หนึ่งสัปดาห์ต่อมา.. มัสยาแวะเข้ามารับเช็คที่สำนักพิมพ์ของรินณภัทร ระหว่างที่เธอนั่งรอรับเช็คจากปิ่นกมลในห้องประชุมก็มีสายเรียกเข้าโทรศัพท์มาหาเธอ นางแบบสาวกดรับสายพูดคุยตามปกติ
“คะ พี่เจมส์..”
“เย็นนี้เมย่ามีนัดแล้วค่ะ ไว้โอกาสหน้าค่อยนัดเจอกันนะคะ สวัสดีค่ะ” รินณภัทรบังเอิญเดินผ่านมาได้ยินก็หยุดยืนนิ่งฟังอยู่ข้างๆประตู ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง..
“สวัสดีค่ะ..เสี่ยเบนซ์”
“รถคันใหม่เหรอคะ! อย่าเพิ่งเลยค่ะ คันเดิมของเมย่ายังสภาพดีอยู่เลยค่ะ..ค่ะ..ถ้าเมย่าต้องการรถคันใหม่จะบอกเสี่ยนะคะ” มัสยาวางสายแล้วถอนหายใจส่ายหน้าเบาๆ คันที่เธอขับอยู่กว่าจะเก็บเงินซื้อมาได้ เสี่ยนี่ก็ขยันนำรถมาล่อเธอจริงๆ ครู่เดียวก็มีอีกสายโทรเข้ามาอีก..
“ค่ะ กำลังรอรับอยู่ค่ะ งานชิ้นต่อไปหวังว่าเสี่ยน็อตจะให้โอกาสเมย่าได้ร่วมงานกันอีกนะคะ..”
“ทานข้าวกันเหรอคะ น่าเสียดาย..เย็นนี้เมย่ามีนัดกับเพื่อนแล้วน่ะสิคะ โอกาสหน้าค่อยนัดกันอีกครั้งนะคะ สวัสดีค่ะ..”
รินณภัทรที่ยืนฟังอยู่ เมื่อนางแบบสาววางสาย เขาก็หน้าขรึมหน้านิ่วคิ้วขมวด เดินกลับห้องทำงานก็พึมพำไปอย่างอารมณ์ขุ่นมัว
“ผู้หญิงอะไร..ไม่ถึง15นาที ออดอ้อนผู้ชาย 3คน! เธอมีผู้ชายทั้งหมดกี่คน! หรือจะมีครบทั้ง7วัน นอกจากพ่อรวย ผลาญสมบัติพ่อแล้วยังไม่รู้จักพอ ยังหลอกเอานั่นเอานี่จากบรรดาเสี่ยๆทั้งหลายอีก ผู้หญิงไร้ยางอายแบบนี้ใครจะเอามาเป็นเมียเป็นแม่ของลูก!”
ครู่ต่อมา ปิ่นกมลเดินถือเช็คมายื่นให้นางแบบสาว มัสยาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้
“น้องเมย่าไม่น่าจะลำบากมารับด้วยตัวเองเลยนะคะ พี่จะให้เมสเซ็นเจอร์นำไปส่งให้”
“บังเอิญเมย่าผ่านมาทางนี้พอดีน่ะค่ะ ไม่ได้มารบกวนพี่ปิ่นใช่มั้ยคะ..”
“ไม่ๆ ไม่รบกวนเลยค่ะ พี่แค่เกรงใจ”
“งั้นเมย่าขอตัวกลับเลยนะคะพี่ปิ่น พอดีมีงานต่อน่ะค่ะ สวัสดีค่ะ”
“ค่ะ”
มัสยารับเช็คมาก่อนจะกล่าวลา ปิ่นกมลก็เดินมาส่งเธอที่หน้าลิฟท์ มัสยาเดินออกมากำลังจะก้าวออกจากอาคารสำนักพิมพ์ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอลืมแว่นกันแดดถอดวางไว้บนโต๊ะในห้องประชุม นางแบบสาวจำเป็นต้องเดินกลับเข้ามาในสำนักพิมพ์อีกครั้ง เมื่อเดินเข้ามาใกล้ห้องประชุม เธอได้ยินเสียงเคร่งขรึมของชายหนุ่มที่กำลังคุยอยู่กับบรรณาธิการสาวดังออกมา..
“คุณปิ่น!”
“คะ บอส..”
“ต่อไปผมขอสั่งห้าม! ห้ามคุณเอาผู้หญิงแบบนี้มาลงปกนิตยสารของเราอีกเด็ดขาด!”
“คะ? น้องเมย่าน่ะเหรอคะ ทำไมคะบอส ปิ่นไม่เข้าใจ..” ปิ่นกมลทำหน้างุนงงสงสัย
“ใช่! โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นนั่นแหละตัวดี ห้ามเด็ดขาด!”
“ยังไงคะ น้องเมย่าก็ทำงานตามปกติ”
“ผมไม่ชอบผู้หญิงที่หากินกับเรือนร่างยั่วยวนหลอกล่อผู้ชายไปวันๆแบบนั้น..ทำตัวเสื่อมเสีย ไร้ศักดิ์ศรี ไร้ยางอาย!”
“งานของน้องเมย่าก็เป็นแบบนั้นปกติ..บอสน่าจะเข้าใจ ถ้าไม่เอาน้องเมย่า บอสจะให้เอาใครมาขึ้นปกเหรอคะ คุณนารากรนางเอกสาวหน้าหวานแสนจะเรียบร้อยเหมือนผ้ายับที่พับไว้ คู่ควงของบอสน่ะเหรอคะ”
“คุณปิ่น!”
“เอ่อ..ปิ่นขอโทษค่ะ ปิ่นก็พูดออกไปตามความเป็นจริงที่ปิ่นรู้สึกที่ปิ่นเห็นและสัมผัสเจอมากับตัวเอง น้องเมย่าภายนอกแม้เธอจะดูแรงๆแต่งตัวโป๊เซ็กซี่ แต่ถ้าได้รู้จักเธอ เธอเป็นคนที่น่ารักมากคนหนึ่ง จริงใจตรงไปตรงมา ตรงต่อเวลาและตั้งใจทำงานมากนะคะ ไม่เหมือนกับใครบางคน..”
“ผมบอกยังไงก็อย่างนั้นก็แล้วกัน หวังว่าผมจะไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นมาที่สำนักพิมพ์หรืออยู่บนปกนิตยสารของเราอีก!”
“??” ปิ่นกมลยืนอึ้ง เช่นเดียวกับมัสยาที่มาได้ยินเข้าโดยบังเอิญ
“ผู้ชายอะไรอคติ!” นางแบบสาวกำมือแน่น ริมฝีปากเม้มเข้าหากันหายใจถี่แรงด้วยความโกรธเคืองชายหนุ่มกับสิ่งที่เขาพูดและแสดงท่าทางออกมาชัดเจนอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ จนเธอคิดอยากจะเอาชนะเขาให้ได้ คนอย่างมัสยาฆ่าได้แต่หยามไม่ได้! เธอไม่เคยยอมแพ้ใคร และไม่เคยมีใครมาแสดงท่าทีรังเกียจและเหยียดหยามเธอขนาดนี้มาก่อน! มัสยาถอยกลับมาตั้งหลักที่รถบีเอ็มคู่ใจแล้วครุ่นคิดแผนการจะหาวิธีแก้เผ็ดเอาคืนนายรินณภัทรนั่นให้ได้! มัสยานิ่งคิดอยู่ชั่วขณะก็คิดหาวิธีที่จะเอาคืนชายหนุ่มขี้เก๊กขึ้นมาได้ เธอจะต้องทำให้เขาหลงเสน่ห์หลงรักเธอแล้วเธอก็จะสลัดเขาทิ้งอย่างไม่ใยดี!
“คอยดูนะ..ฉันจะเอาชนะนายให้ได้ เกลียดฉันมากนักใช่มั้ย! ฉันจะทำให้นายหลงรักฉัน สักวันฉันจะฟันนายแล้วทิ้ง! ฉันจะหักอกนายให้ได้! นายฟิค! ฉันจะทำให้นายมาคุกเข่าต่อหน้าฉันเพื่อลบคำสบประมาณของนาย!” มัสยาพึมพำออกมาอย่างโกรธเคืองและมุ่งมั่นก่อนจะขับรถออกไป..
รินณภัทรที่ยังคงคุยงานสั่งงานอยู่กับปิ่นกมล เขาเหลือบมองไปเห็นแว่นกันแดดวางอยู่บนโต๊ะก็เอ่ยถามบรรณาธิการสาว
“นั่นแว่นของใคร..”
“ไม่ทราบค่ะบอส..เอ๊ะ! หรือว่าจะเป็นของน้องเมย่า..”
“ถ้าเป็นของนางร้ายยั่วสวาทคนนั้นก็ให้ใครนำไปคืนเธอซะด้วย!” รินณภัทรทำเสียงขรึมหน้าดุดัน
“ค่ะ บอส..”
รินณภัทรสั่งกำชับก่อนจะเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง บก.สาวก็ยืนบ่นพึมพำตามหลังเขาทันที
“ท่าทางบอสจะอคติกับน้องเมย่าเอาจริงเอาจังเลยนะเนี่ย..เฮ้อ! เป็นอะไรของเค้า! แล้วดูซิ..เรียกน้องเมย่าว่า.." นางร้ายยั่วสวาท " อึ๊ย! ฟังแล้วขนลุกพิลึก!” ปิ่นกมลบ่นไปก็ทำท่าขนลุกไป เธอหยิบแว่นกันแดดบนโต๊ะก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานของเธอ
เมื่อมัสยารับรู้ว่ารินณภัทรเจ้าของนิตยสารที่เธอไปถ่ายแบบขึ้นปกนั้นรังเกียจเธอ เธอก็จะเป็นฝ่ายเข้าหาเขาเอง นางแบบสาวโทรศัพท์พูดคุยกับเสี่ยน็อตสปอนเซอร์หลักในการถ่ายแบบที่ผ่านมา เธอจึงได้รู้ว่าทางสำนักพิมพ์กำลังคัดเลือกรูปภาพที่เธอถ่ายแบบเพื่อจะสั่งตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม วันนี้เธอจึงถือโอกาสจะเข้าไปที่สำนักพิมพ์โดยจะหาข้ออ้างว่าเข้าไปเช็กภาพว่าสวยเซ็กซี่พอหรือเปล่า มัสยาเลือกเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ไปสำนักพิมพ์เป็นชุดที่เรียบหรูดูดีและยังคงความเซ็กซี่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น
“ก๊อก ๆ ขออนุญาตนะคะ..” มัสยาเคาะประตูห้องประชุมที่เปิดอยู่ เธอเอ่ยขออนุญาตก่อนจะก้าวเข้ามา..
รินณภัทรเมื่อหันไปเห็นนางแบบสาวเดินเข้ามาก็หันไปมองบรรณาธิการสาวตาดุดัน
“ปิ่นเปล่านะคะ..” บก.สาวทั้งปฏิเสธและส่ายหน้าพร้อมกันเป็นพัลวันบ่งบอกว่าเธอไม่รู้เรื่องใดๆกับการมาของนางแบบสาว
“สวัสดีค่ะทุกคน..ต้องขอโทษนะคะที่เมย่ามาโดยไม่ได้ขออนุญาต ขอเมย่าช่วยเลือกภาพด้วยคนนะคะ..”
“ไม่เป็นไรครับ น้องเมย่ามาก็ดี จะได้ช่วยกันเลือกภาพที่สวยถูกใจ” ทศวินช่างภาพเอ่ยขึ้นโดยไม่สังเกตสีหน้าท่าทางของเจ้านายหนุ่ม
“ขอบคุณค่ะพี่บิ๊ก..” มัสยาเอ่ยขอบคุณก่อนจะก้าวเข้าไปยืนเบียดใกล้ๆรินณภัทรอย่างจงใจ ชายหนุ่มก็ขยับออกห่างในทันที ยิ่งเขาขยับหนีมัสยาก็จงใจเข้าไปเบียดแนบชิดจนรินณภัทรส่งสายตาดุดันจ้องมองตาเธอกลับมา มัสยาทำไม่รู้ไม่ชี้หันไปมองสนใจภาพตัวอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะแทน
“สวยทุกภาพเลยค่ะ จะวางแผงเมื่อไหร่คะเนี่ย..”
“ต้นเดือนที่จะถึงนี้ค่ะน้องเมย่า..”
“ผมฝากทางนี้ด้วยนะครับพี่บิ๊ก..ผมจะไปเคลียร์งานที่โต๊ะ!” รินณภัทรเอ่ยขึ้นเสียงขรึม
“อ๋อ..ได้ครับ คุณฟิค”
เมื่อรินณภัทรออกไปแล้ว ช่างภาพ บรรณาธิการและนางแบบสาวก็เลือกภาพไปพูดคุยกันไปอย่างถูกคอสนุกสนาน มัสยาจึงถือโอกาสนี้เลียบๆเคียงๆซักถามเกี่ยวกับชายหนุ่มผู้เคร่งขรึม
“ท่าทางบอสของพี่ๆจะไม่ชอบเมย่านะคะ เขาเกลียดผู้หญิงหรือว่าเขาเป็นเกย์หรือเปล่าคะ”
“ไม่ค่ะ บอสไม่ได้เป็นเกย์!”
“แล้วทำไม..”
”บอสไม่ค่อยชอบผู้หญิงเซ็กซี่น่ะค่ะน้องเมย่า..แม่ของบอสเป็นผู้หญิงเรียบร้อย บอสคงจะชอบแนวนั้น..”
“อ๋อ..เขาชอบผู้หญิงเรียบร้อยๆ เขาคงจะมีแฟนแล้วใช่ไหมคะ”
“จะว่ามีก็ไม่น่าจะใช่ เพราะผู้หญิงเป็นฝ่ายตามตื๊อซะมากกว่าค่ะ”
“เหรอคะ..”
“ก็นางเอกหน้าหวานที่แสนจะเรียบร้อยน่ะค่ะ น้องเมย่าก็เคยแสดงละครกับเธอมาแล้ว..”
(“นี่นายฟิคเป็นคู่ควงของยัยนาราอย่างนั้นเหรอ..”) มัสยาฟังไปเก็บข้อมูลไปก็คิดตามไป เธอไม่เคยคิดจะสนใจว่านางเอกสาวที่เรียบร้อยแสนซื่อแค่ภายนอกจะควงกับใคร แต่กับผู้ชายคนนี้เห็นทีเธอจะต้องสนใจเป็นพิเศษเสียแล้ว..
เมื่อทั้งสามเลือกภาพเสร็จเรียบร้อยก็นั่งพูดคุยกันเพลินๆจนกระทั่งรินณภัทรเดินเข้ามา..
“เป็นยังไงบ้าง เรียบร้อยดีไหมครับพี่บิ๊ก”
“เรียบร้อยดีครับ พี่สั่งตีพิมพ์แล้ว”
“โอเคครับ ผมจะได้ออกไปทำธุระข้างนอก..”
“คุณฟิคจะไปแถวไหนครับ..”
“ผมจะไปแถวสุขุมวิท พี่บิ๊กต้องการอะไรหรือเปล่า”
“ผมไม่ต้องการอะไรครับ แต่จะขอฝากน้องเมย่าติดรถไปด้วย..เธอไม่ได้เอารถมา ผมต้องเคลียร์งานต่ออีก..”
“ไม่ได้เอารถมา..”
“ค่ะ..ป้าแวะมาส่งแล้วไปทำธุระต่อ แต่ถ้าคุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปแท็กซี่ก็ได้”
“คุณฟิคไปทางนั้น..แวะไปส่งน้องเมย่าสักครู่คงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”
“เอ่อ..ก็ได้ครับพี่บิ๊ก” รินณภัทรไม่รู้จะหาข้ออ้างจะปฏิเสธยังไง จึงจำใจต้องตอบรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ขอบคุณนะคะ..พี่บิ๊กพี่ปิ่น เมย่าขอตัวกลับเลยนะคะ” มัสยากล่าวลาทั้งสองก่อนจะรีบเดินตามชายหนุ่มที่จ้ำอ้าวเดินไปโดยที่ไม่รอเธอเลย ปิ่นกมลที่นั่งเงียบนั่งลุ้นว่าเจ้านายหนุ่มจะโกรธจะโวยวายมั้ยก็โล่งใจถอนหายใจออกมายาวๆ
“คุณฟิคคะ..เดี๋ยวค่ะ!” มัสยากึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังรินณภัทรออกมา..
“ว่าไง..” ชายหนุ่มถามออกมาทั้งที่ยังคงก้าวเท้าไม่หยุด
“คุณกลัวอะไรฉันหรือเปล่าคะ..”
“กลัวอะไร? ทำไมผมจะต้องกลัวคุณด้วย..” รินณภัทรหยุดชะงักเท้าหันมามองหน้านางแบบสาว
“ก็ท่าทางของคุณบ่งบอกว่าคุณกำลังกลัว..ไม่กล้าอยู่ใกล้ฉัน กลัวจะตกหลุมรักฉันเหรอคะ” นางแบบสาวยื่นหน้าเข้าไปใกล้ชายหนุ่มอย่างท้าทาย
“หึๆ คุณนี่เป็นผู้หญิงที่หลงตัวเองมากเกินไปนะ..”
“ถ้าคุณไม่ได้กลัวอย่างที่ฉันพูด คุณก็เต็มใจไปส่งฉันใช่มั้ย..”
“ได้! ผมจะไปส่งคุณ และที่สำคัญผมไม่ได้กลัวอย่างที่คุณกล่าวหา!”
“ไม่กลัวก็ดีค่ะ งั้นเราก็ไปกันได้แล้วสิคะ..”
“เชิญ!” รินณภัทรเดินนำมัสยามาที่รถเบนซ์คันหรู
“คุณจะไปไหน..”
“ไปร้านเลิฟเบเกอรี่ค่ะ”
“บอกทางผมมาก็แล้วกัน..” รินณภัทรขับรถมาเรื่อยๆ มัสยานั่งมองเขาตลอดทางจนถึงที่หมาย อีกฝ่ายก็เอาแต่นั่งหน้าเรียบเฉยนิ่งขรึม
“เข้าไปทานขนมด้วยกันก่อนมั้ยคะ..”
“ไม่! ผมต้องรีบไปทำธุระต่อ”
“ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าเสียเวลาขับรถมาส่ง” มัสยาเอ่ยขอบคุณแล้วหันไปจะเปิดประตูรถ ชายหนุ่มนั่งนิ่งไม่ทันคาดคิดว่านางแบบสาวจะกล้าทำอะไรพิเรนทร์ มัสยาก็หันหน้ากลับมาจุ๊บแก้มของเขาอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณค่ะ คุณฟิคสุดหล่อ..”
“นี่คุณ!..” แล้วเธอก็เปิดประตูลงจากรถไปทันที รินณภัทรตะลึงตกใจยกมือขึ้นจับแก้มตัวเองพร้อมกับหันไปมองนางแบบสาว เธอก็หันมายกมือขึ้นแตะริมฝีปากสีหวานแล้วส่งจุ๊บให้เขาอีกครั้งก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในร้านเบเกอรี่
“ยัยนางร้ายตัวแสบ!” รินณภัทรพึมพำก่อนจะขับรถออกมา เขาก็บอกตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไรกับการถูกนางแบบสาวขโมยหอมแก้ม..
มัสยานัดกับพิชญกานต์นางร้ายเพื่อนสนิทของเธอไว้ก่อนหน้านี้ มัสยาเดินไปยังโต๊ะที่เพื่อนรักนั่งรออยู่ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาว
“ยัยแพง..แกรอฉันนานมั้ย..”
“นานก็รอได้ย่ะ! แต่ทำไมวันนี้แกมาช้าผิดปกติ ปกติแกจะตรงต่อเวลาเป๊ะๆไม่เคยเลทไม่เคยมาสาย”
“ฉันไปทำธุระมา และไม่ได้เอารถมาด้วย”
“ไม่ขับรถมา แล้วแกมายังไง..”
“นายฟิคมาส่ง..”
“นายฟิค! นี่เป็นใครยังไง แฟนหรือว่าเป็นผู้ชายหนึ่งในสต๊อกของแก..”
“ยัยแพง! ยัยเพื่อนบ้า! แกก็พูดอะไรน่าเกลียด แกก็รู้ดีว่าฉันไม่เคยรู้สึกหรือมีอะไรกับผู้ชายเหล่านั้นสักคน”
“แล้วคนล่าสุดนี่ล่ะ..มีอะไรพิเศษหรือเปล่า”
“ยิ่งนายฟิคนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เขาเกลียดฉันยิ่งกว่าอะไร”
“เกลียด! นางแบบสาวสวยเซ็กซี่อย่างแกมีผู้ชายเกลียดแกด้วยเหรอยะ ฉันหูฝาดไปใช่มั้ย..”
“แกได้ยินไม่ผิดหรอก ผู้ชายคนนี้เกลียดฉัน! แต่สักวันฉันจะทำให้เขาหลงรักฉันให้ได้ แล้วฉันก็จะหักอกเขา แกคอยดูนะ!” มัสยาเอ่ยออกมาอย่างมุ่งมั่น
“นี่ท่าทางแกจะเอาจริงเอาจังขนาดนี้เชียวหรือ..”
“ใช่! ฉันคิดจริงแล้วก็จะทำจริง!”
“ฉันไม่รู้เหตุผลอะไรที่แกจะทำนะ แต่ยังไงแกก็ระวังตัวระวังใจไว้บ้าง เดี๋ยวจะตกหลุมพรางของตัวเอง ระวังจะพันหลักจนถอนตัวไม่ได้ซะเองละกัน” พิชญกานต์เอ่ยเตือนเพื่อนรักด้วยความหวังดีและเป็นห่วง
“ไม่มีทางย่ะ! คนอย่างเมย่าคิดจะทำอะไรแล้วไม่เคยแพ้ไม่เคยพลาด!”
“ย่ะ! แม่เมย่าคนเก่ง มั่นใจตัวเองซะเหลือเกินนะ..กินขนมกันดีกว่า” สองสาวนั่งเม้าท์และทานขนมกันจนอิ่มก่อนจะแยกย้ายกลับคอนโดของตัวเอง
มัสยากลับมาถึงคอนโดก็คิดหาวิธีที่จะเข้าไปใกล้ชิดชายหนุ่มหน้านิ่งนั้นมากขึ้น เธอจึงโทรศัพท์ไปหานริศหรือเสี่ยน็อตสปอนเซอร์โฆษณารายใหญ่ของนิตยสาร The Men Plus Magazine
“สวัสดีค่ะเสี่ย..”
“คิดถึงสิคะ แต่ตอนนี้เมย่าว่างๆเซ็งๆ เสี่ยมีงานอะไรให้เมย่าทำบ้างคะ..”
“งานอะไรก็ได้ค่ะ เมย่าอยากร่วมงานกับทางนิตยสารอีก”
“ค่ะ..เมย่าจะรอ แต่มีงานถ่ายแบบนิตยสารเมื่อไหร่ เสี่ยอย่าลืมพิจารณาให้เมย่าได้ร่วมงานถ่ายแบบอีกนะคะ..ค่ะ ขอบคุณค่ะเสี่ย”
มัสยาวางสายจากนริศ เธอนึกถึงทั้งคำพูดและเสียงของรินณภัทรที่พูดดูถูกเหยียดหยามจนเธอจดจำได้ฝังใจ แถมเขายังมองเธอราวกับเธอเป็นอะไรที่น่ารังเกียจน่าขยะแขยงอีก นางแบบสาวฉุกคิดที่จะทำบางอย่างแก้เผ็ดเอาคืนนายขี้เก๊กที่อคติกับอาชีพของเธอให้เขาจดจำไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต!
“ยัยแพง..” มัสยากดโทรศัพท์ติดต่อไปยังเพื่อนรักที่เพิ่งแยกย้ายกันเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา..
“มีอะไรอีกยัยมายน์!”
“แกมีหนังรักแบบหนังเอวีบางหรือเปล่า..”
“บ้าเหรอแก ฉันไม่มี! แกจะเอาหนังเอวีไปทำอะไร?”
“ฉันจะเอามาศึกษา..”
“ศึกษาไปทำไม..แกกำลังคิดจะทำอะไร!”
“เขาเกลียดเขากล่าวหาฉันไว้ยังไง..ฉันก็จะทำอย่างนั้น! แกคอยดูนะฉันจะหลอกฟันเขาให้ได้แล้วก็ทิ้ง!”
“ยัยมายน์! แกจะบ้าหรือไง แกเป็นผู้หญิงนะ จะไปฟันผู้ชายได้ยังไง..มีแต่เสียกับเสีย!”
“ฉันไม่แคร์ สมัยนี้จะผู้หญิงผู้ชายก็เท่าเทียมกัน แต่ฉันจะต้องเอาชนะผู้ชายอย่างเขาให้ได้!”
“แกจะไปฟันเขาหรือว่าให้เขาฟันแก!”
“หึ! ท่าทางเขาเป็นผู้ชายสำอางหยิมๆ เรียบร้อยแบบนั้น..เรื่องเซ็กส์ไม่รู้ว่าจะทำเป็นหรือเปล่า ฉันสิที่จะเป็นฝ่ายไปฟันเขา!”
“แกไม่มีวิธีเอาชนะด้วยวิธีอื่นแล้วหรือไง”
“วิธีนี้แหละ..ที่จะจัดการคนอย่างเขาให้แสบสันต์ที่สุด!”
“ฉันขอร้องล่ะ แกอย่าทำอะไรพิเรนทร์ๆแบบนั้นนะมันอันตราย! อย่าลืมว่าแกเป็นผู้หญิง ผู้ชายเขาไม่เป็นไรแต่แกจะเสียหาย”
“อือๆ ฉันจะลองเอาชนะเขาด้วยการจีบเขาดูก่อนก็แล้วกันว่าจะจีบติดหรือเปล่า ถ้าเขาหลงกลมาตกหลุมรักฉันก็ค่อยว่ากันอีกที”
“เมย่า! หนูคิดจะทำอะไร..”
“ป้าแองจี้!” มัสยาหันไปมองผู้มาเยือนด้วยความตกใจเล็กน้อย ก่อนจะกระซิบบอกเพื่อนรักเสียงแผ่วเบา
“แค่นี้ก่อนนะยัยแพง! ไม่รู้ว่าป้าแองจี้ได้ยินที่เราคุยกันมากแค่ไหน..” มัสยาวางสายจากพิชญกานต์แล้วหันไปยิ้มให้แองเจล่าที่ยืนจ้องรอคำอธิบายจากเธออยู่
“ไหนบอกป้ามาซิมายน์..ว่าหนูกำลังคิดจะทำอะไร!”
“มีผู้ชายคนนึงมาดูหมิ่นเหยียดหยามมายน์ มายน์ก็แค่จะจีบเขา จะทำให้เขาหลงรัก..แล้วก็หักอกเอาคืนเขาแค่นั้นค่ะ”
“อะไรนะ! ป้าหัวใจจะวาย! เด็กดื้อรั้น! ชอบเอาชนะเหมือนนายมาร์คแด็ดดี๊ของหนูไม่มีผิด!”
“มายน์ไม่ได้ดื้อ มายน์ไม่ผิด! เขามาดูถูกศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงอย่างเราก่อนนะคะป้า”
“แด็ดดี๊กับหม่ามี้ของหนูรู้เรื่องนี้หรือเปล่า!”
“ป้าไม่พูดไม่บอก..แด็ดดี๊กับมัมก็ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ”
“อย่าให้แด็ดดี๊หนูรู้เรื่องแบบนี้นะ..บ้านแตกแน่!” แองเจล่ารู้จักนิสัยของหลานสาวของเธอดี ถ้ามุ่งมั่นจะทำอะไรอยากได้อะไรก็ต้องทำให้ได้ให้สำเร็จ ห้ามยังไงมัสยาก็ไม่ฟัง ยิ่งห้ามก็เหมือนจะยิ่งยุ ดื้อหัวรั้นเหมือนกับมาร์คัสไม่มีผิด! เธอคงต้องปล่อยเลยตามเลย ให้หลานสาวได้เรียนรู้ได้รับบทเรียนจากการกระทำของตัวเอง แองเจล่าบังเอิญเข้ามาได้ยินแค่ช่วงท้าย เธอรับรู้และเข้าใจว่าหลานสาวคิดจะทำเพียงแค่ไปจีบผู้ชายให้หลงรักแล้วหักอก แต่เธอไม่คิดว่าหลานสาวจะมีแผนการลึกล้ำที่จะทำยิ่งไปกว่านั้น..