เที่ยงคืนกว่า... เขากับมิรินดาจึงกลับมาถึงบ้านพัก
เขาอุ้มร่างเมามายของมิรินดาเข้ามาภายในบ้าน จนป้าอ้อมแม่บ้านที่ยังคงรออยู่ต้องรีบเข้ามาสอบถามด้วยความเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะคุณหนึ่ง คุณมิรินเป็นอะไรไปคะ”
ป้าอ้อมเอ่ยถาม แต่ก็ไม่ต้องรอคำตอบ เพราะกลิ่นเหล้าที่โชยฟุ้งออกมา ทำให้หญิงวัยกลางคนเข้าใจเป็นอย่างดี
“ดื่มกันมาเหรอคะ”
“ครับ”
อินทัชเดินไม่ตรงทางนัก เพราะตัวเองก็ดื่มไปพอสมควร เขามุ่งหน้าตรงไปยังบันไดบ้าน โดยมีป้าอ้อมเดินตามหลังมาติดๆ
“ให้ป้าขึ้นไปช่วยไหมคะ”
อินทัชเห็นว่าดึกมากแล้ว จึงไม่อยากรบกวนแม่บ้าน เลยปฏิเสธ
“ไม่เป็นไรครับป้าอ้อม เดี๋ยวผมจัดการเอง ป้าอ้อมไปนอนเถอะครับ นี่ก็ดึกมากแล้ว”
“เอาอย่างนั้นเหรอคะ”
“ครับ”
อินทัชตอบป้าอ้อม และก็พาร่างของมิรินดาที่เมาไม่รู้สติขึ้นบันไดไปจนถึงห้องนอนของตัวเองได้สำเร็จ
เขาตั้งใจจะวางร่างอรชรของมิรินดาลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน แต่เพราะแอลกอฮอล์ที่มีมากในกระแสเลือด ทำให้เสียหลักล้มลงไปทับร่างเล็กของภรรยาในนามเข้าให้
กลิ่นหอมกรุ่นจากเรือนกายของมิรินดา ทำให้เลือดหนุ่มที่ร้อนรุ่มเพราะฤทธิ์เดชของแอลกอฮอล์ยิ่งพลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น
ใบหน้าขาวเนียนของมิรินดาช่างงดงามเหลือเกิน
อินทัชฉวยโอกาสกวาดตามองใบหน้าของหญิงสาวด้วยสายตาที่ซ่อนความรู้สึกแท้จริงไม่ได้อีกต่อไป
“เจ้าหญิงนิทราจะสวยได้เท่ากับเธอตอนนี้ไหมนะ มิริน...”
เขาพึมพำแผ่วเบา และก็พยายามกระชากตัวเองให้ห่างออกมา
แต่เขายังทำไม่สำเร็จ...
ปากร้อนจัดของเขาแนบลงบนหน้าผากขาวสะอาดของหล่อน
แม้จูบนั้นจะแผ่วเบา แต่มันมาจากส่วนลึกของหัวใจ
นิ้วแข็งแรงไล้พวงแก้มนวลสีแดงระเรื่อด้วยความอ่อนโยน และเลื่อนไปไล้แผ่วเบาที่กลีบปากเต็มตึง
บางอย่างในใจที่ตอนนี้มันเอ่อล้นออกมาจากแทบรับมือไม่ไหว
ใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ โน้มต่ำลงไปหาจน ปลายจมูกชนกัน อินทัชเอียงหน้าเพียงเล็กน้อยปากของเขาก็ได้สัมผัสกับปากนุ่มนิ่มของมิรินดา
ดวงตาคมกริบค่อยๆ หลับลง เขาเริ่มเคลื่อนไหวริมฝีปาก บดเคล้าแผ่วเบา นุ่มนวล แต่แล้วก็ต้องรีบผงะออกห่าง เมื่อความจริงเอาชนะทุกอย่างได้
“นายไม่ควรทำแบบนี้ไอ้หนึ่ง”
เขาพึมพำเตือนตัวเอง และกำลังจะถอยห่างไปจากเตียง แต่ดวงตากลมโตของมิรินดาก็ลืมขึ้นเสียก่อน
ดวงตาที่สบประสานกันตอนนี้ มันทำให้เขายิ่งหวั่นไหวกว่าตอนที่หล่อนนอนหลับใหลเสียอีก
“พี่... กำลังจะไปเอาผ้ามาเช็ดหน้าให้เธอ...”
เขาหมุนตัวหันหลังให้กับมิรินดา เพราะไม่ต้องการให้หล่อนสังเกตเห็นความผิดปกติที่เป้ากางเกงของตัวเอง
มันกำลังผงาด...
มิรินดาค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง สายตาจ้องมองแผ่นหลังกว้าง
“เมื่อกี้... พี่หนึ่ง...”
อินทัชรู้ดีว่าหญิงสาวกำลังจะพูดอะไร เขาจึงหันหน้ากลับมาหา
“พี่ก็แค่... เผลอไผลน่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก”
แม้หล่อนจะยังเมามาย แต่ก็ยังเจ็บเป็นเหมือนเดิม
หญิงสาวยกมือขึ้นจับปากที่อินทัชทิ้งรอยจูบเอาไว้ และลูบไล้ไปมา
“นอนกับมิริน แล้วมิรินจะยอมเซ็นใบหย่าให้กับพี่หนึ่งทันทีค่ะ”
อินทัชตัวแข็งทื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“เธอเมามากแล้วมิริน นอนซะเถอะ”
“มิรินไม่ได้เมาจนไม่รู้เรื่องนะคะ”
หญิงสาวแผดเสียงดังลั่น มันคือเสียงแห่งความเจ็บปวด
“มิรินอยากมีเซ็กซ์กับพี่หนึ่งค่ะ”
“หยุดพูดบ้าๆ ได้แล้วมิริน!”
นี่หล่อนรู้ไหมว่าตอนนี้สติสัมปชัญญะของเขามันไม่เต็มร้อย แถมไอ้การควบคุมตัวเองขั้นยอดเยี่ยมของเขาก็ถูกน้ำเมาตัดกำลังไปมากมาย
“มิรินสัญญาว่าจะหย่าให้พี่หนึ่ง ถ้าพี่หนึ่งนอนกับมิริน”
กรามแกร่งของอินทัชขบกันแน่นจนเนื้อข้างแก้มกระตุกเป็นริ้วรอย
อย่าตบะแตกเด็ดขาดนะไอ้หนึ่ง!
อินทัชย้ำเตือนตัวเองเสียงดุดัน ย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผู้หญิงตรงหน้าเย้ายวนเหลือเกิน
“เธอเป็นผู้หญิง เธอมีแต่เสียกับเสียมิริน จำเอาไว้อย่าพูดแบบนี้กับพี่อีก”
“ถ้าพี่หนึ่งกังวลว่ามิรินจะเสียหาย...” หล่อนฝืนหัวเราะเยาะออกมา
“สบายใจได้เลยค่ะ มิรินไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อะไร ดังนั้นไม่มีอะไรเสียหาย ถ้ามิรินจะนอนกับผู้ชายเพิ่มขึ้นอีกสักคน”
หล่อนเห็นอินทัชมองหล่อนเขม็ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน เหมือนกับว่าเขาไม่อยากเชื่อกับคำโกหกที่หล่อนปั้นหลอกลวงออกไป
“พี่หนึ่งได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ มิริน... ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์...”
“แต่ถึงกระนั้นเราก็ไม่ควรเกินเลยกัน เพราะพี่มีคนที่คบหาอยู่แล้ว” อินทัชรีบหยิบยกแกมแพรขึ้นมาอ้าง
มิรินดาเจ็บไปทั้งหัวใจ แต่ก็ยังคงดึงดันต้องการ
“ก็แค่คืนเดียวเองค่ะ”
มิรินดาไม่รอให้อินทัชได้ลังเลอีก หล่อนพยุงตัวก้าวลงจากเตียง และไปหยุดตรงหน้าของชายหนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทันที
“มิรินแค่อยากมีเซ็กซ์ค่ะ”
หล่อนย้ำออกไปเสียงแผ่วเบา ขณะช้อนตาขึ้นมองสบประสานกับนัยน์ตาสีดำมืดของเขา
“พี่คิดว่าเธอเป็นกุลสตรีมาตลอด” น้ำเสียงของเขาดุดัน
“ไม่ใช่ค่ะ มิรินไม่ใช่กุลสตรี...”
มือเล็กจัดการรูดซิปชุดราตรีที่อยู่ข้างลำตัวของตัวเองออก และปล่อยให้มันไหลลงไปกองที่ข้อเท้า