“พลาดเรื่องนี้ได้ไงคะคุณลิณณ์ น่าเสียดายแย่” พีรยาทำหน้าเสียดายแทนเธอเป็นที่สุด
“ฉากเด็ดประเด็นดังอะไรเหรอคะพี่ยา แล้วทำไมลิณณ์ต้องเสียดายด้วยล่ะคะ” เฌอลิณณ์หันมามองทั้งคู่แบบไม่เข้าใจ ท่าทางระริกระรี้ของพวกเขา มันผิดปกติเกินไปไหม ไหนหัวหน้างานคนจริงจังกับรุ่นพี่ผู้สุขุมของเธอ สองคนนี้คือใครกัน
“พลาดจริง ๆ ด้วยคุณยา”
นายสุเมธดูตื่นเต้นผิดปกติ ประหนึ่งมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
“คืออย่างนี้นะคุณลิณณ์ เอ้าหัวหน้าเล่าค่ะ หัวหน้าอยู่ในเหตุการณ์นี่นา” พีรยาผายมือไปทางศิวกร ทั้งที่อยากเล่าเองใจแทบขาด ติดที่ว่าไม่ได้เห็นกับตาตัวเองนั่นสิ
“ก็งานแต่งเมื่อคืนนี้ไงคุณลิณณ์ รู้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่คู่บ่าวสาวกำลังทำพิธีกันอยู่บนเวทีนั้น จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงชุดดำคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามากลางงาน เท่านั้นแหละเจ้าสาวก็น้ำตาแตก เรียกว่าแตกเลยนะคุณลิณณ์ หันไปพูดอะไรกับเจ้าบ่าวก็ไม่รู้ ก่อนจะกระโดดลงเวทีไปหาผู้หญิงคนนั้น โผเข้ากอดกันแล้วจับมือกันวิ่งหนีออกจากงานแต่งไปเลย เหมือนฉากรักในหนังดี ๆ นี่เอง เพียงแต่ว่าเป็นผู้หญิงกับผู้หญิง ทุกคนงี้ฮือฮากันหนักมาก ต่างคนต่างพูดไม่ออก เจ้าบ่าวถึงกับเดินหนีลงเวทีไปเลย พ่อกับแม่ฝ่ายเจ้าสาวต้องขึ้นไปขอโทษทุกคนในงาน พร้อมยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว นั่นไงอึ้ง อึ้งแน่ ๆ คุณไม่น่าพลาดเลยนะคุณลิณณ์”
ศิวกรเล่าไปก็ขำไปด้วย พากันหัวเราะคิกคักกับพีรยาสองคน ขณะที่เฌอลิณณ์นั้นอึ้งจริง ๆ ทั้งอึ้งทั้งตกใจกับเหตุการณ์ที่เธอพลาดไป มิน่าล่ะ เขาถึงได้เมาหัวราน้ำไม่ต่างไปจากเธอ ที่แท้ก็ถูกเจ้าสาวหักหน้าหนีไปกลางงานแต่งนี่เอง ล่มไม่เป็นท่าเลยสินะ คุณสุดหล่อ
“สวัสดีค่าทุกคน” เด็กใหม่มนรดาเดินเข้ามาในแผนกเป็นคนสุดท้าย ทั้งคู่รีบแจ้นไปเล่าฉากเด็ดประเด็นดังให้ฟังต่อ ทิ้งให้เฌอลิณณ์นั่งเหวออยู่เพียงลำพัง
‘งานมันพังไม่เป็นท่าขนาดนั้นเลยเหรอ มิน่าล่ะ บรรยากาศเมื่อเช้ามันแปลก ๆ’
ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่ใช่คนเลว ที่แอบกินตับเจ้าบ่าวในงานแต่งแล้วน่ะสิ เอ๋ นี่มันเกินความคาดหมายไปเสียแล้ว เธอกับคุณสุดหล่อทำเรื่องนั้นไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม แต่เธอดันบอกให้เขาทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
‘ยัยโง่ลิณณ์ โง่อะไรขนาดนี้ น่าจะเกาะแข้งเกาะขาให้เขารับผิดชอบสิ’
รีบสะบัดศีรษะแรง ๆ ลุกเดินเข้าไปชงกาแฟในห้องครัวของแผนก แล้วกลับออกมานั่งทำงานที่โต๊ะของตัวเอง
“พี่ลิณณ์เป็นอะไรคะ ทำไมทำหน้าเหมือนฟ้าจะถล่มใส่แบบนั้นล่ะ” มนรดารุ่นน้องที่คุยกับเธอรู้เรื่องที่สุดแล้ว ลากเก้าอี้มานั่งคุยด้วยด้านข้าง
“ฟังเรื่องเล่าฉากเด็ดจากพี่ยากับหัวหน้าจบแล้วเหรอมน”
“ค่ะ มนตกใจมากเลยนะคะ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริง น่าจะคุยกันดี ๆ ไม่ใช่มาพังงานแต่งกันแบบนี้ สงสารผอ.ฝ่ายการตลาดเหมือนกันนะคะ” มนรดาพูดแล้วก็หวีผมหน้าม้าของตัวเองไปด้วย เฌอลิณณ์ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมผมหน้าม้า ต้องเรียบกริบ ห้ามกระดิกแบบนั้นด้วย
“มนรู้อะไรไหม ว่าคุณสุดหล่อน่ะ...” คำพูดค้างเอาไว้ด้วยความเงียบที่ท้ายประโยค เหมือนคนพูดกำลังคิดว่าควรเอ่ยมันออกไปดีไหม
“หืม คุณสุดหล่อเหรอคะ มีอะไร ๆ เล่ามาเลยค่ะพี่ลิณณ์” มนรดาเพิ่งเข้ามาใหม่ได้ไม่กี่เดือน แต่เธอรู้เรื่องคุณสุดหล่อเพราะเห็นรุ่นพี่สุดสวย ชอบไปซื้อกาแฟตอนเที่ยงเป็นประจำ ทั้งที่ในห้องครัวของแผนกก็มีเครื่องชงกาแฟอยู่ และชอบนั่งอยู่ในร้านเหมือนรอคอยใครบางคน เธอสังเกตมานานหลายครั้งจนแน่ใจ ท้ายที่สุดถึงได้รู้ว่าเฌอลิณณ์แอบชอบคุณสุดหล่อมาตลอด แต่ได้แค่แอบมองดูอยู่ห่าง ๆ
“คุณสุดหล่อเขาคือเจ้าบ่าวของงานนี้แหละมน เป็นเจ้าบ่าวของพี่ดาวญาติของพี่เองแหละ”
“อ๋อเจ้าบ่าวนี่เอง ฮ้า ! เจ้าบ่าวของญาติพี่ลิณณ์เองเหรอคะ แปลว่าเรื่องที่หัวหน้ากับพี่ยาเล่าเมื่อกี้นี้ คือเขาเป็น โอ๊ย ! นี่มันจะบังเอิญไปไหมคะ” มนรดารีบยกมือปิดปากตัวเองเอาไว้แน่น หลังรู้ว่าทำเสียงดังเกินเหตุ ไม่วายทำตาถลนใส่เฌอลิณณ์
“ชู่วส์ เบา ๆ หน่อยสิยัยมนจะทำเสียงดังไปทำไม” เฌอลิณณ์ยกนิ้วขึ้นแตะปากตัวเอง ดีนะที่พีรยาเข้าไปคุยเรื่องงานที่ห้องของหัวหน้า
“ก็มนตกใจนี่คะ เจ้าบ่าวของงานที่ว่า เอ่อ ที่ถูกเจ้าสาวทิ้งไปกับผู้หญิงด้วยกันนั่นเหรอคะ” มนรดาย้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ
“อืม คนนั้นแหละ” เฌอลิณณ์คงเจาะลึกไม่ได้ มนรดารู้มากกว่านี้ไม่ได้จริง ๆ
“ถ้าคุณสุดหล่อคือเจ้าบ่าว ที่เป็นผอ.ฝ่ายการตลาดของเรา แย่แล้วนี่มัน ฝันไกลเกินเอื้อมแล้วมั้งคะพี่ลิณณ์ เขาเป็นระดับผู้บริหารเลยนะคะ พี่ลิณณ์แค่พนักงานตัวน้อยตัวนิดเอง” มนรดาพูดไปตามที่คิด แต่ต้องหุบยิ้มลงเมื่อเจอสายตาเพชฌฆาตของรุ่นพี่
“แต่ถ้าพยายามอีกหน่อยฝันก็อาจเป็นจริงได้เหมือนกันค่ะ” ตามด้วยยิ้มแหะ ๆ เป็นการแก้ตัว เฌอลิณณ์หรี่ตามองแบบไม่เชื่อใจเลยสักนิด
“อีกอย่างพี่ลิณณ์เป็นญาติกับเจ้าสาวนี่คะ มีความเป็นไปได้ค่ะ แต่เอ๊ะ เขาจะไม่เกลียดฝั่งเจ้าสาวเอาเหรอคะ ไปทำเขาเสียหน้าขนาดนั้น ไม่ใช่จะพลอยมาเกลียดพี่ลิณณ์ด้วยเหรอคะ” พูดไปพูดมาก็มีแต่ปัญหาวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น
“กลับไปทำงานที่โต๊ะได้แล้วยัยเด็กใหม่” ยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ เฌอลิณณ์เลยตัดบทไล่เอาดื้อ ๆ
“ค่ากลับก็กลับ” มนรดารีบเลื่อนเก้าอี้กลับเข้ามุมโต๊ะทำงานของตัวเองไป
จริงอย่างที่มนรดาพูดจริง ๆ ถ้ากลทีป์รู้ว่าเธอเป็นญาติกับนภาวดี คนที่หักหน้าเขากลางงานแต่ง มีแต่จะเกลียดเธอเข้าไส้ตามญาติไปด้วย ทำไมเธอถึงได้ดวงซวยขนาดนี้นะ อยากจับนภาวดีมาเขย่า ๆ แล้วถามว่าทำไมทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้น ทำไมไม่กล้าก่อนที่จะตกลงแต่งงานล่ะ แต่ก็นั่นแหละไม่ได้สนิทกันพอจะทำแบบนั้นได้
ตึ๊ง ๆ ๆ ข้อความไลน์กลุ่มครอบครัวของเฌอลิณณ์นั้น มีแต่คำถามจากบิดามารดาเต็มไปหมด ยังไม่ทันจะได้ให้คำตอบกลับไป บิดาของเธอก็สามารถสรุปเรื่องราว จากคำบอกเล่าของบรรดาญาติ ๆ ที่ไปร่วมงานได้เอง
เรื่องนภาวดีมีคนรักอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว มิหนำซ้ำยังเป็นผู้หญิงด้วยกันอีก แต่ทางคุณอาวรภากับสามียอมรับไม่ได้ เลยรีบหาเจ้าบ่าวให้ลูกสาว เผื่อจะทำให้นภาวดีเปลี่ยนความคิดมารักผู้ชาย สุดท้ายเลยเกิดเรื่องดราม่าขึ้นในงานแต่ง อับอายขายหน้ากันไปหมด ต้องแบกหน้าพากันไปขอโทษถึงที่บ้าน พร้อมหอบสินสอดทองหมั้นไปคืนเขาอีก กระนั้นก็ยังติดต่อนภาวดีไม่ได้อีกด้วย เรียกว่าอยู่กันไม่เป็นสุขเลยทั้งบ้าน
พวกคุณอาทำแบบนี้กับลูกสาวตัวเองได้ยังไง ถ้ายอมรับในตัวตนของพี่ดาวตั้งแต่แรก เรื่องมันคงไม่บานปลายขนาดนี้ พ่อกับแม่อย่ามาบังคับลิณณ์ให้แต่งงานกับใครแบบนี้นะคะ ไม่งั้นลิณณ์จะ...
หญิงสาวแอบส่งข้อความขู่บิดามารดาไป ให้คิดเอาเองว่าเธอจะทำอะไรได้บ้าง แต่ข้อความที่มารดาของเธอไลน์ตอบกลับมานั้น ทำให้คนเป็นลูกสะดุ้งเล็กน้อย
จ้าคุณลูกบังเกิดเกล้าแม่กับพ่อไม่กล้าแตะต้องแล้วจ้า ระวังอย่าขึ้นคานก็แล้วกัน
แม๊ !!!
ครึ่งวันแรกเฌอลิณณ์ทำงานแทบไม่รู้เรื่อง เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ มันคอยแต่จะผุดขึ้นมาทีละนิด แต่ละฉากนั้นแสนวาบหวิว และเร่าร้อนกันแบบสุดฤทธิ์สุดเหวี่ยง จนเธอหายใจแทบไม่ออก ไม่คิดเลยว่าจะทำอะไรแบบนั้นลงไปได้ อยากกรีดร้องออกมาดัง ๆ ให้สาสมกับความหน้าด้านหน้าทนของตัวเอง อับอายจนอยากเอาปี๊บมาคลุมหัวเหลือเกิน ทั้งบอกรักเขาทั้งจับตรงนั้นของเขาอีก
“อ้ากกกก” ทึ้งหัวตัวเองแรง ๆ สักทีเถอะ ต่อไปจะเอาหน้าที่ไหนไปแอบมองเขาได้อีก
“พี่ลิณณ์เป็นอะไรไปคะ ไปกินข้าวกันเถอะค่ะ” มนรดาสะดุ้งตามเสียงร้องปานคนถูกเชือดของรุ่นพี่คนสวย
“เที่ยงแล้วเหรอมน” เฌอลิณณ์หันหน้าซีดเซียวมามองคนชวน สายตาไม่สดชื่นเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา
“ค่ะเที่ยงแล้ว เป็นอะไรไปคะพี่ลิณณ์ เหมือนพี่ลิณณ์เอาสติไปทิ้งไว้งานแต่งเมื่อคืนนี้เลยนะคะ ไหนว่าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เพราะเมาไงคะ อ้อ มนคิดออกแล้วว่าทำไมพี่ลิณณ์ถึงเมา” มนรดามองซ้ายมองขวา ขยับเข้าไปใกล้ ๆ กับรุ่นพี่ของตัวเอง กระซิบกระซาบเบา ๆ