อินทัชลงมานั่งรอมิรินดาแต่งตัวที่ห้องรับแขก โดยมีมารดาของเขานั่งร่วมอยู่ด้วย
“เมื่อเช้าแม่อ้อมบอกว่าลูกนอนที่โซฟาเหรอ”
สีหน้าของอินทัชยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้แสดงความทุกข์ร้อนอะไรออกมา
“ไม่ได้ยินที่แม่ถามเหรอพ่อหนึ่ง”
ใบหน้าหล่อเหลาของอินทัชเอียงมองไปทางมารดา เขากำลังจะอ้าปากตอบ แต่เสียงหวานเจือเศร้าของมิรินดาก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน
“เอ่อ... ไม่ใช่หรอกค่ะคุณแม่ พี่หนึ่งนอนบนเตียงกับมิรินทั้งคืนเลยค่ะ”
มิรินดาในชุดราตรีสั้นแค่หัวเข่าปรากฏตัวขึ้น และอินทัชก็อดที่จะมองสำรวจหญิงสาวไม่ได้
มิรินดาบอบบางน่าทะนุถนอมไปทั้งเนื้อทั้งตัว ยิ่งหล่อนใส่เสื้อผ้าสีขาว เนื้อตัวของหล่อนก็ยิ่งเล็กน่าทะนุถนอมมากยิ่งขึ้น
เขามองสำรวจหล่อนอย่างลืมตัว ความรู้สึกบางอย่างหลั่งรินออกมา จนแทบจะปรากฏในสายตา แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกตัว และรีบสลัดความรู้สึกที่ไม่ควรเกิดขึ้นออกไปทันที
“วันนี้หนูมิรินสวยจังเลยจ้ะ”
แม่สามีเอ่ยชมอย่างจริงใจ และก็ทำให้มิรินดาอดที่จะขวยเขินไม่ได้
“ชุดสวยน่ะค่ะคุณแม่”
หล่อนตอบเลี่ยงอย่างถ่อมตน ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างแม่สามี
“หมอนที่ป้าอ้อมเห็นที่โซฟา มิรินเอาไปนอนตอนเย็นน่ะค่ะ แล้วก็ลืมเอากลับขึ้นมาบนเตียง”
ผู้เป็นแม่สามีผงกศีรษะขึ้นลง เชื่อคำพูดของลูกสะใภ้สุดที่รักอย่างง่ายดาย
“ได้ยินแบบนี้แม่ก็โล่งใจ นึกว่าพ่อหนึ่งทำอะไรให้หนูมิรินไม่สบายใจอีก”
คนเป็นแม่หันไปมองค้อนลูกชาย แต่อินทัชไม่ได้ใส่ใจอะไร สีหน้าของเขายังคงไร้ความรู้สึกเช่นเดิม
“ผมขอตัวไปงานเลี้ยงก่อนนะครับ” อินทัชเอ่ยตัดบทขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นยืน
มิรินดารู้ทันทีว่าตัวเองไม่มีเวลาสนทนากับแม่สามีแล้ว จึงรีบเอ่ยลา
“มิรินขอตัวก่อนนะคะคุณแม่”
“จ้ะ”
หญิงสูงวัยตอบรับเสียงนุ่มกับลูกสะใภ้ ก่อนจะหันไปกำชับลูกชายตัวเอง
“ขับรถดีๆ ล่ะ แล้วก็ดูแลหนูมิรินให้ดีด้วยนะพ่อหนึ่ง”
“ครับ”
อินทัชตอบสั้นๆ ก่อนจะปลีกตัวเดินนำหน้าออกไปจากห้องรับแขกหรู
มิรินดามองตามเรือนร่างสูงสง่าสุดเฟอร์เฟ็กของอินทัชไปด้วยสายตาเจ็บปวดที่ซ่อนไม่มิด
“งั้นมิรินไปนะคะคุณแม่”
“แม่อยู่ข้างหนูมิรินเสมอนะ”
มิรินดาอึ้งไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดให้กำลังใจจากแม่สามี
เหมือนกับว่าท่านจะรู้สถานการณ์ระหว่างหล่อนกับอินทัช
“เอ่อ... ขอบคุณค่ะคุณแม่”
หล่อนจำต้องก้มหน้าหลบสายตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนของท่าน และปลีกตัวเดินออกมาอีกคน
ระหว่างทางก็เดินสวนกับอนลและสร้อยมาลาที่เพิ่งกลับมาจากนอกบ้าน
“สวัสดีค่ะพี่สอง สวัสดีค่ะคุณสร้อย”
“สวัสดีค่ะคุณมิริน แต่งตัวสวยมากเลยค่ะ” สร้อยมาลามองมิรินดาอย่างชื่นชม
“วันนี้น้องมิรินแต่งตัวสวยมากจริงๆ ครับ” อนลเป็นอีกคนที่เอ่ยชื่นชมหล่อน
“ขอบคุณค่ะที่ชมมิริน” มิรินดากล่าวขอบคุณอย่างอายๆ
“ว่าแต่แต่งตัวเสียสวยแบบนี้ จะไปไหนหรือครับน้องมิริน” อนลถามต่อ
“ไปงานเลี้ยงท่านทูตค่ะพี่สอง”
เมื่อมิรินดาบอกออกมา อนลก็ผงกศีรษะเพราะจำได้แล้ว
“อ๋อ งานเลี้ยงท่านทูตที่กระทรวงฯ นั่นเอง พี่ก็นึกว่าคุณพ่อจะไปกับคุณแม่เสียอีก”
“พี่หนึ่งบอกว่าคุณพ่อติดธุระสำคัญกลับมาไม่ทันน่ะค่ะ ท่านก็เลยให้พี่หนึ่งไปแทน”
อนลผงกศีรษะรับทราบ ก่อนจะหันมองไปรอบๆ ตัวเพื่อมองหาพี่ชาย
“แล้วนี่พี่หนึ่งไปไหนเสียล่ะครับ”
“พี่หนึ่งรออยู่ในรถแล้วค่ะ”
เมื่อได้ยินคำตอบของมิรินดา อนลก็อดที่จะบ่นพี่ชายไม่ได้
“พี่หนึ่งนี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย”
“เอ่อ... อย่าว่าพี่หนึ่งเลยค่ะพี่สอง มิรินมาช้าเองค่ะ”
“มิรินก็แบบนี้ทุกครั้งนั่นแหละครับ ออกตัวปกป้องพี่หนึ่งตลอดเวลา แล้วแบบนี้ เมื่อไหร่พี่หนึ่งจะรู้สึกตัวล่ะครับ”
มิรินดาทำได้แค่หน้าเจื่อนๆ และหลบสายตาของอนล
สร้อยมาลาที่กำลังตั้งครรภ์อยู่สะกิดสามี เมื่อเห็นสีหน้าซีดขาวของมิรินดา
“คุณสองคะ เราเข้าบ้านกันเถอะค่ะ คุณมิรินจะได้ไปงานเลี้ยงกับบอส”
อนลผงกศีรษะขึ้นลง และก็วางมือบนบ่าเล็กของมิรินดาเบาๆ
“ขอให้งานเลี้ยงคืนนี้มีแต่ความสุขนะครับ
มิริน”
มันไม่มีทางเป็นแบบคำอวยพรของอนลหรอก
หล่อนทำได้แค่เพียงโต้แย้งภายในหัวใจเท่านั้น
“ขอบคุณพี่สองมากค่ะ งั้นมิรินขอตัวก่อนนะคะ บายค่ะคุณสร้อย”
ร่างอรชรในชุดราตรีสั้นสีขาวก้าวเร็วๆ มุ่งหน้าไปยังรถหรูของอินทัช
ทั้งอนล และสร้อยมาลามองตามไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสาร
“สร้อยสงสารคุณมิรินจังเลยค่ะคุณสอง”
“พี่หนึ่งใจร้ายมากจริงๆ”
“แล้วคุณสองรู้ไหมคะว่าบอสมีเหตุผลอะไรถึงได้เย็นชาใส่คุณมิรินแบบนี้”
“พี่หนึ่งบอกว่าไม่ได้รักมิรินครับ”
ได้ฟังแบบนี้สร้อยมาลาก็ยิ่งเจ็บปวดแทน
มิรินดา
“ภายใต้รอยยิ้มสดใสของคุณมิริน คงจะซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้มากมายเลยนะคะคุณสอง”
“มิรินคงพยายามอดทน เพื่อรอให้พี่หนึ่งรักตอบ”
อนลจับมือนุ่มของภรรยา และรั้งให้เดินเข้าบ้านไปพร้อมกัน
“แต่ความอดทนของผู้หญิงมีขีดจำกัดนะคะ เพราะถ้าสักวันหนึ่งที่ผู้หญิงเรารู้ว่า ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะทำให้ผู้ชายคนนั้นหันมามองและมอบความรักให้ได้ พวกเราก็จะถอดใจ และยอมถอยค่ะ”
อนลถอนใจออกมาแผ่วเบา ในใจก็สงสาร
มิรินดาเหลือเกิน
“ผมหวังว่าพี่หนึ่งกับมิรินจะอยู่ด้วยกัน และรักกันเหมือนกับพวกเรา”
“สร้อย... ก็เอาใจช่วยทั้งบอสและคุณมิรินค่ะ”
แม้สร้อยมาลาจะเอาใจช่วยทั้งสองคนแค่ไหน แต่หล่อนพอจะมองออกว่า สำหรับมิรินดาแล้ว ความอดทนกำลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า