ศิวาทัศน์ Talk
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพ่อกับแม่ของผมถึงได้พูดแบบนั้น เพราะผมก็บอกไปตั้งแต่แรกแล้วว่าผมจะแต่งงานแค่ในนามเท่านั้นผมกับเกษราเราสองคนจะไม่มีทางมีอะไรกันเด็ดขาด หลังจากที่ครบสัญญาผมกับเธอก็จะหย่าขาดจากกันทันที แต่อยู่ๆท่านทั้งสองคนก็โทรมาบอกผมว่าอยากได้หลาน
มันเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากทำเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมีอะไรกับเธอนะ เธอเป็นผู้หญิงที่หุ่นดีและยั่วยวนน่าเอามากๆ แต่ผมไม่ได้พิศวาสอะไรกับร่างกายของเธอเลย ผมไม่อยากมีลูกด้วยซ้ำ เพราะถ้ามีลูกมันก็คงจะวุ่นวายมากกว่านี้ผมก็คงจะไม่ได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายของผมต่อ
@ปัจจุบัน
"ห๊ะ!!"
"จะตกใจไปทำไม ฉันก็แค่มาบอกเธอก็เท่านั้นแหละฉันไม่ได้อยากจะแตะต้องอะไรตัวเธอหรอก" ผมไม่ได้อยากจะแตะต้องอะไรตัวของเธอเลย เธอไม่ได้มีอะไรให้ผมน่าพิศวาสเลยสักนิดไม่เหมือนกับหนูๆ ของผมที่แต่ละคนสวยเช้งกระเด๊ะมากกว่าเธอซะอีก
"...."
"ฉันว่าเราไปเอาเด็กจากสถานกำพร้ามาเลี้ยงดีกว่าไหม แล้วก็บอกพ่อกับแม่ของฉันว่าเราสองคนมีลูกแล้ว" ผมเสนอความคิดออกไป รับเลี้ยงเด็กสักคนนึงแล้วโกหกว่าเป็นลูกแค่นี้ก็พอแล้วมั้ง
"จะบ้าเหรอคุณ!!ก่อนจะพูดอะไรออกมาคิดหน่อยสิ เอาเด็กมาแล้วใครจะเป็นคนเลี้ยง ฉันก็ต้องทำงานคุณก็ต้องทำงาน!" เธอพูดกับผม ก็อย่างว่าแหละครับไม่มีใครอยากหาภาระมาเพิ่มหรอกและมันก็จริงอย่างที่เธอพูด แต่คนในบ้านหลังนี้ก็มีตั้งมากมายรับเด็กมาแล้วจ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงให้ก็ได้หนิ
"ฉันกลัวว่าจะไม่มีเวลาดูแลได้มากขนาดนั้น คุณก็น่าจะรู้ว่าเลี้ยงเด็กต้องให้เวลากับเขาให้มากเพราะเด็กต้องการความเอาใจใส่และความรักจากคนเลี้ยง"
"แต่เราก็จ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงให้ก็ได้นี่ ส่วนตอนกลางคืนเราก็ช่วยกันเลี้ยง"
"แต่ฉันยังไม่พร้อม!"
"...." คำตอบเดียวของเธอมันทำให้ผมถึงกับหยุดชะงักทันที ผมละเชื่อในความเด็ดเดี่ยวของเธอเลยคำไหนคำนั้นและไม่พูดซ้ำด้วย
"คุณออกไปได้แล้วฉันจะพักผ่อน"
"ขอตังค์หน่อย"
"เท่าไหร่?"
"ทั้งหมด"
"คงไม่ได้ ฉันให้คุณได้แค่สองพัน"
"สองพัน!!" ผมอุทานออกมาเสียงดังแค่สองพันมันจะไปพอยาไส้อะไร กินเหล้าแก้วเดียวก็หมดแล้ว นี่เธอจะทำกับผมเกินไปแล้วนะ คิดว่าปู่ของผมคอยให้ท้ายและยกเลิกทุกอย่างให้จัดการแล้วเธอจะทำยังไงกับผมก็ได้
"...."
"ฉันขอต่อรองในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าของเงินและเจ้าของบัญชี ฉันขอสองหมื่น" ผมต่อรองเธอกลับ เงินแค่นั้นผมจะเอาไปทำอะไรได้ เธอนี่แม่งโคตรใจร้ายเลย เมื่อกี้ก็ด่าผมต่อหน้าสาวๆ ของผมแล้ว ผมยังไม่รู้จะเอาหน้าไปเจอกับพวกเธอได้ยังไงเลย แถมยังบอกจะยึดเงินผมอีก ทำอย่างกับว่าผมเป็นเด็กสิบขวบที่ใช้เงินเกินงบประมาณแล้วจะถูกยึด
"ฉันก็ขอต่อรองกลับในฐานะผู้ดูแลบัญชีและดูแลทุกอย่างในบ้านหลังนี้แม้กระทั่งการเงินของคุณ ฉันให้ได้แค่สองพัน!!" เธอเถียงผมกลับด้วยน้ำเสียงที่ขึงขัง
"สองหมื่น!"
"สองพัน! เงินแค่นี้สำหรับฉันมันอยู่ได้เป็นเดือนเลยนะ"
"ก็นั่นมันตัวเธอนี่ไม่ใช่ตัวฉันสักหน่อย" ผมเถียงกลับ เติบโตมาคนละแบบกันจะให้เหมือนกันได้ยังไง
รู้ว่าผมสิ้นเปลืองเอง?
"คุณก็หัดประหยัดบ้างสิ เจ้าสัวเคยบอกกับฉันว่าก่อนที่เขาจะมีบริษัทยักษ์ใหญ่ก่อนที่เขาจะร่ำรวยได้เหมือนทุกวันนี้เขาก็เคยกินข้าวกับน้ำตามาแล้วเหมือนกัน คุณก็หัดรู้จักใช้เงินประหยัดๆ บ้าง สงสารคนที่เขาหาเงิน ถ้าคุณอยากใช้เงินเยอะขนาดนั้นจริงๆ คุณก็ควรไปทำงานเองคุณจะได้รู้ว่ากว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทมันยากเย็นแค่ไหน"
"โว้ยย ฉันไม่ได้อยากฟังเรื่องราวอะไรเลยนะเนี่ย ฉันแค่ขอเงินเธอทำไมต้องมาเล่าอะไรให้ฉันฟังยกใหญ่แบบนี้ด้วย แต่งนิยายเก่งเหรอ? เป็นเรื่องเป็นราวเชียว"
"ฉันพูดความจริง คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ ทำงานให้ได้ก่อนแล้วฉันถึงจะให้เงินคุณกลับไปใช้เหมือนเดิม"
"เออๆ ก็ได้แต่ตอนนี้ขอเงินก่อน"
"สองพัน"
"เกษราเธอนี่มันจะใจร้ายมากเกินไปแล้วนะ!"
"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเอา"
"ไม่เอาละ!!" ผมพูดอย่างหัวเสียเถียงกับคนอย่างเธอไปก็ไม่มีวันชนะหรอก เพราะเธอคิดว่ามีพ่อแม่ผมคอยให้ท้ายแล้วจะทำอะไรก็ได้ไง คุณปู่ผมก็คนนึงแล้วพ่อกับแม่ยังจะมาเป็นเหมือนกับคุณปู่อีก เธอมีอะไรให้น่าสนใจนักหนาทุกคนถึงได้หลงรักเธอกันเสียจริง เท่าที่ผมดูเธอก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลยก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึง ที่ถูกคุณปู่ผมย้อมแมวแล้วเอามาเฉิดฉายอยู่ในสังคมผู้ดี สังคมของไฮโซทั้งๆ ที่ความจริงเธอก็แค่เด็กน้อยจากสลัมที่ไม่ได้มีเกียรติอะไรให้น่านับถือเลย
ผมเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างแรงพร้อมกับยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากเอาไว้ ถ้ายกเท้าขึ้นก่ายหน้าได้ผมคงทำไปแล้ว แต่ละวันมีแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้น่าปวดหัวไปหมดชีวิตอิสระชายโสดของผมมันหายไปทันทีเมื่อได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้เธอทำตัวยิ่งกว่าแม่ผมเสียอีก แต่ละวันผมต้องต่อล้อต่อเถียงคำพูดกับเธอบางวันก็ถึงขั้นลงไม้ลงมือแต่ผมก็พลั้งมือไปไม่ได้ตั้งใจที่จะทำเธอ ก็เธออยากมายั่วอารมณ์ของผมเองหนิ ไอ้ผมมันก็คนใจร้อนด้วย
ผมได้แต่นอนคิดว่าจะเอายังไงดีที่จะทำให้ได้เงินและบัตรเครดิตกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิมโดยที่ไม่ต้องมีใครคอยดูแลบัญชีให้ผมเพราะผมดูแลของผมเองได้ เป็นถึงเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้เงินเดือนเกือบ 7 หลัก กำไรเข้าบริษัทหลายร้อยล้านบาทต่อปี แต่กลับไม่มีเงินติดตัวอยากใช้อะไรก็ต้องขอผ่านเมีย คิดว่ามันน่าอายไหมล่ะครับมีอย่างที่ไหนผู้ชายเก็บเงินเอาไว้กับเมีย
หรือว่าผมจะต้องแกล้งทำดีกับเธอเพื่อที่เธอจะได้ใจอ่อนและคืนบัตรเครดิตกับเงินสดให้กับผม แต่เราสองคนทะเลาะกันทุกวันจะให้ผมมาพูดดีกับเธอเลยมันก็กระไรอยู่ เดี๋ยวเธอจะสงสัยเอาได้จะเล่นละครตบตาคนทั้งทีต้องเอาให้เนียนกว่านี้
"เธอเสร็จฉันแน่เกษรา..."