งานเลี้ยงใกล้จะเลิกอยู่แล้ว แต่เขากลับไม่เห็นมิรินดาเดินกลับเข้ามาในงานอีกเลย หลังจากที่หล่อนเดินหายออกไปตอนที่เผชิญหน้นากับแกมแพร
แม้จะพยายามทำเป็นไม่สนใจ แต่ลึกๆ แล้วเขาเป็นห่วงหญิงสาวไม่น้อยเลยทีเดียว
อินทัชเดินเข้าไปกล่าวลาเจ้าของงาน จากนั้นก็รีบร้อนออกไปที่รถ เพราะคิดว่ามิรินดาจะรออยู่ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของหล่อน
เพลิงกำลังผลาญใจของเขาอยู่จนร้อนรุ่มเดือดพล่าน ความเป็นห่วงในตัวของมิรินดาทำให้เขานั่งไม่ติด
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาหล่อน แต่ก็ไม่มีคนรับสาย เขาพยายามโทรหลายๆ ครั้ง เป็นสิบครั้งก็เหมือนเดิม
ไม่มีคนรับสาย...
ชายหนุ่มยิ่งเป็นห่วงหญิงสาวจับใจ และก็รู้สึกเกลียดตัวเองที่ตัดสินใจนัดแนะให้แกมแพรมาแสดงตัวว่าเป็นแฟนของเขาในงานเลี้ยงคืนนี้
เขาใจร้ายเกินไป...
แต่เขาต้องการให้มิรินดายอมเซ็นใบหย่าให้เร็วที่สุด เพราะอติพัฒน์กำลังจะกลับมา
อติพัฒน์...
หลงรักมิรินดามาตลอด และเขาก็เลือกที่จะเสียสละให้กับน้องชาย
อินทัชสลัดศีรษะหลายครั้งเพื่อเรียกสติให้กับตัวเอง ก่อนจะเดินไปสอบถามพนักงานของโรงแรมที่เดินผ่านมาพอดี
“ไม่เห็นเลยครับ”
นี่คือคำตอบที่เขาได้รับจากพนักงานของโรงแรมหลายคนที่เข้าไปถาม
ชายหนุ่มยืนเคว้งอยู่สักพักก็ตัดสินใจเดินออกไปยังหน้าโรงแรม และเอ่ยถามกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“เห็นเดินออกไปนานแล้วครับ”
นี่คือคำตอบ หลังจากที่เขาเอารูปภาพของ
มิรินดาในโทรศัพท์มือถือให้กับคู่สนทนาดู
“เธอเดินไปทางไหนครับ” เขาละล่ำละลักถามด้วยความร้อนใจ
“ทางนู้นครับ”
“ไม่ใช่ ทางนี้ต่างหาก”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนบอกเส้นทางไม่ตรงกัน และเถียงกัน
อินทัชไม่มีเวลาอยู่ฟังก็กล่าวขอบคุณ และตัดสินใจเดินหามิรินดา
เขาเดินไปทางซ้ายมือจนสุดทาง ก็ไม่พบมิรินดา จึงตัดสินใจเดินไปอีกทางหนึ่งในทิศทางตรงกันข้าม ซึ่งฝั่งนี้จะเป็นร้านอาหาร และบาร์เสียส่วนใหญ่
อินทัชมั่นใจว่ามิรินดาไม่น่าจะมาทางนี้ แต่พอเดินไปได้สักระยะ สายตาของเขาที่มองเข้าไปภายในร้านเหล้าก็พบร่างที่แสนคุ้นเคย
เขายืนตัวแข็งทื่อ ขยี้ตาอยู่หลายครั้ง เพราะไม่อยากเชื่อ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม แถมในมือก็ยังถือแก้วเหล้าอยู่อีกด้วย
“มิริน...”
อินทัชพุ่งตัวเข้าไปภายในร้านเหล้าตรงหน้า และไปหยุดที่โต๊ะของมิรินดา เจ้าหล่อนนั่งคนเดียว แต่แก้วเหล้าเปล่าบนโต๊ะเหมือนนั่งอยู่กันหลายคน
เขาแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่า มิรินดาจะหนีมาดื่มเหล้าแบบนี้
“กลับบ้านกันครับมิริน”
เขาต้องพูดประโยคเดิมซ้ำถึงสามครั้ง กว่า
มิรินดาจะเงยหน้าขึ้นมามอง ซึ่งเขาก็พบว่าสองแก้มของหล่อนแดงจัด ดวงตากลมโตปรือหวานฉ่ำ กลีบปากอิ่มเผยอยิ้มให้กับเขา
“พี่... หนึ่ง... นั่นเอง” เสียงของหล่อนบอกให้รู้ว่าเมามากขนาดไหน
“กลับบ้านครับ”
“ม่าย... ค่า...”
แล้วหล่อนก็จะยกแก้วเหล้าที่มีเหล้าเหลืออยู่ครึ่งแก้วขึ้นดื่มอีก อินทัชจึงรีบแย่งไปถือเอาไว้ทันที
“ไม่ให้ดื่มแล้วครับ มิรินเมามากแล้ว”
“อาววว คืนมานะพี่หนึ่ง...”
หล่อนพยายามแย่งแก้วเหล้าคืน แต่เขาไม่ยอมให้ พร้อมกับยกขึ้นเทหายเข้าไปในลำคอแกร่งของตัวเองแทน
มิรินดาจ้องมองเขาตาขุ่นเขียวไม่พอใจเอามากๆ ซึ่งในยามที่หล่อนมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน หล่อนจะไม่มองเขาแบบนี้เลย
“ดื่มเหล้า... กับมิรินหน่อยสิคะพี่หนึ่ง”
หล่อนพูดไปหัวเราะไปในแบบฉบับของคนเมามาย
“มิรินเมามากแล้ว กลับบ้านเถอะ”
“ม่ายค่ะ...” คนเมาส่ายหน้าจนเส้นผมสีดำขลับยุ่งพันกัน
“แต่พี่ต้องการกลับบ้าน พรุ่งนี้พี่มีประชุม”
“งั้น... พี่หนึ่งก็กลับไปสิคะ มิรินดื่มคนเดียวได้”
“มิริน!”
เขาไม่พอใจ แต่คนเมาไม่รับรู้ใดๆ
“กลับไปเลยค่ะ มิรินจะดื่มต่อ”
ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ มองจ้องแม่คนเมาแก้มแดงด้วยความไม่พอใจ เขาหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้
มิรินดาอมยิ้ม มองหน้าอินทัช ก่อนจะพูดขึ้นอย่างไม่มีสติ
“ถ้าพี่หนึ่งยอมดื่มกับมิริน...”
มือเล็กขาวสะอาดยื่นมาสัมผัสกับหลังมือของเขาที่วางไว้บนโต๊ะ
“มิรินอาจจะยอมเซ็นใบหย่าให้ก็ได้นะคะ”
สิ่งที่มิรินดาพูดนั้นไม่ได้ล่อตาล่อใจอะไรอินทัชเลย เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการก็คือ ต้องพามิรินดากลับบ้านให้เร็วที่สุดต่างหาก
“ก็ได้ แต่แค่แก้วเดียวนะ”
หญิงสาวยิ้มหวาน และกวักมือเรียกพนักงานให้มาหาที่โต๊ะ
เมื่อพนักงานมาหา หล่อนก็สั่งเหล้าอย่างสนิทคุ้นเคย เพราะนั่งดื่มที่ร้านนี้มาหลายชั่วโมงแล้วนั่นเอง
“แบบ... เดิม... สองแก้ว... ค่ะ”
“รอสักครู่นะครับคุณลูกค้า”
พนักงานถอยห่างออกไปเพื่อเตรียมออเดอร์ ในขณะที่มิรินดายังคงนั่งคอพับคออ่อนเพราะเมามายอยู่กับเขา พร้อมกับตัดพ้อโวยวายฟูมฟาย
“พี่หนึ่ง... ใจร้าย...”
“มิรินเธอเมามากแล้วนะ”
“ม่ายยยย มาวว มิรินไม่ม่าววว... ค่ะ...”
จังหวะนั้นพนักงานหนุ่มก็นำเหล้ามาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะพอดี
หญิงสาวรีบคว้าแก้วเหล้าไปถือเอาไว้ และยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดไปครึ่งแล้ว
“มิริน... ค่อยๆ ดื่มครับ”
หล่อนสำลักแค่กๆ สองสามครั้งก็ดื่มจนหมดแก้วต่อหน้าต่อตาของอินทัช ในขณะที่เขายังคงถือแก้วเหล้าไม่ยอมดื่ม
มิรินดาเห็นอินทัชไม่ดื่มก็จะแย่งแก้วเหล้ามาดื่มเสียเอง แต่เขาก็ยกขึ้นดื่มเสียก่อน
หากเขาไม่ดื่ม มิรินดาคงจะต้องดื่มแก้วของเขาแน่นอน
“น้อง ขอเหล้าอีก แบบเดิมค่ะ” มิรินดาตะโกนสั่งพนักงาน
“มิริน... เราต้องกลับบ้านกันแล้ว”
“ขออีกครึ่งชั่วโมงค่ะ พี่หนึ่ง...”
อินทัชไม่มีทางเลือก เพราะตอนนี้มิรินดาเมามากจนไม่ยอมเชื่อฟังเขาแบบที่เคยเป็น
และตลอดระยะเวลาครึ่งชั่วโมงต่อจากนั้น เขาก็ต้องดื่มเหล้าไปกับหล่อนด้วย เพราะถ้าไม่ดื่ม หญิงสาวก็จะขโมยแก้วของเขาไปดื่มด้วย
ดื่มไปเรื่อยๆ หลายแก้ว เขาที่คอไม่แข็งนักเพราะไม่ใช่สิงห์นักดื่มก็เริ่มกรึ่มๆ เกือบจะเมามายเช่นกัน