมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเอื้อมมือไปค้ำกระจกรถที่อยู่ตรงหน้าเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ล้มฟุบลงไป “คุณฟิค!” มัสยาเมื่อเห็นท่าทางของชายหนุ่มเหมือนจะทรุดลงกับพื้น เธอรีบกดรีโมทเปิดประตูรถ ประคองให้เขาเข้าไปนั่งก่อนที่ชายหนุ่มจะไม่รู้สึกตัวไปเสียก่อน เมื่อจัดการให้เขานั่งเรียบร้อยแล้ว สองมือบางก็เลื่อนขึ้นมาจับใบหน้าหล่อตี๋ขาวสะอาดสะอ้านของชายหนุ่มก่อนจะตบแก้มเรียกชื่อเขาเบาๆ “คุณฟิค..คุณฟิค..” เธอตบแก้มเขายังไง อีกฝ่ายก็แน่นิ่งไม่ไหวติง ใช่! เขาไม่รู้สึก ไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว “นายยังไม่ตายใช่มั้ย..” มัสยาเลื่อนมือจากแก้มขาวๆไล้นิ้วเรียวมาอังตรงรูจมูกของชายหนุ่ม เมื่อรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดนิ้วของเธอก็รู้สึกโล่งใจ “เฮ้อ! ค่อยยังชั่ว..คิดว่าฉันจะใส่ยาหนักมือไปจนทำให้นายตายซะแล้ว” นางแบบสาวถอนหายใจบ่นพึมพำก่อนจะถอยออกมา เธอปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปยังอีกฝั่ง นั่งประจำที่ของตัวเองและเอื้อมมือไปล้วงโทรศัพท์ไอโฟนเครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงของชายหนุ่มออกมา จับมือเขาสแกนลายนิ้วมือเปิดเครื่องและพิมพ์อะไรบางอย่างก่อนจะขับรถออกมาจากสำนักพิมพ์..       มัสยาขับรถด้วยความเร็วปกติมาตามเส้นทางที่คุ้นชิน จนกระทั่งมาถึงสตูดิโอของแด็ดดี๊และมัมของเธอที่มัมเพิ่งยกให้เธอเมื่อไม่นานมานี้ ที่นี่เป็นทั้งบ้านและสถานที่ที่เธอเติบโตมาในวัยเด็ก มัสยาหยุดรถตรงที่ลานจอดรถด้านหลังสตูดิโอ เธอนั่งมองสตูดิโอที่เปรียบเสมือนบ้านแล้วย้อนคิดถึงความหลังครั้งเยาว์วัยอย่างตัดสินใจบางอย่าง “เฮ้อ! ที่นี่แหละเหมาะที่สุด อย่าคิดมากไปสิมายน์” มัสยาพึมพำกับตัวเองก่อนจะเปิดประตูก้าวลงจากรถ เธอเดินมาเปิดประตูอีกฝั่ง จับแขนชายหนุ่มมาเกี่ยวคอเธอไว้ ส่วนสองแขนเรียวก็โอบรัดรอบตัวเขาก่อนที่จะประคองหรือจะเรียกว่ากึ่งหิ้วกึ่งลากเขาเข้ามาในสตูดิโอด้วยความลำบากทุลักทุเลก็ว่าได้   “อึ๊ย! คนอะไร! ตัวก็ไม่ได้ใหญ่มากซะหน่อย แต่ทำไมตัวถึงหนักชะมัด!” เธอบ่นทุกย่างก้าว จนกระทั่งเข้ามาในห้องนอน เธอปล่อยร่างสูงลงบนที่นอนขาวสะอาดสะอ้านเรียบตึง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนหงายหายใจหอบอยู่ใกล้ๆร่างสูง “ฮือ..เล่นเอาซะเหนื่อย!” มัสยาสูดอากาศเข้าออกแรงๆอย่างเหนื่อยหอบกับการจัดการกว่าจะลากนายขี้เก๊กเข้ามาสำเร็จ กลิ่นหอมอ่อนๆจากการทำความสะอาดของบริษัททำความสะอาดที่เธอจ้างมาทำเมื่อ3วันก่อนหน้านี้ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายจนเกือบจะผล็อยหลับ “เธอจะหลับตอนนี้ยังไม่ได้นะยัยมายน์! เธอต้องทำภารกิจให้สำเร็จก่อน!” มัสยาเตือนตัวเองก่อนจะพลิกตัวนอนเท้าคางพิจารณาใบหน้าหล่อขาวตี๋ที่นอนไม่รู้สึกรู้สาว่าทำให้เธอเหนื่อยขนาดไหนอย่างหมั่นไส้ “หึ! นายเกลียดผู้หญิงแบบฉันนักใช่มั้ย! เกลียดอะไร..นายจะได้อย่างนั้น!” นางแบบสาวลุกขึ้นนั่งคุกเข่าบนที่นอนใกล้ๆร่างหนาของรินณภัทรผู้บริหารหนุ่ม มือบางเลื่อนไปพลิกตัวถอดเสื้อสูทออกจากตัวเขา ตามด้วยเน็กไทและค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกทีละเม็ดจนหมด ก่อนที่มัสยาจะจัดการกับส่วนล่างนั้น เธอจัดการเอาเน็กไทไปมัดข้อมือเขาไว้กับหัวเตียง มืออีกข้างเธอใช้ผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อของเขามัดไว้กับหัวเตียงเช่นกัน จัดการมัดมือชายหนุ่มตรึงไว้กับเตียงเรียบร้อยแล้ว เธอก็หันมาสนใจกับกางเกงที่เขาสวมอยู่       นางแบบสาวขยับขึ้นไปนั่งคร่อมบนต้นขาแข็งแรงของรินณภัทร จัดการดึงเข็มขัด ปลดตะขอรูดซิปกางเกงออกช้าๆด้วยความตื่นเต้นใจเต้นระรัว ตึกๆ ตึก!ตึก!ตึก! เธอค่อยๆถอดดึงกางเกงเขาลงไปค้างไว้ที่สะโพก ก่อนที่จะรูดกางเกงชั้นในสีขาวล้วนสะอาดตาตามลงไปช้าๆ แทนที่นางแบบสาวจะก้มมองของลับของชายหนุ่ม เธอกลับเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าขาวตี๋ที่นอนหลับตาพริ้ม เธอพิจารณาใบหน้าเขาอย่างละเอียด คิ้วเข้มหนา จมูกโด่งเป็นสันกำลังดี ริมฝีปากหนาสีชมพูอิ่มได้รูป ไล่ลงมายังบ่ากว้าง อกแกร่ง กล้ามเนื้ออกดูแน่นแข็งแรงอย่างคนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เธอคิดว่าเขาจะเป็นหนุ่มเจ้าสำอางร่างกายซูบผอมกว่านี้เสียอีก ผิวของเขาขาวเนียนจนเธอที่เป็นผู้หญิงยังรู้สึกอิจฉา จุกนมก็สีชมพูระเรื่อน่าหยิกน่ากัดชะมัด! มัสยาไล่สายตาลงมาเรื่อยๆ กล้ามท้องซิกแพคของเขาก็เป็นลอนสวยกำลังดี จนในที่สุดเธอก็ก้มมองลงตรงหน้า...เธอเห็นของหวงของชายหนุ่มเต็มสองตา สีเดียวกับผิวของเขาส่วนหัวเป็นสีชมพูเข้มกว่าเล็กน้อย มันกำลังหลับสลบไสลเช่นเดียวกับเจ้าของ นางแบบสาวมองอย่างสนใจ เธอจะเรียกมันว่ายังไง หน้าตามันคล้ายกับเห็ดชนิดหนึ่งที่เธอชอบกินซะด้วยสิ จะว่าคล้ายงวงช้างก็ได้ เธอขอเรียก.. “ช้างน้อย”ก็แล้วกัน “ช้างน้อยของนายสะอาดใช่มั้ย..” มัสยามองพิจารณาอย่างละเอียด มันขาวอมชมพูดูสะอาดสะอ้านราวกับริมฝีปากของเขาไม่มีผิด มือบางที่จับขอบกางเกงอยู่ตรงสะโพกค่อยๆดึงจัดการถอดกางเกงทั้งสองตัวของเขาออกแล้วเธอก็นำเสื้อเชิ้ตกับกางเกงของชายหนุ่มมาผูกข้อเท้าทั้งสองข้างของเขามัดไว้กับขาเตียง ตรึงร่างหนาไว้บนที่นอน ก่อนที่มัสยาจะขยับขึ้นไปนั่งคร่อมบนต้นขาของรินณภัทรอีกครั้ง มือบางสัมผัสลูบไล้เกาะกุมช้างน้อยของเขาไว้เบาๆ มือเธอกำมันได้รอบพอดี “นายเคยได้ใช้งานมันบ้างหรือยังเนี่ย..หยิมๆติ๋มๆแบบนายคงจะไม่เคยได้ใช้มันหรอกใช่มั้ย..” เขาอาจจะเป็นแต๋วก็ได้ มัสยาพูดไปคิดไปก็ค่อยๆจับรูดช้างน้อยของรินณภัทรขึ้นลงเบาๆ เธอยิ่งจับยิ่งรูดมันก็ยิ่งแข็งพองตัวขยายใหญ่ขึ้นจนคับมือเล็กของเธอ เธอก็ยิ่งสนุกเหมือนมันเป็นของเล่นที่มีชีวิต จนมันแข็งแกร่งชี้โด่ไม่นุ่มนิ่มเหมือนกับตอนแรก  “ต่อไปก็เอาของนายใส่เข้าไปในน้องสาวของฉันเหมือนในหนังเอวีสินะ..” นางแบบสาวนึกภาพหนังเอวีที่เธอใช้ศึกษามาก่อนหน้านี้ เธอผละมือบางออกจากช้างน้อยพร้อมกับหยัดตัวขึ้นเล็กน้อยและถกกระโปรงชุดเดรสขึ้นมาที่สะโพกแล้วใช้ปลายนิ้วเกี่ยวแพนตี้ตัวน้อยของเธอลงไปอยู่เหนือเข่า สองมือบางจับประคองช้างน้อยของรินณภัทรไว้ก่อนที่เธอจะค่อยๆขยับบั้นท้ายทิ้งน้ำหนักตัวลงให้น้องสาวของเธออยู่ตำแหน่งตรงกับช้างน้อยของเขาพอดี “เธอกำลังจะทำอะไรของเธอ!” “อุ๊ย! นายฟิค!” เสียงเข้มดุดันที่ดังขึ้น ทำให้มัสยาสะดุ้งเงยหน้าไปมองเจ้าของเสียงในทันที!       รินณภัทรทั้งตกใจและตื่นตะลึงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า..เขาไม่ได้ฝันหรือตาฝาดไปใช่หรือไม่ นี่นางแบบสาวกำลังคร่อมอยู่บนตัวเขา! “ทำไมนายรู้สึกตัวเร็วแบบนี้ล่ะ!” มัสยาเอ่ยออกมาด้วยความตกใจแกมแปลกใจ “เธอใส่อะไรลงไปในแชมเปญแก้วนั้น!” ชายหนุ่มถามเสียงขุ่นพร้อมกับหันไปมองมือทั้งสองข้างที่ถูกนางแบบสาวผูกมัดพันธนาการเขาไว้กับหัวเตียงสลับกัน “ก็แค่..ยานอนหลับ!” มัสยาตอบเสียงเรียบเฉย เธอไม่กล้าใส่มากเพราะกลัวว่าจะทำให้เขาช็อกตาย กลับกลายเป็นว่าเธอยังไม่ทันได้ทำอะไรเขาก็รู้สึกตัวขึ้นมาซะก่อนไปได้ “ไหนเธอบอกว่าไม่วางยา ไม่หลอกมาปล้ำ เธอทำทุกอย่างเลยนะยัยตัวแสบ! แก้มัดให้ฉันเดี๋ยวนี้!” รินณภัทรจ้องตานางแบบสาวอย่างดุดัน  “ไม่! นายรู้สึกตัวก็ดี ฉันจะทำให้นายจดจำวันนี้ไปไม่มีวันลืม นายยิ่งเกลียดก็ยิ่งต้องเจอ!” แม้ว่าเธอจะอายและประหม่า แต่ด้วยความอยากเอาชนะเขา เธออุตส่าห์ลงทุนหาหนังเอวีมาศึกษา เธอต้องทำได้สิ มันจะยากแค่ไหนกันเชียว มัสยาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วเริ่มปฏิบัติการเผด็จศึกต่อให้สำเร็จ มือบางสัมผัสลูบไล้ไปตามกล้ามท้องแกร่งของชายหนุ่ม ก่อนที่จะเลื่อนลงมาบีบขยำเล่นกับช้างน้อยของหวงเขาอีกครั้ง..       มือนุ่มนิ่มที่จับน้องชายของเขาเล่นอยู่นั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเกร็งหน้าท้อง ความเป็นชายของเขาก็เกร็งไม่ต่างกัน “ยัยบ้าเอ๊ย! ถ้าฉันหลุดเมื่อไหร่ ฉันเอาเธอตายแน่!” รินณภัทรได้แต่ผงกหัวมองพร้อมกับสบถออกมา(ยัยตัวแสบคิดอะไรของเธอถึงจะเอาสด! เขายิ่งรู้สึกสยิวเวลาเธอจับน้องชายของเขาไปสัมผัสถูไถเนินเนื้อนุ่มกลีบเนื้อแน่นน้องสาวของเธอที่ร้อนผ่าว มันทำให้ร่างกายเขาร้อนรุ่มเลือดสูบฉีด ขาของเขาก็ถูกดึงรั้งไว้ไม่สามารถขยับได้ เขาได้แต่นอนเกร็งสะโพกและปวดหนึบกับการกระทำของเธอ       มัสยายังคงพยายามสอดใส่ให้สำเร็จ มือบางวางค้ำลงบนหน้าท้องแกร่งของเขาไว้ ขณะที่เธอพยายามกดบั้นท้ายกลมกลึงดันลงไปให้น้องสาวของเธอกลืนกินเจ้าช้างน้อย ถ้าจะถามว่าเธออายคนตรงหน้าไหม เธอก็อายแต่ความอยากเอาชนะมันมีมากกว่า...เธอพยายามจับความแข็งแกร่งของเขาสอดใส่เข้าไปแต่ก็พลาดครั้งแล้วครั้งเล่า ใส่ยังไงก็ไม่เข้าไปซะที “ฮื้อ! ทำไมในหนังเอวีมันเข้าง่ายนิดเดียวล่ะ!” นางแบบสาวบ่นอุบอิบรู้สึกหงุดหงิดขัดใจ “ในหนังที่เธอดูมันใหญ่เท่าของฉันหรือเปล่า!” ชายหนุ่มขบกรามอย่างอดกลั้น และสิ่งที่เขามองเห็น..ร่องสาวของเธอยังคงปิดสนิทแนบแน่น แล้วของเขาจะเข้าไปได้ยังไง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD