EP.08
‘สรุปว่าแกต้องแต่งงานกับหนูเจ้าขา ให้เร็วที่สุด’
‘ทำไมต้องเร็วที่สุดครับ’
‘ก็เผื่อน้องป่องขึ้นมาจะทำยังไง’
พีทกรอกตามองบน นั่นไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด
‘โอเคครับพ่อ แม่ ผมจะแต่งงานกับเจ้าขา ตามที่พ่อแม่กับอาเมฆอาจันทร์ต้องการ แต่งวันนี้พรุ่งนี้เลยก็ได้ แต่มีข้อแม้’
‘ข้อแม้อะไร’
‘ผมจะแต่งงานกับเจ้าขาแค่หนึ่งปีเท่านั้น ถ้าเจ้าขาไม่ท้อง ทุกอย่างเป็นอันจบ และพ่อแม่ไม่ต้องห่วงว่าผมจะทำอะไรเจ้าขา เพราะผมยืนยันนั่งยันได้เลย ว่าผมไม่ได้เอาเจ้าขา และไม่มีวันเอาด้วย ดังนั้นเจ้าขาจะไม่ท้องเด็ดขาด’
พีทอัดบุหรี่เข้าลึกๆ เพื่อระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เพราะเริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่าน ภาพเรือนร่างขาวอมชมพูราวจะตามหลอกหลอนเขาไม่จบสิ้น ยิ่งเห็นเจ้าขาสวยสดในชุดเจ้าสาวฟูฟ่อง เขาก็ยิ่งอยากลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัว
อยากสัมผัสผิวกระจ่างว่าจะเรียบลื่นแค่ไหน อยากดอมดมว่าจะหอมได้มากกว่าที่ได้กลิ่นหรือไม่ เพราะแค่ยืนใกล้ๆ เขาก็ต้องระงับอารมณ์อย่างที่สุด เพราะกลิ่นหอมนั้นคล้ายจะกรุ่นอยู่รอบกายหล่อน
เจ้าขา... ทำให้เขาเกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน อย่างที่ไม่น่าจะเกิด
เขาไม่ควรเกิดอารมณ์กับเรือนร่างของเด็กสาวอายุแค่ 18 ปี
นมขนาดพอดีมือนั้น ไม่ได้ยิ่งใหญ่จนอยากจะคลุกหน้าลงฟัด แต่ก็น่าบีบเพราะมันคงหยุ่นมือน่าดู
เอวคอดกิ่ว ก็บอบบางเสียจนเขากลัวว่ามันจะหักหากเขาจับกระแทกแรงๆ
และสะโพกผายที่ทำหน้าที่โอบประคองความสวยงามนั้น ก็ไม่ได้มีขนาดสะบึ้มจนเขาอยากจะกระแทกตัวตนบดอัดไปจนสุดแรงเกิด แต่เขามั่นใจว่ามันจะส่ายร่อนไม่ติดพื้นแน่
เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันกลับทำให้เขา... ปวดหนึบ ยิ่งรวมกับดวงตากลมโตดูบ้องแบ๊วกับริมฝีปากอวบอิ่มแต่เป็นกระจับน้อยๆ ที่เผยอมองเขา เจ้าขาก็ไม่ต่างจากสิ่งยั่วยุกามารมณ์
พีททาบฝ่ามือกับราวสะพานแต่งสวนสวย บีบลงน้ำหนักให้เขายังมีสติ เวลานี้เขารู้แล้วว่าทำไมเพื่อนๆ ของเขาจึงนิยมมีแฟนอยู่ในวัยเรียน ก็เพราะเจ้าหล่อนเหล่านั้นคล้ายจะมีแรงจูงใจให้เข้าไปหา แต่นั่นไม่ใช่เขา
“ฉันจะไม่มีวันกินเธอแน่ เจ้าขา... จะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นคนวางแผนการนี้”
พีทยกข้อมือขึ้นดูเวลาเมื่อเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงแผดลั่น และเมื่อเห็นชื่อคนโทร.เข้า เขาก็ส่ายศีรษะไปมา พลางพ่นลมหายใจออกจากปาก ดวงตาคมเข้มจ้องตรงไปยังสถานที่จัดงาน ไรฟันขบริมฝีปากล่าง เพราะช่วงเวลาแห่งความยุ่งยากมาถึงแล้ว แต่มันจะแค่คืนนี้
พิธีส่งตัวเข้าหอตามฤกษ์ดีที่พ่อกับแม่ได้มาจากพระที่ท่านนับถือเป็นเวลาต่อจากการจัดเลี้ยง ดังนั้นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงกันว่าจะส่งตัวที่ห้องพักฮันนี่สวีทของโรงแรมแห่งนี้
พีทและเจ้าขานั่งอยู่กับพื้นพรมในมุมรับรองแขกมีพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายนั่งบนโซฟาตัวยาว
แพทริคและสมาพรยิ้มกว้างเพราะลูกชายกลับมาเข้าหอได้ทันเวลาและไม่ต้องให้ตามเหมือนตอนขึ้นเวที ส่วนเมฆและจันทร์ก็มองลูกสาวด้วยแววตาเอื้อเอ็นดู โดยเฉพาะจันทร์นั้นดวงตาแดงก่ำพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“พ่อกับแม่ขออวยพรให้ลูกทั้งสองมีความสุขมากๆ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันและกันนะลูก” แพทริคพูดกับลูกชายและลูกสะใภ้ มือใหญ่เอื้อมไปกระชับมือของลูกชายที่ใหญ่กว่าเขามากนัก กระชับมือน้อยๆ ของเจ้าขาขึ้นมาวางทาบในมือของพีท กอบกุมให้ฝ่ามือใหญ่โอบล้อมฝ่ามือเล็กไว้
“พีท ลูกสะใภ้คนนี้ พ่อกับแม่เลือกแล้วว่าเหมาะกับพีทมากที่สุด พ่อกับแม่อยากให้พีทเมตตาน้อง อะไรที่น้องทำไม่ถูกไม่ควรก็ขอให้พีทตักเตือนน้องด้วยความเมตตา เพราะน้องยังเด็ก ยังไม่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตเลย จำคำพ่อไว้นะ ทั้งพีทและเจ้าขา ชีวิตคู่ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าการให้อภัยหรอกนะ” แพทริคหันไปมองสมาพรจะบอกว่าถึงช่วงเวลาที่สมาพรจะต้องพูดแล้ว
“หนูเจ้าขา แม่ฝากพี่พีทด้วยนะลูก ถ้าพี่พีททำอะไรให้หนูเจ้าขาไม่พอใจหรือเสียใจก็ให้อภัยพี่เขาด้วยนะลูก พี่เขาเอาแต่ใจตัวเองเก่ง แต่หลังจากนี้แม่เชื่อว่าพี่เขาจะเลิกเอาแต่ใจตัวเองสักที”
“ค่ะ คุณลุง คุณป้า”
“ไม่ใช่จ้ะ ต้องเรียกพ่อกับแม่สิจ๊ะ”
“ค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”
เจ้าขาตอบรับเสียงหวาน แต่พีทกลับมีสีหน้าเฉยเมยไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เพราะฟังแล้วก็ไม่เหมือนคำอวยพร เหมือนเป็นคำห้ามปรามเขาเสียมากกว่าว่าไม่ให้เขาทำอะไรลูกสะใภ้คนโปรด
แล้วก็ถึงเวลาที่พ่อแม่เจ้าสาวจะอวยพร
เมฆตาแดงเหมือนจะร้องไห้ แต่จันทร์นั้นกลั้นสะอื้นไหวไม่ไหว หล่อนกอดลูกสาวที่เข้ามาซบเข่าและช้อนใบหน้านองน้ำตามองหล่อน จันทร์ประคองใบหน้าของลูกสาวที่เลี้ยงดูมาได้แค่ 18 ปีเต็ม แต่เวลานี้ลูกจะออกจากอกไปเป็นสมบัติของคนอื่นแล้ว หล่อนห่วงลูกนัก